✿ สวัสดีค่ะ หลังจากจับจดอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจ...แพ็คกระเป๋า ✿
เที่ยวคนเดียวอีกครั้งแต่....ครั้งนี้ไกลที่สุดที่เคยไปคนเดียวเลยคร่าาาา

ย้อนไปเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา เครียด ๆ เหนื่อยๆ กับชีวิต บวกกับเจอโปรโมชั่นตั๋วถูกไป-กลับ กรุงเทพ-กระบี่ 1,5xx บาท
เลยตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินทิ้งไว้ แล้ววันเวลาก็ล่วงเลยมาจนเมื่อกลางเดือนสิงหาที่ผ่านมา น้องในฝ่ายทักขึ้นมาว่า
"เอ้ยพี่!!! ต้นเดือนกันยานี้พี่ไปเที่ยวกระบี่นี่หว่า....."
.........................
เอาล่ะสิ ซื้อไว้จนลืมไปแล้วอ่า เอาไงดี....
ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ไป-ไม่ไป ไป-ไม่ไป และสุดท้ายก็.....
ไปดิ กลัวไรล่ะ 5555
พอตัดสินใจได้ว่าไป สิ่งแรกที่ทำคือหาที่พักเลยค่ะ ใช้บริการ agoda.com ตามเช่นเคย เนื่องจากเป็นทริปที่ต้องเดินทางคนเดียว เที่ยวคนเดียว เลยคิดว่าที่พักต้องเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่าน น่าจะไม่น่ากลัวและการเดินทางต้องสะดวกด้วย เลยตัดสินใจพักที่อ่าวนางค่ะ
เราจองที่ The Krabi Forest Homestay 3 คืน ได้ราคาดีลคนกันเองค่ะ รวม Vat กับ Service Charge แล้วก็ 1,641 บาท...จร้า
(ทริปนี้เน้นประหยัด ประแบบว่าไม่ทันตั้งตัว 555)
ทริปนี้เดินทาง 3-6 ก.ย 58 ค่ะ พร้อมแล้ว....ไปเที่ยวกันค่ะ
....ปล.อาจมีรูปเจ้าของกระทู้ติดไปบ้างอย่างเพิ่งรำคาญนะคะ เพราะว่าบางรูปถ่ายมาแล้วไม่ชัดอ่ะคะ
แต่อยากลงรูปสถานที่ที่เราไปค่ะ ประเทศไทยมีที่สวย ๆ ให้ไปอีกเยอะ อยากให้เพื่อน ๆ ไปเที่ยวค่ะ....
✿.。วันที่ 1 สนามบินดอนเมือง - เข้าที่พัก - วัดถ้ำเสือ
ออกเดินทางจากดอนเมืองค่ะ ถึงกระบี่ 11.00 น.ค่ะ พอถึงสนามบินกระบี่ ก็ซื้อตั๋วรถทัวร์ไปอ่าวนางค่ะ ราคา 150 บาท บอกคนขับได้เลยค่ะว่าโรงแรมชื่ออะไร เขาจะไปส่งเราถึงหน้าโรงแรมเลย แถมช่วยยกกระเป๋าให้ด้วยจร้า

ถึงที่พักแล้ว ห้องก็เหมือนกับในเว็บที่ดูมาค่ะ โดยรวมเราถือว่าโอเคนะคะ ไม่ค่อยซีเรียสมาก พนักงานที่นี่ก็น่ารักค่ะ พูดจาดี สุภาพค่ะ เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็ประมาณเที่ยงครึ่ง ออกไปเช่ามอไซต์ดีกว่า หิวแล้ว....
มาติดต่อที่เคาเตอร์ของโรงแรม ราคาค่าเช่ามอไซต์วันละ 200 บาท (ยิ้มในใจ ถูกกว่าเกาะล้านอีกอ่า) แต่ยิ้มเบา ๆ ได้แค่ 5 วิเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงพนักงานบอกว่า "คนไทยใช้บัตรประชาชนด้วยค่ะ ค่ามัดจำ 3,000 บาท" [กรี๊ดดดดดดด มัดจำ 3,000 ไรแว๊....เปิดกระเป๋ามี 3พัน พอดีเป๊ะ] แต่พี่พนักงานเขาอธิบายค่ะ ว่าที่นี่เคยมีคนมาเช่าแล้วหายไป ก็เข้าใจเขาอ่ะคะ ใจเขาใจเรา ก็ตามนั้นค่ะ มัดจำ 3 พันก็ 3 พัน โชคดี หน้าโรงแรมมีตู้เอทีเอ็ม..กดตังติดตัวไว้ก่อน จะได้อุ่นใจ

พอได้มอไซต์ หาข้าวทานเรียบร้อย เปิด Google map เลยค่ะ เป้าหมายของเราอยู่ที่ "วัดถ้ำเสือ" แวนซ์ไปจร้า 21 กิโล ขับย้อนกลับไปทางสนามบินค่ะ ขับไปเรื่อย ๆ ก็ถือว่าไม่ไกลนะคะ มองวิวข้างทางไปเพลิน ๆ แปปเดียวก็ถึง

เป้าหมายนี้ถือว่าเรียกเหงื่อได้ดีมากๆ เลยค่ะ กับเส้นทางที่ต้องเดินขึ้นบันได้ 1,237 ขั้น วันนั้นมีน้องๆ นักเรียนไปทัศนศึกษา เห็นแต่ละคนที่ลงมา เหงื่อชุ่มเชียว แต่พี่จะยอมแพ้น้องๆ ได้ยังไงล่ะคะ มาถึงนี่แล้ว ถึงไหนถึงกันค่ะ ฮึบ ฮึบ....และสุดท้ายก็.....ถึ ง จ น ไ ด้ ค่ ะ (เหนื่อยมาก พักแล้วพักอีก ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะขึ้นไปถึงพระธาตุ 555 (รู้ตัวเลยว่าแก่ลงไปเยอะ)

แต่พอถึงด้านบน บอกเลยค่ะ คุ้มค่ามาก ๆ สวยเหมือนในเว็บเลย บรรยากาศดีมาก อุณหภูมิบนนี้ 28 องศาค่ะ โชคดีที่วันนี้ไม่มีแดด ได้กราบพระธาตุ ไหว้พระขอพรองค์พระพิฆเนศค่ะ เป้าหมายแรกของทริปนี้ Cleared!!
✿.。วันที่ 2 ทัวร์ดำน้ำ 7 เกาะกับ The Lucky Tour
ตื่นมา 8 โมงเช้า ระบมไปทั้งตัวเลยค่ะ เนื่องจากเดินขึ้นเขาเมื่อวาน 5555 รีบอาบน้ำ ออกไปหาซื้อทัวร์ดำน้ำค่ะ
คุยกับพนักงานของโรงแรมเขาแนะนำทัวร์ของ The Lucky Tour ค่ะ

ก็ต่อราคาได้จาก 1,800 เหลือ 1,000 ถ้วน เว้าวอนสุดฤทธิ์ หนูมาคนเดียวพี่ เอาหนูไปแปะไว้กับกรุ๊ปไหนก็ได้คร่าาา 555
จากนั้นรอรถมารับตอน 9.30 ที่หน้าโรงแรมค่ะ ก็รีบแว๊นซ์มอไซต์ออกไปทานข้าว แล้วก็แวะไปซื้อซองกันน้ำใส่มือถือ เนื่องจากเราไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำอ่ะคะ มีก็แต่กล้องมือถือ S6 edge แค่นั้น...

ซื้อซองมาราคา 200 บาท แล้วก็ไม้เซลฟี่ฮัลโหลคิตตี้ 1 อัน 350 บาท
ได้ของตามต้องการ กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า รอรถมารับไปท่าเรืออ่าวน้ำเมาค่ะ

9.30 น. ตรงเวลาเป๊ะ มีรถมารับค่ะ มารับเราคนแรกเลย จากนั้นไปรับนักท่องเที่ยวมาเลย์อีก 8 คน
(น่าจะเป็นพวกเด็กมหาลัยจัดกรุ๊ปมาเที่ยวอ่ะคะ)
แล้วสุดท้ายก็จบด้วยการไปรับต่างชาติอีก 1 ท่าน รวมทัวร์กรุ๊ปนี้ 10 คน
(เป็นหญิงเดียวในนั้น สวยที่สุด ชนะเลิศ 5555)
ถึงท่าเรือเขาก็พาลงเรือไปไร่เลย์ค่ะ มีเวลาให้แวะลงไปเดินเล่น ถ่ายรูปกันแปปนึง เขาบอกว่ามาไร่เลย์นี่ต้องมาปีนหน้าผา เสียดายไม่ได้ปีนค่ะ สังขารไม่อำนวยเนื่องจากเจ็บเนื้อเจ็บตัวจากวัดถ้ำเสือมาก ๆ
จากนั้นก็นั่งเรือต่อกันยาว ๆ เลยค่ะ ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ เพราะเรากำลังจะไป...เกาะห้องกันค่ะ

ถึงแล้วค่ะ เกาะห้อง กับห้องลากูน สวยมากจร้า.... ตรงนี้ได้เล่นน้ำแล้วค่ะ ไกด์บอกว่าเหมือนว่าช่วงบ่ายจะมีฝน แล้วคลื่นแรงคงไปได้ไม่ครบทุกเกาะ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ก็เลือกมาทะเลหน้าฝนก็ต้องทำใจอ่ะคะ 5555

ออกจากห้องลากูนเราก็ไปต่อกันที่เกาะละดิ่ง หรือเกาะเหลาละดิ่งค่ะ ที่เกาะนี้มีชิงช้าให้เล่นด้วยพี่ที่เป็นไกด์ผู้หญิงน่ารักมากค่ะมาแกว่งชิงช้าให้ แถมถ่ายรูปให้ตลอดเลยค่ะ จากเกาะละดิ่งใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็ไปทะเลแหวก แต่น่าเสียดายค่ะมาถึงทะเลแหวก ฝนตกแถมทะเลไม่แหวกด้วย ก็ได้ลงไปเดินเล่น ถ่ายรูป จากนั้นก็ไปที่เกาะปอดะค่ะ ทานอาหารค่ำเป็นบุฟเฟต์บาร์บีคิวที่นี่ค่ะ มีโชว์ควงกระบองไฟด้วยค่ะ จากนั้นนั่งเรือกลับอ่าวน้ำเมา รอรถมารับไปส่งที่โรงแรม....

กลับถึงโรงแรมประมาณ 20.30 น. อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ คืนนี้ตั้งใจออกไปเดิน Night Market ที่อ่าวนางค่ะ ก็ออกมาเดินดูของที่เขาขายทั่วๆ ไป พวกของฝาก เสื้อ I ❤ KRABI ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่นะคะ แต่พอหยุดดูร้านไหน แม่ค้าก็พูดอังกฤษด้วย เลยถามกลับไปว่า "หนูไม่เหมือนคนไทยหรอค่ะ" แม่ค้าเขาขำ เขาบอกพี่นึกว่าคนจีน.....


หน้าหนูไม่ได้หมวยนะคะพี่ 5555

ลากันกับคำคืนนี้ที่อ่าวนางค่ะ เดินเล่น ชิล ๆ บังเอิญเจอร้านน่านั่ง มีนักร้องกำลังจะร้องเพลง เลยแวะไปนั่งฟังเพลงแปปนึง จากนั้นก็กลับโรงแรม...นอน จบทริปวันที่สองค่ะ......Happy
✿.。วันที่ 3 สก๊อยเก่า แว๊นซ์จากอ่าวนาง มุ่งหน้าสระมรกต - น้ำตกร้อนคลองท่อม
ตามแพลนแล้ววันนี้ตั้งใจจะไปสระมรกตค่ะ แต่ไปดูทัวร์แล้วหาได้ถูกสุดก็ 1,000 บาท ซึ่งเราว่าแพงไปค่ะ เลยตัดสินใจเช่ามอไซต์ใหม่ จากนั้นเปิด google map เช่นเคยค่ะ ระยะทางวันนี้จากอ่าวนาง ขับย้อนไปทางสนามบินแค่ 72 กิโลเองคร่าาาา 5555 แอบหวั่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่เกินใจที่จะไปค่ะ ขับไปเรื่อย ๆ ค่ะ เราขับไม่เร็ซมากค่ะ เนื่องจากไม่ชำนาญทางบวกกับสภาพถนนไม่ค่อยดีค่ะ ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งเราไปถึงเป้าหมายค่ะ ฝนก็ตกปรอย ๆ อากาศเริ่มเย็น แอบหวั่นใจว่าจะมาเล่นน้ำแต่ฝนตก กลัวหนาวแล้วเล่นน้ำไม่ไหว แต่ก็ทำใจดีสู้เสือค่ะ

เรามาถึงทางเข้าสระมรกต เจอร้านที่ขายพวกรูปถ่าย ของที่ระลึก ของกินเล็กน้อย ก็ดิ่งไปซื้อน้ำกับสัปปะรดลูกน้อย ๆ แล้วเดินไปซื้อตั๋วค่ะ ราคาคนไทย 40 บาทค่ะ กำลังจะเดินผ่านจุดตรวจตั๋ว ปรากฏว่า.....เข้าไม่ได้คร่าาาา เขาห้ามนำของกินเข้าไป เหอๆ ฝนก็ตกปรอย ๆ กลัวรอช้าเดี๋ยวฝนตกหนักจะอดเล่น รีบกินสัปปะรดอย่างรวดเร็ว 555 เสียดาย (จริงๆ เค้ามีป้ายบอกชัดเจนอ่ะคะ แต่เราไม่ได้อ่านก่อน เด๋ออีก อิอิ)

เมื่อกำจัดสัปปะรดเรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่สระมรกตค่ะ ตามป้ายเขาบอกว่าเดินเข้าไป 800 เมตรค่ะ เดินเข้ามาเรื่อย ๆ อากาศดีค่ะ ไม่ร้อนเลย และเราก็เจอจุดหมายของเราวันนี้ค่ะ มีคนมาเล่นน้ำพอสมควร สักพักเริ่มมีแดด ถือเป็นโชคดีของเราค่ะ ที่นี่สวยมากค่ะ ชอบ ๆ ไม่ผิดหวังเลยที่ขับมอไซต์มาตั้งไกล เล่นน้ำอยู่ที่นี่สักพัก ก็ไปที่จุดมายต่อไปค่ะ นั่นคือ "น้ำตกร้อนคลองท่อม"

มาถึงน้ำตกร้อน ฝนตกอีกรอบค่ะ คราวนี้แรงพอสมควร เรากลัวกระเป๋าจะเปียกเลยต้องไปหลบฝนที่ศาลากับคุณป้าที่ให้บริการนวดอยุ่บริเวณนั้นค่ะ สักพักรอไม่ไหว เลยขอถุงพลาสติกคุณป้ามาคลุมกระเป๋าไว้ แล้วลุยฝนไปเล่นน้ำตกเลยจร้า แอบเอากระเป๋าวางไว้โคนต้นไม้ จากนั้น....ค่อย ๆ เดินลงน้ำตก ซึ่งเป็นเหมือนบ่อน้ำร้อน แช่ตัวลงในบ่ออยากจะบอกว่า......
โอ้ย ฟินมากค่ะ อยากให้ที่บ้านมีแบบนี้


มีป้ายเตือนบอกว่าควรเล่นน้ำไม่เกิน 30 นาทีค่ะ พอแช่น้ำไปสักพักเริ่มเพลีย กลัวขับรถกลับไม่ไหว
ขากลับขับมอไซต์ชิลๆ ค่ะ แต่รู้สึกว่าไม่ไกลเหมือนขาไปค่ะ แปปๆ ก็ถึงอ่าวนางแล้วค่ะ
เข้าโรงแรม อาบน้ำ สระผม เตรียมออกไปซื้อของฝากสักหน่อยค่ะ

ออกมาเดินเล่น ได้ของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ
✿.。วันที่ 4 หาดนพรัตน์ธารา - อ่าวนาง - สุสานหอย 75 ล้านปี - สนามบินดอนเมือง

วันนี้ตื่น 7 โมงมาแพ็คกระเป๋าเพราะต้องเช็คเอาท์ออกตอนเที่ยงค่ะ จากนั้นออกไปทานข้าว แต่เช้าเกินไปไม่มีร้านไหนเปิดเลย เราเลยต้องเพิ่งพี่แม็ค 555 จากนั้นขับมอไซต์ไปหาดนพรัตน์ธารา อยากไปเล่นน้ำอีกสักรอบค่ะ แต่เราว่าหาดทรายไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ถ้าเทียบกับอ่าวนาง เลยขับรถกลับมาที่อ่าวนางค่ะ เอามอไซต์ไปจอดไว้หน้าโรงแรมแถว ๆ หน้าหาด พี่ยามใจดี บอกว่าจะคอยดูมอไซต์ให้ค่ะ

ก่อนเล่นน้ำ ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระทึก 555 เนื่องจากมาคนเดียว ก็อยากได้รูปกระโดด ณ ชายหาดแสนสวย แต่.....ช้านจะทำอย่างไรล่ะ คำถามนี้ดังในหัว และแล้วเราก็จำใจต้องขุดหลุมทรายแล้วเอาไม้เซลฟี่ที่มีหน้าเฮลโหลคิตตี้อยุ่ที่ด้ามไม้ ฝังลงไปเลยค่ะ ปักไม้ลงไปในทราบลึก ๆ เลยจร้า ตั้งเวลาไว้ 10 จากนั้นก็วิ่งๆๆๆ แล้วก็กระโดดๆๆๆๆ กว่าจะได้ภาพพวกนี้มาเรียกได้ว่า "ตับแล่บ" ค่ะ

หลังจากเล่นน้ำ กลับมาเช็คเอาท์แต่ฝากของไว้ที่โรงแรมค่ะ จากนั้นแว๊นซ์มอไซต์ไปเป้าหมายสุดท้ายของเราคือ "สุสานหอย 75 ล้านปี" ซึ่งไม่ไกลจากอ่าวนางค่ะ เราอยู่ที่นี่ตลอดบ่าย จากนั้นขับมอไซต์กลับมาที่โรงแรม คืนมอไซต์เอาเงินมัดจำ 3 พันคืนมาก จากนั้นรอรถมารับไปสนามบินค่ะ ค่ารถก็ 150 บาท จบทริปกระบี่ค่ะ....ทริปนี้ สนุกมากจริงๆ ค่ะ การเที่ยวคนเดียวไกล ๆ ครั้งแรก ได้ประสบกาณ์ใหม่ ๆ ตื้นเต้นและท้าทายดีค่ะ





:
✤ 4 วัน 3 คืน...ผู้หญิงคนเดียวก็ลุยเดี่ยวเที่ยวกระบี่ได้ ✤ I ❤ KRABI ✤
เที่ยวคนเดียวอีกครั้งแต่....ครั้งนี้ไกลที่สุดที่เคยไปคนเดียวเลยคร่าาาา
ย้อนไปเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา เครียด ๆ เหนื่อยๆ กับชีวิต บวกกับเจอโปรโมชั่นตั๋วถูกไป-กลับ กรุงเทพ-กระบี่ 1,5xx บาท
เลยตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินทิ้งไว้ แล้ววันเวลาก็ล่วงเลยมาจนเมื่อกลางเดือนสิงหาที่ผ่านมา น้องในฝ่ายทักขึ้นมาว่า
"เอ้ยพี่!!! ต้นเดือนกันยานี้พี่ไปเที่ยวกระบี่นี่หว่า....."
.........................
เอาล่ะสิ ซื้อไว้จนลืมไปแล้วอ่า เอาไงดี....
ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ไป-ไม่ไป ไป-ไม่ไป และสุดท้ายก็.....
ไปดิ กลัวไรล่ะ 5555
พอตัดสินใจได้ว่าไป สิ่งแรกที่ทำคือหาที่พักเลยค่ะ ใช้บริการ agoda.com ตามเช่นเคย เนื่องจากเป็นทริปที่ต้องเดินทางคนเดียว เที่ยวคนเดียว เลยคิดว่าที่พักต้องเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่าน น่าจะไม่น่ากลัวและการเดินทางต้องสะดวกด้วย เลยตัดสินใจพักที่อ่าวนางค่ะ
เราจองที่ The Krabi Forest Homestay 3 คืน ได้ราคาดีลคนกันเองค่ะ รวม Vat กับ Service Charge แล้วก็ 1,641 บาท...จร้า
(ทริปนี้เน้นประหยัด ประแบบว่าไม่ทันตั้งตัว 555)
ทริปนี้เดินทาง 3-6 ก.ย 58 ค่ะ พร้อมแล้ว....ไปเที่ยวกันค่ะ
....ปล.อาจมีรูปเจ้าของกระทู้ติดไปบ้างอย่างเพิ่งรำคาญนะคะ เพราะว่าบางรูปถ่ายมาแล้วไม่ชัดอ่ะคะ
แต่อยากลงรูปสถานที่ที่เราไปค่ะ ประเทศไทยมีที่สวย ๆ ให้ไปอีกเยอะ อยากให้เพื่อน ๆ ไปเที่ยวค่ะ....
✿.。วันที่ 1 สนามบินดอนเมือง - เข้าที่พัก - วัดถ้ำเสือ
ถึงที่พักแล้ว ห้องก็เหมือนกับในเว็บที่ดูมาค่ะ โดยรวมเราถือว่าโอเคนะคะ ไม่ค่อยซีเรียสมาก พนักงานที่นี่ก็น่ารักค่ะ พูดจาดี สุภาพค่ะ เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็ประมาณเที่ยงครึ่ง ออกไปเช่ามอไซต์ดีกว่า หิวแล้ว....
มาติดต่อที่เคาเตอร์ของโรงแรม ราคาค่าเช่ามอไซต์วันละ 200 บาท (ยิ้มในใจ ถูกกว่าเกาะล้านอีกอ่า) แต่ยิ้มเบา ๆ ได้แค่ 5 วิเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงพนักงานบอกว่า "คนไทยใช้บัตรประชาชนด้วยค่ะ ค่ามัดจำ 3,000 บาท" [กรี๊ดดดดดดด มัดจำ 3,000 ไรแว๊....เปิดกระเป๋ามี 3พัน พอดีเป๊ะ] แต่พี่พนักงานเขาอธิบายค่ะ ว่าที่นี่เคยมีคนมาเช่าแล้วหายไป ก็เข้าใจเขาอ่ะคะ ใจเขาใจเรา ก็ตามนั้นค่ะ มัดจำ 3 พันก็ 3 พัน โชคดี หน้าโรงแรมมีตู้เอทีเอ็ม..กดตังติดตัวไว้ก่อน จะได้อุ่นใจ
พอได้มอไซต์ หาข้าวทานเรียบร้อย เปิด Google map เลยค่ะ เป้าหมายของเราอยู่ที่ "วัดถ้ำเสือ" แวนซ์ไปจร้า 21 กิโล ขับย้อนกลับไปทางสนามบินค่ะ ขับไปเรื่อย ๆ ก็ถือว่าไม่ไกลนะคะ มองวิวข้างทางไปเพลิน ๆ แปปเดียวก็ถึง
เป้าหมายนี้ถือว่าเรียกเหงื่อได้ดีมากๆ เลยค่ะ กับเส้นทางที่ต้องเดินขึ้นบันได้ 1,237 ขั้น วันนั้นมีน้องๆ นักเรียนไปทัศนศึกษา เห็นแต่ละคนที่ลงมา เหงื่อชุ่มเชียว แต่พี่จะยอมแพ้น้องๆ ได้ยังไงล่ะคะ มาถึงนี่แล้ว ถึงไหนถึงกันค่ะ ฮึบ ฮึบ....และสุดท้ายก็.....ถึ ง จ น ไ ด้ ค่ ะ (เหนื่อยมาก พักแล้วพักอีก ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะขึ้นไปถึงพระธาตุ 555 (รู้ตัวเลยว่าแก่ลงไปเยอะ)
แต่พอถึงด้านบน บอกเลยค่ะ คุ้มค่ามาก ๆ สวยเหมือนในเว็บเลย บรรยากาศดีมาก อุณหภูมิบนนี้ 28 องศาค่ะ โชคดีที่วันนี้ไม่มีแดด ได้กราบพระธาตุ ไหว้พระขอพรองค์พระพิฆเนศค่ะ เป้าหมายแรกของทริปนี้ Cleared!!
✿.。วันที่ 2 ทัวร์ดำน้ำ 7 เกาะกับ The Lucky Tour
คุยกับพนักงานของโรงแรมเขาแนะนำทัวร์ของ The Lucky Tour ค่ะ
ก็ต่อราคาได้จาก 1,800 เหลือ 1,000 ถ้วน เว้าวอนสุดฤทธิ์ หนูมาคนเดียวพี่ เอาหนูไปแปะไว้กับกรุ๊ปไหนก็ได้คร่าาา 555
จากนั้นรอรถมารับตอน 9.30 ที่หน้าโรงแรมค่ะ ก็รีบแว๊นซ์มอไซต์ออกไปทานข้าว แล้วก็แวะไปซื้อซองกันน้ำใส่มือถือ เนื่องจากเราไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำอ่ะคะ มีก็แต่กล้องมือถือ S6 edge แค่นั้น...
ซื้อซองมาราคา 200 บาท แล้วก็ไม้เซลฟี่ฮัลโหลคิตตี้ 1 อัน 350 บาท
ได้ของตามต้องการ กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า รอรถมารับไปท่าเรืออ่าวน้ำเมาค่ะ
9.30 น. ตรงเวลาเป๊ะ มีรถมารับค่ะ มารับเราคนแรกเลย จากนั้นไปรับนักท่องเที่ยวมาเลย์อีก 8 คน
(น่าจะเป็นพวกเด็กมหาลัยจัดกรุ๊ปมาเที่ยวอ่ะคะ)
แล้วสุดท้ายก็จบด้วยการไปรับต่างชาติอีก 1 ท่าน รวมทัวร์กรุ๊ปนี้ 10 คน
(เป็นหญิงเดียวในนั้น สวยที่สุด ชนะเลิศ 5555)
ถึงท่าเรือเขาก็พาลงเรือไปไร่เลย์ค่ะ มีเวลาให้แวะลงไปเดินเล่น ถ่ายรูปกันแปปนึง เขาบอกว่ามาไร่เลย์นี่ต้องมาปีนหน้าผา เสียดายไม่ได้ปีนค่ะ สังขารไม่อำนวยเนื่องจากเจ็บเนื้อเจ็บตัวจากวัดถ้ำเสือมาก ๆ
จากนั้นก็นั่งเรือต่อกันยาว ๆ เลยค่ะ ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ เพราะเรากำลังจะไป...เกาะห้องกันค่ะ
ถึงแล้วค่ะ เกาะห้อง กับห้องลากูน สวยมากจร้า.... ตรงนี้ได้เล่นน้ำแล้วค่ะ ไกด์บอกว่าเหมือนว่าช่วงบ่ายจะมีฝน แล้วคลื่นแรงคงไปได้ไม่ครบทุกเกาะ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ก็เลือกมาทะเลหน้าฝนก็ต้องทำใจอ่ะคะ 5555
ออกจากห้องลากูนเราก็ไปต่อกันที่เกาะละดิ่ง หรือเกาะเหลาละดิ่งค่ะ ที่เกาะนี้มีชิงช้าให้เล่นด้วยพี่ที่เป็นไกด์ผู้หญิงน่ารักมากค่ะมาแกว่งชิงช้าให้ แถมถ่ายรูปให้ตลอดเลยค่ะ จากเกาะละดิ่งใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็ไปทะเลแหวก แต่น่าเสียดายค่ะมาถึงทะเลแหวก ฝนตกแถมทะเลไม่แหวกด้วย ก็ได้ลงไปเดินเล่น ถ่ายรูป จากนั้นก็ไปที่เกาะปอดะค่ะ ทานอาหารค่ำเป็นบุฟเฟต์บาร์บีคิวที่นี่ค่ะ มีโชว์ควงกระบองไฟด้วยค่ะ จากนั้นนั่งเรือกลับอ่าวน้ำเมา รอรถมารับไปส่งที่โรงแรม....
กลับถึงโรงแรมประมาณ 20.30 น. อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ คืนนี้ตั้งใจออกไปเดิน Night Market ที่อ่าวนางค่ะ ก็ออกมาเดินดูของที่เขาขายทั่วๆ ไป พวกของฝาก เสื้อ I ❤ KRABI ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่นะคะ แต่พอหยุดดูร้านไหน แม่ค้าก็พูดอังกฤษด้วย เลยถามกลับไปว่า "หนูไม่เหมือนคนไทยหรอค่ะ" แม่ค้าเขาขำ เขาบอกพี่นึกว่าคนจีน.....
ลากันกับคำคืนนี้ที่อ่าวนางค่ะ เดินเล่น ชิล ๆ บังเอิญเจอร้านน่านั่ง มีนักร้องกำลังจะร้องเพลง เลยแวะไปนั่งฟังเพลงแปปนึง จากนั้นก็กลับโรงแรม...นอน จบทริปวันที่สองค่ะ......Happy
✿.。วันที่ 3 สก๊อยเก่า แว๊นซ์จากอ่าวนาง มุ่งหน้าสระมรกต - น้ำตกร้อนคลองท่อม
เรามาถึงทางเข้าสระมรกต เจอร้านที่ขายพวกรูปถ่าย ของที่ระลึก ของกินเล็กน้อย ก็ดิ่งไปซื้อน้ำกับสัปปะรดลูกน้อย ๆ แล้วเดินไปซื้อตั๋วค่ะ ราคาคนไทย 40 บาทค่ะ กำลังจะเดินผ่านจุดตรวจตั๋ว ปรากฏว่า.....เข้าไม่ได้คร่าาาา เขาห้ามนำของกินเข้าไป เหอๆ ฝนก็ตกปรอย ๆ กลัวรอช้าเดี๋ยวฝนตกหนักจะอดเล่น รีบกินสัปปะรดอย่างรวดเร็ว 555 เสียดาย (จริงๆ เค้ามีป้ายบอกชัดเจนอ่ะคะ แต่เราไม่ได้อ่านก่อน เด๋ออีก อิอิ)
เมื่อกำจัดสัปปะรดเรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่สระมรกตค่ะ ตามป้ายเขาบอกว่าเดินเข้าไป 800 เมตรค่ะ เดินเข้ามาเรื่อย ๆ อากาศดีค่ะ ไม่ร้อนเลย และเราก็เจอจุดหมายของเราวันนี้ค่ะ มีคนมาเล่นน้ำพอสมควร สักพักเริ่มมีแดด ถือเป็นโชคดีของเราค่ะ ที่นี่สวยมากค่ะ ชอบ ๆ ไม่ผิดหวังเลยที่ขับมอไซต์มาตั้งไกล เล่นน้ำอยู่ที่นี่สักพัก ก็ไปที่จุดมายต่อไปค่ะ นั่นคือ "น้ำตกร้อนคลองท่อม"
มาถึงน้ำตกร้อน ฝนตกอีกรอบค่ะ คราวนี้แรงพอสมควร เรากลัวกระเป๋าจะเปียกเลยต้องไปหลบฝนที่ศาลากับคุณป้าที่ให้บริการนวดอยุ่บริเวณนั้นค่ะ สักพักรอไม่ไหว เลยขอถุงพลาสติกคุณป้ามาคลุมกระเป๋าไว้ แล้วลุยฝนไปเล่นน้ำตกเลยจร้า แอบเอากระเป๋าวางไว้โคนต้นไม้ จากนั้น....ค่อย ๆ เดินลงน้ำตก ซึ่งเป็นเหมือนบ่อน้ำร้อน แช่ตัวลงในบ่ออยากจะบอกว่า......
โอ้ย ฟินมากค่ะ อยากให้ที่บ้านมีแบบนี้
มีป้ายเตือนบอกว่าควรเล่นน้ำไม่เกิน 30 นาทีค่ะ พอแช่น้ำไปสักพักเริ่มเพลีย กลัวขับรถกลับไม่ไหว
ขากลับขับมอไซต์ชิลๆ ค่ะ แต่รู้สึกว่าไม่ไกลเหมือนขาไปค่ะ แปปๆ ก็ถึงอ่าวนางแล้วค่ะ
เข้าโรงแรม อาบน้ำ สระผม เตรียมออกไปซื้อของฝากสักหน่อยค่ะ
ออกมาเดินเล่น ได้ของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ
✿.。วันที่ 4 หาดนพรัตน์ธารา - อ่าวนาง - สุสานหอย 75 ล้านปี - สนามบินดอนเมือง
วันนี้ตื่น 7 โมงมาแพ็คกระเป๋าเพราะต้องเช็คเอาท์ออกตอนเที่ยงค่ะ จากนั้นออกไปทานข้าว แต่เช้าเกินไปไม่มีร้านไหนเปิดเลย เราเลยต้องเพิ่งพี่แม็ค 555 จากนั้นขับมอไซต์ไปหาดนพรัตน์ธารา อยากไปเล่นน้ำอีกสักรอบค่ะ แต่เราว่าหาดทรายไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ถ้าเทียบกับอ่าวนาง เลยขับรถกลับมาที่อ่าวนางค่ะ เอามอไซต์ไปจอดไว้หน้าโรงแรมแถว ๆ หน้าหาด พี่ยามใจดี บอกว่าจะคอยดูมอไซต์ให้ค่ะ
ก่อนเล่นน้ำ ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระทึก 555 เนื่องจากมาคนเดียว ก็อยากได้รูปกระโดด ณ ชายหาดแสนสวย แต่.....ช้านจะทำอย่างไรล่ะ คำถามนี้ดังในหัว และแล้วเราก็จำใจต้องขุดหลุมทรายแล้วเอาไม้เซลฟี่ที่มีหน้าเฮลโหลคิตตี้อยุ่ที่ด้ามไม้ ฝังลงไปเลยค่ะ ปักไม้ลงไปในทราบลึก ๆ เลยจร้า ตั้งเวลาไว้ 10 จากนั้นก็วิ่งๆๆๆ แล้วก็กระโดดๆๆๆๆ กว่าจะได้ภาพพวกนี้มาเรียกได้ว่า "ตับแล่บ" ค่ะ
หลังจากเล่นน้ำ กลับมาเช็คเอาท์แต่ฝากของไว้ที่โรงแรมค่ะ จากนั้นแว๊นซ์มอไซต์ไปเป้าหมายสุดท้ายของเราคือ "สุสานหอย 75 ล้านปี" ซึ่งไม่ไกลจากอ่าวนางค่ะ เราอยู่ที่นี่ตลอดบ่าย จากนั้นขับมอไซต์กลับมาที่โรงแรม คืนมอไซต์เอาเงินมัดจำ 3 พันคืนมาก จากนั้นรอรถมารับไปสนามบินค่ะ ค่ารถก็ 150 บาท จบทริปกระบี่ค่ะ....ทริปนี้ สนุกมากจริงๆ ค่ะ การเที่ยวคนเดียวไกล ๆ ครั้งแรก ได้ประสบกาณ์ใหม่ ๆ ตื้นเต้นและท้าทายดีค่ะ