ติดเกาะอีกแล้วเหรอ?!
นวนิยายไทย-ละครไทยหลายเรื่องชอบให้พระเอก-นางเอกไปติดเกาะ หรือไม่ตอนจบก็ไปแต่งงานกันที่ชายทะเล
ผมเดามั่วๆเอาเองว่า คงเป็นเพราะคนเขียนนวนิยายรู้สึกว่าเกาะกับชายทะเลมันเป็นฉากหลังที่สวยดี หรือไม่ทีมงานละครก็คงอยากไปเที่ยว ไปทำงานในบรรยากาศชิลๆเป็นการคลายเหนื่อยคลายเครียดบ้างกระมัง?
ตอนทำบทเจ้าสาวฯ มันก็มีเรื่องราวติดเกาะอีก ซึ่งผมยอมรับตรงๆว่าโคตรเบื่อ! จะติดเกาะอะไรกันนักกันหนา?!
อีกทั้งตอนจะเขียนบทเรื่องนี้ ผมตั้งใจไว้ว่าจะรักษาโครงเรื่องของนวนิยายต้นฉบับไว้ด้วยความเคารพ แต่ในส่วนรายละเอียด ลีลา สถานการณ์ต่างๆผมจะขอเปลี่ยน และมีจุดหมายง่ายๆคือเอาสนุกกับเอาใหม่เข้าว่า
และในเมื่อผมเบื่อการติดเกาะ จึงให้ตัวเอกของเราไปติดอยู่บนเรือใบที่เสียอยู่กลางทะเลเวิ้งว้างแทน มันเป็นที่ๆแย่มากกว่าเกาะอีก เพราะคับแคบและไปไหนก็ไม่ได้ ดำรงชีพก็ไม่ง่าย ซึ่งเอื้อต่อสถานการณ์คับขันเข้าตาจนและโรแมนติกไปพร้อมๆกัน
ตอนเขียนนั้นสนุกมาก ตอนอ่านบทกันในห้องประชุมก็สนุกเมามัน แต่พอมาตอนถ่ายนี่สิ?!!
ด้วยความที่อยากให้ภาพสวยสมจริง ทีมงานจึงลงมติว่าจะไปถ่ายกลางทะเลจริงๆซะเลย แทนที่จะยกเรือเข้าไปถ่ายในสตูดิโอแล้วเอา CG แปะซึ่งอาจไม่ได้ฟีลเท่าของจริงในงบประมาณของละคร
ซึ่งพอไปถ่ายทีมงานก็ได้ฟีลจริงๆด้วย คือฟีลประมาณว่า "ไอ้ตุ๋ย ไอ้

! กูจะรอดตายจากกลางทะเลเพราะสิ่งที่เขียนมั้ยเนี่ย?"
เพราะดั๊นมีพายุเข้าพอดีในวันที่จะถ่าย พายุนั้นแรงในระดับที่แม้แต่ทหารเรือที่มาอำนวยความสะดวกยังเอ่ยปากว่า "ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ออกเรือไป" แต่ทีมงานก็ไม่ลดละ หาช่วงเวลาที่คิดว่าเหมาะออกเรือไปจนได้ แต่สุดท้ายก็ถ่ายไม่ได้จริงๆ แถมผจญพายุจนอ้วกแตกกันกลับมาอีก
ระหว่างทางก็มีการพูดกันถึงการเปลี่ยนสถานการณ์ในบทมั้ย? แทนที่จะติดกลางทะเล ไปติดกลางคลองแสนแสบ หรือติดกลางสวนสยาม ติดกลางน้ำพุพาราก้อนแทนได้มั้ย?
แต่ก็ต้องปรบมือรัวๆให้กับใจของทีมงานละครเรื่องนี้จริงๆ เพราะหลังจากตั้งหลักใหม่ด้วยการกลับไปถ่ายฉากอื่นๆแทนก่อน จนได้จังหวะดี ทีมงานก็ออกไปลุยถ่ายกลางทะเลกันอีกรอบ คราวนี้ถึงแม้จะไม่มีพายุ แต่ก็ทุลักทุเล สู้กับน้ำและแดดจนตัวดำเมี่ยมเกรียมกันหมด
ทุกสิ่งที่ทีมงานทำอย่างบ้าบิ่นนั้น ก็เพื่อให้ตัวอักษรที่อยู่ในกระดาษขนาด A4 นั้นเป็นภาพจริงๆขึ้นมาให้คนดูได้สนุก ซึ่งตอนเขียน คนเขียนบทก็เอามันส์เข้าว่า แต่ไม่ต้องไปร่วมลำบากกับเค้าแต่อย่างใด นิสัยดีม๊ากมากกก!
จริงๆแล้วผมซาบซึ้งใจนะครับที่มีทีมงานทุ่มเทและรักละครเรื่องนี้ขนาดนี้
คราวหน้า ในละครเรื่องใหม่ ผมสัญญาว่าจะไม่ให้พระเอก-นางเอกไปติดกลางทะเลอีก แต่ให้มันไปติดบนกระสวยอวกาศแทน
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ใช่การสอน How to การเขียนบทละครโทรทัศน์ เป็นแค่การระบายความทรงจำ ความรู้สึก และความนึกคิดส่วนตัวระหว่างการทำงานเท่านั้น
ขอบันทึกถึงสักครั้งให้ชื่นใจ บทบันทึกระหว่างทางเขียนบท #ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ ตอน8
ติดเกาะอีกแล้วเหรอ?!
นวนิยายไทย-ละครไทยหลายเรื่องชอบให้พระเอก-นางเอกไปติดเกาะ หรือไม่ตอนจบก็ไปแต่งงานกันที่ชายทะเล ผมเดามั่วๆเอาเองว่า คงเป็นเพราะคนเขียนนวนิยายรู้สึกว่าเกาะกับชายทะเลมันเป็นฉากหลังที่สวยดี หรือไม่ทีมงานละครก็คงอยากไปเที่ยว ไปทำงานในบรรยากาศชิลๆเป็นการคลายเหนื่อยคลายเครียดบ้างกระมัง?
ตอนทำบทเจ้าสาวฯ มันก็มีเรื่องราวติดเกาะอีก ซึ่งผมยอมรับตรงๆว่าโคตรเบื่อ! จะติดเกาะอะไรกันนักกันหนา?!
อีกทั้งตอนจะเขียนบทเรื่องนี้ ผมตั้งใจไว้ว่าจะรักษาโครงเรื่องของนวนิยายต้นฉบับไว้ด้วยความเคารพ แต่ในส่วนรายละเอียด ลีลา สถานการณ์ต่างๆผมจะขอเปลี่ยน และมีจุดหมายง่ายๆคือเอาสนุกกับเอาใหม่เข้าว่า
และในเมื่อผมเบื่อการติดเกาะ จึงให้ตัวเอกของเราไปติดอยู่บนเรือใบที่เสียอยู่กลางทะเลเวิ้งว้างแทน มันเป็นที่ๆแย่มากกว่าเกาะอีก เพราะคับแคบและไปไหนก็ไม่ได้ ดำรงชีพก็ไม่ง่าย ซึ่งเอื้อต่อสถานการณ์คับขันเข้าตาจนและโรแมนติกไปพร้อมๆกัน
ตอนเขียนนั้นสนุกมาก ตอนอ่านบทกันในห้องประชุมก็สนุกเมามัน แต่พอมาตอนถ่ายนี่สิ?!!
ด้วยความที่อยากให้ภาพสวยสมจริง ทีมงานจึงลงมติว่าจะไปถ่ายกลางทะเลจริงๆซะเลย แทนที่จะยกเรือเข้าไปถ่ายในสตูดิโอแล้วเอา CG แปะซึ่งอาจไม่ได้ฟีลเท่าของจริงในงบประมาณของละคร
ซึ่งพอไปถ่ายทีมงานก็ได้ฟีลจริงๆด้วย คือฟีลประมาณว่า "ไอ้ตุ๋ย ไอ้
เพราะดั๊นมีพายุเข้าพอดีในวันที่จะถ่าย พายุนั้นแรงในระดับที่แม้แต่ทหารเรือที่มาอำนวยความสะดวกยังเอ่ยปากว่า "ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ออกเรือไป" แต่ทีมงานก็ไม่ลดละ หาช่วงเวลาที่คิดว่าเหมาะออกเรือไปจนได้ แต่สุดท้ายก็ถ่ายไม่ได้จริงๆ แถมผจญพายุจนอ้วกแตกกันกลับมาอีก
ระหว่างทางก็มีการพูดกันถึงการเปลี่ยนสถานการณ์ในบทมั้ย? แทนที่จะติดกลางทะเล ไปติดกลางคลองแสนแสบ หรือติดกลางสวนสยาม ติดกลางน้ำพุพาราก้อนแทนได้มั้ย?
แต่ก็ต้องปรบมือรัวๆให้กับใจของทีมงานละครเรื่องนี้จริงๆ เพราะหลังจากตั้งหลักใหม่ด้วยการกลับไปถ่ายฉากอื่นๆแทนก่อน จนได้จังหวะดี ทีมงานก็ออกไปลุยถ่ายกลางทะเลกันอีกรอบ คราวนี้ถึงแม้จะไม่มีพายุ แต่ก็ทุลักทุเล สู้กับน้ำและแดดจนตัวดำเมี่ยมเกรียมกันหมด
ทุกสิ่งที่ทีมงานทำอย่างบ้าบิ่นนั้น ก็เพื่อให้ตัวอักษรที่อยู่ในกระดาษขนาด A4 นั้นเป็นภาพจริงๆขึ้นมาให้คนดูได้สนุก ซึ่งตอนเขียน คนเขียนบทก็เอามันส์เข้าว่า แต่ไม่ต้องไปร่วมลำบากกับเค้าแต่อย่างใด นิสัยดีม๊ากมากกก!
จริงๆแล้วผมซาบซึ้งใจนะครับที่มีทีมงานทุ่มเทและรักละครเรื่องนี้ขนาดนี้
คราวหน้า ในละครเรื่องใหม่ ผมสัญญาว่าจะไม่ให้พระเอก-นางเอกไปติดกลางทะเลอีก แต่ให้มันไปติดบนกระสวยอวกาศแทน
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ใช่การสอน How to การเขียนบทละครโทรทัศน์ เป็นแค่การระบายความทรงจำ ความรู้สึก และความนึกคิดส่วนตัวระหว่างการทำงานเท่านั้น