สวัสดีครับ ก่อนอื่น ต้องขอบคุณ เพื่อน ในpantipและ lady inter ครับ สำหรับคำแนะนำ
ตาม Topic เลย เพื่อเป็นแนวทาง กรณีที่ไม่ทำงานประจำ แต่มีธุรกิจที่บ้านแบบผม ส่วนคนที่รู้แล้วหรือมีงานประจำก็ข้าม
ได้ครับ เพราะเอกสารไม่เหมือนกัน ผมไม่มีหนังสือรับรองการทำงาน ไม่มีทะเบียนการค้า
ขอเล่าเกี่ยวกับตัวเอง ธุรกิจที่บ้านคือ สร้างบ้านขาย เช่น ประมาณ 4-5 หลัง ขาย แล้วค่อยสร้างต่อ (ไม่ใช่โครงการจัดสรร) ส่วนบัญชีก็เข้าออก ไม่ค่อยคงที่ เงินบางส่วนก็จ่ายค่าแรง ซื้อวัสดุ บางส่วนก็ไปลงทุนในกองทุน
นี่เป็นการขอวีซ่า UK กับเชงเก้นครั้งแรก ปกติจะเดินทาง ปท.ที่ไม่ต้องใช้วีซ่า ตอนแรกกลัวไม่ผ่าน อ่านในกระทู้ มีคนโดนปฏิเสธเยอะเหมือนกัน เลยพยายามดันสุดๆ เพราะไม่อยากยื่นใหม่ มันทั้งFail และเปลือง อีกอย่างคือ เที่ยว UK เสร็จ ก็ต่อ ปท.เชงเก้นเลย ถ้า UK ไม่ผ่าน มันจะผิดแผน เลยอุดรูรั่วให้หมด ที่มาแชร์ เอกสารไม่ต้องเหมือนผมในบางข้อ เพราะแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันครับ
หลักฐานขอ วีซ่า Uk (ข้อ 8,9,10 ก็แล้วแต่เพื่อนๆ ไม่ต้องยื่นแบบผมก็ได้)
1.Application Form
2.บัตรประชาชน (สำเนา)
3.ทะเบียนบ้าน (สำเนา)
4.รูปถ่าย 35*45 mm 2 รูป
5.หน้า Passport เฉพาะที่มีชื่อเราหน้าเดียว (สำเนา)ไม่ต้องถ่ายทุกหน้าที่มีตราประทับ
6.หนังสือรับรองการเงินจาก ธนาคาร (เป็นปอนด์) ยื่น 2 บช. มีติดบช. 2 แสน กับ 5 แสน และให้ธนาคารช่วยเพิ่ม ส่วน Mutual Fund ที่ลงทุนไป ให้ไปรวมกับ Saving account จะได้ดูเยอะๆ
7. Statement 6 เดือน 2 บช. ตอนแรกจะถ่ายBook 6 เดือน แต่คิดว่าไม่น่าเชื่อถือ เลยไม่เอาดีกว่า
8.เอกสารซื้อขาย กองทุน เวลาซื้อหรือขายธนาคารจะมีมาให้ (อันนี้แล้วแต่ครับ พอดีเงินที่ออกไปเยอะๆ มันไปอยู่ในนั้นไง ก็เลยอยากใส่ ให้มีที่มาของเงิน)
9.หนังสือกู้ซื้อคอนโด (สำเนา) เพื่อให้ดูมีพันธะผูกพันที่นี่
10.เอกสารเกี่ยวกับงานผม สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านที่โอนแล้ว ที่ออกโดยที่ดิน , ใบอนุญาตก่อสร้าง และโฉนดที่ขาย และหน้าwebsite ที่ postขายบ้าน ไวนิลที่มีเบอร์โทรเรา พร้อมโครงการ (เยอะมั้ย)
11.Cover letter แนะนำตัว อันนี้สำคัญ ก็อธิบายว่า ทำงานอะไร รายได้มาจากไหน ไปเที่ยววันไหน ไปกับใคร ประมาณนี้ครับ พร้อมอธิบายเกี่ยวกับที่มาของเงิน ว่าเงินเข้าวันนี้จากการขายบ้านนะ บางส่วนก็ซื้อขายกองทุน วันไหนบ้าง ยูลองไปดูใน statement ได้ (อุดรูรั่วเรื่องที่มาที่ไปของเงิน เพราะเคยมีเพื่อนที่โดนปฎิเสธวีซ่าเพราะเรื่องไม่มีที่มาของเงิน มาเล่าให้ฟัง เลยหลอนส่วนตัว)
12. Trip UK พร้อมคชจ.
13. ใบจอง โรงแรม booking.com และตั๋วเครื่องบิน ไป UK (อันนี้จ่ายไปแล้ว ยิ่งหลอนกลัวไม่ผ่าน) ส่วนตั๋วจาก UK ไปอัมสเตอร์ดัม ใช้เวป Thaifly จองเอาครับ ให้มี Booking ไม่ต้องจ่ายก่อน
ถึงวันนัดไปยื่นที่ VFS วันที่ 6/8/15 ก็เอาเอกสาร ปึกใหญ่น่าจะหนักเกือบ 1 โล อายเหมือนกัน ทำไมมันเยอะแบบนี้ แต่ น้องที่รับเรื่องก็ยิ้มแย้มดี บอกว่ามีเยอะกว่านี้อีกค่ะ อยากยื่นอะไร ก็ยื่นมาเลย (เหลือบไปเห็นลุงคนนึง มาเป็นกระเป๋าถือเลย) แต่ถามข้อมูลเพิ่มก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมาก บอกว่ามีอะไรรบกวนดูที่เวปค่ะ เหมือนจะรับเอกสารตรวจอย่างเดียวครับ
ผมให้ EMS มาที่บ้าน ส่วน SMS ก็สมัครไป เห็นทีหลัง 80 บาท แถมได้รับแค่ 1 ครั้ง วันที่ยื่นเลย ประมาณว่า ได้รับเอกสารแล้ว จะส่งให้สถานทูต แค่นี้ล่ะครับ ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร เสียดายเงิน เพื่อนๆไม่ต้องสมัครก็ได้ครับ ยังไงก็มี Email มาแจ้ง
มานอนลุ้นอยู่บ้าน ไม่ค่อยเป็นสุขเท่าไหร่ เพื่อนที่ไปด้วยก็ลุ้น รอถึงวันที่ 17/8/15 มีเมลแจ้งว่า Made decision แล้ว
จากนั้นวันที่ 18/8/15 ก็แจ้งว่า ส่ง passport มาให้เราแล้ว ทีนี้ล่ะ ลุ้นหนักกว่าเดิม สุดท้ายวีซ่าก็มาถึงวันที่ 19 ครับ ดีใจมาก และก็ช่างยาวนานมาก เพราะช่วงนั้นติดเสาร์อาทิตย์ และก็วันแม่ด้วย ยังไงก็แนะนำให้ยื่นวันจันทร์และก็ไม่ติดเทศกาลดีกว่า เอกสารที่ให้สถานทูตไป เค้าคืนให้หมดเลยนะครับ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ไปยื่นเชงเก้นที่ สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ ก็ใช้เอกสารเดิมที่ยื่น UK (คืนมาหมด เลยยื่นต่อซะเลย) แต่จะเปลี่ยนบางอย่าง ขอพูดเฉพาะข้อที่เปลี่ยนครับ
1.Application Form TLS
4.รูปถ่าย 2 รูป ถ่ายใหม่เน้นหน้า
6.หนังสือรับรองการเงินจาก ธนาคาร (ยูโร)
11.Cover letter แก้ใหม่เป็นไปเที่ยวในปท.เชงเก้น เข้าที่ไหนก่อน กลับทาง ปท อะไร นอกนั้นเหมือนเดิม
13. Trip และคชจ.ในเชงเก้น ถึงจะขอที่สวิส แต่ผมก็แจ้งหมดเลยว่าไปไหนบ้าง ตั้งแต่ปท.แรกในเชงเก้นเลย
14. ใบจอง โรงแรม booking.com ทั้งทริปในเชงเก้น และตั๋วเครื่องบิน เอามาจากเวป Thaifly หมด เพื่อให้มีหลักฐานการเดินทางตาม trip และถ้าได้วีซ่าค่อยไปจองรถไฟครับ
15.ประกันสุขภาพ วงเงิน 1.5 ล้านบาท (ผมเลือกของ Cigna ครับ 2 ล้าน)
ถ้าใช้เงินตัวเองเที่ยว บปช.กับทะเบียนบ้านไม่ต้องยื่น จนท.เค้าคืนมาให้
ตอนกรอกออนไลน์ เลือกแบบ Single entry เพราะเข้าปท.เชงเก้นครั้งเดียว (ถาม TLS จนท.บอกต้องเลือกแบบนี้ครับ) และจองคิวกับสถานทูตโดยตรง ไม่อยากเสียค่าดำเนินการให้ TLS ตั้ง8XX พูดง่ายๆคืองกนั้นล่ะ
จนท.ที่สถานทูตดุครับ ผมก็เกร็งๆ ไม่เคยเจอบริการแบบนี้ ก็ได้แต่ยิ้ม ตรวจละเอียดมากครับ ตั้งแต่ทริปยันใบจองรร. เค้าก็บอกว่า ใบจองรร.กับตั๋วเครื่องบินไม่จำเป็น Trip เราตังหากที่สำคัญ แต่อยากจะยื่นก็ได้
พอมาถึงเอกสารเกี่ยวกับงาน เค้าก็บอกว่าเอกสารทุกอย่างต้องแปลค่ะ เพราะจนท.เป็นฝรั่ง อ่านไทยไม่ออก ของคุณนี่เป็นภาษาไทย พร้อมชูให้ดูพลิกไปมา (พวกเอกสารจากที่ดิน หนังสือสัญญาซื้อขายครับ) อันนี้อ่านในเวบที่แชร์กันมา ก็บอกว่าไม่ต้องแปลนี่นา เพราะแค่ท่องเที่ยวเอง นี่เราพลาดไปหรอ
แต่จนท.บอกว่า อิชั้นจะส่งให้เจ้านายก่อน ถ้ามีอะไรสงสัยเค้าอาจโทรไปถาม คุณต้องตอบให้ได้นะ ขู่เอาๆๆ ตอนนั้นก็คิดว่าแย่แล้ว ใจตกไปถึงตาตุ่ม ไม่ผ่านแน่นอนล่ะ กลับไปแปลแล้วมายื่นใหม่จะทันมั้ย ยิ่งใกล้วันเดินทางแล้ว แต่ก็เสี่ยงเอาล่ะกัน ช่างมันเถอะ
สุดท้ายก็ให้บัตรนัด มาเอาอาทิตย์หน้า ลุ้นอีกแล้ว แต่ยังดีที่กำหนดวันรับมา ไม่เหมือนที่ UK ที่บอกว่าไม่เกิน 15 วัน แต่ก็ไม่รู้จะมาวันไหน แต่อารมณ์แบบนี้มันน่าเบื่อว่ามั้ยครับ
ถึงวันรับผลวีซ่า สุดท้ายก็ได้มา เย้ๆๆ งงนิดหน่อย ได้มาแบบ Multiple 1ปีเลยทีเดียว ทั้งที่ขอแบบ single ไป แถมอยู่สวิสแค่ 8 วันเอง และก็ขอครั้งแรกด้วย แต่ไม่เป็นไร ได้มาแล้ว คงต้องไปอีกรอบแน่นอน รอบหน้าจะพาพ่อแม่ไปครับ
ปล.
-เอกสารทั้งหมดที่ส่งไปขอเชงเก้น เค้าไม่คืนนะครับ คืนมาแต่ Passport เท่านั้น
-ผมสงสัยเรื่องstatement สามารถถ่าย Bookbank 6 เดือนแทนได้มั้ย จนท.บอกว่าไม่ได้ ต้อง Statement เท่านั้น
-Bookbank ตัวจริง ผมเอาไป แต่ไม่ได้ยื่นนะครับ เค้าไม่ขอดูเลย ทั้ง UK และ เชงเก้น
-อันนี้ความรู้ใหม่ บางคนให้เพื่อนโอนเงินก้อนใหญ่เข้ามา เพื่อขอ statement แล้วถอนออกไป ทางพนง.ธนาคารบอกว่า สถานทูตมีโทรมาตรวจเหมือนกัน ว่าตัวเลขบช.นี้ตรงมั้ย พอดีมีลูกค้าต้องมาขอ Statement ใหม่ เพราะโดนReject เรื่องนี้ ฉะนั้นกันไว้ก่อนครับ พนงธนาคารเลยแนะนำว่า ให้คาในบช.จนถึงวันที่ได้วีซ่าดีกว่า เพราะไม่รู้จะโดนสุ่มตรวจตอนไหน
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ ยาวหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์ มีอะไรสอบถาม ก็หลังไมค์มได้ครับ ถ้ารู้ก็ยินดีตอบครับ
แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่า UK และ เชงเก้นสวิสเซอร์แลนด์ สำหรับคนที่ไม่ทำงานประจำและไม่มีทะเบียนการค้า
ตาม Topic เลย เพื่อเป็นแนวทาง กรณีที่ไม่ทำงานประจำ แต่มีธุรกิจที่บ้านแบบผม ส่วนคนที่รู้แล้วหรือมีงานประจำก็ข้าม
ได้ครับ เพราะเอกสารไม่เหมือนกัน ผมไม่มีหนังสือรับรองการทำงาน ไม่มีทะเบียนการค้า
ขอเล่าเกี่ยวกับตัวเอง ธุรกิจที่บ้านคือ สร้างบ้านขาย เช่น ประมาณ 4-5 หลัง ขาย แล้วค่อยสร้างต่อ (ไม่ใช่โครงการจัดสรร) ส่วนบัญชีก็เข้าออก ไม่ค่อยคงที่ เงินบางส่วนก็จ่ายค่าแรง ซื้อวัสดุ บางส่วนก็ไปลงทุนในกองทุน
นี่เป็นการขอวีซ่า UK กับเชงเก้นครั้งแรก ปกติจะเดินทาง ปท.ที่ไม่ต้องใช้วีซ่า ตอนแรกกลัวไม่ผ่าน อ่านในกระทู้ มีคนโดนปฏิเสธเยอะเหมือนกัน เลยพยายามดันสุดๆ เพราะไม่อยากยื่นใหม่ มันทั้งFail และเปลือง อีกอย่างคือ เที่ยว UK เสร็จ ก็ต่อ ปท.เชงเก้นเลย ถ้า UK ไม่ผ่าน มันจะผิดแผน เลยอุดรูรั่วให้หมด ที่มาแชร์ เอกสารไม่ต้องเหมือนผมในบางข้อ เพราะแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันครับ
หลักฐานขอ วีซ่า Uk (ข้อ 8,9,10 ก็แล้วแต่เพื่อนๆ ไม่ต้องยื่นแบบผมก็ได้)
1.Application Form
2.บัตรประชาชน (สำเนา)
3.ทะเบียนบ้าน (สำเนา)
4.รูปถ่าย 35*45 mm 2 รูป
5.หน้า Passport เฉพาะที่มีชื่อเราหน้าเดียว (สำเนา)ไม่ต้องถ่ายทุกหน้าที่มีตราประทับ
6.หนังสือรับรองการเงินจาก ธนาคาร (เป็นปอนด์) ยื่น 2 บช. มีติดบช. 2 แสน กับ 5 แสน และให้ธนาคารช่วยเพิ่ม ส่วน Mutual Fund ที่ลงทุนไป ให้ไปรวมกับ Saving account จะได้ดูเยอะๆ
7. Statement 6 เดือน 2 บช. ตอนแรกจะถ่ายBook 6 เดือน แต่คิดว่าไม่น่าเชื่อถือ เลยไม่เอาดีกว่า
8.เอกสารซื้อขาย กองทุน เวลาซื้อหรือขายธนาคารจะมีมาให้ (อันนี้แล้วแต่ครับ พอดีเงินที่ออกไปเยอะๆ มันไปอยู่ในนั้นไง ก็เลยอยากใส่ ให้มีที่มาของเงิน)
9.หนังสือกู้ซื้อคอนโด (สำเนา) เพื่อให้ดูมีพันธะผูกพันที่นี่
10.เอกสารเกี่ยวกับงานผม สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านที่โอนแล้ว ที่ออกโดยที่ดิน , ใบอนุญาตก่อสร้าง และโฉนดที่ขาย และหน้าwebsite ที่ postขายบ้าน ไวนิลที่มีเบอร์โทรเรา พร้อมโครงการ (เยอะมั้ย)
11.Cover letter แนะนำตัว อันนี้สำคัญ ก็อธิบายว่า ทำงานอะไร รายได้มาจากไหน ไปเที่ยววันไหน ไปกับใคร ประมาณนี้ครับ พร้อมอธิบายเกี่ยวกับที่มาของเงิน ว่าเงินเข้าวันนี้จากการขายบ้านนะ บางส่วนก็ซื้อขายกองทุน วันไหนบ้าง ยูลองไปดูใน statement ได้ (อุดรูรั่วเรื่องที่มาที่ไปของเงิน เพราะเคยมีเพื่อนที่โดนปฎิเสธวีซ่าเพราะเรื่องไม่มีที่มาของเงิน มาเล่าให้ฟัง เลยหลอนส่วนตัว)
12. Trip UK พร้อมคชจ.
13. ใบจอง โรงแรม booking.com และตั๋วเครื่องบิน ไป UK (อันนี้จ่ายไปแล้ว ยิ่งหลอนกลัวไม่ผ่าน) ส่วนตั๋วจาก UK ไปอัมสเตอร์ดัม ใช้เวป Thaifly จองเอาครับ ให้มี Booking ไม่ต้องจ่ายก่อน
ถึงวันนัดไปยื่นที่ VFS วันที่ 6/8/15 ก็เอาเอกสาร ปึกใหญ่น่าจะหนักเกือบ 1 โล อายเหมือนกัน ทำไมมันเยอะแบบนี้ แต่ น้องที่รับเรื่องก็ยิ้มแย้มดี บอกว่ามีเยอะกว่านี้อีกค่ะ อยากยื่นอะไร ก็ยื่นมาเลย (เหลือบไปเห็นลุงคนนึง มาเป็นกระเป๋าถือเลย) แต่ถามข้อมูลเพิ่มก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมาก บอกว่ามีอะไรรบกวนดูที่เวปค่ะ เหมือนจะรับเอกสารตรวจอย่างเดียวครับ
ผมให้ EMS มาที่บ้าน ส่วน SMS ก็สมัครไป เห็นทีหลัง 80 บาท แถมได้รับแค่ 1 ครั้ง วันที่ยื่นเลย ประมาณว่า ได้รับเอกสารแล้ว จะส่งให้สถานทูต แค่นี้ล่ะครับ ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร เสียดายเงิน เพื่อนๆไม่ต้องสมัครก็ได้ครับ ยังไงก็มี Email มาแจ้ง
มานอนลุ้นอยู่บ้าน ไม่ค่อยเป็นสุขเท่าไหร่ เพื่อนที่ไปด้วยก็ลุ้น รอถึงวันที่ 17/8/15 มีเมลแจ้งว่า Made decision แล้ว
จากนั้นวันที่ 18/8/15 ก็แจ้งว่า ส่ง passport มาให้เราแล้ว ทีนี้ล่ะ ลุ้นหนักกว่าเดิม สุดท้ายวีซ่าก็มาถึงวันที่ 19 ครับ ดีใจมาก และก็ช่างยาวนานมาก เพราะช่วงนั้นติดเสาร์อาทิตย์ และก็วันแม่ด้วย ยังไงก็แนะนำให้ยื่นวันจันทร์และก็ไม่ติดเทศกาลดีกว่า เอกสารที่ให้สถานทูตไป เค้าคืนให้หมดเลยนะครับ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ไปยื่นเชงเก้นที่ สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ ก็ใช้เอกสารเดิมที่ยื่น UK (คืนมาหมด เลยยื่นต่อซะเลย) แต่จะเปลี่ยนบางอย่าง ขอพูดเฉพาะข้อที่เปลี่ยนครับ
1.Application Form TLS
4.รูปถ่าย 2 รูป ถ่ายใหม่เน้นหน้า
6.หนังสือรับรองการเงินจาก ธนาคาร (ยูโร)
11.Cover letter แก้ใหม่เป็นไปเที่ยวในปท.เชงเก้น เข้าที่ไหนก่อน กลับทาง ปท อะไร นอกนั้นเหมือนเดิม
13. Trip และคชจ.ในเชงเก้น ถึงจะขอที่สวิส แต่ผมก็แจ้งหมดเลยว่าไปไหนบ้าง ตั้งแต่ปท.แรกในเชงเก้นเลย
14. ใบจอง โรงแรม booking.com ทั้งทริปในเชงเก้น และตั๋วเครื่องบิน เอามาจากเวป Thaifly หมด เพื่อให้มีหลักฐานการเดินทางตาม trip และถ้าได้วีซ่าค่อยไปจองรถไฟครับ
15.ประกันสุขภาพ วงเงิน 1.5 ล้านบาท (ผมเลือกของ Cigna ครับ 2 ล้าน)
ถ้าใช้เงินตัวเองเที่ยว บปช.กับทะเบียนบ้านไม่ต้องยื่น จนท.เค้าคืนมาให้
ตอนกรอกออนไลน์ เลือกแบบ Single entry เพราะเข้าปท.เชงเก้นครั้งเดียว (ถาม TLS จนท.บอกต้องเลือกแบบนี้ครับ) และจองคิวกับสถานทูตโดยตรง ไม่อยากเสียค่าดำเนินการให้ TLS ตั้ง8XX พูดง่ายๆคืองกนั้นล่ะ
จนท.ที่สถานทูตดุครับ ผมก็เกร็งๆ ไม่เคยเจอบริการแบบนี้ ก็ได้แต่ยิ้ม ตรวจละเอียดมากครับ ตั้งแต่ทริปยันใบจองรร. เค้าก็บอกว่า ใบจองรร.กับตั๋วเครื่องบินไม่จำเป็น Trip เราตังหากที่สำคัญ แต่อยากจะยื่นก็ได้
พอมาถึงเอกสารเกี่ยวกับงาน เค้าก็บอกว่าเอกสารทุกอย่างต้องแปลค่ะ เพราะจนท.เป็นฝรั่ง อ่านไทยไม่ออก ของคุณนี่เป็นภาษาไทย พร้อมชูให้ดูพลิกไปมา (พวกเอกสารจากที่ดิน หนังสือสัญญาซื้อขายครับ) อันนี้อ่านในเวบที่แชร์กันมา ก็บอกว่าไม่ต้องแปลนี่นา เพราะแค่ท่องเที่ยวเอง นี่เราพลาดไปหรอ
แต่จนท.บอกว่า อิชั้นจะส่งให้เจ้านายก่อน ถ้ามีอะไรสงสัยเค้าอาจโทรไปถาม คุณต้องตอบให้ได้นะ ขู่เอาๆๆ ตอนนั้นก็คิดว่าแย่แล้ว ใจตกไปถึงตาตุ่ม ไม่ผ่านแน่นอนล่ะ กลับไปแปลแล้วมายื่นใหม่จะทันมั้ย ยิ่งใกล้วันเดินทางแล้ว แต่ก็เสี่ยงเอาล่ะกัน ช่างมันเถอะ
สุดท้ายก็ให้บัตรนัด มาเอาอาทิตย์หน้า ลุ้นอีกแล้ว แต่ยังดีที่กำหนดวันรับมา ไม่เหมือนที่ UK ที่บอกว่าไม่เกิน 15 วัน แต่ก็ไม่รู้จะมาวันไหน แต่อารมณ์แบบนี้มันน่าเบื่อว่ามั้ยครับ
ถึงวันรับผลวีซ่า สุดท้ายก็ได้มา เย้ๆๆ งงนิดหน่อย ได้มาแบบ Multiple 1ปีเลยทีเดียว ทั้งที่ขอแบบ single ไป แถมอยู่สวิสแค่ 8 วันเอง และก็ขอครั้งแรกด้วย แต่ไม่เป็นไร ได้มาแล้ว คงต้องไปอีกรอบแน่นอน รอบหน้าจะพาพ่อแม่ไปครับ
ปล.
-เอกสารทั้งหมดที่ส่งไปขอเชงเก้น เค้าไม่คืนนะครับ คืนมาแต่ Passport เท่านั้น
-ผมสงสัยเรื่องstatement สามารถถ่าย Bookbank 6 เดือนแทนได้มั้ย จนท.บอกว่าไม่ได้ ต้อง Statement เท่านั้น
-Bookbank ตัวจริง ผมเอาไป แต่ไม่ได้ยื่นนะครับ เค้าไม่ขอดูเลย ทั้ง UK และ เชงเก้น
-อันนี้ความรู้ใหม่ บางคนให้เพื่อนโอนเงินก้อนใหญ่เข้ามา เพื่อขอ statement แล้วถอนออกไป ทางพนง.ธนาคารบอกว่า สถานทูตมีโทรมาตรวจเหมือนกัน ว่าตัวเลขบช.นี้ตรงมั้ย พอดีมีลูกค้าต้องมาขอ Statement ใหม่ เพราะโดนReject เรื่องนี้ ฉะนั้นกันไว้ก่อนครับ พนงธนาคารเลยแนะนำว่า ให้คาในบช.จนถึงวันที่ได้วีซ่าดีกว่า เพราะไม่รู้จะโดนสุ่มตรวจตอนไหน
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ ยาวหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์ มีอะไรสอบถาม ก็หลังไมค์มได้ครับ ถ้ารู้ก็ยินดีตอบครับ