ไม่เคยสงสัยในความสามารถของผู้เข้าแข่งขันเลยในแต่ละปีที่ผ่านมา หลายๆท่านเคยเห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้วในหลายๆเวที ทั้งพ่นไฟพ่นน้ำ เสียงต่ำดำดิ่ง เสียงสูงปี๊ดทะลุเพดาน ลากเลื้อยโชว์สกิล เคยเห็นมาหมดแล้ว แต่ทำไมพอมาเดอะว้อยซ์แล้วจึงพร้อมใจกันสงบเสงียมเจียมตน เลือกเพลงร้องง่ายฟังสบายแต่น่าเบื่อมาร้องกันมากมาย เป็นเพลงที่โชว์ศักยภาพอะไรไม่ได้เลย นอกจากน้ำเสียงทึ่น่าสนใจ ทำให้โค้ชทำงานยากขึ้น เพราะต้องใช้สมาธิและสัญชาตญาณในความเป็นศิลปินเพื่อค้นหาศิลปินอย่างสุดพลัง ยอมรับในความสามารถของโค้ชแต่ละท่านจริงๆ ว่าหูถึงขั้นเทพซะเหลือเกิน ที่สามารถเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาของเสียงๆนั้นในเพลงน่าเบื่อเพลงนั้นได้ สุดยอดจริงๆ คือรู้ได้ไงว่าคนนั้มีของ จะสังเกตุได้ว่าพอให้ร้องเพลงที่สองมันมักจะดีกว่าเพลงแรกเสมอ ทำไม?? คำที่ได้ยินบ่อยๆจากโค้ชคือคำว่า "ทำไมไม่ร้องเพลงนี้" ซีซั่น3 เป็นตัวอย่างที่ดี หลายๆคนมาปังในรอบหลังๆ ทั้งที่ควรจะปังมาตั้งแต่รอบแรก เพราะเป็นรอบที่คนสนใจมากที่สุดเพราะสนุกที่สุด ปีนี้ก็ยังเหมือนเดิม 2วีคเข้าไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าความฟินคือะไร? ทั้งที่ผู้เข้าแข่งขันก็น่าสนใจมาก โค้ชก็มีเสน่หมากขึ้นทั้ง4ท่าน โปรดักชั่นก็ดีขึ้น ก็จะเหลือแต่เพลงนี่แหละที่น่าเบื่อ เพลงไทยก็เนิบนาบ เพลงสากลก็เฉพาะเกินไป นี่มันเมืองไทยนะคุณ จะร้องเพลงฝรั่งก็เลือกเพลงให้มันแมสหน่อย เพลงฮิตเพลงคุ้นหูไรงี้ ของเมืองนอกเค้ายังไม่หลากหลายเท่านี้เลย แจ้ส โซล บลู จำเป็นเหรอ?? ผมไม่แน่ใจว่าทีมงานมีส่วนในการเลือกเพลงให้ผู้เข้าแข่งขันหรือป้าว ถ้ามีส่วนก็ขอให้แก้ไขในจุดนี้ด้วย ให้คำแนะนำเค้าซักนิดนึง ในปีต่อๆไป รวมถึงรอบต่อๆไปด้วย ถ้าทีมงานทีมนี้เป็นทีมเดียวกับ the winner is บอกเลยว่าตอนนั้นเลือกเพลงได้ดีกว่าน่าสนใจกว่านี้มาก เอาแบบนั้นเลย นั่นแหละที่ผมเรียกว่าโอเค ฝากไว้ด้วยครับ
"Bad song choices" ปัญหาของ the voice ซีซั่นหลังๆ