มองข้าม... 'เยียวยา' หรือ 'เรื้อรัง'

สำหรับคู่รักบางคู่อาจคิดว่า “บางเรื่องถ้าเรามองข้ามไปบ้าง ความรักจะยั่งยืน” ...จริงหรือ?

คนที่มีแฟน ย่อมมีเรื่องที่ไม่พอใจแฟน บางเรื่องเกิดจากความ ‘คาดหวัง’ ของตนเอง เมื่อหวังมาก พอผิดหวังย่อมสร้างบาดแผลภายในใจ ...แล้วแฟนคุณรู้ความคาดหวังนั้นไหม?

บางคนอาจโทษว่าอีกฝ่าย ‘เปลี่ยนไป’ ความจริงอาจเป็นคุณเองต่างหากที่เปลี่ยน
เปลี่ยน... เพราะรักมากขึ้น รู้สึกมากขึ้น หวังมากขึ้น อยากได้รับการดูแลเอาใจใส่มากขึ้น
แฟนคุณอาจทำเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม แต่คนสองคนย่อมมีจังหวะก้าวเดินไม่ตรงกัน สิ่งที่ช่วยกำกับจังหวะการเดินของคู่รักคือ ‘มือ’
การเดินจับมือย่อมมีบางครั้งที่คุณดึงแฟนให้เดินตาม หรือบางครั้งก็ดึงแฟนให้เดินช้าลง

การจับมือคือวิธีการ ‘บอก’ ให้อีกฝ่ายรู้ว่าจังหวะก้าวเดินของอีกฝ่ายช้าหรือเร็วไป
บางคนอาจคิด ทำไมต้องให้บอกทุกเรื่อง? ทำไมไม่ใส่ใจ หันมองคนข้าง ๆ บ้าง?

เมื่อรักมาก... รู้สึกมาก... ก้าวช้าไปแค่หนึ่งคืบคุณก็รู้สึก ก้าวเลยไปแค่ปลายเล็บคุณก็มองเห็น ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจ เพียงแต่ไม่ได้มีเพียงเรื่องเดียวที่ใส่ใจ ขณะที่คุณมัวแต่สนใจจังหวะการก้าวเดิน...
แฟนของคุณอาจกำลังกางร่มให้คุณเดินอย่างเย็นสบาย
แฟนของคุณอาจกำลังถือข้าวของพะรุงพะรังให้คุณ
แฟนของคุณอาจกำลังคิดเมนูมื้อเย็นให้คุณทาน
แฟนของคุณอาจกำลังมองทางข้างหน้าเพื่อระวังอันตรายให้แก่คุณ

ขณะที่คุณไม่ได้มองเขาเลย ไม่ได้สนใจเขาเลย ไม่รู้ว่าร่มนั้นไม่ได้บังแดดให้เขา ไม่รู้ว่าเขาถือของจนมือสั่นเกร็ง ไม่รู้ว่าเขาคิดเรื่องคุณมากขนาดไหน เพราะคุณกำลังนับว่า แฟนของคุณก้าวผิดจังหวะครั้งที่เท่าไหร่

บางคนทนจนถึงจุดเดือด ระเบิดออกมา ทะเลาะกัน เถียงกัน ฝ่ายหนึ่งยึดแต่สิ่งที่ตนขาด ส่วนอีกฝ่ายคิดถึงแต่สิ่งที่ตนให้
การเลือกจับมือกันเดินในขณะที่อารมณ์พุ่งพล่านอาจเป็นการกระตุกจนมืออีกฝ่ายหลุด แต่ก็อาจเป็นการปรับจังหวะเดินให้เข้ากันและก้าวเดินต่อไปได้

แต่บางคนเลือก ‘มองข้าม’ แค่ก้าวเดินเล็กน้อยไม่น่าลำบากให้อีกฝ่ายต้องปรับ ไหนจะต้องเหนื่อยทะเลาะกันอีก
คุณมองข้ามได้จริงหรือ? ในเมื่อปัญหานั้นได้สร้างบาดแผลไว้บนผิวหนังคุณแล้ว ต่อให้ไม่มองแต่คุณย่อมรู้สึก ต่อให้ไม่เห็นแต่บาดแผลนั้นได้ฝังลึกลงไปในห้วงความคิดของคุณ การมองข้าม... จะช่วยเยียวยาบาดแผลนั้น หรือทำให้บาดแผลซึ่งอาจเป็นเพียงแค่แผลถลอกกลายเป็นแผลเรื้อรังกันแน่

ในขณะที่จังหวะก้าวเดินของแฟนคุณค่อย ๆ สร้างรอยแผลให้คุณทีละนิด ทีละนิด ได้ปรากฏ ‘คนแปลกหน้า’ ขึ้นมา คนแปลกหน้าคนนั้นเฝ้าระวังก้าวเดินของคุณอย่างละเอียด แม้ไม่ได้จับมือ แต่ไม่เคยก้าวผิดจังหวะกันแม้แต่น้อย... ‘ใส่ใจ’
ขนาดคนแปลกหน้ายังใส่กันขนาดนี้ แล้วทำไมคนใกล้ตัวกลับปล่อยปะละเลยเรา

แผลเรื้อรังนี้ไม่มีวี่แววจะหาย ต่อให้แฟนคุณไม่ได้สร้างรอยแผลซ้ำ แต่มีคนแปลกหน้ามาคอยกดแผลนั้น คอยย้ำเตือนว่าคุณมีบาดแผลอยู่ ...บาดแผลบนผิวหนังย้ายไปฝังไว้ในใจ

การดูแลเอาใจใส่ของแฟนคุณเปรียบดั่งครีมบำรุงผิว คอยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ผุดผ่อง เพียงแต่เรื่องพวกนั้นมันเกิดขึ้นอยู่ประจำจนคุณไม่ทันได้สังเกตว่าคุณเปลี่ยนไปมากเพียงใด รอยถลอกแม้เพียงน้อยนิดย่อมเด่นชันกว่า
จนเมื่อไม่มีใครมาบำรุงดูแลผิวคุณแล้วคุณจะทราบว่า ชีวิตคุณแห้งเหี่ยวเพียงใด รอยถลอกได้หายไปพร้อมกับความชุ่มชื้นของผิวหนัง ครีมบำรุงยี่ห้อใหม่ที่คิดว่านุ่มนวลแรกสัมผัสกลับทำให้ผิวคุณหยาบกระด้าง


ไม่มีวิธีการใดแก้ได้ทุกปัญหา เราต้องดูหลาย ๆ องค์ประกอบร่วมกัน ผมไม่ได้จะมาบอกว่าให้พูดทุกเรื่องนะ พูดทุกคำที่คิดนะ แค่อยากเตือนใจให้คนที่กำลังมีปัญหากับคนรัก ให้ลองคิดว่าเขาเปลี่ยนไปจริงหรือ ให้ลองใส่ใจเขาบ้าง ลองฉุกใจคิดเมื่อเจอคนที่ดีกว่าดู ผมเชื่อว่าไม่มีใครดีกว่าใคร มีแต่คนนี้ดีกว่าในด้านนั้น คนนั้นดีกว่าในด้านนี้

สุดท้ายผมขอให้ทุกคนเจอครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม และลองช่วยกันรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้น อย่าปล่อยให้แผลถลอกลุกลามจนเกิดเป็นแผลเรื้อรังที่รักษาไม่หายได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่