ฮัลโหลลลลลลลลลลล มาๆ จะเล่าเรื่องเที่ยวแบบมีสาระบ้าง ไม่มีบ้างให้ฟัง
กว่าจะได้กระทู้นี้มา น้ำตาจะไหลแกเอ้ย รอบแรกเขียนไป มือเจ้ากรรม จะไปกดปิดหน้าต่างเพจอื่นอัน ไปโดนอันที่กำลังรีวิว น้ำตาจะไหล (อันนี้ฉันโง่เอง)
มาๆๆเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า มันเป็นเรื่องเล่าของชะนี 2 ตัวที่ออกไปเริงร่าท้าลมแดด วันเสาร์ทิตย์ ที่จันนะจ้ะบุรีมา เป็นยังไงนั้น ตามมา
หมายเหตุ รูปไม่สวยมุ้งมิ้ง แสงเลิศ มุมเป๊ะ ขอโทษจริงๆ มีแค่ฝีมือกากๆแบบขอไปทีถ่ายให้ได้ประมาณนั้นและเนอะ
ผิดพลาดประการใด ก็ ขออภัย และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะเคอะ ป่ะ ลุย!!!

.
.
.

.
เริ่ม ที่จะมาที่จะไป
มันเกิดจากชะนีนามว่า "นมเมี้ยน" ว้อน ต้องการเที่ยวเนื่องจากนาง ทำงาน จ-ส มาโดยตลอด ไม่ค่อยไปเที่ยวต่างจังหวัด
นมเมี้ยน: เห้ย อยากเที่ยวว่ะ

เรา: ก็ไปดิว่ะ ใครห้าม
นมเมี้ยน: จัดทริปดิ
เรา: ได้เดียวรู้เลย
แล้วอีป้านี่ก็ไม่ปฎิเสธไง รีบไปเสาะแสวงหาเที่ยวไหนดีหว่า ไม่ไกลมาก ที่เที่ยวเยอะ เที่ยวเองไม่มีรถ ข้อแม้เยอะแท้ >.<
จนมาเจอกระทู้หนึ่งในพันทิป (กราบงามๆ3ครั้ง) ที่เขาเป็นผู้ชายแล้วก็นั่งรถตู้ ไปเ่ามอไซด์แว้นๆในจันทบุรี เออ เข้าท่าเหะ ปักหมุดที่จันท์เลย ณ วันที่ 29-30 สค. 58 นี่แหละจุดเริ่มต้น
บทที่ 1 ลุยดิ รออะไร
กริ๊งงงงง !!! เห้ยตื่น นาฬิกาปลุกร้อง ตื่นมา 6.30 รีบอาบน้ำแต่งตัว นัดนมเมี้ยน 7.00
เมื่อเจอะกันแล้วก็ชวนกันกินข้าวปลา เสร็จสิ้นพิธีก็นั่งรถไปอนุสาวรีย์ชัย ไปๆๆๆๆ คืออยากบอกว่าก่อนจะไปชะนี 2 นางนี่ตื่นเต้นยังกะคนไม่เคยไปเที่ยว
ถึงอนุสาวรีย์ ก็ 9 โมงกว่าๆ
มาขึ้นรถตู้หน้าเซ็นเตอร์วัน ถ้าเราขึ้นรถจากตรงนี้รถจะไปจอดที่โลตัสจันท์
ถ้าอยากจะลงแถวๆในเมืองเลยต้องไปขึ้นที่เซ็นจูรี่ จะไปจอดแถวๆ ท่าแฉลบ2/1 ซึ่งมันจะใกล้ร้านเช่ารถ
สนนราคารถตู้อยู่ที่ 200 บาทขาดตัว
เนื่องจากเรามาลงที่บิ๊กซี ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ2-3 โลเราก็นั่งรถมาสด้าของลุง สนนราคาที่ 60 บาทไปที่พัก
ที่ๆเราจะใช้แอบอิงกายในค่ำคืนนี้ที่นี้เลย "บ้านหลวงราชไมตรี"
http://www.baanluangrajamaitri.com/th/

นี่ๆๆๆ สภาพแวดล้อมแถวนั้น โอโห้ เลิศไปอีกคร้า

ได้กลิ่นไอของความคลาสสิคในเส้นเลือดขึ้นมาเลยทีเดียว
แต่จุดเด่นของที่นี้มันคือโรงแรมที่มีประวัติความเป็นมาโดยนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมปัจจุบันได้อย่างเลอค่าอลังการดาวล้านดวงมาก และอีกสิ่งที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำจันทบูร ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนเก่ามีอายุกว่า 150 ปี
ซึ่งพี่หมูคนที่ดูแลที่นี้บอก แต่ก่อนคนไทยไม่ค่อยมาเที่ยว มีแต่ฝรั่ง เพราะมันเหมือนมีแนะนำในไกด์บุ๊คของเขาที่บอกว่าที่นี้เป็นเมืองเก่า มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ เป็นไงไอ้พี่ไทยยังไม่ค่อยรู้กันเลย ฮ่าาาา
แล้วพี่เขาก็เล่าต่อว่าส่วนที่นี้ก็พึ่งเปิดเมื่อปลายปีที่แล้วนี้เอง

เอ้าๆ สรา้งภาพกันหน่อย เดียวเขาว่ามาไม่ถึง เป็นธรรมดาของชะนีที่ชอบชักภาพ

พี่ๆก็จะเอาน้ำมะนาว+น้ำส้มมั้งนะ มาต้อนรับ ที่ว่าน้ำมะนาว+น้ำส้มมั้งนะคือแยกไม่ออกว่ามันคือน้ำอะไร แต่เห้ย แมร่งอร่อยว่ะ ต้องโดน ใครไปชิมมาแล้วมาช่วยกันตัดสินด้วยนะว่ามันเป็นน้ำอะไร

บริเวณล็อบบี้ก็ทำไว้ได้ดีเลยทีเดียว

ทันทีที่มาถึงก็ชอบบรรยากาศของที่นี้มาก เพราะภายในยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นให้ชมกันด้วยนะเออ
ทำเรื่องเช็คอิน อ่อ ห้องที่เราจองไว้เป็นห้องต้นยาง ราคาอยู่ที่คืนละ 1550 อ่อ ต้องจองล่วงหน้า 1 อาทิตย์นะจ้ะ ของเขาดี แล้วห้องก็มีจำกัด 8 ห้องเองด้วย แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อ่อลืมบอก มีค่ามัดจำกุญแจ 500 บาท และจะได้คืนเมื่อเรามาเช็คเอ้านะเคอะ

นี่ๆห้อง เข้าไปกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งกับนมเมี้ยน คือชอบและดีงามมาก ส่วนที่นอนคือขึ้นไปนอนบนชั้นลอย เปิดประตูออกไปฝั่งริมน้ำ มีระเบียงกับโต๊ะ มุ้งมิ้งสำหรับซัดกาแฟยามเช้า โอโห้ ดีงามพระราม8 พระราม 9ไปอีก
ซึ่งพอหลังจากที่กลับมา ก็ในเมื่อของเขาเจ๋ง ก็ต้องได้รางวัลซิ

แน่นอนว่าเขาได้รับรางวัลจากยูเนสโกเชียวนะคุณณณณณณ
รางวัล Award of Merit (อันดับที่ 3) ภายใต้โครงการประกวดรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมระดับภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิก ประจำปี 2558
http://www.khaosodonline.com/view_newsonline.php?newsid=1441106979
ขอบอกก่อนว่าเราไม่ได้รับค่าโฆษณาใดๆทั้งสิ้น
เดียวมาต่อตอนต่อไป
เห้ยยยย ป่ะ อยากเที่ยว ไปเที่ยวกันดีกว่า จนเผลอใจไปในจันทบุรีแลนด์ แดนมหัศจรรย์ (2วัน 1 คืน 2คน 1คัน)
กว่าจะได้กระทู้นี้มา น้ำตาจะไหลแกเอ้ย รอบแรกเขียนไป มือเจ้ากรรม จะไปกดปิดหน้าต่างเพจอื่นอัน ไปโดนอันที่กำลังรีวิว น้ำตาจะไหล (อันนี้ฉันโง่เอง)
มาๆๆเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า มันเป็นเรื่องเล่าของชะนี 2 ตัวที่ออกไปเริงร่าท้าลมแดด วันเสาร์ทิตย์ ที่จันนะจ้ะบุรีมา เป็นยังไงนั้น ตามมา
หมายเหตุ รูปไม่สวยมุ้งมิ้ง แสงเลิศ มุมเป๊ะ ขอโทษจริงๆ มีแค่ฝีมือกากๆแบบขอไปทีถ่ายให้ได้ประมาณนั้นและเนอะ
ผิดพลาดประการใด ก็ ขออภัย และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะเคอะ ป่ะ ลุย!!!
.
.
.
.
เริ่ม ที่จะมาที่จะไป
มันเกิดจากชะนีนามว่า "นมเมี้ยน" ว้อน ต้องการเที่ยวเนื่องจากนาง ทำงาน จ-ส มาโดยตลอด ไม่ค่อยไปเที่ยวต่างจังหวัด
นมเมี้ยน: เห้ย อยากเที่ยวว่ะ
เรา: ก็ไปดิว่ะ ใครห้าม
นมเมี้ยน: จัดทริปดิ
เรา: ได้เดียวรู้เลย
แล้วอีป้านี่ก็ไม่ปฎิเสธไง รีบไปเสาะแสวงหาเที่ยวไหนดีหว่า ไม่ไกลมาก ที่เที่ยวเยอะ เที่ยวเองไม่มีรถ ข้อแม้เยอะแท้ >.<
จนมาเจอกระทู้หนึ่งในพันทิป (กราบงามๆ3ครั้ง) ที่เขาเป็นผู้ชายแล้วก็นั่งรถตู้ ไปเ่ามอไซด์แว้นๆในจันทบุรี เออ เข้าท่าเหะ ปักหมุดที่จันท์เลย ณ วันที่ 29-30 สค. 58 นี่แหละจุดเริ่มต้น
บทที่ 1 ลุยดิ รออะไร
กริ๊งงงงง !!! เห้ยตื่น นาฬิกาปลุกร้อง ตื่นมา 6.30 รีบอาบน้ำแต่งตัว นัดนมเมี้ยน 7.00
เมื่อเจอะกันแล้วก็ชวนกันกินข้าวปลา เสร็จสิ้นพิธีก็นั่งรถไปอนุสาวรีย์ชัย ไปๆๆๆๆ คืออยากบอกว่าก่อนจะไปชะนี 2 นางนี่ตื่นเต้นยังกะคนไม่เคยไปเที่ยว
ถึงอนุสาวรีย์ ก็ 9 โมงกว่าๆ
มาขึ้นรถตู้หน้าเซ็นเตอร์วัน ถ้าเราขึ้นรถจากตรงนี้รถจะไปจอดที่โลตัสจันท์
ถ้าอยากจะลงแถวๆในเมืองเลยต้องไปขึ้นที่เซ็นจูรี่ จะไปจอดแถวๆ ท่าแฉลบ2/1 ซึ่งมันจะใกล้ร้านเช่ารถ
สนนราคารถตู้อยู่ที่ 200 บาทขาดตัว
เนื่องจากเรามาลงที่บิ๊กซี ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ2-3 โลเราก็นั่งรถมาสด้าของลุง สนนราคาที่ 60 บาทไปที่พัก
ที่ๆเราจะใช้แอบอิงกายในค่ำคืนนี้ที่นี้เลย "บ้านหลวงราชไมตรี"
http://www.baanluangrajamaitri.com/th/
นี่ๆๆๆ สภาพแวดล้อมแถวนั้น โอโห้ เลิศไปอีกคร้า
แต่จุดเด่นของที่นี้มันคือโรงแรมที่มีประวัติความเป็นมาโดยนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมปัจจุบันได้อย่างเลอค่าอลังการดาวล้านดวงมาก และอีกสิ่งที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำจันทบูร ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนเก่ามีอายุกว่า 150 ปี
ซึ่งพี่หมูคนที่ดูแลที่นี้บอก แต่ก่อนคนไทยไม่ค่อยมาเที่ยว มีแต่ฝรั่ง เพราะมันเหมือนมีแนะนำในไกด์บุ๊คของเขาที่บอกว่าที่นี้เป็นเมืองเก่า มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ เป็นไงไอ้พี่ไทยยังไม่ค่อยรู้กันเลย ฮ่าาาา
แล้วพี่เขาก็เล่าต่อว่าส่วนที่นี้ก็พึ่งเปิดเมื่อปลายปีที่แล้วนี้เอง
เอ้าๆ สรา้งภาพกันหน่อย เดียวเขาว่ามาไม่ถึง เป็นธรรมดาของชะนีที่ชอบชักภาพ
พี่ๆก็จะเอาน้ำมะนาว+น้ำส้มมั้งนะ มาต้อนรับ ที่ว่าน้ำมะนาว+น้ำส้มมั้งนะคือแยกไม่ออกว่ามันคือน้ำอะไร แต่เห้ย แมร่งอร่อยว่ะ ต้องโดน ใครไปชิมมาแล้วมาช่วยกันตัดสินด้วยนะว่ามันเป็นน้ำอะไร
บริเวณล็อบบี้ก็ทำไว้ได้ดีเลยทีเดียว
ทันทีที่มาถึงก็ชอบบรรยากาศของที่นี้มาก เพราะภายในยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นให้ชมกันด้วยนะเออ
ทำเรื่องเช็คอิน อ่อ ห้องที่เราจองไว้เป็นห้องต้นยาง ราคาอยู่ที่คืนละ 1550 อ่อ ต้องจองล่วงหน้า 1 อาทิตย์นะจ้ะ ของเขาดี แล้วห้องก็มีจำกัด 8 ห้องเองด้วย แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อ่อลืมบอก มีค่ามัดจำกุญแจ 500 บาท และจะได้คืนเมื่อเรามาเช็คเอ้านะเคอะ
นี่ๆห้อง เข้าไปกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งกับนมเมี้ยน คือชอบและดีงามมาก ส่วนที่นอนคือขึ้นไปนอนบนชั้นลอย เปิดประตูออกไปฝั่งริมน้ำ มีระเบียงกับโต๊ะ มุ้งมิ้งสำหรับซัดกาแฟยามเช้า โอโห้ ดีงามพระราม8 พระราม 9ไปอีก
ซึ่งพอหลังจากที่กลับมา ก็ในเมื่อของเขาเจ๋ง ก็ต้องได้รางวัลซิ
รางวัล Award of Merit (อันดับที่ 3) ภายใต้โครงการประกวดรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมระดับภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิก ประจำปี 2558
http://www.khaosodonline.com/view_newsonline.php?newsid=1441106979
ขอบอกก่อนว่าเราไม่ได้รับค่าโฆษณาใดๆทั้งสิ้น
เดียวมาต่อตอนต่อไป