ความเห็นของ ทันตแพทย์สม สุจีรา ต่อภาพยนตร์เรื่อง ฟรีแล้นซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

ที่ีมา https://www.facebook.com/som.sujera.7

1. หนังเล่นกับมุมมองของการคิดในใจ ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกของโลกเลยก็ว่าได้ ที่นำจุดนี้มาเป็นแกนหลักในการดำเนินเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบดูเหมือนพระเอกจะคิดมากกว่าพูดด้วยซ้ำ ซึ่งบอกได้เลยว่า ผู้กำกับกล้ามาก มีความคิดนอกกรอบ และสร้างสรรค์สุดๆ

2. ความคิดที่อยู่ในใจ คือตัวตนที่แท้จริงของคนๆนั้น ตลอดทั้งเรื่องเราได้เห็นตัวตนของยุ่นอย่างชัดเจน และแน่นอนว่าคำสบถทั้งหลายผุดมาตลอดทั้งเรื่อง เพราะเวลาคิดในใจ คงไม่มีใครเรียกเพื่อนว่าคุณ หรือตอบรับครับผม

3. หนังเรื่องนี้จะว่าอาร์ต ก็ไม่ใช่ แต่บุคลิกเจ๋ แสดงให้เห็นถึงความอาร์ต หนังพยายามบอกว่า บุคลิกที่เป็นตัวของตัวเองก็สามารถมีแฟนที่น่ารักและอบอุ่นได้

4. ยุ่นไม่ผูกพันกับแม่เท่าที่ควร ชีวิตของยุ่นโดดเดี่ยว อ้างว้าง มีงานเป็นเพื่อน แม้ในงานศพ ก็จินตนาการได้ว่า จะมีคนมาร่วมงานเพียงสี่ห้าคน ชีวิตแบบนี้ เชื่อได้ว่า คล้ายกับคนไทยนับล้านคน

5. คำถามที่อยู่ในใจของผู้ชมคือ หมอที่ห่วงคนไข้แบบหมออิม มีอยู่จริงหรือไม่ และหมออิมแอบรักยุ่นหรือไม่ คำตอบคือมีอยู่จริง และไม่น้อยด้วย แอบรักหรือไม่ ตอบว่าไม่ แต่ประทับใจในความซื่อ ความน่ารักของยุ่น ซึ่งบทนี้ต้องล็อคไว้สำหรับซันนี่เท่านั้น คนอื่นเล่นได้ไม่เหมือน ส่วนบทหมออิมไม่จำเป็นต้องเป็นใหม่ ดาวิกา

6. หนังเรื่องนี้ทำให้รู้ว่า พนักงาน 7-11 แอบมาตีแบดหน้าร้านได้ (ฮา) และขนมจีบกุ้งขายดีขึ้นมากทีเดียวหลังจากหนังออกฉาย

7. ยุ่นมีความสุขกับงานจนลืมสุขภาพ ดูจบสรุปได้ว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างสุขภาพกับงาน จงเลือกสุขภาพก่อน

8. ความรักทำให้ยุ่นคิดถึงชีวิตมากขึ้น ชีวิตฟรีแล๊นซ์ ที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีญาติพี่น้อง เจ๋คือเพื่อนสนิทต่างเพศที่คุยกันได้ทุกเรื่อง เจ๋เป็นทั้งหมดของชีวิตยุ่น ทั้งชีวิตงานและชีวิตส่วนตัว วันที่เจ๋แต่งงานและลาออก จึงเหมือนเอาชีวิตยุ่นไปด้วย ยุ่นคิดถึงหมออิม แต่ไม่อยากเรียกว่าความรัก เพราะช่องว่างระหว่างหมอกับคนไข้ ห่างกันพอสมควร

9. ฉากที่ยุ่นล้มลงแล้วสลบ ทิ้งช่วงฉากนั้นไว้หลายนาที ตรงนี้อาร์ตสุดๆ คนดูที่เข้าใจจะรู้ว่า ผู้กำกับ เว้นช่วงให้แต่ละคนคิดถึงเรื่องราวของชีวิตตัวเอง ยิ่งถ้าใครมีชีวิตเหมือนยุ่น อาจถึงขนาดร้องไห้ออกมาทีเดียว

10. หนังจบแบบไม่สรุป เหมือนจะบอกว่า วิถีชีวิตในอนาคตของเราแต่ละคน สามารถออกแบบเองได้ แม้แต่ชีวิตของยุ่นกับหมออิมก็ตาม หนังจึงให้ผู้ชมไปจินตนาการกันต่อเอง (เรื่องนี้คล้ายๆเรื่องคิดถึงวิทยา)

11. หนังเรื่องนี้หลายคน บอกว่าไม่สนุก แต่คนที่ดูเข้าใจบอกว่าสนุกมาก สำหรับผม จัดให้เป็นหนังยอดเยี่ยม TOP FIVE ของ GTH เลยทีเดียว เป็นหนังที่สร้างด้วยสมอง และวิธีคิดที่แตกต่าง ซึ่งผู้กำกับที่จะทำได้แบบนี้มีไม่มากนัก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่