สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ต่อให้อ้าง (หน้าด้าน ๆ )ว่าเป็นดอกเบี้ย ก็คงไม่ได้อยู่ดี
สมมุติ คุณจ่ายค่างวดเดือนนี้แล้ว เหลือต้น 500,000 ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน (ก็ 12% ต่อปีน่ะแหละ) คุณเกิดถูกหวยจึงโปะเงินไป 100,000 เงินยอดนี้ต้องหักต้น และจะเหลือต้นแค่ 400,000 เดือนหน้าจะมีดอกเบี้ยเกิดแค่ 4,000 บาท ไม่ใช่เอาเงินที่เราโปะไปกันเป็นดอกเบี้ย(บ้าบอตามที่อ้าง) เพราะถ้าทำอย่างนั้น ดอกเบี้ยจะเกิด 5,000 บาท เห็นมั้ยว่า ถ้า จขกท. คิดเผิน ๆ คงไม่เห็นว่าในความไม่มีอะไร ที่จริงมันมี (อะไรบางอย่างซ่อนอยู่) และมีมากซะด้วย
เพราะฉะนั้น การคิดเอาเงินที่เราโปะไปเป็นดอกเบี้ย (ตามที่อ้าง) น่าจะผิดปกติอย่างมาก คงต้องไปขอคำอธิบายจาก ผจก. สาขาสักหน่อย
สมมุติ คุณจ่ายค่างวดเดือนนี้แล้ว เหลือต้น 500,000 ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน (ก็ 12% ต่อปีน่ะแหละ) คุณเกิดถูกหวยจึงโปะเงินไป 100,000 เงินยอดนี้ต้องหักต้น และจะเหลือต้นแค่ 400,000 เดือนหน้าจะมีดอกเบี้ยเกิดแค่ 4,000 บาท ไม่ใช่เอาเงินที่เราโปะไปกันเป็นดอกเบี้ย(บ้าบอตามที่อ้าง) เพราะถ้าทำอย่างนั้น ดอกเบี้ยจะเกิด 5,000 บาท เห็นมั้ยว่า ถ้า จขกท. คิดเผิน ๆ คงไม่เห็นว่าในความไม่มีอะไร ที่จริงมันมี (อะไรบางอย่างซ่อนอยู่) และมีมากซะด้วย
เพราะฉะนั้น การคิดเอาเงินที่เราโปะไปเป็นดอกเบี้ย (ตามที่อ้าง) น่าจะผิดปกติอย่างมาก คงต้องไปขอคำอธิบายจาก ผจก. สาขาสักหน่อย
ความคิดเห็นที่ 37
ขอบคุณคุณ Necrolyte ครับเหมือนจะเริ่มเข้าใจนะครับ และยังสงสัยเรื่องใครได้ประโยชน์อยู่
ไม่รู้ผมเข้าใจผิดป่าว
- เงินที่จ่ายเกินไปแต่ละเดือนไม่ว่าจะวิธีไหน แยกจ่าย(เดือน8), จ่ายรวม(เดือน9)
ระบบจะไปสร้างบิลใหม่ขึ้นมาทันที ซึ่ง ณ ตอนนี้ในบิลใหม่ผมมี 10000+2600 แล้ว
ประโยชน์ สำหรับลูกค้า กรณีจ่ายไม่ตรง
- จะไม่โดนดอกเบี้ยปรับ 62 วัน + บิลใหม่ที่ผมสะสมไว้แล้ว
สำหรับลูกค้าที่จ่ายตรง และทบบางเดือน แต่ไม่เกินยอดจ่ายในสัญญา จะไม่มีประโยชน์แถมเสียประโยชน์
- เงินที่จ่ายเพิ่มไม่วิ่งไปตัดต้นในทันที ทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยที่ไม่ควรจะเสีย (ตาม คห 3)
- วิธีที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์สูงสุดคือวิ่งไปตัดต้นในทันที กรณีนี้ไปตั้งบิลใหม่ลูกค้าที่จ่ายตรงจะเสียเปรียบแบงค์ออมสิน (ถ้าเทียบกับธนาคาอื่น)
สำหรับธนาคาร
- มีเงินสำรองเพิ่มขึ้นจาก ลูกหนี้บ้านทุกคนที่จ่ายเพิ่มแบบผม จนกว่าผมจะจ่ายทบเพิ่มจนครบ 42400 ผมถึงจะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง
ไม่รู้ผมเข้าใจผิดป่าว
- เงินที่จ่ายเกินไปแต่ละเดือนไม่ว่าจะวิธีไหน แยกจ่าย(เดือน8), จ่ายรวม(เดือน9)
ระบบจะไปสร้างบิลใหม่ขึ้นมาทันที ซึ่ง ณ ตอนนี้ในบิลใหม่ผมมี 10000+2600 แล้ว
ประโยชน์ สำหรับลูกค้า กรณีจ่ายไม่ตรง
- จะไม่โดนดอกเบี้ยปรับ 62 วัน + บิลใหม่ที่ผมสะสมไว้แล้ว
สำหรับลูกค้าที่จ่ายตรง และทบบางเดือน แต่ไม่เกินยอดจ่ายในสัญญา จะไม่มีประโยชน์แถมเสียประโยชน์
- เงินที่จ่ายเพิ่มไม่วิ่งไปตัดต้นในทันที ทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยที่ไม่ควรจะเสีย (ตาม คห 3)
- วิธีที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์สูงสุดคือวิ่งไปตัดต้นในทันที กรณีนี้ไปตั้งบิลใหม่ลูกค้าที่จ่ายตรงจะเสียเปรียบแบงค์ออมสิน (ถ้าเทียบกับธนาคาอื่น)
สำหรับธนาคาร
- มีเงินสำรองเพิ่มขึ้นจาก ลูกหนี้บ้านทุกคนที่จ่ายเพิ่มแบบผม จนกว่าผมจะจ่ายทบเพิ่มจนครบ 42400 ผมถึงจะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง
แสดงความคิดเห็น
โป๊ะบ้านไป 10,000 กลายเป็นดอกเบี้ย 10,000 ต้น 0 บาท ใครมีความรู้ผ่อนบ้านกับ ออมสิน ช่วยให้ผมกระจ่างหน่อยครับ
คราวนี้มาถึงบ้านหลังนี้เป็น ออมสิน ก็ทำแบบเดิม คือจ่ายตามงวดไปก่อน ตามนี้
เสร็จแล้วมีเงินเหลือ 10,000 ก็เลยทำเหมือนที่เคยๆทำกับแบงค์อื่นคือใส่เพิ่มไป ผลออกมาเป็นดอกเบี้ย 10,000 ครับ ขยี้ตาดูไม่ผิดหวะ
ดอกเบี้ยอย่างเดียวไม่มีต้นเลยถามพนักงานไป พนักงานบอกเป็นระบบใหม่ของออมสิน คิดให้เราได้ประโยชน์สูงสุด
ผมก็เชื่อพนักงานเค้านะ ก็คิดในใจสงสัยมันไปตัดดอกเดือนหน้ามั้ง
กลับมาบ้านมาหาข้อมูลในพันทิบ อืมก็เจอคนที่งงเหมือนเราอยู่นะ แต่ของเขายังมีต้นบ้าง พออ่านแล้วเหมือนจะเข้าใจว่า
มันต้องไปหักดอกของเดือนหน้าแล้วแน่ๆ รอดูบิลเดือนหน้าแล้วกัน
(กระทู้คนที่งงเหมือนกัน http://pantip.com/topic/31176671)
พอมาถึงวันนี้ก็ไปจ่ายตรงวัน คราวนี้ไม่โป๊ะแล้วลองจ่ายจำนวนปรกติดู ว่ามันจะต่างกับเดือนก่อนๆมั้ย ปรากฎออกมา
เป็นแบบในรูปเลยคือไม่แตกต่างจากเดือนก่อน
ผมก็เลยงงในระบบใหม่ของ ออมสิน ว่าแล้วไอ้ 10000 ที่ใส่ไปเดือนที่แล้วมันไปอยู่ส่วนไหน
คือไม่ได้คิดว่าออมสินจะโกงนะครับ คิดว่าตัวเองนี่แหละไม่เข้าใจระบบมัน อยากเข้าใจครับ
จะได้รู้ว่าควรส่งแบบไหนดีที่สุด ใครพอมีความรู้ช่วยอธิบายผมหน่อยขอบคุณมากๆครับ (ดอก 4.95%)