เพราะกับบางคนเป็นได้เพียงความทรงจำเท่านั้น!!!

สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตเลยค่ะ  ><
เริ่มยังไงดีละ  เอาเป็นว่า เรื่องราวที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องของเราเองค่ะ



             เราก็เป็นคนธรรมดาๆคนนึง ที่โชคดีและโชคร้ายในเวลาเดียวกัน เรามีโอกาสได้รู้จักกับคนๆนึง เนื่องด้วยหน้าที่การงานทำให้เรากับเขาได้รู้จักกันซึ่งเรา ก็ติดต่อสื่อสารกันเป็นครั้งคราว(โทรศัพท์ติดต่อกัน ไม่เคยเห็นหน้ากัน เนื่องจากงานเป็นงานด้านเทคนิคและด้านการให้คำปรึกษา)จนอยู่มาวันหนึ่ง มีความจำเป็นจะต้องขอคำปรึกษาอย่างเร่งด่วน ไม่รู้จะปรึกษาใคร จึงไลน์ไปขอความช่วยเหลือเขา และเขาก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีนับจากวันนั้น เริ่มทักไลน์กัน คุยเรื่องงานบ้าง ชวนคุยทั่วๆไปบ้าง แล้วก็คุยกันบ่อยขึ้น บ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นไม่ได้คุยในเชิงจีบกัน แต่มีแซวๆ มีแกล้งๆอำกันบ้าง เนื่องจากเขาเป็นคนตลก เฮฮา เฟรนลี่ มักมีเรื่องราวมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ  แต่ในความเฮฮานั้นก็มีความเศร้าซ่อนอยู่  เนื่องจากเขาเพิ่งเลิกกันแฟนได้ประมาณ 1 ปี และแฟนเขาก็ยังถามสารทุกข์สุขดิบอยู่บ้างซึ่งบ่อยครั้งที่เขาพูดถึงแฟนเขา ดูเหมือนเขายังคงเสียใจและยังลืมแฟนเขาไม่ได้ ซึ่งเรามีความรู้สึกว่าเขายังคงรักแฟนเก่าเขาอยู่มากๆ เลยลองแนะนำให้เขากลับไปขอคืนดีกับแฟน ปรากฏว่าเขายืนยันว่าจะไม่กลับไปคบกันอีกแล้ว ก็เลยลองแนะนำมุมมองความรักหลายๆด้านให้เขาฟัง ปรากฏว่าการแนะนำของเราทำให้เขาเริ่มสบายใจมากขึ้น เขาเริ่มเปิดเผยตัวตนมากขึ้น เริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นในเวลาที่คุยกัน จากนั้นเราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น ปรึกษากัน และเริ่มคุยกันได้ในทุกๆเรื่อง เหมือนถูกชะตากัน  
             มันอาจจะดูแปลกที่คนสองคนที่ไม่เคยเจอไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่กลับกล้าคุยกันในทุกๆเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ และจากวันนั้นก็ทำให้เรารู้สึกดีดีกับเขา คำว่ารู้สึกดีดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงชอบพอแบบหนุ่มสาว  ไม่ได้หมายถึงมีใจให้ แต่มันคือการพูดคุยด้วยอย่างถูกชะตาสบายใจที่จะคุยกันมากกว่า เคยตกลงกันว่าเราจะคุยกันแบบไม่มีสถานะแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่พี่น้อง ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ต่อให้เราต่างฝ่ายต่างมีคนรัก มีครอบครัวหรือวันเวลาผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ยังจะคุยกันแบบนั้นไปเรื่อยๆ หรือจนกว่าจะมีใครสักคนที่ไม่อยากคุยอีกแล้ว  เราเองก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ถึงแม้นิสัยของเขาจะมีอะไรแย่ๆอยู่บ้าง แต่ลึกๆแล้ว เขาเป็นคนดีมากทีเดียว ลักษณะนิสัยของเขาค่อนข้าง (ใช้คำว่าค่อนข้างมากเลยทีเดียว)ที่จะเหมือนกับแฟนเก่าของเรามากๆ ซึ่งนั้นทำให้เรารู้สึกคิดถึงแฟนเก่าทุกครั้งที่คุยกัน แต่เรามีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักกับแฟนเก่า และเขาคนนี้ก็กลับมีนิสัยแบบนั้นด้วย ก็เลยเริ่มทำให้เรารู้สึกดีและรู้สึกแย่ในเวลาเดียวกัน (นี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยบอกเขาเลย) แต่เราก็ยังคุยกับเขาอยู่ เนื่องด้วยอายุเขาที่มากกว่า ทำให้เรานับถือเขาเป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เป็นเหมือนพี่ชายที่ไม่มีสถานะอะไรเกี่ยวพันกัน แค่คุยกันแล้วสบายใจ หลังจากที่สัญญากันไว้จากแค่คุยกันวันละเล็กน้อย ก็เริ่มคุยกันมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีก็รู้สึกว่ามันมากไป เริ่มแยกไม่ออกว่าความเฟรนลี่กับความรู้สึกดีดีที่มีให้กัน จริงๆแล้วที่เป็นอยู่มันคือแบบไหนกันแน่
             จนอยู่มากวันหนึ่ง มีโอกาสได้เห็นรูปที่เขาส่งมา จึงเกิดอาการช็อคหนักมาก มันไม่ใช่เพราะเขาหน้าตาไม่ดี ไม่ใช่เพราะตั้งความหวังอะไรไว้และไม่ใช่ภาพอนาจารแต่อย่างใด แต่กลับทำให้เราแทบจะร้องไห้ออกมา ภาพที่เห็นคือผู้ชายปกติทั่วไปแต่ใบหน้าที่เห็นนั้น มีลักษณะคล้ายแฟนเก่าของเรามากๆ(มันจะเป็นไปได้ยังไง ทั้งหน้าตา บุคคลิกลักษณะนิสัยเหมือนกันไปหมด) หลังจากที่ช็อคกับภาพที่เห็นตรงหน้าอยู่พักใหญ่ๆ ก็เริ่มตั้งสติได้ ในใจลึกๆคิดว่ามันจะบังเอิญไปมั้ยเพราะไม่ใช่นิสัยที่คล้ายแฟนเก่าของเรา แต่รูปร่าง ลักษณะ หน้าตา คล้ายมากจนเราแอบคิดว่าเขาคือแฟนเก่าเรารึเปล่า
             นี้คือเรื่องจริงที่ตัวเราเองแทบจะไม่อยากจะเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันจะมีสักกี่คนกันที่เหมือนกันทั้งหน้าตาและนิสัยได้ขนาดนั้น    หลังจากนั้น เราก็เล่าให้เขาฟัง ว่าหน้าตาและนิสัยของเขาเหมือนแฟนเก่าเรามาก เขาเองก็ตกใจ แต่หลังจากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไร และเรายังคุยกันปกติ แต่ก็เริ่มโทรหาบ่อยขึ้น เริ่มใส่ใจในทุกเรื่องมากขึ้น เริ่มทำให้เรารู้สึกว่าเราสำคัญกับเขา(หรือจริงๆแล้วเขาแค่เฟรนลี่มากกว่าปกติ) เราเริ่มรู้สึกแปลกๆ ในความรู้สึกดีดีมันมีความอึดอัดอยู่ เนื่องจากเราเองก็มีแฟนอยู่แล้วซึ่งคบกันมานานมาก และเขาเองก็รู้ดี เราบอกเค้านะว่าเราอึกอัดที่เป็นแบบนี้ เราเริ่มไม่แน่ใจในสถานะตรงนี้ เริ่มหงุดหงิดตัวเองที่รู้สึกแบบนี้ เราอึดอัดที่คุยกับเค้าแล้วมีความสุข แต่ต้องโกหกแฟนในบางครั้งที่คุยกัน เพราะเป็นคนขี้หึงมากและเราไม่อยากให้แฟนรู้สึกแย่เลยไม่ได้บอกเรื่องที่คุยกับพี่คนนี้ และทั้งที่พี่เขาเองก็ไม่ได้อะไรมากมายเพียงแค่เริ่มเข้าหาเรามากขึ้น อาจจะเป็นเพราะเขาเหงาเลยคุยกับเราแก้เหงา  บางครั้งที่คุยกัน มักจะเอ่ยถึงแฟนเรา ประชดประชันประมาณว่าเขาไม่ดีเหมือนแฟนเราอะไรประมาณนี้ พฤติกรรมของเขาเริ่มทำเหมือนคนเป็นแฟนกันมากขึ้นทุกที (หรือเราคิดไปเอง หรือเขาแค่เฟรนลี่ว่ะ)

             จากวันนั้นเราก็เริ่มรู้สึกไม่ดีมากขึ้น  เราก็บอกนะว่าเราไม่ชอบแบบนี้ มันมากเกินไปแล้ว  เขาเองก็ขอโทษนะ แต่ก็ยังทำเหมือนเดิม เขายังพูดถึงแฟนเก่าของเขาอยู่บ่อยๆ เล่านู้นเล่านี้ ให้ฟัง (ทั้งเรื่องดีดี และเรื่องแย่ๆ ที่เขาทำ)  เราก็ยังให้คำแนะนำ และแลกเปลี่ยนมุมมองทางความคิด ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน หรือแม้แต่เรื่องความรัก พักหลังๆ ทุกๆครั้งที่คุยกัน ภาพความทรงจำที่ร้ายๆที่เกี่ยวกับแฟนเก่า ความทรงจำที่เราลืมมันไปนานมากแล้ว มันเริ่มวนกลับมาทำร้ายเรา ทุกๆครั้งที่เขามีเรื่องมาเล่า หรือมีเรื่องมาระบายให้เราฟัง เราก็รับฟังนะ บางเรื่องทำให้เราร้องไห้แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่บอกให้เขารู้ ในความรู้สึกตอนนั้นคือ เรารู้ว่าเขายังเสียใจ เหมือนเขามองเราเป็นที่ระบาย เราจึงรับฟังเขาในทุกๆเรื่อง แต่ยิ่งรับฟังเรายิ่งรู้สึกแย่
เราเลยบอกเขาว่าเราไม่อยากคุยกับเขาแล้วเพราะยิ่งเราคุยกับเขาเรายิ่งคิดถึงแฟนเก่า และมันเริ่มมีความรู้สึกดีดี และมีความรู้สึกไม่สบายใจที่จะคุยในเวลาเดียวกัน มันลังเลในใจเพราะลึกๆแล้วเราก็อยากคุยกับเขานะ แต่ก็กลัวใจตัวเอง เราไม่อยากให้ความรู้สึกมันเกินเลยไปมากกว่านี้
เราเองเริ่มไม่แน่ใจว่าเรารู้สึกยังไงกับเขากันแน่ แต่ที่รู้ๆคือเราไม่อยากรู้สึกแย่แบบนั้นอีกแล้ว

             แล้วเราก็เลิกคุยกับเขา  แม้จะเป็นห่วงเขา แต่ก็ไม่อยากให้อะไรๆมันแย่ไปกว่าที่เป็นก็เลยเลือกที่จะไม่ติดต่อกันอีก ถึงแม้คิดถึงทุกเรื่องราวที่ผ่านมา คิดถึงเรื่องดีดี ความรู้สึกดีดีที่มีให้กัน  และคิดซะว่ามันจะเป็นความทรงจำที่ทำให้เราทรมานและมีความสุขไปพร้อมๆกัน

เราไม่รู้ว่าที่เราทำมันถูกมั้ย ที่เรารู้สึกดีกับเขาทั้งเราเองมีแฟนอยู่แล้ว เพราะเราไม่อยากทำให้แฟนเสียใจ เราจึงหยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้แค่นี้ก่อนที่มันจะสายเกินไป เพราะกับบางคนเป็นได้เพียงความทรงจำเท่านั้น!!!
มันอาจจะผิดตั้งแต่เริ่มต้นแล้วก็ได้ ผิดที่ใครบางคนบังคับตัวเองให้เป็นเหมือนตอนที่เรื่องราวเริ่มต้นไม่ได้


เรื่องราวของเราอาจจะดูงี่เง่าไปสักนิด
สำหรับใครที่กำลังเป็นแบบเราอยู่ หากว่ามีความรักที่ดีอยู่แล้วก็อย่าปล่อยมันไปเพียงเพราะความรู้สึกชั่วคราว
และหากใครที่มีโอกาสพบเจอใครสักคนที่ทำให้เรารู้สึกดีดี  และมั่นใจความเขาคือคนที่ใช่ก็อย่าปล่อยโอกาสนั้นหลุดมือ
และหากคนๆนั้น ได้อ่านเรื่องราวนี้ อยากขอโทษจากใจจริงๆ มันผิดที่เราเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่