ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวว่าจะไปประจวบคีรีขันธ์ แค่อยากจะนั่งรถไฟเล่น ก็รีบออกจากบ้านแต่เช้ามืด มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟกรุงเทพ
ที่คิดไว้ตอนแรกก็ตั้งใจจะไป รถเร็ว ข. 111 ไปลงไหนยังไม่แน่ อาจจะ ลพบุรี หรือ ตะพานหิน หรือ พิษณุโลก
ส่วนขากลับก็แล้วแต่สถานการณ์ รถไฟขบวนไหนผ่านมาก็กลับขบวนนั้น สบายๆ ชีวิตไม่เร่งรีบ
แต่เกิดไปเปลี่ยนใจที่สถานีกรุงเทพ ก่อนจะซื้อตั๋ว ไม่ไป รถเร็ว ข.111 แล้ว แต่จะไป รถด่วนพิเศษ ข.43
รถด่วนพิเศษ ข.43 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี แต่ผมซื้อตั๋วลงแค่ประจวบคีรีขันธ์
ถ้ารถไม่เสียเวลา ผมจะมีเวลาอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ประมาณสองชั่วโมงครึ่ง แล้วกลับรถด่วนพิเศษ ข.40 เข้ากรุงเทพ
ได้ตั๋วรถด่วนพิเศษ ข.43 เรียบร้อยแล้วครับ
ตอนที่ซื้อตั๋วเพิ่งจะ 07.15 รถไฟออก 08.05 พอมีเวลานั่งกินกาแฟที่สถานีกรุงเทพได้สักแก้วหนึ่ง
แน่นอน ร้านเดิม ที่นี่ไม่มีตัวเลือกมากไปกว่านี้
ใกล้จะได้เวลารถออก ผมก็เดินไปขึ้นรถ สบายๆ สัมภาระไม่มี ก็แค่ไปเช้าเย็นกลับ
กล้องถ่ายรูปก็ไม่ได้เอาไป อาศัยถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ
รถด่วนพิเศษ ข.43 วันนี้พ่วงดีเซลราง 3 คัน เหมือนปกติ ผมได้คันที่ 3 คันสุดท้าย กซขป.2517 แต่เปลี่ยนเบาะใหม่แล้ว นั่งสบายขึ้น
ปรับเอนนอนได้มากขึ้น ภายในรถนอกจากสภาพใหม่แล้ว ยังดูสะอาดสะอ้านดีมาก
นั่งดูวิวเพลินๆ ช่วงทางคู่ กรุงเทพ-นครปฐม ยังไม่มีอะไรตื่นเต้น ข.36 สวนทางไปแล้ว
ตอนออกจากสถานีนครปฐมจะเป็นทางเดี่ยว ตอนนี้ได้อารมณ์มาก นั่งลุ้นว่าจะหลีกขบวนไหนที่สถานีอะไร
เสน่ห์ของรถไฟอีกอย่างหนึ่งก็ตือ "การรอหลีก" นี่แหละครับ ยิ่งถ้าเป็นฝ่ายรอหลีกด้วยแล้ว นับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
โชคดี ที่วันนี้ ข.43 ได้เข้าราง 2 เป็นฝ่ายรอหลีกถึง 3 ครั้ง
รอหลีก ข.170 สถานีโพรงมะเดื่อ รอหลีก ข.172 สถานีเจ็ดเสมียน รอหลีก ข.36 สถานีบางจาก
รถด่วนพิเศษ ข.43 พาผมมาถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์ ช้า 30 นาที
แสดงว่าผมจะมีเวลาอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์เพียงสองชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับกับรถด่วนพิเศษ ข.40
แล้วเวลาที่ผมมีอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จะไปไหนดี สถานที่แรกที่นึกถึงคือ "เขาช่องกระจก"
ไม่ต้องนั่งสามล้อเครื่องครับ เดินไปก็ได้ แค่นี้เอง ไปมาหลายครั้งแล้ว และก็เดินไปทุกครั้ง แดดที่ร้อนพอสมควรไม่เป็นอุปสรรค
บันได 396 ขึ้นเขาช่องกระจก ยังรอท้ายให้ผมปีนขึ้นไป
ผมขึ้นมาเป็นสิบครั้งก็ออกอาการอ่อนล้าทุกครั้ง ยิ่งวัยที่เพิ่มขึ้น สังขารที่ร่วงโรยลง
วันนี้จะเป็นอย่างไร ต้องลองดู ไม่งั้นไม่รู้ ถือเป็นการพิสูจน์กำลังขาของตัวเองไปด้วย
แล้วผมก็ขึ้นมาจนถึงยอดเขาช่องกระจก เดินบ้าง พักบ้าง ตามประสาของคนสูงวัย
ชมวิวทะเลเมืองสามอ่าว อ่าวน้อย-อ่าวประจวบ-อ่าวมะนาว ยังสวยและมีเสน่ห์เหมือนเดิม ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด
นั่งชมวิวอยู่นานพอสมควร นั่งเล่นกับลิงอยู่พักใหญ่ๆ ก็ตะเกียกตะกายลงมาจากเขาช่องกระจก
มานั่งกินกาแฟเย็น ที่ปั๊ม ปตท. ข้างธนาคาร ธกส.สาขาประจวบคีรีขันธ์ อาศัยเข้าห้องน้ำ อาศัยนั่งกินกาแฟห้องแอร์ ได้ผ้าเย็นที่ร้าน 7-11 เช็ดหน้าเช็ดตา รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้มากมายก่ายกอง
นั่งอยู่ในห้องแอร์ที่ร้านกาแฟ ไม่รู้ว่าท้องฟ้ามืดครึ้ม ก้อนเมฆดำทะมึน
ที่สำคัญที่สุดคือผมลืมดูเวลา ผมจะไปสถานีทันรถไฟไหมนี่
มองหารถสามล้อเครื่องก็ไม่มี มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ไม่มี ก็เดินซีครับ รีบจ้ำอ้าวๆๆเลย
สถานะของผมนั้นคือ "ตกรถไฟ"
ได้ยินเสียงประกาศ เสียงระฆัง เสียงหวูดรถไฟ ตั้งแต่ผมยังเดินมาไม่ถึงสถานี
งง..งง เอาไงดี จะนั่งรถทัวร์กลับก็ไม่ทันแล้ว เดี๋ยวนี้รถทัวร์ประจวบมีวิ่งแค่วันละ 4 เที่ยว 01.00 09.00 11.00 15.00
ส่วนรถตู้มีเยอะ ออกทุกๆหนึ่งชั่วโมง มีทั้งปลายทางปิ่นเกล้า ปลายทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสถานีขนส่งหมอชิต
แต่ผมไม่อยากนั่งรถตู้ ผมอยากนั่งรถไฟกลับกรุงเทพ
ประจวบคีรีขันธ์ แค่ขึ้นเขาช่องกระจก เดินเล่นริมทะเล ก็สุดยอดแล้ว
ที่คิดไว้ตอนแรกก็ตั้งใจจะไป รถเร็ว ข. 111 ไปลงไหนยังไม่แน่ อาจจะ ลพบุรี หรือ ตะพานหิน หรือ พิษณุโลก
ส่วนขากลับก็แล้วแต่สถานการณ์ รถไฟขบวนไหนผ่านมาก็กลับขบวนนั้น สบายๆ ชีวิตไม่เร่งรีบ
แต่เกิดไปเปลี่ยนใจที่สถานีกรุงเทพ ก่อนจะซื้อตั๋ว ไม่ไป รถเร็ว ข.111 แล้ว แต่จะไป รถด่วนพิเศษ ข.43
รถด่วนพิเศษ ข.43 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี แต่ผมซื้อตั๋วลงแค่ประจวบคีรีขันธ์
ถ้ารถไม่เสียเวลา ผมจะมีเวลาอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ประมาณสองชั่วโมงครึ่ง แล้วกลับรถด่วนพิเศษ ข.40 เข้ากรุงเทพ
ได้ตั๋วรถด่วนพิเศษ ข.43 เรียบร้อยแล้วครับ
ตอนที่ซื้อตั๋วเพิ่งจะ 07.15 รถไฟออก 08.05 พอมีเวลานั่งกินกาแฟที่สถานีกรุงเทพได้สักแก้วหนึ่ง
แน่นอน ร้านเดิม ที่นี่ไม่มีตัวเลือกมากไปกว่านี้
ใกล้จะได้เวลารถออก ผมก็เดินไปขึ้นรถ สบายๆ สัมภาระไม่มี ก็แค่ไปเช้าเย็นกลับ
กล้องถ่ายรูปก็ไม่ได้เอาไป อาศัยถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ
รถด่วนพิเศษ ข.43 วันนี้พ่วงดีเซลราง 3 คัน เหมือนปกติ ผมได้คันที่ 3 คันสุดท้าย กซขป.2517 แต่เปลี่ยนเบาะใหม่แล้ว นั่งสบายขึ้น
ปรับเอนนอนได้มากขึ้น ภายในรถนอกจากสภาพใหม่แล้ว ยังดูสะอาดสะอ้านดีมาก
นั่งดูวิวเพลินๆ ช่วงทางคู่ กรุงเทพ-นครปฐม ยังไม่มีอะไรตื่นเต้น ข.36 สวนทางไปแล้ว
ตอนออกจากสถานีนครปฐมจะเป็นทางเดี่ยว ตอนนี้ได้อารมณ์มาก นั่งลุ้นว่าจะหลีกขบวนไหนที่สถานีอะไร
เสน่ห์ของรถไฟอีกอย่างหนึ่งก็ตือ "การรอหลีก" นี่แหละครับ ยิ่งถ้าเป็นฝ่ายรอหลีกด้วยแล้ว นับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
โชคดี ที่วันนี้ ข.43 ได้เข้าราง 2 เป็นฝ่ายรอหลีกถึง 3 ครั้ง
รอหลีก ข.170 สถานีโพรงมะเดื่อ รอหลีก ข.172 สถานีเจ็ดเสมียน รอหลีก ข.36 สถานีบางจาก
รถด่วนพิเศษ ข.43 พาผมมาถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์ ช้า 30 นาที
แสดงว่าผมจะมีเวลาอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์เพียงสองชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับกับรถด่วนพิเศษ ข.40
แล้วเวลาที่ผมมีอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จะไปไหนดี สถานที่แรกที่นึกถึงคือ "เขาช่องกระจก"
ไม่ต้องนั่งสามล้อเครื่องครับ เดินไปก็ได้ แค่นี้เอง ไปมาหลายครั้งแล้ว และก็เดินไปทุกครั้ง แดดที่ร้อนพอสมควรไม่เป็นอุปสรรค
บันได 396 ขึ้นเขาช่องกระจก ยังรอท้ายให้ผมปีนขึ้นไป
ผมขึ้นมาเป็นสิบครั้งก็ออกอาการอ่อนล้าทุกครั้ง ยิ่งวัยที่เพิ่มขึ้น สังขารที่ร่วงโรยลง
วันนี้จะเป็นอย่างไร ต้องลองดู ไม่งั้นไม่รู้ ถือเป็นการพิสูจน์กำลังขาของตัวเองไปด้วย
แล้วผมก็ขึ้นมาจนถึงยอดเขาช่องกระจก เดินบ้าง พักบ้าง ตามประสาของคนสูงวัย
ชมวิวทะเลเมืองสามอ่าว อ่าวน้อย-อ่าวประจวบ-อ่าวมะนาว ยังสวยและมีเสน่ห์เหมือนเดิม ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด
นั่งชมวิวอยู่นานพอสมควร นั่งเล่นกับลิงอยู่พักใหญ่ๆ ก็ตะเกียกตะกายลงมาจากเขาช่องกระจก
มานั่งกินกาแฟเย็น ที่ปั๊ม ปตท. ข้างธนาคาร ธกส.สาขาประจวบคีรีขันธ์ อาศัยเข้าห้องน้ำ อาศัยนั่งกินกาแฟห้องแอร์ ได้ผ้าเย็นที่ร้าน 7-11 เช็ดหน้าเช็ดตา รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้มากมายก่ายกอง
นั่งอยู่ในห้องแอร์ที่ร้านกาแฟ ไม่รู้ว่าท้องฟ้ามืดครึ้ม ก้อนเมฆดำทะมึน
ที่สำคัญที่สุดคือผมลืมดูเวลา ผมจะไปสถานีทันรถไฟไหมนี่
มองหารถสามล้อเครื่องก็ไม่มี มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ไม่มี ก็เดินซีครับ รีบจ้ำอ้าวๆๆเลย
สถานะของผมนั้นคือ "ตกรถไฟ"
ได้ยินเสียงประกาศ เสียงระฆัง เสียงหวูดรถไฟ ตั้งแต่ผมยังเดินมาไม่ถึงสถานี
งง..งง เอาไงดี จะนั่งรถทัวร์กลับก็ไม่ทันแล้ว เดี๋ยวนี้รถทัวร์ประจวบมีวิ่งแค่วันละ 4 เที่ยว 01.00 09.00 11.00 15.00
ส่วนรถตู้มีเยอะ ออกทุกๆหนึ่งชั่วโมง มีทั้งปลายทางปิ่นเกล้า ปลายทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสถานีขนส่งหมอชิต
แต่ผมไม่อยากนั่งรถตู้ ผมอยากนั่งรถไฟกลับกรุงเทพ