[Review] ละครญี่ปุ่น First Class 1 และ 2 (2014-2015)


ภาพโปสเตอร์ของละคร ภาค 1 ค่ะ


          นานทีปีหนจะติดละครญี่ปุ่นงอมแงม ส่วนใหญ่เราก็จะติดละครไทย ละครเกาหลีกันเนอะ แต่เรื่องนี้ติดจริงๆค่ะ ติดมากด้วย ว่ากันไปตามตรงคือ ขณะที่เราดูเรื่องนี้อยู่ เราไม่มีเวลาค่ะ ต้องดูตอนนั่งรถไปทำงาน หรือบนรถไฟฟ้า - - ติดจนวางไม่ได้จริงๆค่ะ ส่วนใหญ่ละครญี่ปุ่นจะมีลักษณะเป็นตอนๆ คือแก้คอนฟลิคของเรื่องจบไปเป็นตอนๆโดยมีพระเอกกับนางเอกและมีโครงเรื่องยืนพื้นค่ะ เรื่องนี้ก็มีลักษณะคล้ายกันแต่มันทวีความสนุกตรงที่เนื้อหามันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ การจัดอันดับเมาท์ติ้งแรงค์กิ้งทุกตอน สลับไปสลับมา สนุกมากค่ะ ตัวละครใหม่ๆเพิ่มเข้ามาทีละตอน ยิ่งเพิ่มปัญหามันยิ่งอีรุงตุงนัง จากที่ตอนแรกนางเอกเป็นคนโดดเดี่ยว ก็เริ่มที่จะได้เพื่อนตามเบื้ยบ้ายรายทางในแต่ละตอน  

         เนื้อหาของเรื่อง 90% โฟกัสไปที่ความใฝ่ฝันและอุปสรรคของนางเอกที่ต้องการทำงานในสายแฟชั่น ตั้งแต่เป็นพนักงานร้านขายผ้าขายกระดุม จนกระทั่งมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในกอง บก นิตยาสารที่ชื่อว่า First Class เราว่าเรื่องนี้ถูกจริตคนไทยนะคะ เพราะมีแต่นางร้าย นางร้ายทุกคนค่ะ ยกเว้นนางเอก ซึ่งนางเอกเนี้ยะก็แอบร้ายไม่เบา (ในบางตอน) ร้ายในที่นี้คือไม่ได้มาตบตีแย่งชิงผู้ชายหรือพระเอกกันนะคะ ในทางกลับกัน พระเอกนี่เหมือนตัวประกอบไปเลยค่ะ ออกน้อยมาก 555

         ยอมรับว่าเราเลือกดูเรื่องนี้เพราะพระเอก (ในชีวิตจริงพระเอกเป็นไอดอลวง KAT-TUN) อีกทั้งเพลงประกอบภาคแรกยังเป็นเพลงของ KAT-TUN อีกด้วย เราเลยติดใจดู ปรากฏ!!!! มันไม่ใช่อะ พระเอกไม่ออกชั่งมันแล้ว จะดูนางเอก 555 คือเนื้อเรื่องอย่างที่บอกไปแล้วคือ 90% มันคือเรื่องเกี่ยวกับความฝันในการทำงานของนางเอก อีก 10% ที่เหลือมันเลยกลายเป็นเรื่องความรัก ซึ่งให้มันมีพอที่จะเป็นละครกรุบกริบได้ 555

          ภาคแรกเริ่มฉายตั้งแต่ปี 2014 ประมาณ เมษาค่ะ ในขณะที่ภาคสองก็ฉายในปีเดียวกันแต่เป็นเดือนตุลาคม เอาเป็นว่าดูภาคแรกจบ ก็ต่อภาค 2 เลย แบบว่าไม่ขาดตอน เนื้อหาภาคแรกเข้มข้นมากเหมือนกันค่ะ ทั้งเรื่องจะสะท้อนให้เห็นมุมมองอีกด้านของตัวละคร การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การหักหลัง การนินทา และการใส่หน้ากากเข้ามากัน เราว่านี่เป็นสังคมสมัยใหม่ของพนักงานออฟฟิศเลย TT ในทางกลับกัน เราก็จะเห็นความพยายามเอาชนะใจ หรือซื้อใจคนอื่นด้วยความมุ่งมั่น และถวายชีวิตตัวเองให้กับการทำงานของนางเอก ตรงนี้แหละค่ะที่ทำให้เราประทับใจนาง


ภาพโปสเตอร์ของละคร ภาค 2 ค่ะ


          ภาคแรกจบไปเราก็ยังตรึงใจอยู่ว่า โอ้ย สนุกอะแก มันร้ายนะ ร้ายกันทุกคน แต่มันสนุกที่ไม่มาตบกันต่อหน้า ไม่มาด่ากันต่อหน้า ไม่ต้องแหกปากวี๊ดว้าย นางร้ายมันก็โคตระร้ายเลย พอมาดูภาค 2 ค่ะ โอ้โห พูดไม่ออกบอกไม่ถูก มันสุดยอดจะเข้มข้น มันสนุกแบบไม่หลับไม่นอน (ส่วนใหญ่เราจะรอให้ละครจบก่อนแล้วค่อยดูทีเดียว) ภาคสองนางเอกเริ่มฉลาดเก่งกาจไปหมด อารมณ์แบบสะสมประสบการณ์จากภาคแรกมาแล้ว ภาคนี้นางเลยเติบโตในวงการแฟชั่นอย่างรวดเร็ว นางยืนพื้นด้วยบทเดิมคือนางมุ่งมั่น นางเด็ดเดี่ยว นางมีพรสวรรค์ บวกกับเก่งและฉลาด ตัวละครภาค 2 เปลี่ยนใหม่ยกเซต เพราะนางย้ายที่ทำงานแล้วไปเป็นดีไซน์เนอร์ ทั้งเรื่องก็จะเห็นแต่ผู้หญิงสวยๆ แต่งตัวแต่งหน้าสวยๆ คือแคสติ้งคัดมาดี เล่นเก่งทุกคน ยอมรับเลยค่ะว่าชอบภาคสองมากกว่าภาคแรก (ตอนแรกบอกว่าดูเรื่องนี้เพราะเป็นแฟนคลับพระเอก - - 555) เนื้อหามันเข้มข้น มันหักหลัง แต่ในขณะที่นางเอกมองเกมความคิดของตัวละครตัวอื่นออก นางก็เริ่มเผยความฉลาดของตัวเอง แต่... . แต่อะไรมันต้องไปดูต่อกันเอง 555

        มาเข้าเรื่องความรัก - - ภาคสองทั้งเรื่อง ฉันไม่เจอพระเอกเลยแก TT ซึ่งเนื้อหาไม่โฟกัสเลยค่ะ เหมือนมองข้ามอีพระเอกไป ไม่มีการพูดถึง ไม่มีรูปหรืออะไรโผล่มาเลย มีแต่ตัวละครใหม่ที่ทำทีว่ามาชอบมารักนางเอก แต่เนื้อเรื่องก็ไม่โฟกัสอีกแหละ ส่วนตัวพระเอกค่ะ มาตอนสุดท้าย ตอนที่ 10 พอดี ออกอยู่สัก 10 นาที แล้วก็หายไป 555 คือนากามารุ ยูอิจิ (พระเอก) เคยพูดในช่วงทัวร์คอนเสิร์ตของคัตตุนว่า เนี้ยะ First Class 2 เค้าเริ่มถ่ายกันไปแล้วนะ นี่ฉันเป็นพระเอกนะเว้ย แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีการเชิญฉันไปเล่นละครเลย นี่เป็นพระเอกจริงๆใช่ไหม ? 5555 ตอนที่เราอ่านรีพอร์ตเราขำกร๊ากเลยค่ะ เอ่อ มันฮาจริงนะ คือแบบฮีไม่ได้เล่นเลยเหรอ ฮีเป็นพระเอกหน่ะ สุดท้ายก็โดนรับเชิญมาปิดเรื่องจนได้ แต่อย่าหวังว่าจะแฮปปี้แอนดิ้งกอดกัน จูบกันแล้วขึ้น The End นะคะ อยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ต้องไปดูเองในภาค 2 ไม่สปอยด์ 555



          เอาเป็นว่าเรื่องนี้เป็นละครที่น่าติดตาม และอยากให้ทุกคนดู เมื่อดูแล้วทุกคนจะได้มุมมองใหม่ๆในการมองคน และจะได้มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ เหมือนที่นางเอกมี สมมติว่าคะแนนเต็ม 10 เราก็อยากให้ 9.5 เพราะ .5 แต้มที่เหลือ เราขัดใจ พระเอกออกน้อย 555 10 แต้มเต็มสำหรับนางเอก นางเอกเล่นเก่งเล่นดีมาก ถ้าทุกคนดูก็จะร้องว่าเอ๊ะทำไมหน้าคุ้นๆ คือนางเอกคนนี้ (เอริกะ ซาวาจิริ) คือคนเดียวกับคนที่เล่นเป็นอายะ ในเรื่อง 1 liter of tear จำกันได้ไหมคะ ที่พวกเราร้องไห้กันมากกว่า 1 ลิตร TT  

          เราว่าจบการรีวิวแล้วไปหาดูเรื่องนี้กันดีกว่าเนอะ >< เราดูเรื่องนี้จากเวป Dark Drama นะคะ ทั้งภาค 1 และ ภาค 2 เลย ยังไงก็ขอบคุณมากๆที่แปลละครเรื่องนี้ให้เราดู

          เราจะไม่ใช้ทฤษฎีอะไรในการวิจารณ์ละครเรื่องนี้นะคะ แต่เราเชื่อว่าถ้าใครที่เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีในการวิจารณ์ละคร ภาพยนตร์หรือนิยาย จะได้ประโยชน์และได้ข้อคิดจากเรื่องนี้มากมาย >< ดูละครนอกจากสนุกยังได้นัยยะที่แฝงในตัวบทที่ผู้เขียนบทต้องการสื่อด้วย เราว่ามันเก๋ออก ยังไงอย่าลืมติดตามเรื่องนี้กันให้ได้นะคะ แล้วมาเมาท์กัน ว่ามันสนุกแค่ไหน ขอบคุณค่ะ ^^    

Subthai By Dark-Drama ขอบพระคุณมากๆนะคะ
ภาค 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาค 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปล ใครที่ชอบเพลง ธีมละครภาค 2 สามารถหาฟังได้นะคะ >> Brighter Day by Namie Amuro ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่