กองโจรกลับใจ (๕) ๑๑ ก.ย.๕๘

กระทู้สนทนา
ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ

กองโจรกลับใจ

ตอนที่ ๕ น้ำตาคนพาล

"เล่าเซี่ยงชุน"

เมื่อบุ้นฮวนเจียง ถือหนังสือรับสั่งของพระเจ้าซ้องฮุยจงฮ่องเต้ มาถึงเมืองจีจิวนั้น กอกิว หรือกอไทอวย แม่ทัพใหญ่ของเมืองตังเกีย กำลังมีความทุกข์อยู่ ด้วยพ่ายแพ้แก่กองโจรเขาเนียซัวเปาะมาถึงสองครั้ง กำลังหาทางจะแก้แค้น เมื่อได้รับแจ้งก็ขึ้นม้าพาทหารออกไปรับข้าหลวง เข้ามาพักในเมืองด้วยความยินดี เพราะนึกว่าจะมาช่วยคิดการศึก

แต่บุ้นฮวนเจียงบอกว่าพระเจ้าซ้องฮุยจงโปรดให้ยกโทษ ซ้องกั๋ง และพรรคพวกเขาเนียซัวเปาะเสีย กอกิวจึงขอร้องว่า

"....ท่านจะอนุเคราะห์เราจริงแล้ว จงงดหนังสือไว้อย่าให้ซ้องกั๋งรู้ความ ท่านกับเราช่วยกันคิดจับซ้องกั๋งกับ โงวหยง ฆ่าเสียก่อน ท่านจะสงเคราะห์ได้หรือไม่....."

บุ้นฮวนเจียงก็ว่า

".....ท่านเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ควรจะเป็นที่พึ่งแก่ขุนนางผู้น้อยและราษฎร พระเจ้าซ้องฮุยจงก็ทรงนับถือวางพระทัย ให้เป็นแม่ทัพออกมาปราบปรามศัตรูอันเป็นเสี้ยนหนามแผ่นดิน ท่านแต่งทหารออกมารบหลายครั้งก็ไม่ได้ชัยชนะ จึงทรงเห็นว่าพวกโจรมีฝีมือเข้มแข็ง จะตั้งรบขับเคี่ยวเอาชัยชนะนั้นยาก แม่ทัพนายทหารและราษฎรก็จะได้รับความลำบากเดือดร้อน จึงได้โปรดให้มีหนังสือมาเกลี้ยกล่อมแต่โดยดี หวังมิให้มีการศึกต่อไป ควรที่ท่านกับทหารทั้งปวงจะสรรญเสริญ พระคุณเจ้าแผ่นดิน ซึ่งท่านจะให้ปิดหนังสือแลแปลงข้อความเสียนั้น ไม่สมควรกับทรงเมตตาชุบเลี้ยง ถึงท่านทำการมีชัยชนะสมความคิด คุณกับโทษก็พอจะกลบลบกัน แม้การไม่สมคิดท่านกับข้าพเจ้าก็จะมีความผิดเสมอโทษกบฏ เชิญท่านตรึกตรองการหน้าและหลังให้ตลอดเสียก่อน....."

กอกิวได้ฟังข้าหลวงชี้แจงอย่างยืดยาวดังนั้นก็โกรธ แต่ได้เก็บเอาไว้ในใจ แล้วไปปรึกษากับ อ้องกึน กรมการผู้ใหญ่เมืองจีจิว ออกอุบายให้เรียกตัวซ้องกั๋งมาฟังหนังสือที่หน้าเชิงเทินเมืองจีจิว แทนที่จะเอาไปส่งให้ที่เขาเนียซัวเปาะดังครั้งก่อน แล้วส่งคนไปแจ้งให้ซ้องกั๋งทราบ

ซ้องกั๋งปรึกษากับโงวหยง ว่ากอกิวให้เข้าไปฟังหนังสือรับสั่ง ที่หน้าเชิงเทินเมืองจีจิว นั้น จะเห็นประการใด โงวหยงก็ว่า

".....การครั้งนี้จะว่าจริงก็ได้ จะว่าอุบายก็เป็น ควรที่ท่านจะเข้าไปฟังหนังสือให้รู้ว่าร้ายหรือดี แต่จะต้องเตรียมทหารไปด้วย เกลือกมีเหตุจะได้ช่วยแก้ไขกัน...."
แล้วโงวหยงก็สั่งให้พี่น้องทหารเอกหกคน คุมทหารม้าพันหนึ่งไปซุ่มอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองจีจิว ให้อีกห้าคนคุมพลเดินเท้าพันหนึ่ง ไปซุ่มทางทิศตะวันตก ถ้าได้ยินเสียงประทัดสัญญาณ ให้เร่งยกมาช่วยโดยเร็ว

ซ้องกั๋งกับโงวหยงและนายทหารเอกทั้งหลาย ก็แต่งตัวสวมเกราะ ถืออาวุธประจำตัว ขึ้นม้าเป็นขบวนยกมาเมืองจีจิว ให้พวกทหารเรืออยู่รักษาค่าย ครั้นมาถึงหน้าเชิงเทินห่างประมาณ สองลี้ ก็กระจายออกเป็นหน้ากระดานสองแถว

ซ้องกั๋งกับโงวหยงออกไปยืนม้าอยู่หน้าพลพรรคทั้งปวง แล้วยกมือขึ้นคำนับพร้อมกัน

ทางฝ่ายในเมืองนั้นมีทหารรักษาหน้าที่เต็มเชิงเทิน ตรงกลางตั้งเก้าอี้มีธงประจำแผ่นดินปักไว้ และแต่งโต๊ะบูชาไว้หลายที่ มีทหารยืนตามตำแหน่ง ทำเหมือนพระเจ้าแผ่นดินออกว่าราชการ กอกิวเห็นซ้องกั๋งกับพวกแต่งตัวสง่าเหมือนออกศึก ก็ให้ทหารออกมาบอกให้ถอดเสื้อเกราะและวางอาวุธ เข้ามาคำนับถึงเชิงกำแพง

ซ้องกั๋งก็ให้ ไตจง ทหารเอกไปแจ้งแก่กอกิวว่า

"...การซึ่งมีหนังสือมานั้นจะเท็จจริงประการใดไม่ทราบ เป็นแต่คำคนใช้ไปบอก ถ้าเป็นหนังสือรับสั่งแน่แล้ว ก็จะจัดการแต่งรับคำนับตามธรรมเนียม ประการหนึ่งจะให้เรากับทหารเข้าไปคำนับ หนังสือถึงเชิงกำแพงแล้ว ขอท่านผู้มีอำนาจได้หาตัวกรมการและราษฎรที่มีอายุมาพร้อมกันจะได้เป็นสักขีพยานด้วยกันทั้งสองฝ่าย ตัวเราและทหารจะลงจากม้า วางอาวุธ ถอดเสื้อเกราะ เข้าไปคำนับฟังหนังสือ ถึงเชิงกำแพงเมืองไม่ขัดขืน....."

กอกิวจึงแจ้งให้นายอำเภอไปเป่าร้องราษฎรที่มีอายุ มาประชุมพร้อมกันอยู่บนเชิงเทิน แล้วให้ไตจงกลับมาบอกแก่ซ้องกั๋งรีบเข้ามาโดยเร็ว ซ้องกั๋งก็นัดกับทหารทั้งปวงให้ตีกลองเป็นสำคัญ นัดแรกนั้นทั้งหมดลงจากหลังม้า นัดที่สองวางอาวุธถอดเสื้อเกราะออกกองไว้ นัดที่สามพนมมือเดินเข้าไปพร้อมกันจนถึงเชิงกำแพง ตรงกับธงประจำแผ่นดิน แล้วคุกเข่าก้มศรีษะลงคำนับ คอยฟังหนังสือรับสั่ง

กอกิวเห็นดังนั้นก็หยิบหนังสือให้เจ้าพนักงานอ่าน ตามที่ได้ซักซ้อมไว้แล้ว ซึ่งมีข้อความในตอนท้ายว่า

"....ถ้าซ้องกั๋งกับพวกจะสมัครเข้าไปเป็นข้าราชการ ก็จะชุบเลี้ยงแต่งตั้งตามสมควรแก่คุณวิชา มิได้มีความรังเกียจ ถ้าไม่สมัครเข้าทำราชการในเมืองหลวงแล้ว ให้แยกย้ายกันไปทำมาหากินตามภูมิลำเนาของตัว ถ้าขัดสนด้วยเงินทุน หรือที่อยู่ไร่นาเรือกสวน ก็ให้มาบอกแก่เจ้าพนักงานกราบทูลให้ทราบ จะโปรดพระราชทานให้โดยสมควร ห้ามอย่าให้ซ่องสุมกันเป็นโจร เที่ยวตีชิงเบียดเบียน อาณาประชาราษฎรให้ได้รับความเดือดร้อน ถ้าซ้องกั๋งกับพวกมีชื่อนับถือพระเจ้าแผ่นดินโดยสุจริต จงทำสัตย์สาบานให้แม่ทัพนายทหารและผู้ถือหนังสือรู้เห็นเป็นพยาน แล้วให้กอกิวเลิกทัพกลับเข้าไปเมืองหลวง....."

แต่ผู้อ่านได้แปลข้อความ ตามที่กอกิวแก้ไขว่า

".....บรรดาพวกพ้องซ้องกั๋งนั้นโปรดยกโทษให้ แต่ตัวซ้องกั๋งต้นเหตุนั้น ให้กอกิวพาตัวเข้าไปเฝ้า ณ เมืองหลวง....."

โงวหยงได้ฟังก็เข้าใจในอุบายของกอกิว จึงพยักหน้าให้แก่ ฮวยหยง ผู้เชี่ยวชาญ เกาทัณฑ์ ฮวยหยงก็ร้องว่าไม่ยอมให้ซ้องกั๋งไป แล้วชักเกาทัณฑ์ที่ซ่อนไว้ยิงไปถูกคนอ่านหนังสือตกจากเก้าอี้

ซ้องกั๋งกับพวกก็รีบกลับมาขึ้นม้าพร้อมกัน โดยให้นายทหารข้างหลังยิงเกาทัณฑ์ขึ้นไปบนเชิงเทินเป็นอันมาก ป้องกันทหารบนเชิงเทินทำร้ายแก่พวกซ้องกั๋ง

กอกิวก็พาทหารออกจากเมืองตามตีซ้องกั๋งกับพวก โงวหยงก็จุดประทัดขึ้นเป็นสัญญาณ ให้กองโจรที่ซุ่มอยู่ ออกมารบกระหนาบกอกิวไว้ พวกโจรฆ่าฟันทหารเมืองตังเกียล้มตายไปประมาณสามส่วน กอกิวจึงต้องล่าถอยกลับเข้าเมืองไป

แล้วกอกิวก็ทำหนังสือกราบทูล กล่าวโทษซ้องกั๋งว่า

".......ซ้องกั๋ง โงวหยงไม่นับถือเชื่อฟังและเกรงพระราชอาญา ให้ฮวยหยงพูดท้าทายด้วยคำหยาบต่าง ๆ เอาเกาทัณฑ์ยิงคนอ่านหนังสือถึงแก่ความตาย แล้วไล่ฆ่าฟันทหารรักษาหน้าที่ และคน ประ จำการตายเสียหลายพัน ข้าพเจ้ายกทหารรออกสู้รบ ฆ่าพวกซ้องกั๋งตายลงเป็นอันมาก ซ้องกั๋งกับพวกจึงหนีกลับไปค่ายเขาเนียซัวเปาะ....."

และมีหนังสือลับไปถึง ชัวเกีย กับ ท่องกวน พรรคพวกกังฉิน ให้ช่วยกราบทูลขอกองทัพไปเพิ่มเติมเพราะจะต้องทำศึกเป็นแรมปี พระเจ้าซ้องยินจงทรงเชื่อตามหนังสือของกอกิว จึงมีรับสั่งให้นายทหารเอกสองนาย คุมทหารยี่สิบหมื่นมาช่วยกอกิวตามคำขอ

กอกิวจึงร่วมคิดกับบุ้นฮวนเจียง หาช่างมีฝีมือมาต่อเรือรบขนาดใหญ่ห้าร้อยลำ ตัวเรือนั้นหุ้มด้วยทองแดงเป็นเรือมีจักรกล กราบทั้งสองข้างมีกระดานเสริมเป็นเชิงเทิน หน้าเรือและท้ายเรือเป็นป้อม เจาะช่องสำหรับให้ ทหาร ยิงเกาทัณฑ์ออกไปได้ ด้านบนเป็นดาดฟ้าสองชั้น สูบน้ำขังไว้ชั้นบนกันข้าศึกทิ้งเพลิง เรือจะได้ไม่ไหม้ ชั้นล่างให้คนหมุนจักรสองข้าง ๆ ละ ยี่สิบคน มีลูกเรือลำละสองร้อยคน

ฝ่ายซ้องกั๋งกับโงวหยงรู้ข่าว จึงส่งพรรคพวกปลอมเข้าไป เป็นลูกมือต่อเรือสองคน ได้ช่วยทำงานอยู่ประมาณเดือนเศษ พอคุ้นเคยกับพื้นที่ตั้งโรงต่อเรือแล้ว ก็ลอบวางเพลิงเผาโรง ต่อเรือ ให้เกิดวุ่นวายขึ้น และส่งกองโจรเข้าไปป้องกันไม่ให้ทหารหลวงเข้าไปดับเพลิงได้ เพลิงจึงไหม้เรือที่ยังต่อไม่เสร็จเสียหายใช้การไม่ได้ถึงร้อยลำ เหลือพอซ่อมได้ยี่สิบลำ แต่กอกิวก็สั่งให้ดำเนินการต่อไปให้สำเร็จจนได้

ครั้นการต่อเรือสำเร็จเรียบร้อยตามแผนแล้ว กอกิวก็จัดกองทัพเรือให้กองหน้าสามสิบลำมีพลลำละพันยกไปก่อน กองหนุนมีเรือห้าสิบลำพลลำละห้าร้อย ส่วนกองหลวงนั้น กอกิวเป็นแม่ทัพ บุ้นฮวนเจียงเป็นที่ปรึกษา มีเรือสี่ร้อยยี่สิบลำ ยกออกจากหน้าเมืองจีจิวไปยังเขาเนียซัวเปาะ

ฝ่ายโงวหยงจัดกองเรือเล็กมากมาย มีพลลำละสี่ห้าคน จัดทหารเอกที่ดำน้ำได้นานสิบสามนาย พลทหารสามหมื่นเศษ แยกออกเป็นสี่กอง เข้าล้อมกองทัพเรือของกอกิวไว้ทั้งหน้าหลัง เหมือนกับหมู่มดห้อมล้อมตอมน้ำอ้อย

กอกิวให้ทหารระดมยิงด้วยเกาทัณฑ์เป็นห่าฝน แต่ทหารกองโจรคอยหลอกล่อ เดี๋ยวหนีเดี๋ยวเข้ามาใหม่มิได้แตกพ่ายไป ในขณะที่ต่อสู้กันบนผิวน้ำ พวกโจรนักประดาน้ำของเขาเนียซัวเปาะ ก็พากันดำน้ำเข้าไปถึงใต้ท้องเรือหลวง ใช้สิ่วและบิดหล่าเจาะท้องเรือแนวหมันยาเรือทะลุหมดทุกลำ น้ำก็เข้าเรือท่วมไปจนถึงดาดฟ้า

กอกิวกับบุ้นฮวนเจียงเห็นว่าเรือจะจมแน่ จึงหาทางโดดน้ำหนี ฝ่ายเนียซัวเปาะก็ปีนขึ้นไปบนเรืออาสาพาลงเรือเล็กหนี ทั้งสองคิดว่าเป็นทหารของตน จึงเข้าไปหา นายโจรทั้งสองคือ เตียสุน กับ เตียหวย ก็ฉุดมือกอกิวกับบุ้นฮวนเจียง โดดลงน้ำแล้วกอดไว้แน่น พาว่ายน้ำไปประมาณสองลี้ก็ถึงฝั่ง แม่ทัพหลวงกับที่ปรึกษาก็หมดกำลังนอนสลบไป

พวกลูกเรือหลวงทั้งหลายก็โดดน้ำตามนาย และถูกฆ่าตายไปเสียมากต่อมาก กองทัพเรือของเมืองจีจิวก็จมน้ำลงไปเกือบหมด ที่เหลือแตกพ่ายไปไม่เป็นขบวน

เตียหวยนั้นคิดจะตัดศรีษะ กอกิวกับบุ้นฮวนเจียง เอาไปให้ซ้องกั๋ง แต่ เตียสุนท้วงว่า

".....เจ้าจะทำหุนหันนั้นไม่ได้จะเสียการ ด้วยกอกิวเป็นที่กอไทอวยขุนนางผู้ใหญ่ในพระเจ้าซ้องฮุยจง ตัวเราและเจ้ามีบรรดาศักดิ์ต่ำไม่ควรทำอันตรายแก่เขาให้ถึงชีวิต ประการหนึ่งซ้องกั๋งผู้พี่ของเรา ไม่ได้คิดประทุษร้ายต่อแผ่นดิน สมัครจะเข้าไปเป็นข้าราชการอยู่ในเมืองหลวง ถ้าเราทำอันตรายแก่กอกิว พระเจ้าซ้องฮุยจงก็จะเห็นว่าพี่เราเป็นกบฏ....."

ทั้งสองจึงช่วยกันแก้ไขให้ฟื้นคืนสติ แล้วคุมตัวไปขังไว้ กอกิวก็ปรารภกับบุ้นฮวนเจียงว่า

".....ตัวเราและท่านคราวนี้ ไม่ได้กลับไปเห็นหน้าบุตรภรรยาอีกแล้ว จะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ในเขาเนียซัวเปาะเป็นแน่....."

พูดแล้วก็ร้องไห้ น้ำตาไหลลงอาบหน้า บุ้นฮวนเจียงเห็นกอกิวมีความโศกเศร้าเสียใจ จนไม่มีสติที่จะคิดแก้ไขก็ได้แต่เวทนา เพราะไม่รู้ว่าทั้งกอกิวและตนเอง จะมีชีวิตรอดจากเขาเนียซัวเปาะกลับไปเมืองตังเกียได้อย่างไรเหมือนกัน.

##########
นิตยสารโล่เงิน
สิงหาคม ๒๕๔๒
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่