Review: EVEREST
สร้างจากเรื่องจริงของนักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ที่ต้องเผชิญโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในปี 1996 เมื่อพายุหิมะขนาดมหึมาเข้าจู่โจมพวกเขา ณ จุดสูงสุดของโลก งานนี้บาดเจ็บล้มตายกันระนาวครับผม
ตัวดำเนินเรื่องหลักคือ Rob Hall นักไต่เขาที่พาลูกทีม 19 คนขึ้นไปพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ซึ่งในปีนั้นมีผู้คนตั้งใจไปพิชิตยอดเขามากเป็นประวัติการณ์ ทำให้ความเป็นอยู่บน Base Camp ค่อนข้างพลุกพล่าน ต้องจัดระเบียบและทำงานเป็นทีมเพื่อทุกคนจะพิชิตยอดเขาได้ และไม่ตายอยู่บนนั้น
ขาขึ้นว่าโหดแล้ว ขาลงโหดกว่า เพราะดันมีพายุหิมะเข้าขณะทุกคนอยู่บนยอดเขาพอดี ... ในภาวะที่ออกซิเจนต่ำ และความเย็นระดับติดลบ การติดค้างอยู่ ณ จุดสูงสุดของเทือกเขาหิมาลัยแบบนั้นคือการฆ่าตัวตายดี ๆ นี่เอง ... งานนี้ใครจะรอดกลับมาบ้าง ไปดูเองนะ
สิ่งที่ชอบที่สุดคือความสมจริงในเรื่อง ภูเขาเป็นภูเขา หิมะเป็นหิมะ ยิ่งถ้าโรงไหนเปิดแอร์เย็น ๆ ด้วยนี่ฟินสุด ๆ เลย ... แนะนำให้ดูในระบบ IMAX เพราะเสียงจัดเต็มมาก เสียงลมพัดนี่แน่นจนทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่บนยอดเขาเลย ... ส่วนงานภาพ 3D ไม่พุ่งหรือลึกมาก ไม่ดีไม่แย่
บรรยากาศโดยรวมของหนังค่อนข้างนิ่ง เหมือนสารคดี ไม่มีจุดพีค แต่มันมีความกดดันในระดับยิ่งยวด โดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศค่อย ๆ เล่นงานทีมไต่เขาแต่ละคน สนุกตรงที่ได้ลุ้นว่าพวกเขาจะรอดไหม ใครจะตายบ้าง เอาใจช่วยทุกคนเลย
นักแสดงเล่นดี แต่ที่มีปัญหาคือบท เพราะเล่าแบบทื่อ ๆ และไม่ทำให้เราผูกพันกับตัวละครทั้งหลายเท่าใดนัก จำชื่อตัวละครส่วนใหญ่ไม่ได้ และดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร เพราะพอใส่ชุดปืนเขาแล้วมันก็ดูเหมือนกันไปหมด 55+
ไม่เข้าใจตัวละครของ เจค จิลเลนฮาล ว่ากำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน แล้วทำไมถึงมีสภาพแบบนั้น งง
อีกจุดที่บกพร่องคือไม่มีการทำให้คนดูเข้าใจเส้นทางสู่เอเวอร์เรสต์ในภาพรวมเลย ... มีการอ้างอิงจุดพักและชื่อเส้นทางต่าง ๆ แต่ก็ไม่ช่วยให้เราเข้าใจว่าจุดต่าง ๆ อยู่ตรงไหนของทางขึ้นสู่ยอดเขา ... บางทีก็งงว่าตกลงมีกี่ทีมที่กำลังปีนเขาอยู่กันแน่ หรือทีมนี้มาด้วยกันไหม ทำไมมีกันแค่นี้ แล้วที่เหลือไปไหน คืองง .. อย่างน้อยน่าจะโชว์กราฟฟิคหรือแผนที่คร่าว ๆ ให้คนดูได้เห็นบ้าง
แม้จะสร้างความกดดันและลุ้นในระดับที่น่าพอใจ แต่ก็ไปไม่สุดเท่าไรนัก จบแบบนิ่ง ๆ และไม่สรุปให้รู้สึกว่าเหตุการณ์โศกนาฎกรรมดังกล่าวมีผลต่อระเบียบการปีนเขาในเวลาต่อมาอย่างไร เหมือนแค่ว่าเป็นปีหนึ่งที่โชคร้ายแล้วก็ผ่านไป ...
สรุปคือมีความสนุกแบบกลาง ๆ นิ่ง ๆ แต่ลุ้นและกดดันมากครัช!
ปล. Sub-thai เรื่องนี้พิมพ์ผิดเยอะมาก อ่านแล้วเพลีย ... "เราจะไปช่วยนาย" กลายเป็น "เราจะไปช่วยนาง" ... ทางการ ผิดเป็น ทาหาร ... บางทีพิมพ์ตกหายไปทั้งคำก็มี
ปล. ในโรง IMAX รัชโยธิน มีแมลงสาบด้วยนะฮะ ไต่ขึ้นมาบนแขนตอนกำลังดูหนังอยู่ เหอ ๆ
โดยนักวิจารย์รายเดิม
Champ Christof https://www.facebook.com/champ.christof?fref=ts
Review: EVEREST เอเวอเรสต์ ไต่ฟ้าท้านรก
สร้างจากเรื่องจริงของนักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ที่ต้องเผชิญโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในปี 1996 เมื่อพายุหิมะขนาดมหึมาเข้าจู่โจมพวกเขา ณ จุดสูงสุดของโลก งานนี้บาดเจ็บล้มตายกันระนาวครับผม
ตัวดำเนินเรื่องหลักคือ Rob Hall นักไต่เขาที่พาลูกทีม 19 คนขึ้นไปพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ซึ่งในปีนั้นมีผู้คนตั้งใจไปพิชิตยอดเขามากเป็นประวัติการณ์ ทำให้ความเป็นอยู่บน Base Camp ค่อนข้างพลุกพล่าน ต้องจัดระเบียบและทำงานเป็นทีมเพื่อทุกคนจะพิชิตยอดเขาได้ และไม่ตายอยู่บนนั้น
ขาขึ้นว่าโหดแล้ว ขาลงโหดกว่า เพราะดันมีพายุหิมะเข้าขณะทุกคนอยู่บนยอดเขาพอดี ... ในภาวะที่ออกซิเจนต่ำ และความเย็นระดับติดลบ การติดค้างอยู่ ณ จุดสูงสุดของเทือกเขาหิมาลัยแบบนั้นคือการฆ่าตัวตายดี ๆ นี่เอง ... งานนี้ใครจะรอดกลับมาบ้าง ไปดูเองนะ
สิ่งที่ชอบที่สุดคือความสมจริงในเรื่อง ภูเขาเป็นภูเขา หิมะเป็นหิมะ ยิ่งถ้าโรงไหนเปิดแอร์เย็น ๆ ด้วยนี่ฟินสุด ๆ เลย ... แนะนำให้ดูในระบบ IMAX เพราะเสียงจัดเต็มมาก เสียงลมพัดนี่แน่นจนทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่บนยอดเขาเลย ... ส่วนงานภาพ 3D ไม่พุ่งหรือลึกมาก ไม่ดีไม่แย่
บรรยากาศโดยรวมของหนังค่อนข้างนิ่ง เหมือนสารคดี ไม่มีจุดพีค แต่มันมีความกดดันในระดับยิ่งยวด โดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศค่อย ๆ เล่นงานทีมไต่เขาแต่ละคน สนุกตรงที่ได้ลุ้นว่าพวกเขาจะรอดไหม ใครจะตายบ้าง เอาใจช่วยทุกคนเลย
นักแสดงเล่นดี แต่ที่มีปัญหาคือบท เพราะเล่าแบบทื่อ ๆ และไม่ทำให้เราผูกพันกับตัวละครทั้งหลายเท่าใดนัก จำชื่อตัวละครส่วนใหญ่ไม่ได้ และดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร เพราะพอใส่ชุดปืนเขาแล้วมันก็ดูเหมือนกันไปหมด 55+
ไม่เข้าใจตัวละครของ เจค จิลเลนฮาล ว่ากำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน แล้วทำไมถึงมีสภาพแบบนั้น งง
อีกจุดที่บกพร่องคือไม่มีการทำให้คนดูเข้าใจเส้นทางสู่เอเวอร์เรสต์ในภาพรวมเลย ... มีการอ้างอิงจุดพักและชื่อเส้นทางต่าง ๆ แต่ก็ไม่ช่วยให้เราเข้าใจว่าจุดต่าง ๆ อยู่ตรงไหนของทางขึ้นสู่ยอดเขา ... บางทีก็งงว่าตกลงมีกี่ทีมที่กำลังปีนเขาอยู่กันแน่ หรือทีมนี้มาด้วยกันไหม ทำไมมีกันแค่นี้ แล้วที่เหลือไปไหน คืองง .. อย่างน้อยน่าจะโชว์กราฟฟิคหรือแผนที่คร่าว ๆ ให้คนดูได้เห็นบ้าง
แม้จะสร้างความกดดันและลุ้นในระดับที่น่าพอใจ แต่ก็ไปไม่สุดเท่าไรนัก จบแบบนิ่ง ๆ และไม่สรุปให้รู้สึกว่าเหตุการณ์โศกนาฎกรรมดังกล่าวมีผลต่อระเบียบการปีนเขาในเวลาต่อมาอย่างไร เหมือนแค่ว่าเป็นปีหนึ่งที่โชคร้ายแล้วก็ผ่านไป ...
สรุปคือมีความสนุกแบบกลาง ๆ นิ่ง ๆ แต่ลุ้นและกดดันมากครัช!
ปล. Sub-thai เรื่องนี้พิมพ์ผิดเยอะมาก อ่านแล้วเพลีย ... "เราจะไปช่วยนาย" กลายเป็น "เราจะไปช่วยนาง" ... ทางการ ผิดเป็น ทาหาร ... บางทีพิมพ์ตกหายไปทั้งคำก็มี
ปล. ในโรง IMAX รัชโยธิน มีแมลงสาบด้วยนะฮะ ไต่ขึ้นมาบนแขนตอนกำลังดูหนังอยู่ เหอ ๆ
โดยนักวิจารย์รายเดิม Champ Christof https://www.facebook.com/champ.christof?fref=ts