เมื่อลูกหนี้ถูกฟ้องให้ล้มละลาย ต่อมาศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว
เจ้าหนี้ทั้งหลายต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายด้วย
หากเจ้าหนี้ไม่ยื่นขอรับชำระหนี้ เจ้าหนี้นั้นๆไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้จากคดีล้มละลายได้เลย
ถ้าข้อเท็จจริงปรากฎว่า เจ้าหนี้ที่ยังมียอดค้างจากลูกหนี้อีก 1.5 ล้าน ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้ว
ก็สามารถมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย

ต่อมาหากมีการปลดจากล้มละลายแล้ว ลูกหนี้ย่อมหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงที่มีอยู่ก่อนล้มละลาย
แต่ลูกหนี้ยังคงมีหน้าที่ช่วยเหรือ จพท.ในการรวบรวมทรัพย์สินอยู่อีกต่อไปด้วย
การหลุดพ้นนี้ ย่อมหลุดพ้นทั้งหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ และ ไม่ได้ขอรับชำระหนี้ไว้ในคดีด้วย



การที่ลูกหนี้จะร้องให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ว่า "ขายต่ำเกินไป" นั้น ทำไม่ได้
เพราะการร้องให้เพิกถอนว่าขายต่ำเกินไปนั้น ต้องได้ความว่าเกิดจากการคบคิดฉ้อฉลกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องโดยไม่สุจริต
หรือเกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติหน้าที่..


ข้อเท็จจริงที่ถาม ไม่ปรากฎว่า มีการคบคิดฉ้อฉลกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง และ จนท.บังคับคดี หรือเกิดจากความประมาทอย่างร้ายแรง
จึงไม่อาจเพิกถอนการขายทอดตลาดในกรณีนี้ได้


อนึ่ง การร้องเพิกถอนนั้น หากยังอยู่ในระหว่างคดีล้มละลาย หน้าที่ร้องเพิกถอนนี้เป็นหน้าที่ของ จพท.เท่านั้น
ลูกหนี้ไม่มีอำนาจร้องเพิกถอนเอง เพราะไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนได้ตาม กม.แล้ว
อีกทั้งแม้ว่าลูกหนี้จะปลดจากล้มละลายไปแล้วก็ตาม ลูกหนี้แม้ว่าจะมีอำนาจเข้าไปจัดการทรัพย์สินได้ด้วยตนเอง
ก็ไม่มีอำนาจร้องเพิกถอนเช่นกัน เพราะหากข้อเท็จจริงปรากฎว่าเป็นทรัพย์ที่มีอยู่ก่อนล้มละลาย
ทรัพย์ดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์ที่แบ่งได้กับเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย
อำนาจดังกล่าวยังเป็นของ จพท.เท่านั้น เพราะศาลยังมิได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลาย นั่นเอง