ทีโอทีจ่อชวดฮุบคลื่น 900 หลังศาลปกครองยกคำร้องเพิกถอนมาตรการคุ้มครองชั่วคราว เปิดทาง กสทช.เดินหน้าเปิดประมูล 4 จีบนคลื่นความถี่ 900 MHz วันที่ 15 ธ.ค.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงาน กสทช.กับพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีว่า กสทช. ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมการถือครองคลื่นความถี่ทั้งหมดว่าอยู่ในการถือครองของใครบ้าง รวมถึงรายละเอียดการประมูล 4G คลื่นความถี่ 1800 เมกกะเฮิร์ตซซึ่งจะเปิดประมูลในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ และสามารถออกใบอนุญาตได้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ส่วนการประมูล 4G บนคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตซ ขณะนี้ยังยืนยันกรอบเวลาเดิมที่จะเคาะราคาประมูลวันที่ 15 ธันวาคมและออกใบอนุญาตภายในเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน
ส่วนกรณีข้อพิพาทกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งทางทีโอทีได้ยื่นฟ้องศาลขอใช้คลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตซ์นั้น นายฐากรระบุว่าหากมีคำสั่งศาลออกมา กสทช.จะปฏิบัติตามแต่หากยังไม่มีคำสั่งใดๆ กำหนดการประมูลทุกอย่างจะเป็นไปตามเดิม ขณะที่พลอากาศเอกประจิน กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดแล้ว โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดไปหารือกับผู้เกี่ยวข้อง และน่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่18 กันยายนนี้ เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
“กสทช.ขอย้ำว่า ได้ทำตามกฎหมายทุกข้อ ทั้งทีโอทีและแคท มีใบอนุญาตที่แตกต่างกัน โดยใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมสิ้นสุดพร้อมกันในปี 68 แต่ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่แตกต่างกัน โดยแคทนั้น ใบอนุญาตใช้คลื่น 1800 เมกะเฮิตรซ์สิ้นสุดตามใบอนุญาตสัมปทาน ส่วนคลื่นที่เหลือเช่นคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์มีสิทธิ์ใช้ไปถึงปี 68 เช่นเดียวกันทีโอทีคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ใบอนุญาตการใช้คลื่นสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่ยังคงมีสิทธิ์การใช้คลื่น 2100 และ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ไปจนถึงปี 68”
ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าว่า การหารือกับ กสทช.เกี่ยวกับบทบาทการทำงานระหว่าง กสทช.กับกระทรวงไอซีที เพื่อให้ทำงานร่วมกันและการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม กิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนเรื่องการขอคงสิทธิ์การใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ขนาด 20 เมกะเฮิรตซ์ของแคทไปจนถึงปี 68 เช่นเดียวกันทีโอที ที่ขอสิทธิ์ในการใช้คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ไปจนถึงปี 68 นั้น ก็ต้องไปศึกษารายละเอียดต่างๆ ว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ รวมถึงจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบด้วย โดยทุกเรื่องจะมีคำตอบที่ชัดเจนในวันที่ 18 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะนำมาหารือกับ กสทช.อีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป
“ในเบื้องต้นจะพิจารณาตามหลักกฎหมาย แต่ถ้ามีการยื่นฟ้องศาลปกครอง ก็ต้องรอคำสั่งศาล ส่วนการประมูล 4 จีบนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์นั้น จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนขึ้นอยู่กับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งได้สอบถาม กสทช.แล้ว ว่าถ้าเลื่อนจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องรอความชัดเจนในวันที่ 18 ก.ย.นี้”
แหล่งข่าวระดับสูงใน กสทช. เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ศาลปกครองได้มีคำสั่งยกคำร้องกรณีบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นเรื่องฟ้อง กสทช.เพื่อขอคุ้มครองการบังคับตามประกาศ กสทช.เรื่องการคุ้มครองผู้ใช้บริการฯ พร้อมขอให้เพิกถอนประกาศ กสทช.เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการฯ พ.ศ.2556 (ประกาศมาตรการคุ้มครองชั่วคราว) โดยทีโอทีระบุว่า การออกมาตรการคุ้มครองดังกล่าวที่ยังผลให้บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิสจำกัด (มหาชน) หรือ AIS สามารถให้บริการชั่วคราวต่อไปอีกไม่เกิน 1 ปี โดยใช้อุปกรณ์ในระบบและเครื่องมืออันเป็นกรรมสิทธิ์ของ TOT นั้นเท่ากับเป็นการขยายเวลาสัญญาการอนุญาตฯ โดยไม่มีอำนาจและมติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่แก้ไขระยะเวลาการจัดทำแผนเยียวยาผู้ใช้บริการจาก 60 วันเป็น 90 วันมีเจตนาที่ไม่สุจริตเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบกิจการรายอื่นอันทำให้ TOT ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยศาลเห็นว่า การดำเนินการของ กสทช.เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายในฐานะองค์กรกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม เพื่อกำหนดหน้าที่ให้ผู้ให้สัมปทานและผู้รับสัมปทานตามการอนุญาต สัมปทานหรือสัญญาให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปฏิบัติเพิ่มเติมอันเกี่ยวกับการจัดทำบริการสาธารณะ กรณีจึงยังไม่พอจะรับฟังได้ว่า การออกประกาศมาตรการคุ้มครองฯไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนมติของ กทค.ที่ให้แก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขการอนุญาตฯ นั้นเป็นอำนาจของคณะกรรมการ กทค.มีเหตุสำคัญเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเพื่อให้คุ้มครองผู้ใช้บริการภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน จึงยังไม่พอฟังว่าเป็นมติที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของทีโอทีไป แต่กระนั้นทางฝ่ายริหารทีโอที ยังคงไม่ละความพยายามและจะเดินหน้าฟ้องร้อง กสทช.เพื่อขอใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ต่อไปอีก
ทีโอทีจ่อชวดฮุบคลื่น 900 หลังศาลฯยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราว!
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงาน กสทช.กับพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีว่า กสทช. ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมการถือครองคลื่นความถี่ทั้งหมดว่าอยู่ในการถือครองของใครบ้าง รวมถึงรายละเอียดการประมูล 4G คลื่นความถี่ 1800 เมกกะเฮิร์ตซซึ่งจะเปิดประมูลในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ และสามารถออกใบอนุญาตได้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ส่วนการประมูล 4G บนคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตซ ขณะนี้ยังยืนยันกรอบเวลาเดิมที่จะเคาะราคาประมูลวันที่ 15 ธันวาคมและออกใบอนุญาตภายในเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน
ส่วนกรณีข้อพิพาทกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งทางทีโอทีได้ยื่นฟ้องศาลขอใช้คลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตซ์นั้น นายฐากรระบุว่าหากมีคำสั่งศาลออกมา กสทช.จะปฏิบัติตามแต่หากยังไม่มีคำสั่งใดๆ กำหนดการประมูลทุกอย่างจะเป็นไปตามเดิม ขณะที่พลอากาศเอกประจิน กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดแล้ว โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดไปหารือกับผู้เกี่ยวข้อง และน่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่18 กันยายนนี้ เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
“กสทช.ขอย้ำว่า ได้ทำตามกฎหมายทุกข้อ ทั้งทีโอทีและแคท มีใบอนุญาตที่แตกต่างกัน โดยใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมสิ้นสุดพร้อมกันในปี 68 แต่ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่แตกต่างกัน โดยแคทนั้น ใบอนุญาตใช้คลื่น 1800 เมกะเฮิตรซ์สิ้นสุดตามใบอนุญาตสัมปทาน ส่วนคลื่นที่เหลือเช่นคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์มีสิทธิ์ใช้ไปถึงปี 68 เช่นเดียวกันทีโอทีคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ใบอนุญาตการใช้คลื่นสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่ยังคงมีสิทธิ์การใช้คลื่น 2100 และ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ไปจนถึงปี 68”
ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าว่า การหารือกับ กสทช.เกี่ยวกับบทบาทการทำงานระหว่าง กสทช.กับกระทรวงไอซีที เพื่อให้ทำงานร่วมกันและการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม กิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนเรื่องการขอคงสิทธิ์การใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ขนาด 20 เมกะเฮิรตซ์ของแคทไปจนถึงปี 68 เช่นเดียวกันทีโอที ที่ขอสิทธิ์ในการใช้คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ไปจนถึงปี 68 นั้น ก็ต้องไปศึกษารายละเอียดต่างๆ ว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ รวมถึงจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบด้วย โดยทุกเรื่องจะมีคำตอบที่ชัดเจนในวันที่ 18 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะนำมาหารือกับ กสทช.อีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป
“ในเบื้องต้นจะพิจารณาตามหลักกฎหมาย แต่ถ้ามีการยื่นฟ้องศาลปกครอง ก็ต้องรอคำสั่งศาล ส่วนการประมูล 4 จีบนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์นั้น จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนขึ้นอยู่กับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งได้สอบถาม กสทช.แล้ว ว่าถ้าเลื่อนจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องรอความชัดเจนในวันที่ 18 ก.ย.นี้”
แหล่งข่าวระดับสูงใน กสทช. เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ศาลปกครองได้มีคำสั่งยกคำร้องกรณีบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นเรื่องฟ้อง กสทช.เพื่อขอคุ้มครองการบังคับตามประกาศ กสทช.เรื่องการคุ้มครองผู้ใช้บริการฯ พร้อมขอให้เพิกถอนประกาศ กสทช.เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการฯ พ.ศ.2556 (ประกาศมาตรการคุ้มครองชั่วคราว) โดยทีโอทีระบุว่า การออกมาตรการคุ้มครองดังกล่าวที่ยังผลให้บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิสจำกัด (มหาชน) หรือ AIS สามารถให้บริการชั่วคราวต่อไปอีกไม่เกิน 1 ปี โดยใช้อุปกรณ์ในระบบและเครื่องมืออันเป็นกรรมสิทธิ์ของ TOT นั้นเท่ากับเป็นการขยายเวลาสัญญาการอนุญาตฯ โดยไม่มีอำนาจและมติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่แก้ไขระยะเวลาการจัดทำแผนเยียวยาผู้ใช้บริการจาก 60 วันเป็น 90 วันมีเจตนาที่ไม่สุจริตเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบกิจการรายอื่นอันทำให้ TOT ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยศาลเห็นว่า การดำเนินการของ กสทช.เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายในฐานะองค์กรกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม เพื่อกำหนดหน้าที่ให้ผู้ให้สัมปทานและผู้รับสัมปทานตามการอนุญาต สัมปทานหรือสัญญาให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปฏิบัติเพิ่มเติมอันเกี่ยวกับการจัดทำบริการสาธารณะ กรณีจึงยังไม่พอจะรับฟังได้ว่า การออกประกาศมาตรการคุ้มครองฯไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนมติของ กทค.ที่ให้แก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขการอนุญาตฯ นั้นเป็นอำนาจของคณะกรรมการ กทค.มีเหตุสำคัญเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเพื่อให้คุ้มครองผู้ใช้บริการภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน จึงยังไม่พอฟังว่าเป็นมติที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของทีโอทีไป แต่กระนั้นทางฝ่ายริหารทีโอที ยังคงไม่ละความพยายามและจะเดินหน้าฟ้องร้อง กสทช.เพื่อขอใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ต่อไปอีก