Game of Thrones : แดเนริส โลกสวยแบบอุดมคติ

Game of Thrones : แดเนริส โลกสวยแบบอุดมคติ
Game of Thrones : แดเนริส โลกสวยแบบอุดมคติ
***เขียนไว้นานแล้ว....ในบล็อกเลย เอามาเขียนใหม่ค่ะ

หลิวเพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้....
ใช้เวลาประมาณ 3 อาทิตย์มั้ง ดูจนจบซีซั่น 3
(เหมือนพวกว่างเลย ดูทั้งวันทั้งคืน)
แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นนะ.

เพราะซีซัน 3 หลิวกรอข้ามค่อนข้างเยอะ...
และคิดว่าคงต้องกลับไปดูใหม่ เมื่อจิตว่างๆจริง...
ทั้งๆที่กรอข้าม แต่ก็ยังอยากเขียนถึง
ก่อนที่จะลืมไปซะก่อน...

เพราะหลิวยังไม่ได้ดูอย่างละเอียดเลยในซีซั่น 3
และยังไม่ได้ไตร่ตรองมากอย่างที่ควรจะเป็น...
หลิวขอพูดเฉพาะสิ่งที่หลิวสนใจก่อนแล้วกันนะคะ
และเมื่อไปดูอย่างละเอียดอีกครั้ง
จะมาพูดถึงประเด็นอื่นๆใหม่..
นี่จึงเป็นประเด็นแบบผิวเผินจริงๆ

เริ่มจากภาคแรก ครั้งแรกที่หลิวเปิดดู...
แค่เห็นฉากแรก ที่ เน็ดตัดหัวคนที่หนีมาจาก เดอะวอลล์
หลิวเลิกดูเลย ไม่ดูต่อ...
ไม่ใช่เพราะเป็นคนโลกสวยหรือรับไม่ได้กับความโหดแบบนั้นน่ะ
แต่ยังคิดว่า....สภาวะตอนนั้นยังไม่มีสมาธิพอจะดูหนังแนวนี้..
เวลาหลิวจะดูอะไรสักอย่าง หลิวไม่ได้สักแต่ดูเพื่อความสนุก
แต่หลิวชอบดูเพื่อหาคำตอบ เพื่อหาประสบการณให้กับตัวเอง...
เมื่อไม่พร้อม เลยไม่ดู
และกลับมาดูใหม่ เมื่อพร้อมแล้ว...

**นี่ชั้นจะอารัมภบทมานานละ เริ่มเลยเหอะ


ซีซันแรก ดูจนจบ ดูละเอียด ดูทุกอย่าง ศึกษาตัวละคร
บางคนบอกว่าซีซันแรกน่าเบื่อ แต่สำหรับหลิว หลิวชอบซีซันนี่มากที่สุด
เพราะหลิวว่ามันเป็นจุดเริ่มต้น มันมีเนื้อหา มันมีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละคร
มันเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่สิ่งต่างๆ...
และจุดเริ่มต้นนี้มันเข้มข้น มันทำให้เราครุ่นคิด
ไม่จำเป็นต้องมีสงคราม ไม่จำเป็นต้องมีฉากอลังการ...
แต่มันเป็นเรื่องของคน เรื่องของความรู้สึก
ความกดดันในชีวิต และทางแก้
สิ่งที่นำไปสู่ปัญหาทางการเมือง อำนาจ และสงคราม
มันเป็นจุดเริ่มต้นที่เข้มข้น มันจึงเป็นซีซันที่หลิวชอบที่สุด...

พอมาซีซัน 2 มันก็ยังโอเคนะ...แต่หลิวยังไม่พูดถึง
เพราะลืม...ลืมเนื้อหาแบบละเอียดไปแล้ว...
เอาเป็นว่าหลิวจะไม่พูดถึงเนื้อหาเลย มันเยอะมากมายจนจำไม่ไหว
คงต้องกลับไปดูอีกซัก 10 รอบ ถึงจะพูดถึงมันได้แบบสมบูรณ์แบบ
จะขอพูดถึง สิ่งที่หลิวได้จากการดูรอบแแรก และสิ่งที่หลิวคิด


แต่พอเข้าซีซัน 3 หลิวยอมรับเลยว่าเลือกดู
ซีซันสาม โดยหลักๆแล้ว หลิวดูแค่สองอย่าง
1.การเติบโตของแดเนริส
2.เหตุการณ์ในคิงส์แลนดิ้ง
........ส่วนหัวข้อที่เหลือ
1.จอน สโนว
2.อาร์ย่า
3.ร็อบ สตาร์ค
4.แบรนด์ สตาร์ค
5.สแตนนิส บาราธอร์น
ดูน้อยมากถึงน้อยที่สุด
สาเหตุที่หลิวไม่ค่อยดูประเด็นเกี่ยวกับตัวละคร 5 ตัวข้างหลัง
คำตอบคือ หลิวไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่น่ะค่ะ

พูดตามตรงหลิวคิดว่า ซีรี่ย์เรื่องนี้น่าจะเปิดกว้างและเหมาะสำหรับคนทุกรูปแบบ
เพราะมีหลายเหตุการณ์ และดำเนินเรื่องผ่านตัวละครต่างๆ
อยู่ที่ว่าเราจะชอบแบบไหน
บางคนดูทั้งหมด
แต่สมองหลิวไม่ว่างพอจะไตร่ตรองเรื่องราวทั้งหมดนี้
เลยเลือกอยู่แค่ 2 ส่วน

ทำไม่ถึงสนใจแค่สองส่วนนี้....นี่เป็นสิ่งที่หลิวถามตัวเอง...
ทำไมชั้นถึงชอบ ทำไมชั้นถึงเลือก...
คำถามนี้ มันอาจจะตอบอะไรให้กับตัวเองได้หลายๆอย่าง หลิวจึงกลับมานั่งคิด
และตั้งใจว่าจะเขียนบทความเกี่ยวกับมัน อยู่สัก 2-3 4-5
โดยบทความแรก เป็นเรื่องของแดเนริส

ทำไมถึงชอบตอนของแดเนริส ทาร์เกเรียน
เหตุผลแรกแบบทั่วๆไปคือ หลิวชอบตัวละครตัวนี้มากที่สุด
เพราะโดยพื้นฐานแล้ว หลิวเป็นพวกเฟมินิสต์
และตัวละครนี้คือตัวละครที่ใช้ความเป็นสตรี เพื่อมีอำนาจ
บางคนอาจมองว่า แดเนริสคือตัวละครที่ถูกกดขี่มาก่อน
แต่การพัฒนาของตัวละครนี้คือ เดินจากคนที่ไม่มีอะไรเลย เข้าสู่ความมีอำนาจ
เปลี่ยนจากทาสเป็นผู้มีอำนาจ...(แม้โดยพื้นทางจะเป็นฝ่ายมีอำนาจอยู่แล้วก็ตาม)
แต่ส่วนหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่า....ถ้าเทียบกับตัวละครอื่นๆแล้ว
แดเนริส นับว่าเป็นตัวละครที่มี "โชคช่วย" อยู่มากเลยทีเดียว...
นั่นอาจเป็นเหตุผลให้ใครๆต่างก็เรียกว่า ตัวละครโลกสวย....เหตุการณ์โลกสวย
ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ..โดยเฉพาะละครน้ำเน่าไทย
เราจะมองว่า มันไม่โลกสวยเลย ถ้าคุณเคยดูละครในแบบนั้นมา
แต่ถ้าเทียบจากตัวอื่นๆในเรื่อง
ชีวิตของแดเนริส มันโลกสวยที่สุดแล้ว....
มันดูจะเป็นนิยายมากที่สุดแล้ว

คำถามคือ มันโลกสวยยังไง
โลกสวยตรงที่....แดเนริส ผ่านอะไรมาอย่างง่ายๆ...
หลิวมองว่า เรื่องราวของแดเนริส คือเทพนิยายในแบบฉบับของ Game of Thrones
มันอาจไม่ได้เว่อร์เหมือน นิยายดีส์นี่ย์...แต่มันใช่....
ถ้าเราสังเกตให้ดีๆ มันจะมีจุดร่วมที่เหมือนกัน....

**ความรักของเจ้าหญิงเจ้าชาย....มันเป็นแนวเมโลดราม่าเลยล่ะ
สำหรับเรื่องราวของแดเนริสกับคาลดราโก้ ถ้าเปรียบเทียบกับละครไทยก็เรื่องจำเลยรักเลย...
แต่มันแค่มีเหตุมีผลมากกว่า จำเลยรักอยู่หลายเท่า...
เพราะ มันคือเมโลดราม่าแบบไม่ใช่ตัวละครด้านเดียว....
แดเนริสถูกขายเป็นทาส ...เพราะพี่ชายต้องการกองทัพของคาลดราโก้
แดเนริสถูกกดขี่ทางเพศ....เพราะชนเผ่านี้เป็นคนเถื่อน ไม่มีอารยธรรม
มันยังมีประเด็นย่อยตรงนี้อีก....แต่ไว้ก่อนเนาะ
สุดท้าย แดแนริสก็รักคาลดราโก้ และคาลดร้าโก้ก็รักแดเนริส ซะงั้น..
นี่มันละครน้ำเน่าชัดๆ!!!
เพียงแต่มันไม่น้ำเน่าตรงที่ มันไม่ได้จบแบบนี้...
และสุดท้ายคาลดราโก้ก็ตาย...และแดเนริสก็เป็นหญิงหม้ายที่สูญเสียคนรัก

แต่นั่นแหละ มันไม่ใช่ประเด็นหลักของ Game of Thrones....
แต่มันก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้หลิวมองว่า
เรื่องราวของแดเนริส มันยังมีความเป็นนิยาย ....แต่มันคือนิยายที่สมจริง
และมันเป็นนิยายที่รับได้ สำหรับผู้ใหญ่
มองว่ามันคือนิยายเพ้อฝันสำหรับผู้ใหญ่ที่ใช้ได้ทีเดียว
มันเป็นนิยายที่เหมาะกับคนที่ยอมรับได้ทั้งเรื่องของเทพนิยาย
และเรื่องของความเป็นจริงบนโลกที่โหดร้ายแบบหลิว.....
มันเป็นเรื่องราวที่สมดุลสำหรับคนอย่างหลิว...
ยอมรับได้ทั้งจินตนาการและความจริง

ต่อไปขอพูดถึง
การแปรเปลี่ยนจากคนอ่อนแอไปเป็นคนที่เข้มแข็ง...
เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า แดเนริสเปนตัวละครที่เข้มแข็งมากเลยทีเดียว....
และนี่แหละคือสิ่งที่นำไปสู่เนื้อหาแบบเฟมินิสต์ที่หลิวชอบ
เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งมีอำนาจ...
แต่ซีรี่ย์ออกจะใจร้ายหน่อยๆ ตรงที่อำนาจของแดแนริส
บางทีมันมาจากมังกรด้วยน่ะสิ....
ทำไมถึงมองว่าโชคช่วย....
อย่างแรกคือ กองทัพทาส 8000 คนที่ได้มาอย่างง่ายๆ
ด้วยการใช้มังกรฆ่าพ่อค้าทาส (คือถ้านางไม่มีมังกรนี่นางก็ไร้อำนาจนะ)
ความเป็นนิยาย คือ ยังต้องพึ่งมังกร พึ่งความเป็นนิยาย...
นี่คือโชคดีของตัวละครตัวนี้
และการเปิดโอกาสให้ทหารทาสเลือกอย่างอิสระ ว่าจะเป็นคนของเธอหรือจะจากไป....
มันเป็นโลกที่เรากำลังตามหาอยู่จริงๆ และแดเนริสก็คือผู้นำในอุดมคติ


"ผู้นำในอุดมคติ กองทัพในอุดมคติ....วีรสตรี"
ถามว่าโลกแห่งความจริงจะมีแบบนี้มั้ย
หลิวก็คงตอบไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ยังไม่เจอ
และในเรื่องราวแบบไทยๆ เราก็จะเจอแต่วีรสตรีด้านเดียว ตัวละครด้านเดียว
แต่สำหรับ แดเนริส หลิวมองว่า นี่ไม่ใช่ตัวละครด้านเดียว...

แดเนริสมีทั้งดีและชั่ว...
แต่โดยรวม สามารถพูดตามตรงได้ว่า คือ "คนดีในอุดมคติ" ที่หลิวยอมรับได้
เหมือนจะโหดร้ายที่จะบอกตามตรงว่า.....หลิวยอมรับคนดี ที่ฆ่าคนอื่น...
เหมือนหลิวจะยอมรับการเข่มฆ่า แต่มันไม่ใช่แบบนั้น...
หลิวไม่ได้ยอมรับมัน แต่ก็มองว่า มันก็เป็นอีกทางหนึ่ง....
ถ้าคุณต้องการอำนาจ

ทุกวันนี้ อำนาจไม่ได้ได้มาโดยไม่ทำร้ายผู้อื่น
"อำนาจไม่เคยเป็นสิ่งที่ดี"
โดยตัวของมัน อำนาจเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายอยู่แล้ว
และการหลอกตัวเองไปวันๆว่า
เราได้อำนาจมาด้วยความดีแบบสุดๆมันคือเรื่องลวงโลก...
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
คือ การเอาตัวรอด สิ่งมีชีวิตที่เข้มแข็งย่อมอยู่รอด
และสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอต้องเป็นฝ่ายแพ้.....
สูญพันธ์หายไป...วันหนึ่งมนุษย์ก็ต้องสูญพันธ์เหมือนกัน

"คนดีแบบแดเนริส จึงเป็นคนดีที่สอดคล้องกับธรรมชาติ"
หลิวจึงเรียกว่าเป็นคนดีได้ และหลิวยอมรับ...
ถ้ามีคนดีแบบนี้ โลกก็ขับเคลื่อนไปได้ในแบบของมัน....ในแบบที่มันควรจะเป็น

โลกสวย...ในแบบที่ควรจะเป็น
"สังคมในอุดมคติ ที่พอจะมีความเป็นไปได้มากกว่า วีรสตรีด้านเดียว"
อีกคำถามนึงคือ
แดเนริส ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องมั้ย
เช่นเดียวกับที่หลิวมองว่าแดเนริสเป็นคนดี...
หลิวมองว่า แดเนริสทำสิ่งที่ถูกต้อง และมันถูกต้องในแบบที่ควรจะเป็นไปได้แล้ว...
บางคนมองว่า แดเนริสเลิกทาสโดยใช้ความรุนแรง......
แล้วเราสามารถเลิกทาสแบบไม่ใช้ความรุนแรงได้มั้ย
คำถามคือ...คุณคิดว่าคนที่ถูกกดขี่...จะมีความรู้สึกแบบไหนต่อผู้กดขี่
มีความเป็นไปได้เลยที่พวกเขาจะให้อภัย โดยไม่คิดอะไรเลย

เอาง่ายๆ...มันเข้ากับอีกประเด็นหนึ่งที่หลิวจะเขียนถึงในครั้งหน้า
ตระกูลสตาร์ค : คนดีในกรอบของศีลธรรมที่เกิดจากศาสนา
มันจะเป็นเรื่องของศาสนา การใช้นิยามของคำว่าศีลธรรมมาเป็นเครื่องมือในการทำอะไรสักอย่าง
แต่เป็นสิ่งที่หลิวจะพูดถึงมันในครั้งหน้า....

ถ้านิยามของสตาร์ค คือ ..คนดีแบบนั้น...
นิยามของแดเนริส ก็คือคนดีแบบธรรมชาติ ดีเท่าที่ธรรมชาติจะเอื้ออำนวยให้เราดีได้...

ดีแบบที่ยังมีความดำมืดซ่อนอยู่....
มีทั้งแบบสตาร์คและแดแนริส แต่เป็นความมืดในรูปแบบที่แตกต่างกัน...
แต่หลิวจะมาพูดถึงครั้งหน้า...

แต่ตอนนี้ขอพอแดเนริสแค่นี้ก่อน....อยากพูดถึงอีกเยอะ...
แต่ถ้าจะลงรายละเอียดขนาดนั้น คงเป็นเล่มอ่ะ และตอนนี้เมื่อยแล้ว ไปแระ T^T



สุดท้าย...ฝากผลงานเพจค่ะ...ตรงๆ เลย
ถ้าชอบแวะไปเยี่ยมชมกันได้นะคะ ทั้ง เพจและBlog

เพจ : โลกสวยไปวันวัน
Blog : http://storylunch.blogspot.com/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่