เนื่องจาก จขกท ได้ไปสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามาค่ะ เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
ทำการกรอก DS 160 ตาม link นี้นะคะ
http://pantip.com/topic/32189283 และนัดสัมภาษณ์ตาม link นี้
http://pantip.com/topic/32193184
ได้วันสัมภาษณ์แล้วไปกันเลยค้าาาา
เรากรอก DS 160 support ตัวเอง เดินทางคนเดียว ที่อยู่ พักโรงแรม ไม่มีคนเชิญ ไม่มีคนรู้จักใน USA ค่ะ พาสปอร์ตใหม่ เล่มที่ 2 stamp ประเทศลาว ที่เดียวค่ะ ฟังดู 50 / 50 ที่จะได้วีซ่านะคะ วัดดวงกันไปเลย
วันสัมภาษณ์ 1 กันยายน 58 คิว 9.00 น ไปรอคิวหน้าสถานทูต 8 โมงเช้า เจ้าหน้าที่จะเรียกตามคิว ให้เอา ใบ confirm DS 160 และ passport ออกมาใส่ในถาดพาสติก ถือไว้แล้วเดินไปเรื่อยๆ เข้าไปข้างในประตู เพื่อสแกนร่างกาย ฝากโทรศัพท์ไว้ด้านหน้าได้ 1 เครื่อง โดยใช้บัตรประชาชนค่ะ
ผ่านการสแกนร่างกาย จากพี่ รปภ แล้ว เราก็หยิบเอกสารจากถาด เปิดประตูเดินเข้าไปข้างใน นั่งรอที่เก้าอี้ หน้าทางเข้าห้องสัมภาษณ์ ไปถึงก็นั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกไปเข้าแถว เขาจะเรียกเป็นรอบๆตามเวลาที่นัด ก็รีบไปเข้าแถวเลยค่ะ เพราะรอบนึงมีประมาณ 25 คน
ด่าน 1 เจ้าหน้าที่คนไทย เราก็ยื่นเอกสารใบนัด กับใบคอนเฟิร์ม DS-160 ให้ แปะ สติกเกอร์ EMS เอาเอกสารมัดรวมกันด้วยหนังยางเส้นใหญ่ๆให้ สรุปเอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าครั้งนี้ คือ พาสปอร์ตปัจจุบัน+ใบคอนเฟิร์ม DS-160
ส่วนเอกสารอื่นๆที่เราเตรียมมาคือ หนังสือรับรองเงินเดือน Statement แผนการท่องเที่ยว อื่นๆ ให้เราถือไว้ต่างหาก เผื่อตอนไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ขอดูนะคะ
อย่าลืมจดหมายเลข EMS จากสติ๊กเกอร์ที่เจ้าหน้าที่แปะไว้ด้วย
ถ้าเราขอวีซ่าผ่าน จะได้ track ได้ว่าพาสปอร์ตจะส่งคืนมาเมื่อไหร่ แต่เราไม่ได้จดนะ 555 เพราะถึงยังไงเราว่า EMS ก็ถึงภายใน 3 วันละน้า
ถ้าไม่ผ่าน จะได้พาสปอร์ตคืนทันที ถือกลับไปเลย
ด่าน 2 เปิดประตูเดินเข้าไปห้องด้านใน เจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ก็สอดเอกสารมัดๆ นั้นเข้าไปเลยค่ะ ถามเรา
1. ถามชื่อ
2. ขอวีซ่าครั้งแรกใช่มั้ยคะ
3. เคยเปลี่ยนชื่อ สกุลไหม
ให้สแกนนิ้วมือซ้าย 4 ขวา 4 นิ้วโป้ง 2
น้องคนที่เข้าคิวใกล้ๆ เรา เคยไปอังกฤษ ไปสวีเดน เจ้าหน้าที่พูดออกไมค์ว่าไปอังกฤษบ่อยจังนะคะ ตายๆๆๆ ฉันไม่เคยไปอังกฤษ ไม่เคยไปยุโรป ไม่เคยไปออสเตรเลีย เคยไปแต่ลาว ช่องเม็ก 555 ข้ามไปตรงอุบลราชธานี เคยไปกัมพูชา ตรงช่องสะงำ ศรีสะเกษ เคยไปเวียตนาม ข้ามฝั่งไปทางหนองคาย ไปลาวทะลุเวียตนาม คือไม่เคยบินออกนอกประเทศเลยค่ะ แล้วเคยไปมันพาสปอร์ตเล่มเก่า พาสปอร์ตเล่มใหม่ ขาวสะอาดมากค่ะ เออ++++ จะผ่านไหมเนี่ย ทำไมถามแต่คำถามนี้หวา แทบทุกคน
ความรู้สึกในห้องสัมภาษณ์ คือ 50/50 ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ไปแล้ว อเมริกา อะไรจะยากขนาดนี้ เง้อ ตื่นเต้น ใจเต้น คนผ่านน้อยมาก บางคนร้องให้ ไม่ผ่านมาหลายรอบ
เสร็จจากตรงนี้เราก็ไปเข้าคิวต่อไปถือเอกสาร ในมัดไปด้วยที่ต้องยื่นให้กงสุลฝรั่งค่ะ ช่วงนี้ชี้เป็นชี้ตายแล้วนะคะ
ด่านที่ 3 วัดใจ บีบคั้นหัวใจสุดๆ มีเปิด 4 ช่อง กงสุลฝรั่ง 4 คน ไม่มีกงสุลเกาหลี ไม่มีกงสุลสวยๆ ผมทอง ในตำนาน ไม่มีกงสุลผิวสี ทุกคนพูดไทยได้หมด เราก็ยืนรอคิวไปเรื่อยจะได้สัมภาษณ์กับคนไหน รอไปเรื่อยๆ ถึงคิวเราแล้ว ได้สัมภาณ์ช่อง 7 คุณฝรั่งท้วมๆ ผมน้อยๆ ใส่แว่น เรางี้ใจเต้นสุด ๆ ไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะผ่าน คุณสมบัติ โสด เดินทางคนเดียว ไม่เคยไปเที่ยวประเทศที่ต้องขอวีซ่า เง้อ มีคนบอกว่าไม่มีทางผ่าน
ได้คิวแล้ว ใจเรื่มเต้นแรงอีกแล้ว กงสุลฝรั่งบอกว่า รอซ้ากกกครู่นะคร้าบบบ เรา อะไรนะคะ ภาษาไทยแบบ ฝรั่งพูดไทยแปร่งสุดๆๆ งงเลย กงสุลฝรั่งวิ่งออกมาข้างนอก ตุ๊บๆๆ เอ๋อ อะไรเนี่ย อ้อกลับเข้ามาให้ ผู้ชายที่สัมภาษณ์ก่อนหน้าเรา มาสแกนลายนิ้วมือ อ้อเข้าใจแล้วค่ะ เสร็จแล้ว ถึงตาเราแล้ว เราไหว้สวยๆ ท่านกงบอกแสกนลายนิ้วมือก่อนเลยนะคร้าบบบ ฟังยากสุดๆๆๆ 5555
คงกลัวลืมเหมือนคนก่อนหน้าเราแน่ๆ มีแบบนี้ด้วย
กงสุลฝรั่งจะยืนข้างใน พูดใส่ไมค์ เรายืนตอบด้านหน้านะคะ เสร็จแล้ว เริ่มคำถามกันเลย
กงสุล : สวัสดีครับคุณ .......................
เรา : สวัสดีค่ะ
กงสุล : คุณจะไปเที่ยวเมืองไหนครับ ..........เอ๋อ ภาษาไทยของคุณฝรั่ง คือเราฟังยากค่ะ เราเลยจัดไป ตอบไปเป็นอังกฤษไปเลย
เรา : I will go to Seattle.
ท่านกงก้มอ่านหน้าคอม แล้วถามต่อ......เปลี่ยนโหมดทันที ไม่พูดภาษาไทยแล้ว 555 เข้าทางดีมาก ถ้าพูดไทยต่อ เราตายแน่ๆ
กลสุล : Will you travel alone ? Why?
เรา : ตายยยย เจอคำถามนี้จะให้ฉันผ่านไหมเนี่ย เลยตอบไปซะยาวเหยียด Yes, I will travel alone. I think it's easy for me to travel to everywhere in the world because I can speak good English.So it's no any problem to travel by myself.I have a good job. I have enough money....( ในความเป็นจริงโม้เอาให้อลังการ สวยๆๆ ค่ะ) I enjoy meeting new people, new cultures and I enjoy making new friends. .
พูดไปค่ะ ท่านกง ยิ้ม เหมือนจะพอใจในคำตอบนะคะ (เออ ++ คิดไปเอง ไหมเนี่ย 555 คือบรรยากาศดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส)
กงสุล : Do you have relatives in the USA?
เรา : No, I don't have. (คิดในใจ จะมีญาติใน USA ได้ไงวะเนี่ย ชั้นแบบ LOSO มาก 5555)
กงสุล : Have you worked here as .....for.....years?
เรา : Yes, I have been worked as......for......years.
คำถามสุดท้ายอ่านมาจาก DS-160 ตรงช่อง Briefly describe your duties นั่นแหละค่ะ ตอบได้สบายเลย
จบคำถาม เร็วมาก
กงสุล : Welcome to STARBUCKS.
เรา : เอ๋อ หน้างง มา......Welcome to STARBUCKS กรูทำไมวะ กรูไม่ได้อยากกินกาแฟ คิดในใจ งง อีก 10 เท่า 555
กลสุล : หัวเราะ Your visa was approved.You will get your passport back in 3-4 days.
เรา : หน้า เหรอสุดฤทธิ์ Really ?อะไรนะคะ
กงสุล : กลับมาภาษาไทยค่ะ คุณจะได้รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่า รอรับที่บ้านได้เลยคร้าบบบบ ภายใน 3-4 วัน
เรา : จริง เหรอคะ
กงสุล : ใช่ครับ หัวเราะอีก
เรา : ดีใจมาก ไหว้สวยๆๆ โฮ๊ยยย +++ ขอบคุณมากค้าาาา เนี่ยไม่อยากเชื่อเลย แต่มันเป็นจริงแล้ว
เดินออกมาอย่างรวดเร็วกลัวท่านกงเปลี่ยนใจ ปุ๊ก ++ เฮ้ยย++เราทำพาสปอร์ตเล่มเก่าตกหน้าเค้าเตอร์ ดีใจจนซุ่มซาม เอ๋อ อีกแล้ว ท่านกงกับผู้ชายที่รอคิว หัวเราะ 5555 และแล้วเราก็ได้ USA วีซ่า แล้ว สัมภาษณ์จริงๆ 5 นาที เอกสารที่ เตรียมไป
1. หนังสือรับรองเงินเดือน อายุงาน เป็นภาษาอังกฤษ
2. statement
3. แผนการท่องเที่ยว
4. ใบจองโรงแรม
ท่านกงไม่ดูสักอย่างเลยค่ะ ง่ายอะไรเช่นนี้ ออกมาแล้วเพิ่งนึกออกแล้ว อ๋อ Welcome to STARBUCKS .....ก็ เราบอกว่า จะไป Seattle ต้นกำเนิด ของ STARBUCKS นี่เอง เข้าใจแล้ว งงอยู่ตั้งนาน 555
ที่สังเกตนะคะ วันสัมภาษณ์นะคะ
-ผู้หญิงสัมภาษณ์ กะฝรั่งหล่อๆสูง ช่องข้างๆ เรา ถามนานมาก เป็น 10 นาที เธอบอกจะไปเยียมแฟนที่ชิคาโก้ ขอดูเอกสารนั่นนี่ ปรากฏ ไม่ผ่านค่ะ
-หลายๆ คนหอบเอกสารมาเป็นปึก โฉนดที่ดิน เอกสารเล่มรถยนต์ ทร้พย์สินต่างๆๆ บลาๆๆ ไม่เห็นเขาจะขอดูเล้ยยย เห็นขอดูแต่ พวก Statement หนังสือรับรองเงินเดือน
-มีคน profile ดีมากเป็นวิศวกร วีซ่าไม่ผ่าน
-มีคนเป็นเจ้าของกิจการ วีซ่าไม่ผ่าน
-มีคนเป็นข้าราชการ วีซ่าผ่าน และไม่ผ่าน
-มีคนบอกไปเยี่ยมแฟน วันที่เราไปสัมภาษณ์ไม่มีใครผ่านซักคน
-มีคนเคยไปเดินทางมารอบโลก สัมภาษณ์ผ่าน
-มีคนแก่ๆ ไม่รู้ภาษาอังกฤษไปเยี่ยมลูกผ่าน
-น้องผู้หญิงคนเดินไปพร้อมๆ เรา เคยไปเที่ยวสวีเดน เคยไป อังกฤษ หลายรอบ จะไปเยี่ยมเพื่อนที่ Seattle ก็ผ่านนะคะ
ท่านกงมักจะถามว่า เคยเดินทางไปไหนมาบ้าง ขอดูพาสปอร์ตหน่อย คนที่เคยเดินทางไปประเทศที่ค้องขอวีซ่า เช่น วีซ่ากลุ่มประเทศเชงเก้น วีซ่าอังกฤษ วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่าแคนาดา หรือ วีซานิวซีแลนด์ ก็จะเป็นผลดีเพราะท่านกงจะมองว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยว มีศักยภาพในการเดินทางไปเที่ยวประเทศเหล่านี้ได้ แต่ใช่ว่าไม่เคยมีประวัติการเดินทาง แล้ววีซ่าจะไม่ผ่านนะคะ อย่างเราเป็นต้น วีซ่ายังผ่านเลยค่ะ ท่านกงคงดูคุณสมบัติอื่นประกอบด้วย
เออ เอาอะไรมาตัดสินกันบ้าง เขาว่ากันว่า กงสุลสัมภาษณ์ทุกวันมีจิตวิทยาสูง ย่อมดูออก เฮ้ยยยย มันจริงเหรอ บางคนไม่น่าจะผ่านดันให้ผ่านไปโดด บางคน profile สวยหรู จะไปเที่ยวจริงๆ ไม่ผ่านซะเนี่ย เพราะอะไร ทำไม หลายๆ คนเลยบอกว่า เป็น เพราะดวงค่ะ
สิ่งสำคัญสำหรับการขอวีซ่า ท่องเที่ยวอเมริกา คือการ กรอก DS-1ุ60 ค่ะ ต้องบรรยายหน้าที่การงาน ตรงช่อง Briefly describe about your duties ไปเยอะๆ คุณทำหน้าที่อะไร มีประสบการณ์อะไร มีงานพิเศษอะไร กรอกรายได้ไป เขียนให้มันอลังการ เว่อร์วัง เพราะ ช่องอื่นไม่มีที่ให้กรอก เลยแนะนำให้จัดไปเต็มๆ บางคนเขียนยังกะชีวประวัติตัวเองยาวเป็นหน้ากระดาษ A4 ก็คงจะช่วยตรงได้บ้าง
เหมือน DS-160 เลยมีความสำคัญ มีการพิจารณามาก่อนสัมภาษณ์มากเกิน 70 % ที่เหลือมาพิจารณากัน หน้างาน
กลุ่ม 1. DS-160 ผ่านแต่แรก ตอนสัมภาษณ์ อาจถามนิดหน่อย ไม่ค่อยขอดูเอกสารเพิ่มเติม
กลุ่ม 2. DS-160 ผ่านหรือ ไม่ผ่าน ต้องสัมภาษณ์อีกที ส่วนมากจะขอดูเอกสารเพิ่มเติม
กลุ่ม 3 DS-160 ไม่ผ่านแต่แรกอยูแล้ว ส่วนมากจะถามนิดหน่อย ไม่ขอดูเอกสาร วีซ่าไม่ผ่าน
แนะนำ ว่าควรกรอก DS-160 เองนะคะ หรือถ้าให้เพื่อนกรอกให้เราก็ต้องมานั่งไล่ดูรายละเอียดด้วยกัน เพราะคำถามทั้งหมดมาจาก DS-160 เราจะได้ตอบตรง สัมพันธ์กัน ถ้าตอบไม่ตรงนิดเดียว ผิดหน่อยนึง ก็จะเป็นเหตุให้ท่านกงมองว่า เราโกหก มีเจตนาไม่ได้ไปเที่ยวจริง ไม่มีโอกาสได้อธิบายอะไรเลย ขอใหม่ครั้งที่ 2,3 ก็ยาก จนกว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เช่นผ่านไปหลายปี เงินเดือนเยอะขึ้น ตำแหน่งสูงขึ้น
-การกรอกว่ามีญาติ มีเพื่อนอยู่อเมริกา หลายคนก็ผ่าน แต่บางคนไม่ผ่าน
-การบอกว่ามีแฟนเป็นคนอเมริกัน ให้แฟน sponsor โอกาสผ่านน้อยมาก เราคิดว่าผ่านแค่ 3% เพราะการไปเที่ยวอเมริกา เขาพิจารณาคุณสมบัติผู้ขอวีซ่า ว่ามีความมั่นคง ในการงาน ในการเงินไหม ไม่ได้พิจารณาจากคน Sponsor และที่สำคัญ การมีวีซ่า B1/B2 สามารถเอาไปปรับสถานะเป็น Green Card ที่อเมริกาได้เลย ท่านกงเลยต้องพิจารณามากเป็นพิเศษ
ขอพรไปเยอะก่อนสัมภาษณ์ ขอบคุณค่ะ
อีก 3 วันได้รับจดหมาย EMS พาสปอร์ตคืนจากสถานทูตแล้วค่ะ เปิดดูด้วยใจระทึก วีซ่าท่องเที่ยว กรี๊ด !!! B1/B2 ได้มา 10 ปี ค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์ วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาค่ะ
ทำการกรอก DS 160 ตาม link นี้นะคะ http://pantip.com/topic/32189283 และนัดสัมภาษณ์ตาม link นี้ http://pantip.com/topic/32193184
ได้วันสัมภาษณ์แล้วไปกันเลยค้าาาา
เรากรอก DS 160 support ตัวเอง เดินทางคนเดียว ที่อยู่ พักโรงแรม ไม่มีคนเชิญ ไม่มีคนรู้จักใน USA ค่ะ พาสปอร์ตใหม่ เล่มที่ 2 stamp ประเทศลาว ที่เดียวค่ะ ฟังดู 50 / 50 ที่จะได้วีซ่านะคะ วัดดวงกันไปเลย
วันสัมภาษณ์ 1 กันยายน 58 คิว 9.00 น ไปรอคิวหน้าสถานทูต 8 โมงเช้า เจ้าหน้าที่จะเรียกตามคิว ให้เอา ใบ confirm DS 160 และ passport ออกมาใส่ในถาดพาสติก ถือไว้แล้วเดินไปเรื่อยๆ เข้าไปข้างในประตู เพื่อสแกนร่างกาย ฝากโทรศัพท์ไว้ด้านหน้าได้ 1 เครื่อง โดยใช้บัตรประชาชนค่ะ
ผ่านการสแกนร่างกาย จากพี่ รปภ แล้ว เราก็หยิบเอกสารจากถาด เปิดประตูเดินเข้าไปข้างใน นั่งรอที่เก้าอี้ หน้าทางเข้าห้องสัมภาษณ์ ไปถึงก็นั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกไปเข้าแถว เขาจะเรียกเป็นรอบๆตามเวลาที่นัด ก็รีบไปเข้าแถวเลยค่ะ เพราะรอบนึงมีประมาณ 25 คน
ด่าน 1 เจ้าหน้าที่คนไทย เราก็ยื่นเอกสารใบนัด กับใบคอนเฟิร์ม DS-160 ให้ แปะ สติกเกอร์ EMS เอาเอกสารมัดรวมกันด้วยหนังยางเส้นใหญ่ๆให้ สรุปเอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าครั้งนี้ คือ พาสปอร์ตปัจจุบัน+ใบคอนเฟิร์ม DS-160
ส่วนเอกสารอื่นๆที่เราเตรียมมาคือ หนังสือรับรองเงินเดือน Statement แผนการท่องเที่ยว อื่นๆ ให้เราถือไว้ต่างหาก เผื่อตอนไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ขอดูนะคะ
อย่าลืมจดหมายเลข EMS จากสติ๊กเกอร์ที่เจ้าหน้าที่แปะไว้ด้วย
ถ้าเราขอวีซ่าผ่าน จะได้ track ได้ว่าพาสปอร์ตจะส่งคืนมาเมื่อไหร่ แต่เราไม่ได้จดนะ 555 เพราะถึงยังไงเราว่า EMS ก็ถึงภายใน 3 วันละน้า
ถ้าไม่ผ่าน จะได้พาสปอร์ตคืนทันที ถือกลับไปเลย
ด่าน 2 เปิดประตูเดินเข้าไปห้องด้านใน เจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ก็สอดเอกสารมัดๆ นั้นเข้าไปเลยค่ะ ถามเรา
1. ถามชื่อ
2. ขอวีซ่าครั้งแรกใช่มั้ยคะ
3. เคยเปลี่ยนชื่อ สกุลไหม
ให้สแกนนิ้วมือซ้าย 4 ขวา 4 นิ้วโป้ง 2
น้องคนที่เข้าคิวใกล้ๆ เรา เคยไปอังกฤษ ไปสวีเดน เจ้าหน้าที่พูดออกไมค์ว่าไปอังกฤษบ่อยจังนะคะ ตายๆๆๆ ฉันไม่เคยไปอังกฤษ ไม่เคยไปยุโรป ไม่เคยไปออสเตรเลีย เคยไปแต่ลาว ช่องเม็ก 555 ข้ามไปตรงอุบลราชธานี เคยไปกัมพูชา ตรงช่องสะงำ ศรีสะเกษ เคยไปเวียตนาม ข้ามฝั่งไปทางหนองคาย ไปลาวทะลุเวียตนาม คือไม่เคยบินออกนอกประเทศเลยค่ะ แล้วเคยไปมันพาสปอร์ตเล่มเก่า พาสปอร์ตเล่มใหม่ ขาวสะอาดมากค่ะ เออ++++ จะผ่านไหมเนี่ย ทำไมถามแต่คำถามนี้หวา แทบทุกคน
ความรู้สึกในห้องสัมภาษณ์ คือ 50/50 ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ไปแล้ว อเมริกา อะไรจะยากขนาดนี้ เง้อ ตื่นเต้น ใจเต้น คนผ่านน้อยมาก บางคนร้องให้ ไม่ผ่านมาหลายรอบ
เสร็จจากตรงนี้เราก็ไปเข้าคิวต่อไปถือเอกสาร ในมัดไปด้วยที่ต้องยื่นให้กงสุลฝรั่งค่ะ ช่วงนี้ชี้เป็นชี้ตายแล้วนะคะ
ด่านที่ 3 วัดใจ บีบคั้นหัวใจสุดๆ มีเปิด 4 ช่อง กงสุลฝรั่ง 4 คน ไม่มีกงสุลเกาหลี ไม่มีกงสุลสวยๆ ผมทอง ในตำนาน ไม่มีกงสุลผิวสี ทุกคนพูดไทยได้หมด เราก็ยืนรอคิวไปเรื่อยจะได้สัมภาษณ์กับคนไหน รอไปเรื่อยๆ ถึงคิวเราแล้ว ได้สัมภาณ์ช่อง 7 คุณฝรั่งท้วมๆ ผมน้อยๆ ใส่แว่น เรางี้ใจเต้นสุด ๆ ไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะผ่าน คุณสมบัติ โสด เดินทางคนเดียว ไม่เคยไปเที่ยวประเทศที่ต้องขอวีซ่า เง้อ มีคนบอกว่าไม่มีทางผ่าน
ได้คิวแล้ว ใจเรื่มเต้นแรงอีกแล้ว กงสุลฝรั่งบอกว่า รอซ้ากกกครู่นะคร้าบบบ เรา อะไรนะคะ ภาษาไทยแบบ ฝรั่งพูดไทยแปร่งสุดๆๆ งงเลย กงสุลฝรั่งวิ่งออกมาข้างนอก ตุ๊บๆๆ เอ๋อ อะไรเนี่ย อ้อกลับเข้ามาให้ ผู้ชายที่สัมภาษณ์ก่อนหน้าเรา มาสแกนลายนิ้วมือ อ้อเข้าใจแล้วค่ะ เสร็จแล้ว ถึงตาเราแล้ว เราไหว้สวยๆ ท่านกงบอกแสกนลายนิ้วมือก่อนเลยนะคร้าบบบ ฟังยากสุดๆๆๆ 5555
คงกลัวลืมเหมือนคนก่อนหน้าเราแน่ๆ มีแบบนี้ด้วย
กงสุลฝรั่งจะยืนข้างใน พูดใส่ไมค์ เรายืนตอบด้านหน้านะคะ เสร็จแล้ว เริ่มคำถามกันเลย
กงสุล : สวัสดีครับคุณ .......................
เรา : สวัสดีค่ะ
กงสุล : คุณจะไปเที่ยวเมืองไหนครับ ..........เอ๋อ ภาษาไทยของคุณฝรั่ง คือเราฟังยากค่ะ เราเลยจัดไป ตอบไปเป็นอังกฤษไปเลย
เรา : I will go to Seattle.
ท่านกงก้มอ่านหน้าคอม แล้วถามต่อ......เปลี่ยนโหมดทันที ไม่พูดภาษาไทยแล้ว 555 เข้าทางดีมาก ถ้าพูดไทยต่อ เราตายแน่ๆ
กลสุล : Will you travel alone ? Why?
เรา : ตายยยย เจอคำถามนี้จะให้ฉันผ่านไหมเนี่ย เลยตอบไปซะยาวเหยียด Yes, I will travel alone. I think it's easy for me to travel to everywhere in the world because I can speak good English.So it's no any problem to travel by myself.I have a good job. I have enough money....( ในความเป็นจริงโม้เอาให้อลังการ สวยๆๆ ค่ะ) I enjoy meeting new people, new cultures and I enjoy making new friends. .
พูดไปค่ะ ท่านกง ยิ้ม เหมือนจะพอใจในคำตอบนะคะ (เออ ++ คิดไปเอง ไหมเนี่ย 555 คือบรรยากาศดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส)
กงสุล : Do you have relatives in the USA?
เรา : No, I don't have. (คิดในใจ จะมีญาติใน USA ได้ไงวะเนี่ย ชั้นแบบ LOSO มาก 5555)
กงสุล : Have you worked here as .....for.....years?
เรา : Yes, I have been worked as......for......years.
คำถามสุดท้ายอ่านมาจาก DS-160 ตรงช่อง Briefly describe your duties นั่นแหละค่ะ ตอบได้สบายเลย
จบคำถาม เร็วมาก
กงสุล : Welcome to STARBUCKS.
เรา : เอ๋อ หน้างง มา......Welcome to STARBUCKS กรูทำไมวะ กรูไม่ได้อยากกินกาแฟ คิดในใจ งง อีก 10 เท่า 555
กลสุล : หัวเราะ Your visa was approved.You will get your passport back in 3-4 days.
เรา : หน้า เหรอสุดฤทธิ์ Really ?อะไรนะคะ
กงสุล : กลับมาภาษาไทยค่ะ คุณจะได้รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่า รอรับที่บ้านได้เลยคร้าบบบบ ภายใน 3-4 วัน
เรา : จริง เหรอคะ
กงสุล : ใช่ครับ หัวเราะอีก
เรา : ดีใจมาก ไหว้สวยๆๆ โฮ๊ยยย +++ ขอบคุณมากค้าาาา เนี่ยไม่อยากเชื่อเลย แต่มันเป็นจริงแล้ว
เดินออกมาอย่างรวดเร็วกลัวท่านกงเปลี่ยนใจ ปุ๊ก ++ เฮ้ยย++เราทำพาสปอร์ตเล่มเก่าตกหน้าเค้าเตอร์ ดีใจจนซุ่มซาม เอ๋อ อีกแล้ว ท่านกงกับผู้ชายที่รอคิว หัวเราะ 5555 และแล้วเราก็ได้ USA วีซ่า แล้ว สัมภาษณ์จริงๆ 5 นาที เอกสารที่ เตรียมไป
1. หนังสือรับรองเงินเดือน อายุงาน เป็นภาษาอังกฤษ
2. statement
3. แผนการท่องเที่ยว
4. ใบจองโรงแรม
ท่านกงไม่ดูสักอย่างเลยค่ะ ง่ายอะไรเช่นนี้ ออกมาแล้วเพิ่งนึกออกแล้ว อ๋อ Welcome to STARBUCKS .....ก็ เราบอกว่า จะไป Seattle ต้นกำเนิด ของ STARBUCKS นี่เอง เข้าใจแล้ว งงอยู่ตั้งนาน 555
ที่สังเกตนะคะ วันสัมภาษณ์นะคะ
-ผู้หญิงสัมภาษณ์ กะฝรั่งหล่อๆสูง ช่องข้างๆ เรา ถามนานมาก เป็น 10 นาที เธอบอกจะไปเยียมแฟนที่ชิคาโก้ ขอดูเอกสารนั่นนี่ ปรากฏ ไม่ผ่านค่ะ
-หลายๆ คนหอบเอกสารมาเป็นปึก โฉนดที่ดิน เอกสารเล่มรถยนต์ ทร้พย์สินต่างๆๆ บลาๆๆ ไม่เห็นเขาจะขอดูเล้ยยย เห็นขอดูแต่ พวก Statement หนังสือรับรองเงินเดือน
-มีคน profile ดีมากเป็นวิศวกร วีซ่าไม่ผ่าน
-มีคนเป็นเจ้าของกิจการ วีซ่าไม่ผ่าน
-มีคนเป็นข้าราชการ วีซ่าผ่าน และไม่ผ่าน
-มีคนบอกไปเยี่ยมแฟน วันที่เราไปสัมภาษณ์ไม่มีใครผ่านซักคน
-มีคนเคยไปเดินทางมารอบโลก สัมภาษณ์ผ่าน
-มีคนแก่ๆ ไม่รู้ภาษาอังกฤษไปเยี่ยมลูกผ่าน
-น้องผู้หญิงคนเดินไปพร้อมๆ เรา เคยไปเที่ยวสวีเดน เคยไป อังกฤษ หลายรอบ จะไปเยี่ยมเพื่อนที่ Seattle ก็ผ่านนะคะ
ท่านกงมักจะถามว่า เคยเดินทางไปไหนมาบ้าง ขอดูพาสปอร์ตหน่อย คนที่เคยเดินทางไปประเทศที่ค้องขอวีซ่า เช่น วีซ่ากลุ่มประเทศเชงเก้น วีซ่าอังกฤษ วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่าแคนาดา หรือ วีซานิวซีแลนด์ ก็จะเป็นผลดีเพราะท่านกงจะมองว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยว มีศักยภาพในการเดินทางไปเที่ยวประเทศเหล่านี้ได้ แต่ใช่ว่าไม่เคยมีประวัติการเดินทาง แล้ววีซ่าจะไม่ผ่านนะคะ อย่างเราเป็นต้น วีซ่ายังผ่านเลยค่ะ ท่านกงคงดูคุณสมบัติอื่นประกอบด้วย
เออ เอาอะไรมาตัดสินกันบ้าง เขาว่ากันว่า กงสุลสัมภาษณ์ทุกวันมีจิตวิทยาสูง ย่อมดูออก เฮ้ยยยย มันจริงเหรอ บางคนไม่น่าจะผ่านดันให้ผ่านไปโดด บางคน profile สวยหรู จะไปเที่ยวจริงๆ ไม่ผ่านซะเนี่ย เพราะอะไร ทำไม หลายๆ คนเลยบอกว่า เป็น เพราะดวงค่ะ
สิ่งสำคัญสำหรับการขอวีซ่า ท่องเที่ยวอเมริกา คือการ กรอก DS-1ุ60 ค่ะ ต้องบรรยายหน้าที่การงาน ตรงช่อง Briefly describe about your duties ไปเยอะๆ คุณทำหน้าที่อะไร มีประสบการณ์อะไร มีงานพิเศษอะไร กรอกรายได้ไป เขียนให้มันอลังการ เว่อร์วัง เพราะ ช่องอื่นไม่มีที่ให้กรอก เลยแนะนำให้จัดไปเต็มๆ บางคนเขียนยังกะชีวประวัติตัวเองยาวเป็นหน้ากระดาษ A4 ก็คงจะช่วยตรงได้บ้าง
เหมือน DS-160 เลยมีความสำคัญ มีการพิจารณามาก่อนสัมภาษณ์มากเกิน 70 % ที่เหลือมาพิจารณากัน หน้างาน
กลุ่ม 1. DS-160 ผ่านแต่แรก ตอนสัมภาษณ์ อาจถามนิดหน่อย ไม่ค่อยขอดูเอกสารเพิ่มเติม
กลุ่ม 2. DS-160 ผ่านหรือ ไม่ผ่าน ต้องสัมภาษณ์อีกที ส่วนมากจะขอดูเอกสารเพิ่มเติม
กลุ่ม 3 DS-160 ไม่ผ่านแต่แรกอยูแล้ว ส่วนมากจะถามนิดหน่อย ไม่ขอดูเอกสาร วีซ่าไม่ผ่าน
แนะนำ ว่าควรกรอก DS-160 เองนะคะ หรือถ้าให้เพื่อนกรอกให้เราก็ต้องมานั่งไล่ดูรายละเอียดด้วยกัน เพราะคำถามทั้งหมดมาจาก DS-160 เราจะได้ตอบตรง สัมพันธ์กัน ถ้าตอบไม่ตรงนิดเดียว ผิดหน่อยนึง ก็จะเป็นเหตุให้ท่านกงมองว่า เราโกหก มีเจตนาไม่ได้ไปเที่ยวจริง ไม่มีโอกาสได้อธิบายอะไรเลย ขอใหม่ครั้งที่ 2,3 ก็ยาก จนกว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เช่นผ่านไปหลายปี เงินเดือนเยอะขึ้น ตำแหน่งสูงขึ้น
-การกรอกว่ามีญาติ มีเพื่อนอยู่อเมริกา หลายคนก็ผ่าน แต่บางคนไม่ผ่าน
-การบอกว่ามีแฟนเป็นคนอเมริกัน ให้แฟน sponsor โอกาสผ่านน้อยมาก เราคิดว่าผ่านแค่ 3% เพราะการไปเที่ยวอเมริกา เขาพิจารณาคุณสมบัติผู้ขอวีซ่า ว่ามีความมั่นคง ในการงาน ในการเงินไหม ไม่ได้พิจารณาจากคน Sponsor และที่สำคัญ การมีวีซ่า B1/B2 สามารถเอาไปปรับสถานะเป็น Green Card ที่อเมริกาได้เลย ท่านกงเลยต้องพิจารณามากเป็นพิเศษ
ขอพรไปเยอะก่อนสัมภาษณ์ ขอบคุณค่ะ
อีก 3 วันได้รับจดหมาย EMS พาสปอร์ตคืนจากสถานทูตแล้วค่ะ เปิดดูด้วยใจระทึก วีซ่าท่องเที่ยว กรี๊ด !!! B1/B2 ได้มา 10 ปี ค่ะ