
สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนนะค่า กระทู้แรกสำหรับรีวิวการเดินทางของตัวเองผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยนะค่า กระทู้ดองเค็มมาหลายเดือนเลยค่ะ

เป็นการแบ็คแพคเที่ยวต่างแดนครั้งแรกที่เดินทางคนเดียว ก่อนเดินทางได้ข้อมูลจาก พันทิป เยอะมาก อ่านแล้วอ่านอีก แต่จำไม่ได้แล้วว่ากระทู้อะไรบ้าง ถ้าเขียนถึงตรงไหนแล้วจำได้จะพยายามแปะลิ้งและขอบคุณเจ้าของกระทู้ งามๆ ไว้ตรงนี้ค่า คุณได้ช่วยชีวิตชะนีร่างใหญ่ ให้ได้ผจญโลกกว้าง ^^ จากการอ่านหลายๆ กระทู้เลยอยากนำประสบการณ์ตัวเองมาแชร์เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับบางคนบ้างค่ะ (หรือป่าวไม่รู้ ^^!) ทริปนี้เป็นการจองตั๋วเครื่องบินแบบกะทันหันมาก ได้โปรฯ มาถูก ประกอบกับอารมณ์อินดี้มาเต็ม (ช่วงเฮริ์ทหนักมาก)

พอเจอปุ๊บ จองปั๊บ ไม่มีปรึกษาผองเพื่อนเลย และไม่มีแผนในหัวเลย จำได้ว่าไป - กลับ ประมาณ 8xxx แต่รวมเบล็ดเสร็จก็ 10,870 บาท ของหางแดง ทริปนี้ไป 22 – 27 เมษายน 2558 จาก ดอนเมือง – โอซาก้า – ดอนเมือง สรุปคร่าวๆ ก่อนนะค่าว่าไปไหนมาบ้าง คือ โอซาก้า > โตเกียว > ชินจูกุ > ทุ่งพิงค์มอส > ภูเขาไฟฟูจิ > ทาคายาม่า > หมู่บ้านชิราคาวาโกะ > คานาซาว่า > โอซาก้า … โอเคค่า ตามมาอ่านความเฟอะเบอะเชอะ (สรุปคือต๊องและบ้า) ของสาวไทยในญี่ปุ่นกัน
เพิ่มเติม มีเพื่อนๆ ถามมาว่าค่าใช้จ่ายในทริปนี้ประมาณเท่าไหร่ เลยนั่งคำนวนคร่าวๆ ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ประมาณ 32,000 บาท รวมทุกอย่างในทริปนี้แล้ว คือ ตั๋วเครื่องบิน + ค่าเดินทางในญี่ปุ่น + pocket money + ค่าที่พัก + เช่า pocket wifi (ตอนนั้นเงินเยนอยู่ที่ประมาณ 0.275) ถามว่าเยอะใหมก็เยอะนะ แต่คุ้มมากสำหรับเรา เราได้ประสบการณ์มากมายจากทริปครั้งนี้ เราถือว่าคุ้ม และทำให้ติดใจการเดินทางคนเดียวเข้าแล้ว ^^
วันแรก 22 April 15
ถึง โอซาก้า ประมาณ ห้าทุ่มกว่าๆ เกือบเที่ยงคืนได้ค่า มาถึง ณ จุดนี้ อยากบอกว่าตื้นเต้นม๊ากก มากถึงมากที่สุด สิ่งที่อ่านมา สิ่งที่ค้นหามา ณ เวลานั้น ลืมคะ

เดินออกจากเครื่องบินได้สิ่งที่ทำคือ เดินตามเขาไป เดินตามอย่างเดียว เขาไปไหน เราไปนั่น อาศัยสัญชาตญาณล้วนๆ เดินมาได้สักพักก็ถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง กดถ่ายรูปไป 1 แช๊ะ! เหลือบไปเห็นป้ายบอก “ห้ามถ่าย” 55++ เก็บมือถือแทบไม่ทัน คิดในใจ “ข้าพเจ้าขออภัยนะค่า ไม่เห็นค่ะ” แล้วก็ตีเนียน รอคิว ต่อไป
อ้อ!! ลืม ตอนอยู่บนเครื่อง พนักงานจะนำใบมาให้กรอก 2 ใบนะค่า เพื่อยื่นกับ ตม ญี่ปุ่น พยายามกรอกให้ครบนะค่า เพราะตอนยื่น ลืมกรอกอยู่หนึ่งช่อง ช่องที่ถามว่ามากี่วัน ตม เขาก็จะถามเราว่าอยู่กี่วัน แล้วก็เขียนใส่ไปค่า ก็ไม่ยากนะค่า ใช้เวลาไม่นาน และขอบคุณ Mr.Beery ได้ข้อมูลการกรอกมาจากพันทิปนี่หละค่า ปริ๊นเป็น A4 พกติดตัวไว้ค่า เป็นประโยชน์มากๆๆ ^^ >>
http://pantip.com/topic/33249201
เป็นอันว่าเสร็จ สบายใจหละหนึ่งอย่าง เข้าไปลัลล้า ในญี่ปุ่นได้ ….

หลังจากนั้นก็เดินผ่านจุดตรวจมา เอาไงต่อหละ เกือบ ตีหนึ่งแหละ ข้าวยังไม่ได้กินตั้งแต่เที่ยงวัน แล้วนอนไหนหละคืนนี้ ….(ในใจคิดไว้อย่างเดียวว่า อย่าๆๆ ตื่นเต้น ให้เดินเป็นนางพญาไว้ ทำใจสบายๆ ทำใจร่มๆ) แล้วเดินไปนั่งตรงจุดที่คนเยอะซักหน่อย หาเก้าอี้นั่งพัก แล้วก็ ระลึกชาติว่า สิ่งที่เราหาข้อมูลก่อนเดินทางมานี่มีอะไรบ้าง หยิบกระดาษที่ปริ๊นมาเกี่ยวกับสนามบินออกมาอ่านว่าต้องไปตรงไหน แล้วก็หาตัวช่วย ว่าแล้วก็หยิบ pocket wifi ที่เช่าออกมา แนะนำว่าให้ทำประกัน Pocket wifi ไว้ด้วยนะค่า ไม่กี่บาทแต่ก็คุ้ม อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจค่า เพราะรู้ว่าตัวเองค่อนข้างซุ่มซ่าม ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะหาย จะตก จะชำรุดหรือป่าว ทำไว้ดีกว่า ชัวร์สุด (อยากเม้าส์ว่าตอนส่งคืน สาย USB เกือบขาดค่า ชำรุดดึงท่าไหนไม่รู้จำไม่ได้ 555++ ก็บอกแล้วว่าซุ่มซ่าม ^_^) ว่าแล้วก็ให้อากู๋ช่วย …..ถึงตรงนี้อยากบอกเพื่อนๆ ว่าก่อนเดินทางหยายามหาข้อมูลไว้ให้มากๆ คำนวณไว้ดีดี ว่า เครื่องออกกี่โมง จะช้ากว่ากำหนดใหม ถึงที่หมายตอนกี่โมง แล้วทุกอย่างจะดีเองค่ะ ^^

เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงแหละที่นอนคืนนี้ 555++ คนนอนสนามบินค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะ แต่โชคดีว่าจุดที่นอนมีปลั๊กให้เสียบชาร์ตแบตด้วย เป็นปลั๊กเหมือนบ้านเราเลยค่า และใกล้ห้องน้ำ ที่สำคัญ มี แฟมิลี่มาร์ท ด้วย แล้วก็เดินเข้าไปหาซื้อข้าวซักหน่อย หิวมาก อยากบอกว่า พนักงานที่นี่น่ารักมาก (หล่อด้วย ทำให้ชะนีไทย ใจลัลล๊า ช่างคัดสรรพนักงานจริงๆๆ ^3^)

อุ๊ย!! ขอโทษค่า ลืมตัว >///< คือ ที่บอกว่าน่ารักเพราะว่าเขาพยายามช่วยนะค่า ถึงจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เขาก็ช่วยหา ช่วยๆ กันถาม ว่าเราต้องการอะไร คือว่า เป็นคนทานมังสวิรัติ แต่ไม่ได้เคร่งอะไรนะคือถ้าหาไม่ได้ก็คงต้องกิน แค่พยายามไม่กินเนื้อสัตว์ก็เลยหาข้าวที่มันไม่มีเนื้อสัตว์ ดูแล้วเขาไม่เข้าใจแต่ก็พยายามชี้ว่ามีข้าวอะไรบ้าง เราเกรงใจค่ะ เลยเดินไปหยิบมากล่องหนึ่งเรียกว่าอะไรไม่รู้ว่าแต่เหมือนไข่เจียวบ้านเรา เป็นคนไม่ค่อยกินอะไรแปลกๆ เท่าไหร่ แล้วก็ตามรูปค่า ใครรู้ช่วยบอกหน่อยนะค่าว่า มันคืออะไร อร่อยดีเหมือนกัน ^^ ขอกินก่อนนะค่า หิวมาก เดี๋ยวมาเล่าต่อ....

กินเสร็จแหละ ต่อไปก็คือ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เช็ดตัว ซื้อกระดาษทิซซู่แบบเปียกมาจากไทย เพราะคิดว่าต้องใช้แน่นอน ถ้าใครเดินทางมาแบบนี้ ซื้อติดตัวไว้นะค่า ช่วยได้เยอะเลย เหมือนได้อาบน้ำ พอทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า อยากบอกว่าห้องน้ำที่นี่สะอาดมากถ้าไม่เกรงใจเวลาคนมาปลดทุกข์ คงนอนไปแล้วค่า 555++

มันคืออาราย!!??

ตรงแถวที่จะนอนมีล็อคเกอร์ใส่กระเป๋า ตอนแรกคิดไว้ว่าก่อนนอนจะเอากระเป๋าไปฝากคิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า เอาไว้หนุนหัวนอน หลังจากนั้นก็นั่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเพลินๆ มีคุณลุงคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็น security ที่นี่ คุณลุงน่ารักมากพูดอังกฤษพอได้ ถามว่ามาคนเดียวเหรอ มาจากประเทศอะไร พอบอกว่า มาจากประเทศไทย คุณลุงก็ พยายามพูดภาษาไทย ประมาณว่า ให้ระวังกระเป๋าด้วยครับ แล้วก็เดินทางปลอดภัยนะครับ คุณลุงเล่าว่ามาเที่ยวประเทศไทยบ่อยเหมือนกัน เลยยกมือไหว้บอกว่า ขอบคุณค่า ^^
โอเคค่า คืนนี้ขอนอนก่อนนะค่า สำหรับแผนพรุ่งนี้คือไปโตเกียว โดยสายการบิน Peach เป็นสายการบิน Local ของญี่ปุ่นค่า ตอนแรกวางแผนว่าจะนั่งชินคันเซนไป แต่สู้ราคาไม่ไหว ถ้าจะนั่งรถไฟธรรมดาก็ใช้เวลานาน เสียเวลาเที่ยว ไปหนึ่งวัน โชคดีว่า เจอโปรโมชั่นของสายการบินนี้ ที่ อาแปะคนหนึ่งได้โพสต์ไว้ในเฟสบุคเลยลองเข้าไปดู แล้วก็จองเลยเพราะตั๋วราคาประมาณ 8xx บาท ใช้เวลา 1 ชม ถึง นาริตะ เซฟทั้งเวลาและกระเป๋าตังค์ ถึงตรงนี้เพื่อนๆ คงจะมีคำถามในใจว่าจะไปโตเกียวทำไมไม่จองตั๋วไปลงโตเกียวเลย ใช่ใหมค่า ^^ อย่างที่เกริ่นไว้ครั้งแรกค่ะ จองตั๋วแบบกะทันหัน ไม่มีแผนในหัวเลยค่า เพิ่งมาวางแผนว่าจะไปไหนตอนที่จองตั๋วเสร็จแล้ว อยากฝากเพื่อนๆ ไว้ตรงนี้นะค่าว่าวางแผนให้ดีว่าเราอยากไปเที่ยวที่ไหนที่เป็นไฮไลท์ หลังจากนั้นก็ลองคำนวณหลายๆ อย่างว่าไปยังไงประหยัด แล้วก็ไม่เสียเวลามาก เอาหละค่า คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ ^^
แบคแพ็คฉายเดี่ยวเที่ยวเจแปน Osaka>tokyo>Shinjuku>Fuji>Takayama>Shirakawako>Kanazawa>Osaka 5 วัน 4 คืน
สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนนะค่า กระทู้แรกสำหรับรีวิวการเดินทางของตัวเองผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยนะค่า กระทู้ดองเค็มมาหลายเดือนเลยค่ะ
เพิ่มเติม มีเพื่อนๆ ถามมาว่าค่าใช้จ่ายในทริปนี้ประมาณเท่าไหร่ เลยนั่งคำนวนคร่าวๆ ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ประมาณ 32,000 บาท รวมทุกอย่างในทริปนี้แล้ว คือ ตั๋วเครื่องบิน + ค่าเดินทางในญี่ปุ่น + pocket money + ค่าที่พัก + เช่า pocket wifi (ตอนนั้นเงินเยนอยู่ที่ประมาณ 0.275) ถามว่าเยอะใหมก็เยอะนะ แต่คุ้มมากสำหรับเรา เราได้ประสบการณ์มากมายจากทริปครั้งนี้ เราถือว่าคุ้ม และทำให้ติดใจการเดินทางคนเดียวเข้าแล้ว ^^
วันแรก 22 April 15
ถึง โอซาก้า ประมาณ ห้าทุ่มกว่าๆ เกือบเที่ยงคืนได้ค่า มาถึง ณ จุดนี้ อยากบอกว่าตื้นเต้นม๊ากก มากถึงมากที่สุด สิ่งที่อ่านมา สิ่งที่ค้นหามา ณ เวลานั้น ลืมคะ
อ้อ!! ลืม ตอนอยู่บนเครื่อง พนักงานจะนำใบมาให้กรอก 2 ใบนะค่า เพื่อยื่นกับ ตม ญี่ปุ่น พยายามกรอกให้ครบนะค่า เพราะตอนยื่น ลืมกรอกอยู่หนึ่งช่อง ช่องที่ถามว่ามากี่วัน ตม เขาก็จะถามเราว่าอยู่กี่วัน แล้วก็เขียนใส่ไปค่า ก็ไม่ยากนะค่า ใช้เวลาไม่นาน และขอบคุณ Mr.Beery ได้ข้อมูลการกรอกมาจากพันทิปนี่หละค่า ปริ๊นเป็น A4 พกติดตัวไว้ค่า เป็นประโยชน์มากๆๆ ^^ >> http://pantip.com/topic/33249201
เป็นอันว่าเสร็จ สบายใจหละหนึ่งอย่าง เข้าไปลัลล้า ในญี่ปุ่นได้ ….
หลังจากนั้นก็เดินผ่านจุดตรวจมา เอาไงต่อหละ เกือบ ตีหนึ่งแหละ ข้าวยังไม่ได้กินตั้งแต่เที่ยงวัน แล้วนอนไหนหละคืนนี้ ….(ในใจคิดไว้อย่างเดียวว่า อย่าๆๆ ตื่นเต้น ให้เดินเป็นนางพญาไว้ ทำใจสบายๆ ทำใจร่มๆ) แล้วเดินไปนั่งตรงจุดที่คนเยอะซักหน่อย หาเก้าอี้นั่งพัก แล้วก็ ระลึกชาติว่า สิ่งที่เราหาข้อมูลก่อนเดินทางมานี่มีอะไรบ้าง หยิบกระดาษที่ปริ๊นมาเกี่ยวกับสนามบินออกมาอ่านว่าต้องไปตรงไหน แล้วก็หาตัวช่วย ว่าแล้วก็หยิบ pocket wifi ที่เช่าออกมา แนะนำว่าให้ทำประกัน Pocket wifi ไว้ด้วยนะค่า ไม่กี่บาทแต่ก็คุ้ม อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจค่า เพราะรู้ว่าตัวเองค่อนข้างซุ่มซ่าม ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะหาย จะตก จะชำรุดหรือป่าว ทำไว้ดีกว่า ชัวร์สุด (อยากเม้าส์ว่าตอนส่งคืน สาย USB เกือบขาดค่า ชำรุดดึงท่าไหนไม่รู้จำไม่ได้ 555++ ก็บอกแล้วว่าซุ่มซ่าม ^_^) ว่าแล้วก็ให้อากู๋ช่วย …..ถึงตรงนี้อยากบอกเพื่อนๆ ว่าก่อนเดินทางหยายามหาข้อมูลไว้ให้มากๆ คำนวณไว้ดีดี ว่า เครื่องออกกี่โมง จะช้ากว่ากำหนดใหม ถึงที่หมายตอนกี่โมง แล้วทุกอย่างจะดีเองค่ะ ^^
เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงแหละที่นอนคืนนี้ 555++ คนนอนสนามบินค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะ แต่โชคดีว่าจุดที่นอนมีปลั๊กให้เสียบชาร์ตแบตด้วย เป็นปลั๊กเหมือนบ้านเราเลยค่า และใกล้ห้องน้ำ ที่สำคัญ มี แฟมิลี่มาร์ท ด้วย แล้วก็เดินเข้าไปหาซื้อข้าวซักหน่อย หิวมาก อยากบอกว่า พนักงานที่นี่น่ารักมาก (หล่อด้วย ทำให้ชะนีไทย ใจลัลล๊า ช่างคัดสรรพนักงานจริงๆๆ ^3^)
กินเสร็จแหละ ต่อไปก็คือ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เช็ดตัว ซื้อกระดาษทิซซู่แบบเปียกมาจากไทย เพราะคิดว่าต้องใช้แน่นอน ถ้าใครเดินทางมาแบบนี้ ซื้อติดตัวไว้นะค่า ช่วยได้เยอะเลย เหมือนได้อาบน้ำ พอทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า อยากบอกว่าห้องน้ำที่นี่สะอาดมากถ้าไม่เกรงใจเวลาคนมาปลดทุกข์ คงนอนไปแล้วค่า 555++
มันคืออาราย!!??
ตรงแถวที่จะนอนมีล็อคเกอร์ใส่กระเป๋า ตอนแรกคิดไว้ว่าก่อนนอนจะเอากระเป๋าไปฝากคิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า เอาไว้หนุนหัวนอน หลังจากนั้นก็นั่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเพลินๆ มีคุณลุงคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็น security ที่นี่ คุณลุงน่ารักมากพูดอังกฤษพอได้ ถามว่ามาคนเดียวเหรอ มาจากประเทศอะไร พอบอกว่า มาจากประเทศไทย คุณลุงก็ พยายามพูดภาษาไทย ประมาณว่า ให้ระวังกระเป๋าด้วยครับ แล้วก็เดินทางปลอดภัยนะครับ คุณลุงเล่าว่ามาเที่ยวประเทศไทยบ่อยเหมือนกัน เลยยกมือไหว้บอกว่า ขอบคุณค่า ^^
โอเคค่า คืนนี้ขอนอนก่อนนะค่า สำหรับแผนพรุ่งนี้คือไปโตเกียว โดยสายการบิน Peach เป็นสายการบิน Local ของญี่ปุ่นค่า ตอนแรกวางแผนว่าจะนั่งชินคันเซนไป แต่สู้ราคาไม่ไหว ถ้าจะนั่งรถไฟธรรมดาก็ใช้เวลานาน เสียเวลาเที่ยว ไปหนึ่งวัน โชคดีว่า เจอโปรโมชั่นของสายการบินนี้ ที่ อาแปะคนหนึ่งได้โพสต์ไว้ในเฟสบุคเลยลองเข้าไปดู แล้วก็จองเลยเพราะตั๋วราคาประมาณ 8xx บาท ใช้เวลา 1 ชม ถึง นาริตะ เซฟทั้งเวลาและกระเป๋าตังค์ ถึงตรงนี้เพื่อนๆ คงจะมีคำถามในใจว่าจะไปโตเกียวทำไมไม่จองตั๋วไปลงโตเกียวเลย ใช่ใหมค่า ^^ อย่างที่เกริ่นไว้ครั้งแรกค่ะ จองตั๋วแบบกะทันหัน ไม่มีแผนในหัวเลยค่า เพิ่งมาวางแผนว่าจะไปไหนตอนที่จองตั๋วเสร็จแล้ว อยากฝากเพื่อนๆ ไว้ตรงนี้นะค่าว่าวางแผนให้ดีว่าเราอยากไปเที่ยวที่ไหนที่เป็นไฮไลท์ หลังจากนั้นก็ลองคำนวณหลายๆ อย่างว่าไปยังไงประหยัด แล้วก็ไม่เสียเวลามาก เอาหละค่า คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ ^^