โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 ก.ย. 2558 12:37
พายุโซนร้อน “หว่ามก๋อ” อ่อนตัวเป็นดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าไทยแล้วทางด้าน จ.อุบลราชธานี มีฝนตกหนักทั่วภูมิภาค จนถึง จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการบิน จน "นกแอร์" ต้องเลิกบินไฟลท์เช้า ทำรอง ผบ.ตร.มาถึงอุบลฯ ช้า...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ก.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “หว่ามก๋อ” ซึ่งทำให้ทั่วทั้ง จ.อุบลราชธานี มีฝนตกหนักตั้งแต่เย็นวานนี้ (14 ก.ย.) จนถึงเช้าวันนี้ ส่งผลให้ที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เครื่องบินสายการบินต่างๆ ต้องล่าช้า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เผยว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก และมีหมอกลงจัดส่งผลต่อทัศนวิสัยในการบิน ทำให้สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD9310 ซึ่งออกจากสนามบินดอนเมือง มาลงที่ ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เที่ยวบินแรกในเวลา 07.10 น. เครื่องบินไม่สามารถบินลงได้ ต้องยกเลิกไฟลท์บิน
สำหรับเที่ยวบินนี้ มี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางมาด้วย เพื่อมาตรวจความคืบหน้าคดีไม้พะยูง ที่ สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ต้องล่าช้าออกไป โดยเจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งว่าเที่ยวบินดังกล่าวได้ทำการบินอีกครั้งในเวลา 09.50 น. จากสนามบินดอนเมือง มาถึงท่าอากาศยานอุบลราชธานีในเวลา 10.50 น. ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมารอรับ ยังคงรออยู่ในท่าอากาศยาน ขณะที่สายการบินอื่นๆ ถึงแม้จะทำการบินได้ตามปกติ แต่ก็ขึ้น-ลงล่าช้า จากเดิมประมาณ 30 นาที
ส่วนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เส้นทางจราจรถนนชยางกูรขาเข้า ตั้งแต่บริเวณสี่แยกไฟแดงวนารมย์ไปจนถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงตลาดสดหนองบัว มีน้ำท่วมขังพื้นผิวจราจรสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เป็นระยะทางร่วม 1 กิโลเมตร ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความลำบาก ผู้ขับขี่ต้องขับกันอย่างระมัดระวัง และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ต้องไปใช้เส้นทางอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอำเภอรอบนอก กลับได้รับผลดีจากพายุ "หว่ามก๋อ" ในครั้งนี้เพราะฝนที่ตกลงมาทำให้พื้นที่การเกษตรมีน้ำหล่อเลี้ยง ต้นข้าวได้รับน้ำหลังจากที่ฝนทิ้งช่วงมานานหลายสัปดาห์ รวมถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว
ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศ "พายุหมุนเขตร้อนบริเวณทะเลจีนใต้" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 15 กันยายน 2558 ว่า
"เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ พายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” (VAMCO) บริเวณเมืองสาละวัน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เคลื่อนเข้าประเทศไทย บริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางใต้ ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวผ่านในแนวจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี และสระแก้ว และจะอ่อนกำลังลงเป็นลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณตามแนวเส้นทางเดินของพายุจะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมกระโชกแรงเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดที่กล่าวมา และจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ รวมถึงจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย กำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย"
http://www.thairath.co.th/content/525333
'หว่ามก๋อ' เข้าไทยแล้ว ถล่มอุบลฯ!! นกแอร์สั่งเลิกบินไฟลท์เช้า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ก.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “หว่ามก๋อ” ซึ่งทำให้ทั่วทั้ง จ.อุบลราชธานี มีฝนตกหนักตั้งแต่เย็นวานนี้ (14 ก.ย.) จนถึงเช้าวันนี้ ส่งผลให้ที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เครื่องบินสายการบินต่างๆ ต้องล่าช้า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เผยว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก และมีหมอกลงจัดส่งผลต่อทัศนวิสัยในการบิน ทำให้สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD9310 ซึ่งออกจากสนามบินดอนเมือง มาลงที่ ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เที่ยวบินแรกในเวลา 07.10 น. เครื่องบินไม่สามารถบินลงได้ ต้องยกเลิกไฟลท์บิน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอำเภอรอบนอก กลับได้รับผลดีจากพายุ "หว่ามก๋อ" ในครั้งนี้เพราะฝนที่ตกลงมาทำให้พื้นที่การเกษตรมีน้ำหล่อเลี้ยง ต้นข้าวได้รับน้ำหลังจากที่ฝนทิ้งช่วงมานานหลายสัปดาห์ รวมถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว
ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศ "พายุหมุนเขตร้อนบริเวณทะเลจีนใต้" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 15 กันยายน 2558 ว่า
"เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ พายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” (VAMCO) บริเวณเมืองสาละวัน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เคลื่อนเข้าประเทศไทย บริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางใต้ ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวผ่านในแนวจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี และสระแก้ว และจะอ่อนกำลังลงเป็นลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณตามแนวเส้นทางเดินของพายุจะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมกระโชกแรงเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดที่กล่าวมา และจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ รวมถึงจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย กำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย"
http://www.thairath.co.th/content/525333