นับตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 สังคมไทยแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรง

แต่มีคนอยู่จำพวกหนึ่งที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังสามารถเชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมได้

แถมบางคนยังมีอำนาจวาสนามากยิ่งขึ้นไปอีก เช่น

สุขุมพันธ์ บริพัตร


สุขุมพันธ์ เป็นผู้ว่า ก.ท.ม มาสองสมัย แต่ละสมัยมีความไม่โปร่งใสในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างตลอดเวลา

และที่ไม่น่าอภัยอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง คือ กล้อง CCTV ซึ่งครั้งแรกก็เป็นเรื่อง

กล้องดัมมี่ และต่อมา ก็เป็นเรื่องกล้องเสียไม่มีการซ่อมบำรุง ล่าสุดยังจะทำเรื่องซื้อของแพงอีก

เรียกว่า มีวิกฤตทีไร ก.ท.ม แลบลิ้นทุกที นี่ยังไม่นับเรื่องบริหารไม่เป็น ความไม่เอาไหนขนาดนี้

ยังไม่โดนปลด ยังลอยหน้าลอยตา แถข้อกล่าวหาได้ทุกวัน










อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

มาร์ค เป็นหัวหน้าพรรคแมงสาบมา 10 ปี นำพรรคแพ้การเลือกตั้ง 2 ครั้งคือแพ้ให้กับ สมัคร สุนทรเวช

และล่าสุดแพ้ให้กับ สตรีที่ไม่เคยมีผลงานทางการเมืองอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

และเป็นหัวหน้าพรรคคนเดียวที่นำพรรคบอยคอต ไม่กล้าสู้ในสนามเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีความไม่

สง่างามในการบริหารอีกหลายๆเรื่อง แต่เมื่อ มาร์ค เล่นปาหี่ลาออกจากหัวหน้าพรรค สาวกและลิ่วล้อ

กลับเลือกเข้ามาเป็นอีก ทำราวกับว่า สมาชิก ปชป ทั่วประเทศ สิบล้านคน ไม่มีใครดีเท่า อภิสิทธิ์ ทุเรศจริงๆ








สุเทพ เทือกสุบรรณ

หลังจากก่อม็อบ "มวลหมา" แล้วหนีไปบวชพร้อมเงินบริจาคที่เคลียร์ไม่ได้อีกหลายสิบล้าน

เคยบอกว่าจะไม่ยุ่งกับการเมืองตลอดชีวิต แต่สึกแค่วันเดียว ก็ประกาศศักดาเรื่องไม่ให้ย้าย บ.ช ภ 8

http://www.thairath.co.th/content/514687

นี่ยังไม่นับรวมชี้นำ สลิ่มดักดาน ในอีกหลายๆเรื่อง ความวุ่นวายของเทือก ไม่มีคนห้ามปรามหรือจัดการ

เท่ากับว่าหลังสึก เทือก ก็ยังสามารถทำความเสียหายให้กับประเทศไทยได้อีกต่อไป กรรมเวรประเทศไทย






วิษณุ เครืองาม

ได้สมญาว่า "เนติบริกร" ปรับตัวได้เข้ากับผู้มีอำนาจทุกยุคทุกสมัย มีส่วนในการร่าง ร.ธ.น หลายฉบับ

ฉบับที่พึ่งถูกคว่ำถึงแม้จะไม่ได้ร่วมร่างแต่ก็เป็นตัวคุมเกมส์ตลอด ซึ่งเมื่อ ร.ธ.น ถูกคว่ำแล้ว

แทนที่จะมีส่วนรับผิดชอบ แต่กลับรับหน้าที่กำหนดกรอบเวลาและเนื้อหาการร่างเหมือนเดิม

เรียกว่ามีเกราะคุ้มกันที่แข็งแรงจริงๆ




สมาชิก ส.ป.ช

ร.ธ.น ที่เสียเวลาร่างมาเกือบปี ผลาญเงินภาษีเป็นพันล้านบาท แต่แทนที่ สมาชิก ส.ป.ช จะมีความละอาย

แต่กลับเสนอหน้ามารับตำแหน่งใหม่ พร้อมที่จะปล้นเงินภาษีอีกต่อไป สามัญสำนึกของความเป็นคน

หาไม่ได้กับคนกลุ่มนี้ และล่าสุดมีทีท่าว่า กลุ่มคนเหล่านี้มีโอกาสสมหวังมากกว่า 70 % เศร้าจริงๆประเทศไทย






จากตัวอย่างข้างต้น ไม่เข้าใจเลยว่า คนเหล่านี้ตลอดเวลา 10 ปีมีส่วนสร้างความขัดแย้งในสังคม

และเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรง แต่ก็กลับยืนอยู่ได้ในสังคม ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่ รู้เช่นเห็นชาติ

กับทัศนคติ และ ความสามารถที่คนเหล่านี้มี แทนที่จะถูกลดอำนาจและบทบาท

กลับสามารถชูคอสร้างความย่อยยับให้กับประเทศได้ต่อเนื่องตลอดเวลา

แล้วเมื่อไหร่ ประเทศไทยจะพ้นบ่วงกรรมนี้ได้ ?


ป.ล  ทุกครั้งที่เห็นคนเหล่านี้ จีบปากจีบคอ ออกสื่อ ความรู้สึกขยะแขยงก็เพิ่มมากขึ้นทุกที

ป.ล 2 ความจริงยังมีอีกหลายหน่วย หลายองค์กร ที่ตัวเองเน่าเฟะจนสังคมเบือนหน้าหนี

แต่ก็ยังเชิดหน้าชูคออวดอ้างว่า "ตนเองเป็นคนดี" อนาถแท้ พวกไร้ยางอาย

ป.ล 3 เครดิตรูปจาก กูเกิ้ล