เเม้ว่าการเดินทางของเวลาจะไม่มีวันสิ้นสุด...เเต่การเดินทางของการอคอยทุกๆการรอคอย มีจุดสิ้นสุดเสมอ การเดินทางท่องเที่ยวเช่นกัน เชื่อว่าการท่องเที่ยวของหลายๆคนจะถูกปักหมุดไว้ในปฏิทินเเละหลายครั้งที่เราได้เเต่จ้องมองมันด้วยใจจดจ่อว่า...เมื่อไร สำหรับการเดินทางครั้งนี้เวลาก็เป็นตัวเเปรหนึ่งในการปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวของเรา ตลอดเวลาเกือบปีที่เริ่มจองตั๋วเเละปักหมุด เราต่างพูดถึงจุดหมายที่จะไปกับเพื่อนร่วมเดินทางเสมอๆ จนในที่สุดเวลาที่เรารอคอยก็สิ้นสุดลงพร้อมกับคำตอบของการเดินทางครั้งนี้คือ
เมืองหลวงพระบาง เมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เเละวัฒนธรรมของประเทศลาว เเละ
นครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศเพื่อนบ้านของเราเอง...
>>28 ส.ค. การเดินทางเเบบ VIP วิถี slow life แบบไม่ slow
การเดินทาง 3 คืน 4 วัน กับเพื่อนร่วมทาง 5 ท่าน เเละงบประมาณ 6 พันบาท ที่ต้องไปให้ถึงเมืองหลวงพระบางโดยมีเเผนการเดินทางคร่าวๆ คือ กรุงเทพ•อุดรธานี•หนองคาย•เวียงจันทน์•หลวงพระบาง•เวียงจันทน์•อุดรธานี•กรุงเทพ
เมื่อการเดินทางได้เริ่มขึ้นที่สนามบินดอนเมือง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสนามบินอุดรธานี
ถึงสนามบินจะมีบริการรถตู้เเละรถลีมูซีน ที่จะพาเราไปส่งที่สะพานมิตรภาพไทยลาว จ.หนองคาย เพื่อความรวดเร็วจึงตัดสินใจเช่ารถลีมูซีนพร้อมคนขับทันที...ทริปสโลว์ไลฟ์ของเราา เริ่มต้นด้วยความไม่สโลว์ ซะล้าวววว
เเถ่นเเถ้นนนน รถคันนี้นี่เองที่ไปส่งพวกเรา ทำให้รู้สึกกลายเป็นทริป VIP ขึ้นมาทันที...
ไม่เกินสองชั่วโมงก็เดินทางมาถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ยังเก็บกระเป๋าลงจากรถไม่ทันหมด ก็จะมีบรรดาพี่ๆรถรับจ้างทั้งจากลาวเเละพี่ไทยเดินมาถามเราเเละเพื่อนๆว่าจะไปไหน ในใจอิชั้นก็คิดว่า พี่คะใจเย็นนะ คือเอ่ออ...ยังไม่ทันจ่ายค่ารถเลยย เเต่ด้วยความที่เป็นทริป VIP จึงตัดสินใจเช่ารถลีมูซีนอีกรอบหนึ่ง โดยรอบนี้จะเป็นการเช่าเพื่อทัวร์ในภายเวียงจันทน์ เพื่อประหยัดเวลาจะได้มีเวลาเที่ยวเวียงจันทน์นานๆ เเละให้ไปส่งที่สถานีขนส่งสายเหนือเพื่อเดินทางไปหลวงพระบางต่อไป
กรอกเอกสารที่ด่านขาออกของประเทศไทยเเละตรวจ passport ก่อนออกนอกประเทศ
จากนั้นก็กลับมาขึ้นรถเพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์กันค่ะ รถจะจอดเพื่อให้เราลงไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศลาว เเละกรอกเอกสารขาเข้าประเทศค่ะ พร้อมกับซื้อตั๋วผ่านช่องขายบัตรพร้อมกับยื่น passport ให้เค้าด้วย ลักษณะจะเป็นเหมือนบัตรรถไฟฟ้าบ้านเราเบยยย
เหยียบดินเเดนประเทศลาว อย่างเป็นทางการเเล้ววค่าาา
จากนั้นก็เดินไปที่รถลีมูซีนนำเที่ยวของเรา ที่ได้ตกลงราคาไว้ตั้งเเต่ก่อนข้ามมายังประเทศลาว ราคา 800บาท/เที่ยว
[CR] คิดถึงหลวงพระบาง••คิดถึงเวียงจันทน์••คิดถึงวันเดินทาง
>>28 ส.ค. การเดินทางเเบบ VIP วิถี slow life แบบไม่ slow
การเดินทาง 3 คืน 4 วัน กับเพื่อนร่วมทาง 5 ท่าน เเละงบประมาณ 6 พันบาท ที่ต้องไปให้ถึงเมืองหลวงพระบางโดยมีเเผนการเดินทางคร่าวๆ คือ กรุงเทพ•อุดรธานี•หนองคาย•เวียงจันทน์•หลวงพระบาง•เวียงจันทน์•อุดรธานี•กรุงเทพ
เมื่อการเดินทางได้เริ่มขึ้นที่สนามบินดอนเมือง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสนามบินอุดรธานี
ถึงสนามบินจะมีบริการรถตู้เเละรถลีมูซีน ที่จะพาเราไปส่งที่สะพานมิตรภาพไทยลาว จ.หนองคาย เพื่อความรวดเร็วจึงตัดสินใจเช่ารถลีมูซีนพร้อมคนขับทันที...ทริปสโลว์ไลฟ์ของเราา เริ่มต้นด้วยความไม่สโลว์ ซะล้าวววว
เเถ่นเเถ้นนนน รถคันนี้นี่เองที่ไปส่งพวกเรา ทำให้รู้สึกกลายเป็นทริป VIP ขึ้นมาทันที...
ไม่เกินสองชั่วโมงก็เดินทางมาถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ยังเก็บกระเป๋าลงจากรถไม่ทันหมด ก็จะมีบรรดาพี่ๆรถรับจ้างทั้งจากลาวเเละพี่ไทยเดินมาถามเราเเละเพื่อนๆว่าจะไปไหน ในใจอิชั้นก็คิดว่า พี่คะใจเย็นนะ คือเอ่ออ...ยังไม่ทันจ่ายค่ารถเลยย เเต่ด้วยความที่เป็นทริป VIP จึงตัดสินใจเช่ารถลีมูซีนอีกรอบหนึ่ง โดยรอบนี้จะเป็นการเช่าเพื่อทัวร์ในภายเวียงจันทน์ เพื่อประหยัดเวลาจะได้มีเวลาเที่ยวเวียงจันทน์นานๆ เเละให้ไปส่งที่สถานีขนส่งสายเหนือเพื่อเดินทางไปหลวงพระบางต่อไป
กรอกเอกสารที่ด่านขาออกของประเทศไทยเเละตรวจ passport ก่อนออกนอกประเทศ
จากนั้นก็กลับมาขึ้นรถเพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์กันค่ะ รถจะจอดเพื่อให้เราลงไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศลาว เเละกรอกเอกสารขาเข้าประเทศค่ะ พร้อมกับซื้อตั๋วผ่านช่องขายบัตรพร้อมกับยื่น passport ให้เค้าด้วย ลักษณะจะเป็นเหมือนบัตรรถไฟฟ้าบ้านเราเบยยย
เหยียบดินเเดนประเทศลาว อย่างเป็นทางการเเล้ววค่าาา
จากนั้นก็เดินไปที่รถลีมูซีนนำเที่ยวของเรา ที่ได้ตกลงราคาไว้ตั้งเเต่ก่อนข้ามมายังประเทศลาว ราคา 800บาท/เที่ยว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น