กระทู้นี้ไม่รู้ตั้งมาเพื่อบ่นตัวแทนวีซ่าอินเดีย หรือโชว์ความเกรียนของตัวเองนะครับ
ขอแชร์ประสบการณ์ให้เป็นข้อมูลเผื่อใครไปยื่นวีซ่าอินเดียละกันครับ
สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่าน ผมสรุปให้เลยว่า ค่าไปรษณีย์ 230 บาท และ SMS 60 บาท บังคับจ่าย ไม่มีการยกเว้น
การกรอกออนไลน์ต้องกรอกทุกสิ่งอย่าง อย่าเว้นไว้เลย ไม่งั้นโดนอีก 175 บาท
พอดีสัปดาห์ก่อนไปขอวีซ่าอินเดียกับเพื่อนมา เพราะมีแผนจะพาเพื่อนไปเที่ยวอินเดีย
ผมเองเคยไปมาแล้ว 2 รอบ ประทับใจอินเดียมากถึงแม้จะดูวุ่นวายบ้าง สกปรกบ้าง แต่ความสวยมีเสน่ห์นี่ก็เต็มที่เหมือนกัน
ที่สำคัญชอบกินอาหารอินเดียมาก
คือครั้งแรกที่ไปขอเนี่ย ยังไม่มี IVS มาเป็นตัวแทนนะครับ แต่เป็น VFS ผมก็ไม่รู้นะว่าต่างบริษัทกันยังไง การยื่นก็สะดวกดีมาก ราบรื่นทุกอย่าง
พอครั้งที่สอง IVS มาเป็นตัวแทนก็ยังปกติ สะดวกสบายดี ติดตรงที่เรื่องการส่งไปรษณีย์ ใครไปขออาจจะเคยเห็นเรื่องนี้ผ่านตามาบ้าง คือถ้าเราจะรับตัวเล่มเอง เราก็ยังต้องจ่ายค่าไปรษณีย์ 230 บาท และค่า SMS แจ้งเตือน 60 บาท โดยครั้งก่อนที่ยื่น จำได้ว่าไม่มีส่วนนี้นะครับ
ซึ่งปกติผมจะมารับเองทุกครั้งที่ขอวีซ่า เพราะกลัวว่าถ้าเล่มหายกลางทางเราต้องมาแก้ปัญหาอีก ครั้งที่สองนี้ผมก็เลยจ่ายไป ไม่ได้คิดอะไรมาก
สำหรับครั้งล่าสุด หลังหาข้อมูลเตรียมเอกสาร ก็พบความยุ่งยากในการขอวีซ่ามากขึ้น
ทั้งต้องกรอกเอกสารออนไลน์เท่านั้น และต้องไปสแกนนิ้วมือด้วยตัวเอง
แล้วผมก็ไปเจอกระทู้นึงในพันทิป ที่เค้าปฏิเสธการจ่ายค่าส่งไปรษณีย์ได้ ซึ่งสถานฑูตก็ช่วยยืนยันว่าไม่ต้องจ่ายด้วย เห้ย!!!!ประหยัดได้ตั้งเยอะเพราะไปกันหลายคน ประหยัดเป็นพันเลยนะ เอาหละสิทธิ์ของเรา ยังไงก็ลองดูก่อน
เมื่อวันขอมาถึง เราก็ไปยื่นเอกสารกัน ซึ่งก็ลางานกันมาเลย เรียกว่าวันนี้ต้องเสร็จครับ
จนท ด้านหน้า: ขอเช็คเอกสารครับ ..... เอกสารกรอกไม่ครบนะครับ ต้องไปกรอกมาใหม่ ขาดตรงพอร์ตที่จะเดินทางออก และการเดินทางใน 10 ปีที่ผ่านมา จะให้เรากรอกให้ใหม่มั้ย
(คือที่ไม่กรอกเนี่ย ผมก็ชุ่ยเองแหละ คือมันเป็นช่องที่ไม่มีดอกจัน เลยนึกว่าไม่ใช่ข้อมูลบังคับไง)
ผม: แล้วค่ากรอกเท่าไหร่ครับ
จนท ด้านหน้า: 175 ครับ
ผม: ได้ครับ (คือคิดแล้วว่าค่าเดินทางมาใหม่ไม่น่าคุ้ม ลางานก็ยาก วิ่งไปหาที่กรอกและปริ๊นท์ใหม่ก็เหนื่อยเกิน สงสารเพื่อน)
จากนั้นผมก็มานั่งรอคิวเรียก พอถึงคิว ความดราม่าของผมก็เกิดขึ้น \(o0o)/
จนท ญ: มีการกรอกเอกสารใหม่นะคะ รวมค่าทำเพิ่มอีก 2080 บาท
ผม: มารับเองครับ
จนท: เราคิดเท่ากันค่ะ
ผม: แต่อันนี้เคยมีเคสที่มารับเองไม่ต้องจ่ายนี่ครับ เห็นทางสถานฑูตก็ยืนยันมาแล้วว่ามารับเองไม่จำเป็นต้องจ่าย
จนท ญ: ใครบอกคะ (พร้อม จนท ช ด้านข้างหันมาสมทบด้วยว่าใครบอกครับว่ายกเว้นได้)
ผม: สถานฑูตครับ
จนท ช: ไม่ได้นะครับ จ่ายเท่ากัน
ผม: งั้นติดต่อสถานฑูตยืนยันให้ก่อนได้มั้ยครับ
จนท ช: งั้นนั่งรอก่อนครับ
ระหว่างผมนั่งรอผมก็ไม่เห็นว่ามีการโทรอะไร แล้วผมก็ได้ยิน จนท ช เดินมาบอก จนท ญ ว่าคิด 2080 เลย อืม....จะรู้มั้ยว่าได้ยินนะเว้ย สักพักพอใม่เรียกผมสักที่ ผมก็เลยลุกไปถามเอง แล้วก็โดนคิดราคาเต็มมาเหมือนเดิม พร้อมใบเสร็จที่ทำรอไว้เรียบร้อยแล้ว
ผม: นี่ยังคิดเท่าเดิมนี่ครับ ตกลงได้ติดต่อทางสถานฑูตหรือยังครับ
จนท ญ: ค่ะ
ผม: ตกลงติดต่อแล้วใช่มั้ย เพราะอยากให้เค้ายืนยัน (คราวก่อนที่ผมมาขอ จนท ไม่มั่นใจเรื่องเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็เลยโทรปรึกษาสถานฑูตเดี๋ยวนั้นเลยต่อหน้าผมนี่แหละ ผมเลยมั่นใจว่าไม่ได้โทร)
จนท ช: คุณสามารถส่งเมลล์ถามได้ตรงนี้ครับ (แล้วชี้ไปที่ใบเสร็จ)
ผม: ตกลงนี่ติดต่อให้ผมหรือยังครับ คือผมจะปฏิเสธการจ่าย ต้องติดต่อให้เสร็จก่อนสิครับ งั้นต่อสายสถานฑูตยืนยันให้ผมหน่อยนะครับ
จนท ช: ส่งเมลล์ตามนี้เลยครับ พร้อมยื่นเอกสารต่อให้ จนท ญ
ผม: งั้นขอเบอร์สถานฑูตหน่อยครับ จะโทรถามดู
จนท ญ: ตรงนี้ค่ะ (พร้อมชี้เบอร์ของ IVS เอง)
ผม: นี่มันเบอร์ของที่นี่ครับ ขอเบอร์สถานฑูตนะครับ
จนท ญ: ค่ะเบอร์นี้ค่ะ (พร้อมชี้ไปที่เดิม)
ผม: ไม่ใช่เบอร์ IVS ครับ ผมจะขอเบอร์สถานฑูต
จนท ญ: ก็โทรเบอร์นี้ค่ะ
ผม: ที่นี่เป็นตัวแทนต้องติดต่อสถานฑูตได้สิครับ มีเบอร์ใช่มั้ยครับ
จนท ญ: เราไม่มีเบอร์ค่ะ
ผม: ไม่มีได้ยังไงครับ คุณเป็นตัวแทนนะครับ
จนท ญ: ไม่มีค่ะ
ผม: อึ้งไป 3 วินาที ..... ไม่เป็นไรเดี๋ยวเสิร์ชหาเองก็ได้ครับ
ณ จุดนี้ ผมเข้าใจเจตนาของเค้าเลยครับว่าจะเก็บตังค์ และผมไม่มีตัวเลือกครับ
ถึงจุดนี้แอบสงสารเจ้าหน้าอยู่นะ ตอนนั้นผมถามหลายรอบมาก เจ้าหน้าที่ก็เหมือนโดนลงโปรแกรมป้องกันตัวไว้ให้ตอบเหมือนเดิม ไม่ว่าเราจะถามอะไรก็ตาม คือผมไม่ได้ขึ้นเสียงโมโหนะครับ แต่หน้าผมนิ่งมาก เสียงเรียบเฉยแต่ไม่ลดละ ผมก็รำคาญตัวเองนะว่าจะเอาชนะอะไรนักหนา จุดนี้แอบเกลียดตัวเองละ แต่มันไม่ถูกต้องนะเฟ้ย ก็เลย keep calm and carry on (. _ .)"
ผมออกมาด้านนอกโทรคุยกับทางสถานฑูต ซึ่งคนรับพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น ผมเลยแจ้งเรื่องไปทั้งหมด พร้อมอ้างถึงเคสเดิมที่เคยมี แต่จำรายละเอียดทุกคำพูดไม่ได้ แต่สรุปทางนั้นบอกว่าให้ติดต่อ manager ของ IVS ได้เลย เค้าสรุปอะไรให้ไม่ได้
ผมกลับมาที จนท ญ แจ้งว่าทางสถานฑูตให้คุยกับ manager ครับ จนท ญ เลยหันไปหาความช่วยเหลือจาก จนท ช ซึ่งหน้านิ่ง สงบสยบความเคลื่อนไหวมาก
จนท ช: สถานฑูตบอกยังงั้นเหรอ
ผม: ทางสถานฑูตให้คุยกับ manager ครับ
จนท ช: นิ่งไปสักครู่... งั้นเชิญทางนี้ครับ
ผมตามไปรอหน้าห้องกระจกขุ่นด้านหลัง แล้ว จนท ช ก็เคาะประตูให้คนมาเปิด หายเข้าไปแว๊บนึงก่อนออกมาบอกว่า manager ออกไปทานข้าว ให้รอไปก่อน จากนั้น จนท ช ก็กลับไปทำงานต่อ
ผมนั่งรออยู่แป๊บนึง แล้วเริ่มคิดว่าถ้าจะไปกินข้าวตอน 13.30 แบบนี้ แล้วเอกสารยื่นได้ถึงบ่ายสอง มันจะทันได้ยังไง (ซึ่งในใจไม่เชื่อหรอกครับว่า manager ไม่อยู่ แต่ก็ไม่ได้ปรักปรำว่าเค้าโกหกนะ ผมเดาเอาเอง) ผมเลยปรึกษาเพื่อน ซึ่งเพื่อนนั้นอยากให้จ่ายไปตั้งแต่แรกละ ผมดื้อเอง ผมเลยยอมเดินไปจ่ายตังค์
ผม: จ่ายเลยครับ รอ manager จนสี่โมงก็คงยังกินข้าวไม่เสร็จมั้งครับ (แอบกัดเค้าอีกแน่ะ)
จนท ญ: หน้านิ่ง ...... 2255 บาทค่ะ (เชื่อว่าจุดนี้ จนท ญ คงโล่งใจแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน...)
ผม: แล้วส่วนที่ต้องกรอกใหม่ล่ะครับ จะให้เติมยังไงดี
จนท ญ: เดี๋ยวเรากรอกเองค่ะ
ผม: แล้วคุณจะรู้ข้อมูลยังไงล่ะครับ (พอร์ตออกยังมีในตั๋วเครื่องบิน แต่ประวัติเดินทาง 10 ปี ผมเดินทางเยอะอยู่นะ)
จนท ญ: เราจะทำการกรอกแยกกัน แล้วแนบกับตัวเดิมไปค่ะ
ผม: ครับแต่จะให้กรอกอะไรล่ะครับ ผมยังไม่ได้ให้ข้อมูลเลยครับ
จนท ญ: งั้นกรอกตรงนี้ค่ะ ว่าตำแหน่งงานทำหน้าที่อะไร (อีกช่องที่ผมลืม เพราะไม่มีดอกจันไว้ แล้ว จนท เพิ่งเห็น )
เสร็จปุ๊บก็ดึงเอกสารกลับไป ผมก็เหวอเล็กน้อย ตกลงอย่างอื่นนี่ไม่ต้องแล้วใช่มั้ย แล้วทำไมตอนแรกควานหาทุกจุดเลย ของเพื่อนผมที่ไม่ทักท้วง เค้าก็ไม่ขออะไรเพิ่มเลยสักอย่าง สรุปคือการกรอกเอกสารวีซ่าอินเดีย เราต้องกรอกทุกอย่างนะครับ ห้ามเว้นเลย กรอกให้ครบไปก่อน เพราะกรอกด้วยปากกาซ้ำก็ไม่ได้ ต้องทำออนไลน์อย่างเดียว ถ้าคุณพลาดขึ้นมาก็ 175 บาท เอาว่าใครกลัวกรอกไม่เป๊ะก็เตรียมตังค์ไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ
จากนั้นผมก็กลับมานั่งวิเคราะห์เอง ความรู้สึกเราเลยนะ ระบบเซ็ตมาเพื่อเก็บตังค์ครับ ไม่ได้ทำมาเพื่ออำนวยความสะดวกเรา คิดจากประสบการณ์ในการยื่นตัวเองทั้ง 3 ครั้ง IVS เค้าต้องการเงินเท่านี้ ซึ่งคงคำนวณไว้แล้ว อยากไปอินเดียก็จ่ายซะ ซึ่งผมเข้าใจนะว่ามันมีค่าพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ แต่จะมาบอกเป็นค่านู่นนี่ให้รู้สึกว่าเราโดนเอาเปรียบทำไม ก็ระบุมาเลยว่าค่าบริการรวมการยื่นวีซ่าเท่านี้ แต่เราบริการส่งไปรษณีย์และ SMS ฟรีฟรีฟรี เพื่อคุณลูกค้าคนพิเศษอย่างคุณก็ได้ป่ะ เราจะได้ไม่คาดหวัง เพราะผมคิดว่ามันอยู่ที่ความรู้สึกมากกว่าเหตุผลจริงนะครับ
แต่สิ่งนึงที่ขอชมนะครับคือ จนท ไม่ชักสีหน้าหรือพูดจาไม่ดี และความอดทนในการตอบคำถามซ้ำไปมาได้ดี ไม่กระตุ้นให้เราฉุนเฉียวไปกว่าเดิม
สุดท้ายนี้ ผมจะไปเที่ยวอินเดียให้สนุกครับ 555 และอนาคตก็จะยังไปอีกเพราะชอบอินเดีย สัญญาคราวหน้าผมจะรีบจ่ายเลยนะ ไม่ดราม่าล๊าววววว
บทสรุปค่าส่งไปรษณีย์กับวีซ่าอินเดีย
ขอแชร์ประสบการณ์ให้เป็นข้อมูลเผื่อใครไปยื่นวีซ่าอินเดียละกันครับ
สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่าน ผมสรุปให้เลยว่า ค่าไปรษณีย์ 230 บาท และ SMS 60 บาท บังคับจ่าย ไม่มีการยกเว้น
การกรอกออนไลน์ต้องกรอกทุกสิ่งอย่าง อย่าเว้นไว้เลย ไม่งั้นโดนอีก 175 บาท
พอดีสัปดาห์ก่อนไปขอวีซ่าอินเดียกับเพื่อนมา เพราะมีแผนจะพาเพื่อนไปเที่ยวอินเดีย
ผมเองเคยไปมาแล้ว 2 รอบ ประทับใจอินเดียมากถึงแม้จะดูวุ่นวายบ้าง สกปรกบ้าง แต่ความสวยมีเสน่ห์นี่ก็เต็มที่เหมือนกัน
ที่สำคัญชอบกินอาหารอินเดียมาก
คือครั้งแรกที่ไปขอเนี่ย ยังไม่มี IVS มาเป็นตัวแทนนะครับ แต่เป็น VFS ผมก็ไม่รู้นะว่าต่างบริษัทกันยังไง การยื่นก็สะดวกดีมาก ราบรื่นทุกอย่าง
พอครั้งที่สอง IVS มาเป็นตัวแทนก็ยังปกติ สะดวกสบายดี ติดตรงที่เรื่องการส่งไปรษณีย์ ใครไปขออาจจะเคยเห็นเรื่องนี้ผ่านตามาบ้าง คือถ้าเราจะรับตัวเล่มเอง เราก็ยังต้องจ่ายค่าไปรษณีย์ 230 บาท และค่า SMS แจ้งเตือน 60 บาท โดยครั้งก่อนที่ยื่น จำได้ว่าไม่มีส่วนนี้นะครับ
ซึ่งปกติผมจะมารับเองทุกครั้งที่ขอวีซ่า เพราะกลัวว่าถ้าเล่มหายกลางทางเราต้องมาแก้ปัญหาอีก ครั้งที่สองนี้ผมก็เลยจ่ายไป ไม่ได้คิดอะไรมาก
สำหรับครั้งล่าสุด หลังหาข้อมูลเตรียมเอกสาร ก็พบความยุ่งยากในการขอวีซ่ามากขึ้น
ทั้งต้องกรอกเอกสารออนไลน์เท่านั้น และต้องไปสแกนนิ้วมือด้วยตัวเอง
แล้วผมก็ไปเจอกระทู้นึงในพันทิป ที่เค้าปฏิเสธการจ่ายค่าส่งไปรษณีย์ได้ ซึ่งสถานฑูตก็ช่วยยืนยันว่าไม่ต้องจ่ายด้วย เห้ย!!!!ประหยัดได้ตั้งเยอะเพราะไปกันหลายคน ประหยัดเป็นพันเลยนะ เอาหละสิทธิ์ของเรา ยังไงก็ลองดูก่อน
เมื่อวันขอมาถึง เราก็ไปยื่นเอกสารกัน ซึ่งก็ลางานกันมาเลย เรียกว่าวันนี้ต้องเสร็จครับ
จนท ด้านหน้า: ขอเช็คเอกสารครับ ..... เอกสารกรอกไม่ครบนะครับ ต้องไปกรอกมาใหม่ ขาดตรงพอร์ตที่จะเดินทางออก และการเดินทางใน 10 ปีที่ผ่านมา จะให้เรากรอกให้ใหม่มั้ย
(คือที่ไม่กรอกเนี่ย ผมก็ชุ่ยเองแหละ คือมันเป็นช่องที่ไม่มีดอกจัน เลยนึกว่าไม่ใช่ข้อมูลบังคับไง)
ผม: แล้วค่ากรอกเท่าไหร่ครับ
จนท ด้านหน้า: 175 ครับ
ผม: ได้ครับ (คือคิดแล้วว่าค่าเดินทางมาใหม่ไม่น่าคุ้ม ลางานก็ยาก วิ่งไปหาที่กรอกและปริ๊นท์ใหม่ก็เหนื่อยเกิน สงสารเพื่อน)
จากนั้นผมก็มานั่งรอคิวเรียก พอถึงคิว ความดราม่าของผมก็เกิดขึ้น \(o0o)/
จนท ญ: มีการกรอกเอกสารใหม่นะคะ รวมค่าทำเพิ่มอีก 2080 บาท
ผม: มารับเองครับ
จนท: เราคิดเท่ากันค่ะ
ผม: แต่อันนี้เคยมีเคสที่มารับเองไม่ต้องจ่ายนี่ครับ เห็นทางสถานฑูตก็ยืนยันมาแล้วว่ามารับเองไม่จำเป็นต้องจ่าย
จนท ญ: ใครบอกคะ (พร้อม จนท ช ด้านข้างหันมาสมทบด้วยว่าใครบอกครับว่ายกเว้นได้)
ผม: สถานฑูตครับ
จนท ช: ไม่ได้นะครับ จ่ายเท่ากัน
ผม: งั้นติดต่อสถานฑูตยืนยันให้ก่อนได้มั้ยครับ
จนท ช: งั้นนั่งรอก่อนครับ
ระหว่างผมนั่งรอผมก็ไม่เห็นว่ามีการโทรอะไร แล้วผมก็ได้ยิน จนท ช เดินมาบอก จนท ญ ว่าคิด 2080 เลย อืม....จะรู้มั้ยว่าได้ยินนะเว้ย สักพักพอใม่เรียกผมสักที่ ผมก็เลยลุกไปถามเอง แล้วก็โดนคิดราคาเต็มมาเหมือนเดิม พร้อมใบเสร็จที่ทำรอไว้เรียบร้อยแล้ว
ผม: นี่ยังคิดเท่าเดิมนี่ครับ ตกลงได้ติดต่อทางสถานฑูตหรือยังครับ
จนท ญ: ค่ะ
ผม: ตกลงติดต่อแล้วใช่มั้ย เพราะอยากให้เค้ายืนยัน (คราวก่อนที่ผมมาขอ จนท ไม่มั่นใจเรื่องเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็เลยโทรปรึกษาสถานฑูตเดี๋ยวนั้นเลยต่อหน้าผมนี่แหละ ผมเลยมั่นใจว่าไม่ได้โทร)
จนท ช: คุณสามารถส่งเมลล์ถามได้ตรงนี้ครับ (แล้วชี้ไปที่ใบเสร็จ)
ผม: ตกลงนี่ติดต่อให้ผมหรือยังครับ คือผมจะปฏิเสธการจ่าย ต้องติดต่อให้เสร็จก่อนสิครับ งั้นต่อสายสถานฑูตยืนยันให้ผมหน่อยนะครับ
จนท ช: ส่งเมลล์ตามนี้เลยครับ พร้อมยื่นเอกสารต่อให้ จนท ญ
ผม: งั้นขอเบอร์สถานฑูตหน่อยครับ จะโทรถามดู
จนท ญ: ตรงนี้ค่ะ (พร้อมชี้เบอร์ของ IVS เอง)
ผม: นี่มันเบอร์ของที่นี่ครับ ขอเบอร์สถานฑูตนะครับ
จนท ญ: ค่ะเบอร์นี้ค่ะ (พร้อมชี้ไปที่เดิม)
ผม: ไม่ใช่เบอร์ IVS ครับ ผมจะขอเบอร์สถานฑูต
จนท ญ: ก็โทรเบอร์นี้ค่ะ
ผม: ที่นี่เป็นตัวแทนต้องติดต่อสถานฑูตได้สิครับ มีเบอร์ใช่มั้ยครับ
จนท ญ: เราไม่มีเบอร์ค่ะ
ผม: ไม่มีได้ยังไงครับ คุณเป็นตัวแทนนะครับ
จนท ญ: ไม่มีค่ะ
ผม: อึ้งไป 3 วินาที ..... ไม่เป็นไรเดี๋ยวเสิร์ชหาเองก็ได้ครับ
ณ จุดนี้ ผมเข้าใจเจตนาของเค้าเลยครับว่าจะเก็บตังค์ และผมไม่มีตัวเลือกครับ
ถึงจุดนี้แอบสงสารเจ้าหน้าอยู่นะ ตอนนั้นผมถามหลายรอบมาก เจ้าหน้าที่ก็เหมือนโดนลงโปรแกรมป้องกันตัวไว้ให้ตอบเหมือนเดิม ไม่ว่าเราจะถามอะไรก็ตาม คือผมไม่ได้ขึ้นเสียงโมโหนะครับ แต่หน้าผมนิ่งมาก เสียงเรียบเฉยแต่ไม่ลดละ ผมก็รำคาญตัวเองนะว่าจะเอาชนะอะไรนักหนา จุดนี้แอบเกลียดตัวเองละ แต่มันไม่ถูกต้องนะเฟ้ย ก็เลย keep calm and carry on (. _ .)"
ผมออกมาด้านนอกโทรคุยกับทางสถานฑูต ซึ่งคนรับพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น ผมเลยแจ้งเรื่องไปทั้งหมด พร้อมอ้างถึงเคสเดิมที่เคยมี แต่จำรายละเอียดทุกคำพูดไม่ได้ แต่สรุปทางนั้นบอกว่าให้ติดต่อ manager ของ IVS ได้เลย เค้าสรุปอะไรให้ไม่ได้
ผมกลับมาที จนท ญ แจ้งว่าทางสถานฑูตให้คุยกับ manager ครับ จนท ญ เลยหันไปหาความช่วยเหลือจาก จนท ช ซึ่งหน้านิ่ง สงบสยบความเคลื่อนไหวมาก
จนท ช: สถานฑูตบอกยังงั้นเหรอ
ผม: ทางสถานฑูตให้คุยกับ manager ครับ
จนท ช: นิ่งไปสักครู่... งั้นเชิญทางนี้ครับ
ผมตามไปรอหน้าห้องกระจกขุ่นด้านหลัง แล้ว จนท ช ก็เคาะประตูให้คนมาเปิด หายเข้าไปแว๊บนึงก่อนออกมาบอกว่า manager ออกไปทานข้าว ให้รอไปก่อน จากนั้น จนท ช ก็กลับไปทำงานต่อ
ผมนั่งรออยู่แป๊บนึง แล้วเริ่มคิดว่าถ้าจะไปกินข้าวตอน 13.30 แบบนี้ แล้วเอกสารยื่นได้ถึงบ่ายสอง มันจะทันได้ยังไง (ซึ่งในใจไม่เชื่อหรอกครับว่า manager ไม่อยู่ แต่ก็ไม่ได้ปรักปรำว่าเค้าโกหกนะ ผมเดาเอาเอง) ผมเลยปรึกษาเพื่อน ซึ่งเพื่อนนั้นอยากให้จ่ายไปตั้งแต่แรกละ ผมดื้อเอง ผมเลยยอมเดินไปจ่ายตังค์
ผม: จ่ายเลยครับ รอ manager จนสี่โมงก็คงยังกินข้าวไม่เสร็จมั้งครับ (แอบกัดเค้าอีกแน่ะ)
จนท ญ: หน้านิ่ง ...... 2255 บาทค่ะ (เชื่อว่าจุดนี้ จนท ญ คงโล่งใจแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน...)
ผม: แล้วส่วนที่ต้องกรอกใหม่ล่ะครับ จะให้เติมยังไงดี
จนท ญ: เดี๋ยวเรากรอกเองค่ะ
ผม: แล้วคุณจะรู้ข้อมูลยังไงล่ะครับ (พอร์ตออกยังมีในตั๋วเครื่องบิน แต่ประวัติเดินทาง 10 ปี ผมเดินทางเยอะอยู่นะ)
จนท ญ: เราจะทำการกรอกแยกกัน แล้วแนบกับตัวเดิมไปค่ะ
ผม: ครับแต่จะให้กรอกอะไรล่ะครับ ผมยังไม่ได้ให้ข้อมูลเลยครับ
จนท ญ: งั้นกรอกตรงนี้ค่ะ ว่าตำแหน่งงานทำหน้าที่อะไร (อีกช่องที่ผมลืม เพราะไม่มีดอกจันไว้ แล้ว จนท เพิ่งเห็น )
เสร็จปุ๊บก็ดึงเอกสารกลับไป ผมก็เหวอเล็กน้อย ตกลงอย่างอื่นนี่ไม่ต้องแล้วใช่มั้ย แล้วทำไมตอนแรกควานหาทุกจุดเลย ของเพื่อนผมที่ไม่ทักท้วง เค้าก็ไม่ขออะไรเพิ่มเลยสักอย่าง สรุปคือการกรอกเอกสารวีซ่าอินเดีย เราต้องกรอกทุกอย่างนะครับ ห้ามเว้นเลย กรอกให้ครบไปก่อน เพราะกรอกด้วยปากกาซ้ำก็ไม่ได้ ต้องทำออนไลน์อย่างเดียว ถ้าคุณพลาดขึ้นมาก็ 175 บาท เอาว่าใครกลัวกรอกไม่เป๊ะก็เตรียมตังค์ไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ
จากนั้นผมก็กลับมานั่งวิเคราะห์เอง ความรู้สึกเราเลยนะ ระบบเซ็ตมาเพื่อเก็บตังค์ครับ ไม่ได้ทำมาเพื่ออำนวยความสะดวกเรา คิดจากประสบการณ์ในการยื่นตัวเองทั้ง 3 ครั้ง IVS เค้าต้องการเงินเท่านี้ ซึ่งคงคำนวณไว้แล้ว อยากไปอินเดียก็จ่ายซะ ซึ่งผมเข้าใจนะว่ามันมีค่าพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ แต่จะมาบอกเป็นค่านู่นนี่ให้รู้สึกว่าเราโดนเอาเปรียบทำไม ก็ระบุมาเลยว่าค่าบริการรวมการยื่นวีซ่าเท่านี้ แต่เราบริการส่งไปรษณีย์และ SMS ฟรีฟรีฟรี เพื่อคุณลูกค้าคนพิเศษอย่างคุณก็ได้ป่ะ เราจะได้ไม่คาดหวัง เพราะผมคิดว่ามันอยู่ที่ความรู้สึกมากกว่าเหตุผลจริงนะครับ
แต่สิ่งนึงที่ขอชมนะครับคือ จนท ไม่ชักสีหน้าหรือพูดจาไม่ดี และความอดทนในการตอบคำถามซ้ำไปมาได้ดี ไม่กระตุ้นให้เราฉุนเฉียวไปกว่าเดิม
สุดท้ายนี้ ผมจะไปเที่ยวอินเดียให้สนุกครับ 555 และอนาคตก็จะยังไปอีกเพราะชอบอินเดีย สัญญาคราวหน้าผมจะรีบจ่ายเลยนะ ไม่ดราม่าล๊าววววว