คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
1.ไปเยี่ยมคนป่วยที่รพ.ศิริราช เจอสตรีชราเดินไม่ค่อยไหว พอลุกจากรถเข็นก็พยายามเดินต่อไป เลยเข้าไปถามว่ายายจะไปไหนมีคนมารับรึเปล่า แกตอบว่าจะไปขึ้นสองแถวกลับบ้าน ไม่มีใครมารับหรอก ถามต่อว่าเรียกแท็กซี่ให้มั๊ย แกตอบพลางน้ำตารินว่ายายไม่มีเงินหรอก ค่ายายังไม่มีเลย ดีที่ได้ยาฟรี (ผมเดาว่าคงได้รักษาฟรีด้วยกระมัง) เลยเรียกแท็กซี่ที่จอดติดภายในรพ.ให้แก แถมเงินให้อีก 300 บาทเป็นค่ารถ แกร้องไห้เลย ส่วนผมก็ปลื้มใจมากที่ได้ช่วยคนแก่
2.พาน้าไปรพ.รัฐ ระหว่างติดต่อกับพยาบาล เจอเคสสตรีอ้วนคนจนไม่มีเงินจ่ายค่าผ่าตัดสะโพก ไอ้เรานึกว่ารพ.รัฐจะรักษาคนจนฟรี แต่กลายเป็นว่าพยาบาลให้กลับบ้านเพราะไม่มีเงิน ตอนนั้นเศร้าใจมาก เลยถามพยาบาลว่าเคสนี้ถ้าไม่ได้ผ่าตัดจะมีผลอย่างไร พยาบาลตอบว่าคุณจัดการเรื่องธุระของคุณดีกว่า อย่ายุ่งเรื่องคนอื่นเลย ผมยืนยันขอคำตอบ เลยได้คำตอบว่าถ้าไม่ได้ผ่าตัดก็จะเดินไม่ได้ตลอดชีวิต ถามต่อว่าค่าผ่าตัดเท่าไร พยาบาลบอกว่าราว 20,000 กว่าบาท อืมยอดเงินสูงอยู่นะ ผมเลยเดินไปเล่าให้แม่ฟัง (ตอนนั้นพาแม่ไปด้วย) ถามแม่ว่าช่วยคนจนให้เดินได้ แบ่งคชจ.กันคนละครึ่ง แม่ยอมมั๊ย แม่เห็นด้วย ผมเลยได้คนช่วยแชร์คชจ. เคสนี้เลยแจ้งกะพยาบาลบอกว่าจะช่วยค่าผ่าตัดให้เอง ในที่สุดคนนี้ก็ได้ผ่าตัด ตอนไปเยี่ยมแกยังยกมือไหว้ขอบคุณผมกับแม่ด้วย คิดแล้วยังปลื้มใจไม่หาย
จริงๆที่ผ่านมาผมช่วยคนไว้หลายเคสมาก แต่ 2 เคสนี้ ปิติแรงสุดครับ
2.พาน้าไปรพ.รัฐ ระหว่างติดต่อกับพยาบาล เจอเคสสตรีอ้วนคนจนไม่มีเงินจ่ายค่าผ่าตัดสะโพก ไอ้เรานึกว่ารพ.รัฐจะรักษาคนจนฟรี แต่กลายเป็นว่าพยาบาลให้กลับบ้านเพราะไม่มีเงิน ตอนนั้นเศร้าใจมาก เลยถามพยาบาลว่าเคสนี้ถ้าไม่ได้ผ่าตัดจะมีผลอย่างไร พยาบาลตอบว่าคุณจัดการเรื่องธุระของคุณดีกว่า อย่ายุ่งเรื่องคนอื่นเลย ผมยืนยันขอคำตอบ เลยได้คำตอบว่าถ้าไม่ได้ผ่าตัดก็จะเดินไม่ได้ตลอดชีวิต ถามต่อว่าค่าผ่าตัดเท่าไร พยาบาลบอกว่าราว 20,000 กว่าบาท อืมยอดเงินสูงอยู่นะ ผมเลยเดินไปเล่าให้แม่ฟัง (ตอนนั้นพาแม่ไปด้วย) ถามแม่ว่าช่วยคนจนให้เดินได้ แบ่งคชจ.กันคนละครึ่ง แม่ยอมมั๊ย แม่เห็นด้วย ผมเลยได้คนช่วยแชร์คชจ. เคสนี้เลยแจ้งกะพยาบาลบอกว่าจะช่วยค่าผ่าตัดให้เอง ในที่สุดคนนี้ก็ได้ผ่าตัด ตอนไปเยี่ยมแกยังยกมือไหว้ขอบคุณผมกับแม่ด้วย คิดแล้วยังปลื้มใจไม่หาย
จริงๆที่ผ่านมาผมช่วยคนไว้หลายเคสมาก แต่ 2 เคสนี้ ปิติแรงสุดครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ไปทำฟันที่ รพ. รัฐ (ใช้สิทธิครอบครับ) ครั้งหนึ่งหมอฟันคุยกับผู้ช่วยเรื่องอยากช่วยเด็ก(ต่างขาติ) อายุไม่ถึง 10 ขวบดี อยู่กับยายที่บ้านเกิด ปิดเทอม ปีนเล่นตกต้นไม้ กรามหัก ไม่รู้ ทนปวดอยู่อาทิตย์นึง ทนไม่ไหว โทรไปเรียกแม่ที่มาทำงานเป็นแม่บ้านใน กทม. ให้ไปรับมาหาหมอ (ยายไม่มีเงินและไม่รู้เรื่อง หมอ รพ. ที่ประเทศเขาก็ไม่สามารถจัดการได้) แม่รับนั่งรถ บขส. พาลูกมารักษาตัวที่ รพ. รัฐแห่งนี้ พยาบาลสงสารก็ช่วย ๆ กันออกเงินค่าใช้จ่ายไปเบื้องต้นบ้างเพื่อมนุษยธรรม แต่เนื่องจากเป็นต่างชาติไม่มีกองทุนใดจะช่วยได้ ตอนนี้รอค่าใช้จ่ายที่จะทำการผ่าตัดเอาหนองที่กรามออก แต่ท่าทางจะหาทุนได้ยาก ฟังแล้วสงสารเด็กที่ทนปวดอยู่ก่อนเป็นอาทิตย์ กว่าจะเรียกให้แม่ไปรับ นั่งรถราวพัน กม. มาหาหมอ แต่ไม่มีเงินค่าหมอ เราเลยขอรับเป็นเจ้าของไข้
พอทำฟันเสร็จ หมอพาเราขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้และแจ้งแม่คนไข้ว่าเรารับเป็นเจ้าของไข้ให้ พยาบาลทั้งวอร์ดมาดูว่าเราเป็นใคร (อายอยู่ ไม่อยากเปิดเผยตัว) แม่คนไข้เข้ามาไหว้แล้วไหว้อีก รุ่งขึ้นเราไปดำเนินการเรื่องรับเป็นเจ้าของไข้และได้เข้าผ่าตัดวันนั้นเลย อีกไม่ถึงสองวันหน้าตาน้องสดใสขึ้นมาก เริ่มเล่นเริ่มคุยได้ เราตื้นตันในความอดทนของน้องจริง ๆ วันเราไปจ่ายเงิน (หมื่นเศษ ๆ) ด้วยไม่ทันระวังตัว แม่คนไข้คุกเข่ากราบเรา ตกใจแทบแย่ เป็นความรู้สึกดี ๆ ที่ได้ช่วยเหลือน้องอย่างไม่คาดฝัน เราตัดสินในในเวลาไม่กี่วินาที เราเชื่อว่าต้องเคยเกื้อหนุนกันมาแต่ปางก่อนแน่ ๆ คนที่อยู่กันคนละมุมโลกยังโคจรมาให้พบปะช่วยเหลือกันได้
พอทำฟันเสร็จ หมอพาเราขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้และแจ้งแม่คนไข้ว่าเรารับเป็นเจ้าของไข้ให้ พยาบาลทั้งวอร์ดมาดูว่าเราเป็นใคร (อายอยู่ ไม่อยากเปิดเผยตัว) แม่คนไข้เข้ามาไหว้แล้วไหว้อีก รุ่งขึ้นเราไปดำเนินการเรื่องรับเป็นเจ้าของไข้และได้เข้าผ่าตัดวันนั้นเลย อีกไม่ถึงสองวันหน้าตาน้องสดใสขึ้นมาก เริ่มเล่นเริ่มคุยได้ เราตื้นตันในความอดทนของน้องจริง ๆ วันเราไปจ่ายเงิน (หมื่นเศษ ๆ) ด้วยไม่ทันระวังตัว แม่คนไข้คุกเข่ากราบเรา ตกใจแทบแย่ เป็นความรู้สึกดี ๆ ที่ได้ช่วยเหลือน้องอย่างไม่คาดฝัน เราตัดสินในในเวลาไม่กี่วินาที เราเชื่อว่าต้องเคยเกื้อหนุนกันมาแต่ปางก่อนแน่ ๆ คนที่อยู่กันคนละมุมโลกยังโคจรมาให้พบปะช่วยเหลือกันได้
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยช่วยเหลือคนอื่น(ไม่รู้จักกันมาก่อน)แบบไม่ได้ตั้งใจบ้าง?...แต่ช่วยแล้วรู้สึกดีและทำให้ยิ้มได้...
บางครั้งชีวิตคนเรามักมีเรื่องบังเอิญให้เราได้เจอตลอดเวลาจริงๆ....
เรื่องบังเอิญที่ผมเชื่อว่า เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้เรารู้สึกดีจริงๆนั่นก็คือ การได้ช่วยเหลือคนอื่น...
ผมถือว่าการช่วยเหลือคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ และเราสามารถช่วยได้โดยไม่เดือดร้อนตัวเอง
มันเป็นการสร้างความสุขให้ทั้งคนที่ช่วยและคนที่ได้รับความช่วยเหลือ
เรื่องที่ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์ในวันนี้ ถึงเป็นเรื่องเล็กๆแต่มันก็ทำให้ยิ้มได้ทุกที ที่นึกถึงขึ้นมา...
เรื่องของเรื่องก็คือ ผมบังเอิญได้มีโอกาสช่วยเหลือโดยพานักท่องเที่ยวสาวชาวจีน 2 คนไปส่งที่โรงแรม ซึ่งพวกเธอนั่งนั่งรถตู้มาหัวหินรอบเดียวกันกับผม โรงแรมที่พวกเธอพักอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร ที่สำคัญถนนมืดมากๆ และเวลานั้นก็ดึกมากด้วย
จนก่อนถึงโรงแรมหนึ่งในสองคนนั้น ทำให้ผมอึ้ง อาย มึนตึบ!!!! จนแทบอยากจะหายตัวไปในวินาทีนั้นเลย
คือเธอบอกว่าเธอพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย...พูดและฟังแค่แค่นิดหน่อยคะ....
การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยนี่ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะแหล่งความรู้มีเยอะแยะที่จะเรียนภาษาไทยเบื้องต้น
แต่นิดหน่อยของเธอไม่ใช่การที่ฟังรู้เรื่อง พูดรู้เรื่องเพราะเธอเคยอยู่เมืองไทยมา 4 ปี ย้ำอยู่เมืองไทยมา4 ปี
โอ้แม่เจ้าพระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!!!! แล้วระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกัน เราทำไรเปิ่นๆ พูดนินทาเธอสองคนเผาขนสะขนาดนั้น+++
คือในวินาทีนั้น ผมรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ยังไงยังงั้นเลย....ได้แต่ยิ้มแห้งๆแต่ภายในใจมันเศร้าจริงๆไม่รู้จะบรรยายยังไง...
เกิดเป็นคำถามขึ้นร้อยแปดพันเก้าในสมอง...ต่อไปถ้าจะช่วยเหลือชาวต่างชาติ...
ประโยคแรกที่จะถามคือ Can you speak Thai ? จะได้ไม่ทำไรเปิ่นๆอีก
ตั้งแต่อยู้บนรถตู้แล้วที่คุยกับพี่คนขับรถตู้และไหนจะร้องเพลง ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม...ระหว่างขับรถมาส่งเธออีกอีก....
ให้ตายเถอะ....พอถึงโรงแรมเธอถามว่าค่ารถเท่าไหร่ ผมบอกว่าไม่เป็นไรครับ ผมแค่อยากมาส่ง....อยากจะช่วยเหลือ...
และยินดีต้อนรับสู่หัวหิน ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ คนไทยส่วนใหญ่ใจดีแบบนี้แหละครับ5555หัวเราะกลบเกลื่อน
และเธอก็ปิดท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ผมหน้าชาไปเลยทีเดียว... "ขอบคุณมากนะคะที่ชมพวกเราว่าน่ารัก"
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เห็นหน้าชาวต่างชาติใสๆ แต่อย่าเผลอใจพูดนินทาภาษาไทยพวกเธอเด็ดขาด....
การทำดีถึงจะเล็กๆน้อยๆ จงแบ่งปันอาจจะมีส่วนทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นนะครับเพื่อนที่รักทุกคน
*ปล. ที่ผมมีโอกาสพานักท่องเที่ยวจีนไปส่งเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจเลย เรื่องมันยาวนิดหนึ่ง...
และเรื่องที่ผมนินทาเพวกเธอก็ไม่มีไรมากแค่บ่นพรึมพรำว่า ....
แหมๆวันนี้ขอเป็นพระเอกแบบในหนังพาสองสาวผู้น่าสงสารไปส่ง...เพราะรถโรงแรมก็หมดรอบมารับแล้ว...
แท๊กซี่ก็ที่ปกติก็แพงอยู่แล้วและยิ่งโรงแรมที่พวกเธอจองผ่านอินเตอร์เนตก็อยู่ไกล้ไกล...
ค่าแท๊กซี่นักท่องเที่ยวหน้าใสๆจะโดนไปกี่บาทเนี้ย...เธอจะคิดในแง่ลบกับประเทศไทยหรือป่าวเนี้ย...
เหตุการณ์ระเบิดก็เพิ่งผ่านพ้นไป อย่ากระนั้นเลยเรานี่แหละจะเป็น พระเอกขี่ม้าขาวไปส่งพวกเธอเอง...
55555 หัวเราะในใจแบบพระเอกหนังอินเดีย
หากเพื่อนๆคนไหนมีเหตุการณ์ช่วยเหลือคนอื่นแบบไม่ได้ตั้งใจ จงอย่าเก็บไว้แชร์ให้โลกรู้ไปเลย
สวัสดี...