ไชยเชษฐ์ เป็นนิทานพื้นบ้านสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีผู้นำนิทานเรื่องนี้มาเล่นเป็นละครเพราะเป็นเรื่องสนุก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงนำนิทานเรื่องไชยเชษฐ์มาพระราชนิพนธ์เป็นบทละครนอก เดิมละครนอกเป็นละครที่ราษฎรเล่นกัน ให้ผู้ชายแสดงเป็นตัวละครทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องไชยเชษฐ์เพื่อให้เป็นบทละครนอกของหลวง และทรงให้ผู้หญิงที่เป็นละครหลวงแสดงอย่างละครนอก
และในปี 2527 ไชยเชษฐ์ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ทีวีโดยบริษัทดาราวีดีโอ จำกัด
ไชยเชษฐ์ 2527 เป็น "ภาพยนตร์โทรทัศน์" ไม่ใช่ "ละครโทรทัศน์" ถึงปี 2527 บริษัทดาราฟิล์ม ได้เปลี่ยนชื่อเป็นดาราวีดีโอแล้ว แต่ก็ยังคงผลิตเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อยู่เพราะใช้เสียงพากย์ ยังไม่ได้ใช้เสียงจริงของนักแสดง เพียงแต่ใช้กล้องวีดีโอบันทึกภาพแทนกล้องฟิล์ม 16 มม.แล้ว จึงยังเรียกว่า “ภาพยนตร์ไทยชุดไชยเชษฐ์” ภาพยนตร์โทรทัศน์จะออกอากาศเป็นตอน ๆ เหมือนละครโทรทัศน์เช่นกัน โดยจะอากาศทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 21.00-22.00 หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7 สี
สำหรับ ภ.ไทยชุดไชยเชษฐ์ 2527 ยาวประมาณ 26 ตอนจบเท่านั้น อ่านไม่ผิดหรอกครับ 26 ตอนจบจริง ๆ สมัยนั้นหนังทีวีแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ จะดำเนินเรื่องฉับไวทันใจผู้ชม
สุริยา ชินพันธ์...ไชยเชษฐ์
ผุสรัตน์ ดารา...สุวิญชา
ยุวนารี ธิดารัตน์...นางแมววิฬาร์
เพลงไตเติลครับ
ไชยเชษฐ์ 2527 นำแสดงโดย
สุริยา ชินพันธ์...ไชยเชษฐ์
ผุสรัตน์ ดารา...สุวิญชา
ยุวนารี ธิดารัตน์...นางแมววิฬาร์
ชัย ราชพงษ์...ราชาธรรมิก
วิไลลักษณ์ ไวงาน...มเหสีแก้วสัจจา
ราชิต ชูเมือง...ท้าวสิงหล
สมาน คัมภีร์...นนทยักษ์
สมชาย ปาตัน..ท้าวรณพักตร์
ณรงค์ พุทธโกษา...พระอินทร์
พระราชาธรรมิก
พระมเหสีแก้วสัจจา
นี่คือภาพนางสนมทั้ง 7
คุณลุงสมาน คัมภีร์ท่านเป็นผู้กำกับและร่วมแสดงเป็นนนทยักษ์ด้วย
พระอินทร์
เทวดามาตุลี
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของไชยเชษฐ์ 2527
พระเอกไม่ต้องเป็นเด็กก่อนแต่ให้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ก่อนหน้านั้นมีหนังทีวีแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ 3 เรื่องคือสี่ยอดกุมาร สิงหไกรภพ ขวานฟ้าหน้าดำพระเอกต้องอยู่ในวัยเด็กก่อน
หลังจากนั้นไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด จึงได้เปลี่ยนเรื่องจากที่เคยให้พระเอกต้องเป็นเด็กก่อนมาเป็นพระเอกโตเป็นหนุ่มแล้ว คงเพราะเห็นว่าแพร่ภาพตอน 3 ทุ่มดึกไป เลยเอาใจคนดูผู้ใหญ่มากกว่า อยากให้เด็กเข้านอนไว ๆ (มั้ง) หรือเพราะอยากเปลี่ยนความซ้ำซากจำเจบ้าง
แล้วเด็กดูไชยเชษฐ์ 2527 กันไหมล่ะ เด็กก็ยังดูกันอยู่นั่นล่ะ เพราะยังมีอภินิหารเหนือธรรมชาติอยู่มาก และก็ยังมีเด็กเป็นฮีโร่อยู่เช่นกัน เพราะมี "พระนารายณ์ธิเบศ" พระโอรสของนางเอกที่มาช่วยนางเอกตอนปลายเรื่อง
“ไชยเชษฐ์ 2527” แปลงเนื้อเรื่องหรือไม่
ทำตามพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าล้นกระหม่อมพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทั้งหมด ไม่ได้ดัดแปลงแต่อย่างไร
เขียนบทหน้ากอง
เห็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐหน้าบันเทิงลงข่าวเบื้องหลังให้ดูว่าคนเขียนบทเขียนบทไม่ทัน เลยไปนั่งเขียนบทเอาซะหน้ากอง โอ...พระเจ้า
ท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วงานล่ะออกดีหรือไม่ ก็เอาตัวรอดกันได้ก็แล้วกัน ถึงชื่นชมการทำงานแบบถ่ายไปออกอากาศไปของค่ายดาราวีดีโอนะครับว่าทำได้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
ดนตรีประกอบ
ผมไม่ค่อยชอบนัก เพราะมีบางช่วงเอาดนตรีไทยเดิมที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีจีนมาประกอบเรื่อง ทำให้ได้บรรยากาศแปลก ๆ นี่หนังไทยหรือหนังจีน คนดูจะอินไหมเนี่ย ที่สำคัญ ใช้ดนตรีแนวนี้มาตั้งแต่เรื่องก่อนหน้าคือ “ขวานฟ้าหน้าดำ 2527” มาแล้วด้วย
นางเอกสวยหวานมาก ทำให้ใคร ๆ ก็อยากดูไชยเชษฐ์ 2527
ผุสรัตน์ ดารานางเอกใหม่ซึ่งสวยหวานน่ารัก เพียงแต่ตัวเล็กไปนิด ที่นางเอกต้องตัวเล็กก็เพราะเป็นนโยบายของคุณไพรัช สังวริบุตร เจ้าของบริษัทดาราวีดีโอที่ต้องการได้นางเอกตัวเล็ก ๆ บอบบาง เพราะเวลาโดนรังแกจากนางร้ายคนดูจะได้สงสาร ดังนั้นนางเอกในสังกัดดาราฟิล์มหรือดาราวีดีโอก็เลยตัวเล็กมาตลอด มาผิดสูตรตอนเรื่อง “สี่ยอดกุมารปี 2526” เพราะได้คุณศิรินภา สว่างล้ำ Miss Asia Pacific มาเล่นเป็นเจ้าหญิงปทุมมา แต่อย่างว่าละนางงามก็ตัวสูงมากนะ สูงตั้ง 165 เลยสูงเกือบเท่ากับพระเอกซึ่งก็คือพี่อ๋อย ศุภชัย เธียรอนันต์ พอโดนนางร้ายคือพี่หม่อม รุจิเรข พัตระเกษตริน ซึ่งสูงแค่ 150 นิด ๆ ไปรังแก คนดูเลยไม่อิน เพราะสงสารนางร้ายมากกว่า ก็เพราะนางร้ายตัวเล็กนิดเดียว
พอมาเรื่องขวานฟ้าหน้าดำ ไชยเชษฐ์ คุณไพรัชก็เลยหานางเอกใหม่ที่ตัวเล็ก ๆ จะได้น่าสงสารตามนโยบายของบริษัทอีกครั้ง ก็เลยได้พี่นิค ผุสรัตน์ ดารานี่ล่ะมาแสดง ตัวเล็กสมใจมาก ๆ เลย
มาอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณผสรัตน์ ดารากันครับ
ไชยเชษฐ์ 2527 ประสบความสำเร็จแค่ไหน
ปี 2526 ดาราวีดีโอประสบความสำเร็จในการสร้าง “สี่ยอดกุมาร” มากเป็นการปลุกกระแสจักร ๆ วงศ์ ๆ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากซบเซาจากเรื่อง “นกกระจาบ”
เพราะ“สี่ยอดกุมาร 2526” มีเทคนิคแปลกใหม่ มหัศจรรย์ที่วงการบันเทิงสมัยนั้นทั้งหนังใหญ่ฉายโรง หนังทีวี และละครทีวีไม่เคยมีมาก่อน ทั้งฉากนกยักษ์ถล่มเมือง ฉากยักษ์ปรากฏตัวบนจอ ฉากเหาะ ซึ่งใช้การซ้อนภาพบลูสกรีน เป็นสิ่งแปลกใหม่ของวงการบันเทิงสมัยนั้น จน “สี่ยอดกุมาร 2526 “ ได้รับฉายาว่าลิเกอวกาศ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมวัยเด็ก จนถึงกลับไม่หลับไม่นอน ไม่ทำการบ้าน อ่านหนังสือ รวมทั้งเจ้าของกระทู้ด้วยก็คลั่งไคล้มาก
พอ “สี่ยอดกุมาร 2526” ประสบความสำเร็จ ก็ทำให้มีหนังทีวีแนวที่พระเอกต้องเป็นเด็กก่อนมาอีก 2 เรื่องคือ “สิงหไกรภพ 2526” และ “ขวานฟ้าหน้าดำ 2527 “ เรียกว่าโฆษณาเข้าเต็มตลอด ทั้งหมดที่กล่าวมาเลยทำให้บารมีเผื่อแผ่มาถึง “ไชยเชษฐ์ 2527” ด้วย
และที่สำคัญยังนำพระเอก “สุริยา ชินพันธ์” พระเอกจาก “สิงหไกรภพ 2526” มาประกบกับ “ผุสรัตน์ ดารา” นางเอกจาก “ขวานฟ้าหน้าดำ 2527” ด้วยคนยิ่งอยากชมกัน
จึงขอบอกว่า “ไชยเชษฐ์ 2527” ประสบความสำเร็จมาก แม้จะไม่มากเท่า สี่ยอดกุมาร สิงหไกรภพ ขวานฟ้าหน้าดำที่แพร่ภาพก่อนหน้าก็ตาม
เพราะเรื่องไชยเชษฐ์ทำให้ผมอยากสร้างหนังบ้าง
ตอนนั้นยังเด็ก ๆ อยู่เรียนม.ต้น พอได้ชมไชยเชษฐ์ ผมก็เลยขอยืมกล้องวีดีโอของพ่อ ซึ่งเป็นกล้อง VHS ตัวใหญ่มาก ไปถ่ายหนังสั้นของนักเรียนกันในป่า บางทีก็ไปถ่ายช่วงตอนฝนตกด้วย เพราะจะได้มีลมพายุพัดเหมือนในหนัง ผมจะเอาเพื่อน ๆ และน้อง ๆ มาแสดงเป็นพระเอกนางเอก มาเล่นเป็นยักษ์ เป็น เทวดา น่าเสียดายนะไม่ได้อยู่กรุงเทพ ฯ ไม่อย่างนั้นจะตามไปช่วยกำกับที่กองถ่าย “ไชยเชษฐ์” ซะหน่อย แต่อย่างว่าละเด็กต่างจังหวัดโอกาสจะทำอะไรไม่มีเล้ยยยยย
ตอนนั้นยังขำไม่หายผมกับเพื่อนได้ถ่ายหนังสั้นเรื่อง “เจ้าหญิงกุนเชียง” ด้วย เพราะแม่ของเพื่อนคนหนึ่งชื่อประหลาดมากแกชื่อว่า “กุนเชียง” ก็เลยเอาทำหนังล้อเลียนกันสนุกสนาน
เบื้องหลังการถ่ายทำ
นางเอกไชยเชษฐ์ถ่ายปฏิทินแม่โขง
คิดแล้วคิดอีกว่าจะเขียนถึงเรื่องนี้ดีไหม เพราะก็ไม่อยากรื้อฟื้น เนื่องจากนางเอกก็มีครอบครัวไปแล้ว แต่ไม่เขียนก็กลัวจะตกเกร็ดตรงนี้ไป เขียนถึงหน่อยก็ดี เพราะอยากให้เห็นความแตกต่างของบริบทสังคมของคำว่า “นางเอก” สมัย 31 ปีก่อน กับนางเอกในปัจจุบัน
พอจบไชยเชษฐ์ นางเอกของเรื่องก็กำลังจะมีละครเรื่องใหม่คือ “บ้านสอยดาว” 2527 (บ้านสอยดาวนี้เป็นละครโทรทัศน์นะครับ) ก็มีข่าวฮือฮาว่าเธอไปถ่ายปฎิทินแม่โขงต้อนรับปี 2528 เปลือยอกหมด ด้วยเงินค่าจ้างถ่าย 200,000 บาท เธอบอกว่าจะเอาเงินไปรักษาพ่อที่เป็นมะเร็ง
สมัยเมื่อ 31 ปีก่อนเงิน 200,000บาทมีค่ามหาศาลเลยนะครับ เพราะเห็นว่าค่าตัวดาราที่แสดงหนังทีวีหลังข่าวช่อง 7 ได้ตอนละ 1,500 บาทเอง (ความยาวตอนละ 1 ชั่วโมง) เทียบค่าของเงินปัจจุบันก็ประมาณ 6,000-7,000 บาท
เรื่องนี้เป็นข่าวดังมากตลอดปีเลยทีเดียว ก็เพราะบริบทสังคมบันเทิงในสมัยนั้นนางเอกต้องเรียบร้อยทั้งในจอนอกจอ แต่งตัวมิดชิด โดยเฉพาะนางเอกที่ภาพในจอสนิมสร้อยเรียบร้อยเจ้าน้ำตา ผู้ชมก็มักจะคาดหวังสูง แล้วใครจะคาดคิดล่ะว่าเธอจะกล้ามาถ่ายปฏิทิน ไม่เป็นข่าวดังก็ให้รู้ไป
ส่วนภาพจากปฎิทินไม่ขอนำมาโพสนะครับ
________________________________________________
เครดิต
หนังสือเฉพาะกิจเรื่องย่อไชยเชษฐ์ สำนักพิมพ์จินดาสาส์น
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B9%8C
คุณ sos4lt เพลงไตเติล
________________________________________________
ถ้าชอบกระทู้แนวนี้ช่วยกดโหวต + หรือถูกใจด้วยนะครับ ผมจะได้นำมาเขียนอีก เพราะทราบว่ามีคนชอบอ่านครับ
(เกร็ดประวัติศาสตร์) ไชยเชษฐ์ 2527 หนังทีวียอดนิยมที่อยู่ในความทรงจำ
ไชยเชษฐ์ เป็นนิทานพื้นบ้านสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีผู้นำนิทานเรื่องนี้มาเล่นเป็นละครเพราะเป็นเรื่องสนุก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงนำนิทานเรื่องไชยเชษฐ์มาพระราชนิพนธ์เป็นบทละครนอก เดิมละครนอกเป็นละครที่ราษฎรเล่นกัน ให้ผู้ชายแสดงเป็นตัวละครทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องไชยเชษฐ์เพื่อให้เป็นบทละครนอกของหลวง และทรงให้ผู้หญิงที่เป็นละครหลวงแสดงอย่างละครนอก
และในปี 2527 ไชยเชษฐ์ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ทีวีโดยบริษัทดาราวีดีโอ จำกัด
ไชยเชษฐ์ 2527 เป็น "ภาพยนตร์โทรทัศน์" ไม่ใช่ "ละครโทรทัศน์" ถึงปี 2527 บริษัทดาราฟิล์ม ได้เปลี่ยนชื่อเป็นดาราวีดีโอแล้ว แต่ก็ยังคงผลิตเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อยู่เพราะใช้เสียงพากย์ ยังไม่ได้ใช้เสียงจริงของนักแสดง เพียงแต่ใช้กล้องวีดีโอบันทึกภาพแทนกล้องฟิล์ม 16 มม.แล้ว จึงยังเรียกว่า “ภาพยนตร์ไทยชุดไชยเชษฐ์” ภาพยนตร์โทรทัศน์จะออกอากาศเป็นตอน ๆ เหมือนละครโทรทัศน์เช่นกัน โดยจะอากาศทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 21.00-22.00 หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7 สี
สำหรับ ภ.ไทยชุดไชยเชษฐ์ 2527 ยาวประมาณ 26 ตอนจบเท่านั้น อ่านไม่ผิดหรอกครับ 26 ตอนจบจริง ๆ สมัยนั้นหนังทีวีแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ จะดำเนินเรื่องฉับไวทันใจผู้ชม
สุริยา ชินพันธ์...ไชยเชษฐ์
ผุสรัตน์ ดารา...สุวิญชา
ยุวนารี ธิดารัตน์...นางแมววิฬาร์
เพลงไตเติลครับ
ไชยเชษฐ์ 2527 นำแสดงโดย
สุริยา ชินพันธ์...ไชยเชษฐ์
ผุสรัตน์ ดารา...สุวิญชา
ยุวนารี ธิดารัตน์...นางแมววิฬาร์
ชัย ราชพงษ์...ราชาธรรมิก
วิไลลักษณ์ ไวงาน...มเหสีแก้วสัจจา
ราชิต ชูเมือง...ท้าวสิงหล
สมาน คัมภีร์...นนทยักษ์
สมชาย ปาตัน..ท้าวรณพักตร์
ณรงค์ พุทธโกษา...พระอินทร์
พระราชาธรรมิก
พระมเหสีแก้วสัจจา
นี่คือภาพนางสนมทั้ง 7
คุณลุงสมาน คัมภีร์ท่านเป็นผู้กำกับและร่วมแสดงเป็นนนทยักษ์ด้วย
พระอินทร์
เทวดามาตุลี
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของไชยเชษฐ์ 2527
พระเอกไม่ต้องเป็นเด็กก่อนแต่ให้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ก่อนหน้านั้นมีหนังทีวีแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ 3 เรื่องคือสี่ยอดกุมาร สิงหไกรภพ ขวานฟ้าหน้าดำพระเอกต้องอยู่ในวัยเด็กก่อน
หลังจากนั้นไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด จึงได้เปลี่ยนเรื่องจากที่เคยให้พระเอกต้องเป็นเด็กก่อนมาเป็นพระเอกโตเป็นหนุ่มแล้ว คงเพราะเห็นว่าแพร่ภาพตอน 3 ทุ่มดึกไป เลยเอาใจคนดูผู้ใหญ่มากกว่า อยากให้เด็กเข้านอนไว ๆ (มั้ง) หรือเพราะอยากเปลี่ยนความซ้ำซากจำเจบ้าง
แล้วเด็กดูไชยเชษฐ์ 2527 กันไหมล่ะ เด็กก็ยังดูกันอยู่นั่นล่ะ เพราะยังมีอภินิหารเหนือธรรมชาติอยู่มาก และก็ยังมีเด็กเป็นฮีโร่อยู่เช่นกัน เพราะมี "พระนารายณ์ธิเบศ" พระโอรสของนางเอกที่มาช่วยนางเอกตอนปลายเรื่อง
“ไชยเชษฐ์ 2527” แปลงเนื้อเรื่องหรือไม่
ทำตามพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าล้นกระหม่อมพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทั้งหมด ไม่ได้ดัดแปลงแต่อย่างไร
เขียนบทหน้ากอง
เห็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐหน้าบันเทิงลงข่าวเบื้องหลังให้ดูว่าคนเขียนบทเขียนบทไม่ทัน เลยไปนั่งเขียนบทเอาซะหน้ากอง โอ...พระเจ้า
ท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วงานล่ะออกดีหรือไม่ ก็เอาตัวรอดกันได้ก็แล้วกัน ถึงชื่นชมการทำงานแบบถ่ายไปออกอากาศไปของค่ายดาราวีดีโอนะครับว่าทำได้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
ดนตรีประกอบ
ผมไม่ค่อยชอบนัก เพราะมีบางช่วงเอาดนตรีไทยเดิมที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีจีนมาประกอบเรื่อง ทำให้ได้บรรยากาศแปลก ๆ นี่หนังไทยหรือหนังจีน คนดูจะอินไหมเนี่ย ที่สำคัญ ใช้ดนตรีแนวนี้มาตั้งแต่เรื่องก่อนหน้าคือ “ขวานฟ้าหน้าดำ 2527” มาแล้วด้วย
นางเอกสวยหวานมาก ทำให้ใคร ๆ ก็อยากดูไชยเชษฐ์ 2527
ผุสรัตน์ ดารานางเอกใหม่ซึ่งสวยหวานน่ารัก เพียงแต่ตัวเล็กไปนิด ที่นางเอกต้องตัวเล็กก็เพราะเป็นนโยบายของคุณไพรัช สังวริบุตร เจ้าของบริษัทดาราวีดีโอที่ต้องการได้นางเอกตัวเล็ก ๆ บอบบาง เพราะเวลาโดนรังแกจากนางร้ายคนดูจะได้สงสาร ดังนั้นนางเอกในสังกัดดาราฟิล์มหรือดาราวีดีโอก็เลยตัวเล็กมาตลอด มาผิดสูตรตอนเรื่อง “สี่ยอดกุมารปี 2526” เพราะได้คุณศิรินภา สว่างล้ำ Miss Asia Pacific มาเล่นเป็นเจ้าหญิงปทุมมา แต่อย่างว่าละนางงามก็ตัวสูงมากนะ สูงตั้ง 165 เลยสูงเกือบเท่ากับพระเอกซึ่งก็คือพี่อ๋อย ศุภชัย เธียรอนันต์ พอโดนนางร้ายคือพี่หม่อม รุจิเรข พัตระเกษตริน ซึ่งสูงแค่ 150 นิด ๆ ไปรังแก คนดูเลยไม่อิน เพราะสงสารนางร้ายมากกว่า ก็เพราะนางร้ายตัวเล็กนิดเดียว
พอมาเรื่องขวานฟ้าหน้าดำ ไชยเชษฐ์ คุณไพรัชก็เลยหานางเอกใหม่ที่ตัวเล็ก ๆ จะได้น่าสงสารตามนโยบายของบริษัทอีกครั้ง ก็เลยได้พี่นิค ผุสรัตน์ ดารานี่ล่ะมาแสดง ตัวเล็กสมใจมาก ๆ เลย
มาอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณผสรัตน์ ดารากันครับ
ไชยเชษฐ์ 2527 ประสบความสำเร็จแค่ไหน
ปี 2526 ดาราวีดีโอประสบความสำเร็จในการสร้าง “สี่ยอดกุมาร” มากเป็นการปลุกกระแสจักร ๆ วงศ์ ๆ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากซบเซาจากเรื่อง “นกกระจาบ”
เพราะ“สี่ยอดกุมาร 2526” มีเทคนิคแปลกใหม่ มหัศจรรย์ที่วงการบันเทิงสมัยนั้นทั้งหนังใหญ่ฉายโรง หนังทีวี และละครทีวีไม่เคยมีมาก่อน ทั้งฉากนกยักษ์ถล่มเมือง ฉากยักษ์ปรากฏตัวบนจอ ฉากเหาะ ซึ่งใช้การซ้อนภาพบลูสกรีน เป็นสิ่งแปลกใหม่ของวงการบันเทิงสมัยนั้น จน “สี่ยอดกุมาร 2526 “ ได้รับฉายาว่าลิเกอวกาศ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมวัยเด็ก จนถึงกลับไม่หลับไม่นอน ไม่ทำการบ้าน อ่านหนังสือ รวมทั้งเจ้าของกระทู้ด้วยก็คลั่งไคล้มาก
พอ “สี่ยอดกุมาร 2526” ประสบความสำเร็จ ก็ทำให้มีหนังทีวีแนวที่พระเอกต้องเป็นเด็กก่อนมาอีก 2 เรื่องคือ “สิงหไกรภพ 2526” และ “ขวานฟ้าหน้าดำ 2527 “ เรียกว่าโฆษณาเข้าเต็มตลอด ทั้งหมดที่กล่าวมาเลยทำให้บารมีเผื่อแผ่มาถึง “ไชยเชษฐ์ 2527” ด้วย
และที่สำคัญยังนำพระเอก “สุริยา ชินพันธ์” พระเอกจาก “สิงหไกรภพ 2526” มาประกบกับ “ผุสรัตน์ ดารา” นางเอกจาก “ขวานฟ้าหน้าดำ 2527” ด้วยคนยิ่งอยากชมกัน
จึงขอบอกว่า “ไชยเชษฐ์ 2527” ประสบความสำเร็จมาก แม้จะไม่มากเท่า สี่ยอดกุมาร สิงหไกรภพ ขวานฟ้าหน้าดำที่แพร่ภาพก่อนหน้าก็ตาม
เพราะเรื่องไชยเชษฐ์ทำให้ผมอยากสร้างหนังบ้าง
ตอนนั้นยังเด็ก ๆ อยู่เรียนม.ต้น พอได้ชมไชยเชษฐ์ ผมก็เลยขอยืมกล้องวีดีโอของพ่อ ซึ่งเป็นกล้อง VHS ตัวใหญ่มาก ไปถ่ายหนังสั้นของนักเรียนกันในป่า บางทีก็ไปถ่ายช่วงตอนฝนตกด้วย เพราะจะได้มีลมพายุพัดเหมือนในหนัง ผมจะเอาเพื่อน ๆ และน้อง ๆ มาแสดงเป็นพระเอกนางเอก มาเล่นเป็นยักษ์ เป็น เทวดา น่าเสียดายนะไม่ได้อยู่กรุงเทพ ฯ ไม่อย่างนั้นจะตามไปช่วยกำกับที่กองถ่าย “ไชยเชษฐ์” ซะหน่อย แต่อย่างว่าละเด็กต่างจังหวัดโอกาสจะทำอะไรไม่มีเล้ยยยยย
ตอนนั้นยังขำไม่หายผมกับเพื่อนได้ถ่ายหนังสั้นเรื่อง “เจ้าหญิงกุนเชียง” ด้วย เพราะแม่ของเพื่อนคนหนึ่งชื่อประหลาดมากแกชื่อว่า “กุนเชียง” ก็เลยเอาทำหนังล้อเลียนกันสนุกสนาน
เบื้องหลังการถ่ายทำ
นางเอกไชยเชษฐ์ถ่ายปฏิทินแม่โขง
คิดแล้วคิดอีกว่าจะเขียนถึงเรื่องนี้ดีไหม เพราะก็ไม่อยากรื้อฟื้น เนื่องจากนางเอกก็มีครอบครัวไปแล้ว แต่ไม่เขียนก็กลัวจะตกเกร็ดตรงนี้ไป เขียนถึงหน่อยก็ดี เพราะอยากให้เห็นความแตกต่างของบริบทสังคมของคำว่า “นางเอก” สมัย 31 ปีก่อน กับนางเอกในปัจจุบัน
พอจบไชยเชษฐ์ นางเอกของเรื่องก็กำลังจะมีละครเรื่องใหม่คือ “บ้านสอยดาว” 2527 (บ้านสอยดาวนี้เป็นละครโทรทัศน์นะครับ) ก็มีข่าวฮือฮาว่าเธอไปถ่ายปฎิทินแม่โขงต้อนรับปี 2528 เปลือยอกหมด ด้วยเงินค่าจ้างถ่าย 200,000 บาท เธอบอกว่าจะเอาเงินไปรักษาพ่อที่เป็นมะเร็ง
สมัยเมื่อ 31 ปีก่อนเงิน 200,000บาทมีค่ามหาศาลเลยนะครับ เพราะเห็นว่าค่าตัวดาราที่แสดงหนังทีวีหลังข่าวช่อง 7 ได้ตอนละ 1,500 บาทเอง (ความยาวตอนละ 1 ชั่วโมง) เทียบค่าของเงินปัจจุบันก็ประมาณ 6,000-7,000 บาท
เรื่องนี้เป็นข่าวดังมากตลอดปีเลยทีเดียว ก็เพราะบริบทสังคมบันเทิงในสมัยนั้นนางเอกต้องเรียบร้อยทั้งในจอนอกจอ แต่งตัวมิดชิด โดยเฉพาะนางเอกที่ภาพในจอสนิมสร้อยเรียบร้อยเจ้าน้ำตา ผู้ชมก็มักจะคาดหวังสูง แล้วใครจะคาดคิดล่ะว่าเธอจะกล้ามาถ่ายปฏิทิน ไม่เป็นข่าวดังก็ให้รู้ไป
ส่วนภาพจากปฎิทินไม่ขอนำมาโพสนะครับ
________________________________________________
เครดิต
หนังสือเฉพาะกิจเรื่องย่อไชยเชษฐ์ สำนักพิมพ์จินดาสาส์น
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B9%8C
คุณ sos4lt เพลงไตเติล
________________________________________________
ถ้าชอบกระทู้แนวนี้ช่วยกดโหวต + หรือถูกใจด้วยนะครับ ผมจะได้นำมาเขียนอีก เพราะทราบว่ามีคนชอบอ่านครับ