จำกระทู้นี้ไว้ให้ดี ๆ นะครับ เฮ้อออ...

มองเห็นความวินาศสันตะโรรออยู่ข้างหน้าชัดเจนเลยครับ

จากคำปาฐกถาของว่าที่ผู้ว่าการแบงค์ชาติ  ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด  

http://news.voicetv.co.th/thailand/257517.html



ว่ากันว่า  นายคนนี้เป็นคนที่ "เรียนเก่ง" มากว์ว์ว์ว์ว์    จบปริญญาตรีแค่อายุ 18    ปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์ฮาร์เวิร์ดตอนอายุ 24

จะเข้าเป็นผู้ว่าแบงค์ชาติคนใหม่  ในวันที่ 1 ตุลาคม 2558  นี้

เป็นลูกชายอดีตอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.ประทิน  สันติประภพ



จากที่ได้อ่านข่าวการปาฐกถาของเขา   ก็ได้แต่เอวัง

ก็พอเข้าใจครับ  ว่าช่วง 23 กันยายน นี้    ท่านนายกฯลุงตู่ของเราต้องไปนิวยอร์ค
เพื่อเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติ   ซึ่งท่านก็ต้องไปกล่าวอะไร ณ ที่นั่น

ว่าที่ผู้ว่าแบงค์ชาติ  เลยคงทำหน้าที่ "ปูทาง" ให้ก่อน

ไอ้ตรงนี้แหละครับ  ที่น่ากลัว   ที่มองเห็นแต่ความเอวัง



ผู้ว่าคนเดิม  ที่กำลังจะหมดวาระ  30 กันยายน นี้      นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล
บอกตามตรงครับ   ผมเห็นว่าแกให้ "ข้อมูลเท็จ" ต่อสาธารณะประจำ
โดยเฉพาะในช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา

อย่างต้นปี 58 นี่  แกบอกเลย  ภายในสามเดือนส่งออกฟื้น  นั่นจะดี โน่นจะดีไปหมด  อ้างข้อมูล อ้างเหตุผลสารพัด
หลังจากแกว่า   ทุกอย่างก็ฮวบ ๆ

คิดดูสิครับ  หากมีใครเชื่อแก   จะเจ็บตัวมากขนาดไหน

นั่นคือการให้ข้อมูลเชิงบวกแก่ใคร  เพื่ออะไร   คงไม่ต้องอธิบาย   รู้กันอยู่แล้ว



มาถึงว่าที่ผู้ว่าคนใหม่นี่    ปาฐกถาได้ขนาดนี้   ในต่างประเทศด้วย
ผมว่า ตายเป็ดเลยล่ะครับ

ในประเทศจะขนาดไหน

เพราะสถานการณ์ทางการเมือง   ที่มีผลกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเงินการคลังการธนาคาร
หากเจอกับข้อมูลขั้นเทพ  เจอข้ออ้าง เหตุผลประเภทความจริงลวง

วินาศสันตะโรเห็น ๆ ครับ



แบงค์ชาตินั้น   ต้องไม่แบบนี้ครับ

ช่วงหม่อมอุ๋ยเป็นผู้ว่าแบงค์ชาติ  2544-2549    เขม่น  ถากกันไปถากกันมา  สวนทางกัน กับรัฐบาลทักษิณตลอดครับ
แต่ก็อยู่ด้วยกัน  จนหม่อมอุ๋ยหมดวาระ  

ทีนี้  หากแบงค์ชาติ  เอนเอียงกันฝ่ายการเมือง   แถมการเมืองที่ไม่ปกติ    ก็ลองนึกภาพดูครับ




คนเรานั้น   ต่อให้พูดได้แปดภาษา   ปริญญาห้าใบ   เรียนกเก่งแค่ไหน   ปริญญาเอกจากดาวอังคาร
แต่หากใช้ผิดทาง

วิบัติครับ   ไม่มีทางสร้างสรรค์อะไรได้



ความจริงแล้ว   การคัดเลือกผู้ว่าแบงค์ชาติคนใหม่ที่ผ่านมา  ผมว่าก็ไม่ค่อยสวยแล้วครับ
เพราะมองปัจจัยด้านการเมืองเป็นหลัก
คนที่น่าจะได้  กลับไม่ได้   เพราะหัวแข็งเกินไปมั่ง  เพราะมีทีท่าสนินสนมกับรัฐบาลที่ผ่านมามั่ง

น่าห่วงครับ



แบงค์ชาติ  คือแบงค์ชาติ   ไม่ใช่แบงค์ของรัฐบาล

ผู้ว่าแบงค์ชาติ  คือผู้ว่าแบงค์ชาติ   ไม่ใช่โฆษกรัฐบาล



จำทู้นี้ไว้ให้ดีครับ
ผมว่าแบงค์ชาติจะเดินเข้าสู่ยุคที่อาจสาหัสกว่าปี 2540

ยกเว้นผู้ว่าแบงค์ชาติคนใหม่  จะเรียกสติกลับคืนมาให้ครบถ้วนโดยเร็วที่สุด
ลืมคำปาฐกถาของตัวเองซะ   อย่าทำหน้าที่ไปในทางเดียวกันกับคำปาฐกถา

ไม่งั้น  วินาศวันตะโรแน่




ฟันทอม !!!