เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อตอนอยู่ ม.5 เทอม 2 จขกท. อกหักจากเพื่อนคนนึง ก็อยู่คนละที่กันแหละอยู่คนละจังหวัดเลย เฮิร์ทหนักมาก จนเรากลายเป็นคนกลัวความรักไปเลย เวลามีคนเข้ามาคุยเชิงๆออกแนวจีบหน่อยเราก็จะปลีกตัวออกห่างทันที จนเพื่อนเราแบบไม่ลองคุยกันหน่อยหรอ อาจจะดีกว่าคนก่อนก็ได้นะ อะไรแบบนี้ แต่เราก็ไม่ เราไม่อยากเป็นแบบเดิมอีก เราไม่อยากอยู่ในภาวะอกหัก เสียใจ ไม่อยากไม่อยากไม่อยาก
มีช่วงนึงเรารู้สึกว่าเราแอบชอบคนๆนึงอยู่เป็นรุ่นพี่ค่อนข้างสนิทกัน (อันนี้ความฟินเยอะมาก ฉบับผู้ใหญ่กับเด็กน้อย จะไม่ให้เราชอบได้ไงหน้าตาก็ดี ขาวตี๋ มีกล้าม นิสัยดี ชอบเรียกเราไปช่วยงานบ่อยๆ)แต่เราก็ไม่กล้าบอกเขานะว่าเราชอบเก็บอยู่นั่นแหละ
จนกระทั่งขึ้น ม.6 เราก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกว่าเราชอบมองน้องผู้ชายคนนึงอยู่ ม.4 แต่ก็ยังไม่ได้แบบคิดอะไรนะคือก็มอง ทำไมไม่รู้รู้สึกว่าน้องเค้าเด่นจัง มองไปต้องเจออะไรแบบนี้ วันนั้นโรงเรียนจัดงานวันสุนทรภู่และวันต่อต้านยาเสพติดโลก มันก็จะมีกิจรรมแต่งตัวเป็นตัวละครอะไรแบบนี้ใช้มั้ย น้องเค้าได้แต่งตัวเป็นขุนแผนแล้วแบบเต้นเพลงแน่นอกอ่ะแกร คือเพื่อนๆนี่กร๊ดกันใหญ่เลย เราก็ยิ้มนะ น้องน่ารักดี เต้นแบบเขิน555 (ขอบอกก่อนนะว่าเพื่อนเราก็กรี๊ดน้องเค้าไรงี้ มันก็รี๊ดเฉยๆแหละ) แล้วบังเอิญ!! หลังจากที่ประกวดตัวละครเสร็จ เก้าอี้มันเหลือที่เดียวคือข้างๆเรา อร๊ายยแก อารมณ์แบบรู้สึกดีจังน้องมานั่งข้างๆ 555++เนื่องด้วยเราเป็นคนพูดเก่งเฟรนลี่ไรงี้ ก็เลยชวนคุยถามไถ่ ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก เรื่องเรียนครัช (เราเป็นคนเรียนค่อนข้างเก่งเลยล่ะ โม้แปป) น้องก็ฟังนะ อืมๆ ก็พอได้ใจความว่าน้องอยากเรียนวิดวะ เราก็แนะนำ ร่ายไปสาธยายย แต่ยอมนางมากนางก็นั่งฟังจนเราไม่มีอะไรจะพูดอ่ะนะ ขอดูเกียรติบัตรเราด้วย(เราได้เกียรติบัตร 2 ใบ ) นางก็ชมเรานะ พี่เก่งจัง อิอิ น่ารักอ่ะ
คือก็ไม่รู้ว่าทำไม เวลามองน้องเราก็รู้สึกเหมือนว่าน้องมองเรา มีวันนึง เรารอเรียนพละศึกษาก็นั่งรอข้างสนามกับเพื่อน คือเรารู้สึกเหมือนมีคนมองก็เลยหันไปก็เห็นน้องมองอยู่นะ เฮ้ยแกแบบ สบตากันพันึงแล้วน้องก็หลบตา ก้มหน้ายิ้มแล้วก็เข้าห้องเรียนไป เราก็หันไปคุยกับเพื่อน (ขอแทนตัวเองว่า L นะ แทนเพื่อนว่า P แทนน้องว่า B )
L : PP กูรู้สึกว่า B มองกู
P : มองหรอ (Pก็เงยหน้าไปตรงห้องเรียน B ) แล้วบอกว่า ไม่หรอก B น่ะหรอจะมอง ถ้าเขาจะมอง เขาต้องมองกู กูสวยกว่าเคนะ
L : อือๆ (คือเพื่อนเราเป้นคนพูดสไตล์นี้แหละ แต่เราก็ไม่ได้อะไรหรอก เราเป้นไม่มั้นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองเท่าไร เรื่องตอนนั้นก็เลยจบไป)
เป็นที่รู้กันดีว่า ช่วงต่อของอายุ ม.6 จะขึ้นมหาลัยให้ระมัดระวังการใช้ชีวิตไรงี้เนาะ คือเราก็ระวังแล้วแหละแต่ก็โดนจะได้เราขับรถชนหมาอยู่ทางโค้ง ไม่ได้ไปโรงเรียนอาทิตย์นึง พอไปโรงเรียนก็แบบกลายเป็นที่จับตามอง เดินก็มีไม้ค้ำ ลำบากมาก แล้วก็มาถึงกิจกรรมนึง วันนั้นเป็นวันวิทยาศาสตร์โรงเรียนด้วยที่ขาหัก ไปไหนลำบากเพื่อนเลยให้เราเฝ้าซุ้ม ก็เฝ้าจริงเรานั่งยุบนเก้าอี้ทั้งวัน ข้าวเที่ยงเพื่อนก็ซื้อมาให้กินถึงที่ ขอบคุณเพื่อนมาก แล้วก็มาถึงช่วงนึงทุกโรงเรียนเป็นเหมือนกันมั้ยแบบว่าจะมีวงดนตรีเล่นปิดฃ่วงท้ายของทุกงาน เออนั่นแหละ เพื่อนเราก็ไปเต้นหมดไง เราก็นั่งคนเดียวเล่นโทรศัพท์ไป แล้วจู่ๆ B ก็เดินมา เดินมาทางเรา เดินมานั่งกับเรา
B : พี่เป็นไงบ้าง ไปทำอะไรมานิ
L : ขับรถชนหมามา
B : มิน่าล่ะ ไม่เห็นตั้งหลายวัน

กลับมานี่สี่ขาเชียวนะ (แล้วก็เอามือมาเคาะเฝือกขาเรา.. สนุกมั้ยย )
L : 55 แล้วไม่ไปเต้นกับเพื่อนหรอ
B : ตรงนั้นคนเยอะแล้วอ่ะ ตรงนี้คนน้อง นั่งเป็นเพื่อนพี่ดีกว่า พี่หิวน้ำมั้ยเดี๋ยวไปเอามาให้


(ขอบอกเสริมนะว่า B กับเรา ก็เห็นกันมาตั้งแต่ ม.ต้น ไม่เคยคุยกันจริงๆสักที นี่คือครั้งแรกที่ B มาคุยกับเรา )
L : ขอบใจนะ^^
เมื่อเทศกาลแข่งขันทางวิชาการมาถึง เราเป็นตัวแทนแข่งทักษะวิทย์ ม.ปลาย B แข่งอาเซียนอะไรซักอย่างคู่กับเพื่อนในห้องเรา เวลาอ่านหนังสือซ้อมอะไรกันแบบนี้ก็จะมาอ่านในห้องเรา ก็เห็นกันบ่อยขึ้น บางวัน B ก็มาเร็วซึ่งเพื่อนเรากินข้าวยังไม่เสร็จแล้วเราก็สิงสถิตอยู่ห้องนั้นไม่ได้ไปไหนเราก็อ่านหนังสือของเราไป B ก็จะมานั่งคุยกับเราบ้าง อ่านอะไรอยู่หรอ ทำนองนี้ พูดแล้วก็ยิ้ม แล้วงานกีฬาสีโรงเรียนต่อ เรากับ B อยู่คนละสี แต่ก็นะอย่างที่เคยบอกเราก็สิงสถิตอยู่นี่แหละ แล้วเพื่อนเราก็นัดสีเขามาคุยในห้องที่เราสิงสถิตอยู่55 ก็มองกันอยู่นะ เขินๆบ้าง จำได้ว่างานกีฬา B ถือพานพุ่มเราแอบถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย 555

แล้วด้วยความที่ห้องเรียนเรากับ B อยู่ตึกเดียวกัน เราอยู่ชั้น 1 B ชั้น 2 เวลา B เรียนเสร็จก็จะเดินผ่านห้องเรา เจอเกือบทุกวัน จนเราอดคิดไม่ได้
เดินผ่านแล้วก็ยิ้มให้ น่าร๊ากก แต่ก็ยังไม่ได้คุยกันนะก็ยังเฉยๆกันอยู่ แล้วทุกคาบกิจกรรม เราเรียนบำเพ็ญประโยชน์ B เรียน ร.ด. ที่ชุมนุมส่วนใหญ่ของเราก็จะอยู่ในสนามร่มๆ ส่วน B ก็จะวิ่งรอบสนาม เราก็มองนะ ยู้ฮูววว เวลาเราหอบของเยอะ B ก็แบบช่วยมั้ย แล้วเราก้ชอบเอาเอกสารหนังสือเรียนไปให้ B (อ้างว่าตัวเองปริ๊นท์มาเกินบ้าง555 ) ซึ่ง B ก็จะยกมือไหว้ขอบคุณทุกครั้ง
B เคยมาบ้านเรานะมากับเพื่อนเรา เพราะเพื่อนเราจะมาปริ๊นท์งานบ้านเราแล้วกลัวมันค่ำ เพื่อนเราขอให้ B กลับพร้อมกันเพราะบ้านทางเดียวกัน ก็นะ แต่ B ก็ไม่ได้เข้ามาในบ้านนั่งรอหน้าบ้าน เราก้ลองเอ่ยชวน แบบไม่เข้ามาข้างในก่อนหรอ B ก็บอกขอบคุณครับแต่ไม่เป็นไร (เราก็ไม่อยากให้เข้ามาหรอกบ้านรก) แล้วทุกครั้งนะหลังโรงเรียนเลิก B จะนั่งรถสายกลับบ้าน ส่วนเราเดินกลับไม่ก็กลับพร้อมกันกับน้อง น้องขับเราซ้อน ก็ไม่รู้นะ B ยิ้มให้เราทุกวันเลย ทุกครั้งที่ขับรถผ่าน เราก็ยิ้มให้นะ ตอนนี้มั่นใจแล้วล่ะว่าเริ่มชอบ ^&^
เหตุการณ์น่าใจหายก็มาถึงเมื่อเราใกล้จบ ม.6 เฮ้ยยแบบเร็วไปมั้ยยยยยย ใกล้แล้วๆ คือ พน. เป็นวันปัจฉิมเรา (ลืมบอก เราถอดเฝือกแล้วนะเดินได้แล้ว55) เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจะใกล้เวลากลับบ้าน เราก็รอน้องขับรถมารับตรงศาลา B ก็เดินจะไปขึ้นรถสายนั่นแหละ แล้ว....
B : พี่ครับ พรุ่งนี้วันปัจฉิมแล้วพี่อยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ
L : (สตั๊นอยู่นิดนึง ก็เขินนน ) อะไรก็ได้ที่ B อยากให้พี่

แล้วคืนวันนั้นเราก็เอาสิ่งที่ B พูดไปตั้งตัสในเฟซบุ๊ค 55 ก็มันฟินน่ะเนอะ อารมณืแบบลุ้นอยู่นะว่าสิ่งนั้นที่เราจะได้คืออะไร

แล้วเช้าวันปัจฉิมก็มาถึง น้องๆ ม. 4-5 ก็บูมให้เรา พวกเราร้องไห้กันใหญ่เลยแหละ แล้วก็เข้าประชุม ตอนบูมเราไม่เห็น B เลย แอบใจหายนิดๆนะ พอพิธีอะไรเสร็จก็ผู้แขนอ่ะเนาะ ตอนต่อแถวให้ครูผูกแขนให้นิ เหลือบไปเห็น B นั่งรออยู่ข้างนอก โอ๊ยย ใจเต้นตึกๆๆ แล้ว B ก็มองมาทางเราพอดี แล้วก็เดินเข้ามาหาเราแบบดิ่งมาเลยอ่ะ ท่ามกลางเพื่อนร่วมห้องและครูที่นั่งอยู่ มีเรากับ B ที่ยืนต่อหน้ากัน B ยื่นกุหลาบให้เราดอกนึง(ดอกกุหลาบแดงยังเก็บไว้ถึงทุกวันนี้) แล้วบอกเราว่า "ถึงดอกกุหลาบที่ผมเอาให้พี่จะเป็นดอกุหลาบปลอมไม่ใช่กุหลาบจริง แต่ความจริงใจผมมีให้พี่เสมอนะ" พอยื่นให้แล้ว B ก็หันหลังเดินออกไป คือเราก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นมอง B พอ B เดินไปถึงหน้าประตู B หันกลับมา เราเลยวิ่งตาม B ออกไป ขอถ่ายรูป55 แล้วก็ติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจใส่เสื้อ B แล้วก็กลัดดอกกุหลาบให้ B หลังจากนั้นเราคิดว่า B กับเราคงไม่ได้เจอกันอีก ขอเก็บ B ไว้เป็นความทรงจำดีๆตลอดไป
แต่!! ยังไม่จบๆ เมื่อเย็นของวันปัจฉิม ตอนสองทุ่ม B ก็ทักเฟซบุ๊คเข้ามาหาเรา อึ้งมาก เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คกับ B มาเกือบสองปีไม่เคยเห็น B ออนเฟซ ข้อความสั้นๆ ที่คุยกัน
B : สวัสดีครับ
L : หวัดดี B

ฺB : ขอบคุณทุกๆอย่างที่เคยให้ ผมจะไม่ลืมเลย ลาก่อนนะครับ
L : พูดเหมือนเราจะไม่ได้เจอกันอีกเลยเนอะ
B : อ้าวหรอ งั้นผมไปก่อนนะ คุณแม่เรียก ^^
หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ มากขึ้นและบ่อยขึ้น นาน ขึ้น B มาหาเราถึงบ้าน ซื้อน้ำเต้าหู้มาให้ มาให้กำลังใจบ่อยๆ บางครั้งเห็นเราร้องไห้เขาก็นั่งร้องไห้เป็นเพื่อน จะไม่ให้ใจอ่อนได้ไง น่ารักขนาดนี้ ทั้งบอกทางบ้านว่าคุยกับเรา แนะนำเราให้แม่รู้จัก ตอนนี้คบกันมาจะ 2 ปีแล้ว รักผู้ชายคนนี้จังและจะรักตลอดไป
แอบชอบเขา มารู้ทีหลังว่าเขาก็แอบชอบเราเหมือนกัน
มีช่วงนึงเรารู้สึกว่าเราแอบชอบคนๆนึงอยู่เป็นรุ่นพี่ค่อนข้างสนิทกัน (อันนี้ความฟินเยอะมาก ฉบับผู้ใหญ่กับเด็กน้อย จะไม่ให้เราชอบได้ไงหน้าตาก็ดี ขาวตี๋ มีกล้าม นิสัยดี ชอบเรียกเราไปช่วยงานบ่อยๆ)แต่เราก็ไม่กล้าบอกเขานะว่าเราชอบเก็บอยู่นั่นแหละ
จนกระทั่งขึ้น ม.6 เราก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกว่าเราชอบมองน้องผู้ชายคนนึงอยู่ ม.4 แต่ก็ยังไม่ได้แบบคิดอะไรนะคือก็มอง ทำไมไม่รู้รู้สึกว่าน้องเค้าเด่นจัง มองไปต้องเจออะไรแบบนี้ วันนั้นโรงเรียนจัดงานวันสุนทรภู่และวันต่อต้านยาเสพติดโลก มันก็จะมีกิจรรมแต่งตัวเป็นตัวละครอะไรแบบนี้ใช้มั้ย น้องเค้าได้แต่งตัวเป็นขุนแผนแล้วแบบเต้นเพลงแน่นอกอ่ะแกร คือเพื่อนๆนี่กร๊ดกันใหญ่เลย เราก็ยิ้มนะ น้องน่ารักดี เต้นแบบเขิน555 (ขอบอกก่อนนะว่าเพื่อนเราก็กรี๊ดน้องเค้าไรงี้ มันก็รี๊ดเฉยๆแหละ) แล้วบังเอิญ!! หลังจากที่ประกวดตัวละครเสร็จ เก้าอี้มันเหลือที่เดียวคือข้างๆเรา อร๊ายยแก อารมณ์แบบรู้สึกดีจังน้องมานั่งข้างๆ 555++เนื่องด้วยเราเป็นคนพูดเก่งเฟรนลี่ไรงี้ ก็เลยชวนคุยถามไถ่ ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก เรื่องเรียนครัช (เราเป็นคนเรียนค่อนข้างเก่งเลยล่ะ โม้แปป) น้องก็ฟังนะ อืมๆ ก็พอได้ใจความว่าน้องอยากเรียนวิดวะ เราก็แนะนำ ร่ายไปสาธยายย แต่ยอมนางมากนางก็นั่งฟังจนเราไม่มีอะไรจะพูดอ่ะนะ ขอดูเกียรติบัตรเราด้วย(เราได้เกียรติบัตร 2 ใบ ) นางก็ชมเรานะ พี่เก่งจัง อิอิ น่ารักอ่ะ
คือก็ไม่รู้ว่าทำไม เวลามองน้องเราก็รู้สึกเหมือนว่าน้องมองเรา มีวันนึง เรารอเรียนพละศึกษาก็นั่งรอข้างสนามกับเพื่อน คือเรารู้สึกเหมือนมีคนมองก็เลยหันไปก็เห็นน้องมองอยู่นะ เฮ้ยแกแบบ สบตากันพันึงแล้วน้องก็หลบตา ก้มหน้ายิ้มแล้วก็เข้าห้องเรียนไป เราก็หันไปคุยกับเพื่อน (ขอแทนตัวเองว่า L นะ แทนเพื่อนว่า P แทนน้องว่า B )
L : PP กูรู้สึกว่า B มองกู
P : มองหรอ (Pก็เงยหน้าไปตรงห้องเรียน B ) แล้วบอกว่า ไม่หรอก B น่ะหรอจะมอง ถ้าเขาจะมอง เขาต้องมองกู กูสวยกว่าเคนะ
L : อือๆ (คือเพื่อนเราเป้นคนพูดสไตล์นี้แหละ แต่เราก็ไม่ได้อะไรหรอก เราเป้นไม่มั้นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองเท่าไร เรื่องตอนนั้นก็เลยจบไป)
เป็นที่รู้กันดีว่า ช่วงต่อของอายุ ม.6 จะขึ้นมหาลัยให้ระมัดระวังการใช้ชีวิตไรงี้เนาะ คือเราก็ระวังแล้วแหละแต่ก็โดนจะได้เราขับรถชนหมาอยู่ทางโค้ง ไม่ได้ไปโรงเรียนอาทิตย์นึง พอไปโรงเรียนก็แบบกลายเป็นที่จับตามอง เดินก็มีไม้ค้ำ ลำบากมาก แล้วก็มาถึงกิจกรรมนึง วันนั้นเป็นวันวิทยาศาสตร์โรงเรียนด้วยที่ขาหัก ไปไหนลำบากเพื่อนเลยให้เราเฝ้าซุ้ม ก็เฝ้าจริงเรานั่งยุบนเก้าอี้ทั้งวัน ข้าวเที่ยงเพื่อนก็ซื้อมาให้กินถึงที่ ขอบคุณเพื่อนมาก แล้วก็มาถึงช่วงนึงทุกโรงเรียนเป็นเหมือนกันมั้ยแบบว่าจะมีวงดนตรีเล่นปิดฃ่วงท้ายของทุกงาน เออนั่นแหละ เพื่อนเราก็ไปเต้นหมดไง เราก็นั่งคนเดียวเล่นโทรศัพท์ไป แล้วจู่ๆ B ก็เดินมา เดินมาทางเรา เดินมานั่งกับเรา
B : พี่เป็นไงบ้าง ไปทำอะไรมานิ
L : ขับรถชนหมามา
B : มิน่าล่ะ ไม่เห็นตั้งหลายวัน
L : 55 แล้วไม่ไปเต้นกับเพื่อนหรอ
B : ตรงนั้นคนเยอะแล้วอ่ะ ตรงนี้คนน้อง นั่งเป็นเพื่อนพี่ดีกว่า พี่หิวน้ำมั้ยเดี๋ยวไปเอามาให้
L : ขอบใจนะ^^
เมื่อเทศกาลแข่งขันทางวิชาการมาถึง เราเป็นตัวแทนแข่งทักษะวิทย์ ม.ปลาย B แข่งอาเซียนอะไรซักอย่างคู่กับเพื่อนในห้องเรา เวลาอ่านหนังสือซ้อมอะไรกันแบบนี้ก็จะมาอ่านในห้องเรา ก็เห็นกันบ่อยขึ้น บางวัน B ก็มาเร็วซึ่งเพื่อนเรากินข้าวยังไม่เสร็จแล้วเราก็สิงสถิตอยู่ห้องนั้นไม่ได้ไปไหนเราก็อ่านหนังสือของเราไป B ก็จะมานั่งคุยกับเราบ้าง อ่านอะไรอยู่หรอ ทำนองนี้ พูดแล้วก็ยิ้ม แล้วงานกีฬาสีโรงเรียนต่อ เรากับ B อยู่คนละสี แต่ก็นะอย่างที่เคยบอกเราก็สิงสถิตอยู่นี่แหละ แล้วเพื่อนเราก็นัดสีเขามาคุยในห้องที่เราสิงสถิตอยู่55 ก็มองกันอยู่นะ เขินๆบ้าง จำได้ว่างานกีฬา B ถือพานพุ่มเราแอบถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย 555
B เคยมาบ้านเรานะมากับเพื่อนเรา เพราะเพื่อนเราจะมาปริ๊นท์งานบ้านเราแล้วกลัวมันค่ำ เพื่อนเราขอให้ B กลับพร้อมกันเพราะบ้านทางเดียวกัน ก็นะ แต่ B ก็ไม่ได้เข้ามาในบ้านนั่งรอหน้าบ้าน เราก้ลองเอ่ยชวน แบบไม่เข้ามาข้างในก่อนหรอ B ก็บอกขอบคุณครับแต่ไม่เป็นไร (เราก็ไม่อยากให้เข้ามาหรอกบ้านรก) แล้วทุกครั้งนะหลังโรงเรียนเลิก B จะนั่งรถสายกลับบ้าน ส่วนเราเดินกลับไม่ก็กลับพร้อมกันกับน้อง น้องขับเราซ้อน ก็ไม่รู้นะ B ยิ้มให้เราทุกวันเลย ทุกครั้งที่ขับรถผ่าน เราก็ยิ้มให้นะ ตอนนี้มั่นใจแล้วล่ะว่าเริ่มชอบ ^&^
เหตุการณ์น่าใจหายก็มาถึงเมื่อเราใกล้จบ ม.6 เฮ้ยยแบบเร็วไปมั้ยยยยยย ใกล้แล้วๆ คือ พน. เป็นวันปัจฉิมเรา (ลืมบอก เราถอดเฝือกแล้วนะเดินได้แล้ว55) เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจะใกล้เวลากลับบ้าน เราก็รอน้องขับรถมารับตรงศาลา B ก็เดินจะไปขึ้นรถสายนั่นแหละ แล้ว....
B : พี่ครับ พรุ่งนี้วันปัจฉิมแล้วพี่อยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ
L : (สตั๊นอยู่นิดนึง ก็เขินนน ) อะไรก็ได้ที่ B อยากให้พี่
แล้วคืนวันนั้นเราก็เอาสิ่งที่ B พูดไปตั้งตัสในเฟซบุ๊ค 55 ก็มันฟินน่ะเนอะ อารมณืแบบลุ้นอยู่นะว่าสิ่งนั้นที่เราจะได้คืออะไร
แล้วเช้าวันปัจฉิมก็มาถึง น้องๆ ม. 4-5 ก็บูมให้เรา พวกเราร้องไห้กันใหญ่เลยแหละ แล้วก็เข้าประชุม ตอนบูมเราไม่เห็น B เลย แอบใจหายนิดๆนะ พอพิธีอะไรเสร็จก็ผู้แขนอ่ะเนาะ ตอนต่อแถวให้ครูผูกแขนให้นิ เหลือบไปเห็น B นั่งรออยู่ข้างนอก โอ๊ยย ใจเต้นตึกๆๆ แล้ว B ก็มองมาทางเราพอดี แล้วก็เดินเข้ามาหาเราแบบดิ่งมาเลยอ่ะ ท่ามกลางเพื่อนร่วมห้องและครูที่นั่งอยู่ มีเรากับ B ที่ยืนต่อหน้ากัน B ยื่นกุหลาบให้เราดอกนึง(ดอกกุหลาบแดงยังเก็บไว้ถึงทุกวันนี้) แล้วบอกเราว่า "ถึงดอกกุหลาบที่ผมเอาให้พี่จะเป็นดอกุหลาบปลอมไม่ใช่กุหลาบจริง แต่ความจริงใจผมมีให้พี่เสมอนะ" พอยื่นให้แล้ว B ก็หันหลังเดินออกไป คือเราก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นมอง B พอ B เดินไปถึงหน้าประตู B หันกลับมา เราเลยวิ่งตาม B ออกไป ขอถ่ายรูป55 แล้วก็ติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจใส่เสื้อ B แล้วก็กลัดดอกกุหลาบให้ B หลังจากนั้นเราคิดว่า B กับเราคงไม่ได้เจอกันอีก ขอเก็บ B ไว้เป็นความทรงจำดีๆตลอดไป แต่!! ยังไม่จบๆ เมื่อเย็นของวันปัจฉิม ตอนสองทุ่ม B ก็ทักเฟซบุ๊คเข้ามาหาเรา อึ้งมาก เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คกับ B มาเกือบสองปีไม่เคยเห็น B ออนเฟซ ข้อความสั้นๆ ที่คุยกัน
B : สวัสดีครับ
L : หวัดดี B
ฺB : ขอบคุณทุกๆอย่างที่เคยให้ ผมจะไม่ลืมเลย ลาก่อนนะครับ
L : พูดเหมือนเราจะไม่ได้เจอกันอีกเลยเนอะ
B : อ้าวหรอ งั้นผมไปก่อนนะ คุณแม่เรียก ^^
หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ มากขึ้นและบ่อยขึ้น นาน ขึ้น B มาหาเราถึงบ้าน ซื้อน้ำเต้าหู้มาให้ มาให้กำลังใจบ่อยๆ บางครั้งเห็นเราร้องไห้เขาก็นั่งร้องไห้เป็นเพื่อน จะไม่ให้ใจอ่อนได้ไง น่ารักขนาดนี้ ทั้งบอกทางบ้านว่าคุยกับเรา แนะนำเราให้แม่รู้จัก ตอนนี้คบกันมาจะ 2 ปีแล้ว รักผู้ชายคนนี้จังและจะรักตลอดไป