เนื่องจากรถกะบะ 4 ประตูยกสูง แบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์ของผม ใช้ยางแบบ All Terrain ของ Bridgestone Dueler D697 A/T ยางชุดที่ใช้อยู่นี่คู่หน้าระยะทางเกือบ 8 หมื่นโล คู่หลังระยะประมาณ 5 หมื่นโล ความลึกยางเหลือประมาณ 5 มิลลิเมตร ที่ระยะการใช้งานไม่เท่ากันเพราะเคยไปเหยียบขวดปากฉลาม ทำให้แก้มยางฉีก ปะไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนไปคู่หนึ่ง
ถามๆ เพื่อนๆ ที่ใช้รถกะบะ ในจำนวนหลายๆ คนที่สอบถามไป ต่างก็พูดถึงและเชียร์ว่าหากมีงบจัด BF T/A KO/KO2 ไปเลยไม่ผิดหวัง
ในจังหวัดทางภาคใต้ที่ผมอาศัยอยู่ ตอนนี้ เส้นทางที่ผมขับรถไปกลับบ้าน-ที่ทำงาน กับระยะทางประมาณวันละ 130 กิโลเมตร มีฝนตกเกือบทุกวัน ถนนนองไปด้วยน้ำ มีโค้งอันตรายหลายโค้ง แต่เป็นถนน 4 เลนเกือบทั้งหมด ยางสะพานหิน D697 ก็ถือว่าใช้งานได้ดี ดีกว่ายาง Maxx__ 700 A/T และดีกว่ายาง สะพานหิน D689 (ในความรู้สึกผม)
สิ่งที่ผมค่อนข้างให้ความสำคัญในตอนนี้ ก็มีเรื่อง Hydroplanning หรือ การเหิรน้ำ เพราะเส้นทางที่ใช้ประจำมีฝนตกน้ำขังถนนบ่อยๆ เลยห่วงเรื่องการรีดน้ำและการยืดเกาะถนนเปียก หาข้อมูลเปรียบเทียบการทดสอบจากบริษัทยางหรือจากที่ต่างๆ ก็ไม่ค่อยมี มีแต่รีวิวของยางรุ่น/ยี่ห้อ ใดๆ หนึ่งๆ เท่านั้น
หลายๆ คน ว่า BF T/A KO ไม่ค่อยเกาะถนนเปียก แต่ทางลุยๆ ทำได้ดี ยาง D697 คนก็ใช้ค่อนข้างน้อย รีวิวก็ไม่ค่อยมี
กำลังหาข้อมูลยางประกอบการตัดสินใจอยู่ หาๆ มา ก็มาเจอคลิปนี้ ไม่รู้ว่าการแปะคลิปจะผิดกฎไหม ไม่ได้โฆษณาขายของ
https://www.youtube.com/watch?v=ueVenJIMEik
ดูจากดอกยางเอาน่ะครับ Brand C น่าจะ Coop...A/T3 Brand G น่าจะ BFG
ดูแล้ว หากเอายางไปลุยๆ D697 จะทนต่อ Pressure Test ได้ดีกว่าอีก 2 ยี่ห้อเสียอีก แต่ สิ่งที่ต้องการ เอาไว้วิ่งบนถนนดำ ทั้งแห้งปกติ และเปียกยามฝนตก
จากที่หาราคามา
BFG KO หาได้ถูกสุดเส้นละ 7000 ถ้วน 4 เส้นก็ 28000 บาท BFG KO2 ราคากระโดดไปเส้นละ 8600 บาท 4 เส้นก็ 34400 บาท แต่ไม่มีตัวแทนจำหน่ายใกล้ๆ บ้าน ต้องสั่งจากร้านเพื่อนจาก กทม ได้ยางมาต้องหาร้านยากใส่ให้ เสียเงินเพิ่มค่าใส่ยาง ค่าถ่วงล้อ และค่าตั้งศูนย์ รวมๆ กับก็ประมาณหลักพันบาท เสียค่าเติมไนโตรเจนอีก 200 (ค่าสมาชิก เติมลมไนโตรเจนได้ได้ฟรีอีก 2 ปี)
สะพานหิน D697 สั่งผ่านตัวแทนจำหน่ายในจังหวัด(ร้านที่เข้าไปใช้บริการประจำ) ก่อนหน้านี้ได้มาเส้นละ 6300 บาท (สองปีก่อน) แต่ตอนนี้ เส้นละ 6590 บาท (น่าจะต่อได้เหลือ 6500 บาท) 4 เส้นก็ 26000 บาท โดยค่าใส่ยางตั้งศูนย์และถ่วงล้อฟรีไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แถมยังได้เติมลมไนโตรเจนได้ฟรีอีก 2 ปี (หากตลอดอายุยาง ก็น่าจะได้เติมลมฟรีถึง 4 ปี)
เพื่อนๆ ท่านใด มีประสบการณ์การใช้งานยางรถยนต์กับรถกะบะ โดยเฉพาะในสภาพถนนเปียก ช่วยแลกเปลี่ยนความเห็นและแชร์ประสบการณ์ให้ฟังด้วยจะเป็นการดี และขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
ยางรถยนต์กะบะ 4x4 กับถนนเปียกตอนฝนตก
ถามๆ เพื่อนๆ ที่ใช้รถกะบะ ในจำนวนหลายๆ คนที่สอบถามไป ต่างก็พูดถึงและเชียร์ว่าหากมีงบจัด BF T/A KO/KO2 ไปเลยไม่ผิดหวัง
ในจังหวัดทางภาคใต้ที่ผมอาศัยอยู่ ตอนนี้ เส้นทางที่ผมขับรถไปกลับบ้าน-ที่ทำงาน กับระยะทางประมาณวันละ 130 กิโลเมตร มีฝนตกเกือบทุกวัน ถนนนองไปด้วยน้ำ มีโค้งอันตรายหลายโค้ง แต่เป็นถนน 4 เลนเกือบทั้งหมด ยางสะพานหิน D697 ก็ถือว่าใช้งานได้ดี ดีกว่ายาง Maxx__ 700 A/T และดีกว่ายาง สะพานหิน D689 (ในความรู้สึกผม)
สิ่งที่ผมค่อนข้างให้ความสำคัญในตอนนี้ ก็มีเรื่อง Hydroplanning หรือ การเหิรน้ำ เพราะเส้นทางที่ใช้ประจำมีฝนตกน้ำขังถนนบ่อยๆ เลยห่วงเรื่องการรีดน้ำและการยืดเกาะถนนเปียก หาข้อมูลเปรียบเทียบการทดสอบจากบริษัทยางหรือจากที่ต่างๆ ก็ไม่ค่อยมี มีแต่รีวิวของยางรุ่น/ยี่ห้อ ใดๆ หนึ่งๆ เท่านั้น
หลายๆ คน ว่า BF T/A KO ไม่ค่อยเกาะถนนเปียก แต่ทางลุยๆ ทำได้ดี ยาง D697 คนก็ใช้ค่อนข้างน้อย รีวิวก็ไม่ค่อยมี
กำลังหาข้อมูลยางประกอบการตัดสินใจอยู่ หาๆ มา ก็มาเจอคลิปนี้ ไม่รู้ว่าการแปะคลิปจะผิดกฎไหม ไม่ได้โฆษณาขายของ
https://www.youtube.com/watch?v=ueVenJIMEik
ดูจากดอกยางเอาน่ะครับ Brand C น่าจะ Coop...A/T3 Brand G น่าจะ BFG
ดูแล้ว หากเอายางไปลุยๆ D697 จะทนต่อ Pressure Test ได้ดีกว่าอีก 2 ยี่ห้อเสียอีก แต่ สิ่งที่ต้องการ เอาไว้วิ่งบนถนนดำ ทั้งแห้งปกติ และเปียกยามฝนตก
จากที่หาราคามา
BFG KO หาได้ถูกสุดเส้นละ 7000 ถ้วน 4 เส้นก็ 28000 บาท BFG KO2 ราคากระโดดไปเส้นละ 8600 บาท 4 เส้นก็ 34400 บาท แต่ไม่มีตัวแทนจำหน่ายใกล้ๆ บ้าน ต้องสั่งจากร้านเพื่อนจาก กทม ได้ยางมาต้องหาร้านยากใส่ให้ เสียเงินเพิ่มค่าใส่ยาง ค่าถ่วงล้อ และค่าตั้งศูนย์ รวมๆ กับก็ประมาณหลักพันบาท เสียค่าเติมไนโตรเจนอีก 200 (ค่าสมาชิก เติมลมไนโตรเจนได้ได้ฟรีอีก 2 ปี)
สะพานหิน D697 สั่งผ่านตัวแทนจำหน่ายในจังหวัด(ร้านที่เข้าไปใช้บริการประจำ) ก่อนหน้านี้ได้มาเส้นละ 6300 บาท (สองปีก่อน) แต่ตอนนี้ เส้นละ 6590 บาท (น่าจะต่อได้เหลือ 6500 บาท) 4 เส้นก็ 26000 บาท โดยค่าใส่ยางตั้งศูนย์และถ่วงล้อฟรีไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แถมยังได้เติมลมไนโตรเจนได้ฟรีอีก 2 ปี (หากตลอดอายุยาง ก็น่าจะได้เติมลมฟรีถึง 4 ปี)
เพื่อนๆ ท่านใด มีประสบการณ์การใช้งานยางรถยนต์กับรถกะบะ โดยเฉพาะในสภาพถนนเปียก ช่วยแลกเปลี่ยนความเห็นและแชร์ประสบการณ์ให้ฟังด้วยจะเป็นการดี และขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ