**ทริปลาวเหนือ วังเวียง - หลวงพระบาง ไปสี่กลับหก สนุก มันส์ ประหยัด!!**

เริ่มต้นจากอยากไปมานานละ วังเวียงกับหลวงพระบาง เพราะไม่ไกลและมีแต่คนบอกราคาถูก สวย ชิล และยังธรรมชาติมากๆ อยู่ จากคุยกันแค่สองคน มีน้องๆ อีกสองคนขอไปด้วยเพราะว่าไม่เคยเที่ยวแบบแบ็กแพ็กมาก่อนสรุปว่าก็กลายเป็นทริป 4 สาวซะนี่ ประจวบเหมาะทุกคนสามารถลางานได้พอดี ประจวบเหมาะกว่าเดิมอีกคือตั๋วไลอ้อนแอร์ถูกมากกก ลงอุดรจาก กทม. ไปกลับ 750 บาท(คือให้ฟรีเถอะเอาจริงๆ) เราไปกัน 28 พ.ค. กลับวันที่ 2 มิย แพลนของเราคือ กทม. - อุดร -  วังเวียง - หลวงพระบาง - เวียงจันทน์ - อุดร - กทม. งบประมาณทั้งหมด 6500 บาท รวมตั๋วเครื่งบินและค่ารถ ค่าที่พัก ค่าแอล ฯลฯ (แอบกะผิดก่อนไปเพราะไม่คิดว่าค่ารถในประเทศลาวจะแอบแพง)
อูยย อยากไปแล้วๆ ซื้อตั๋วไว้เดือนกว่าๆ ก่อนจะไป ก่อนไปหนึ่งอาทิตย์ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นิ้วโป้งเท้าหักค่ะ --" เดินไปได้ไปสี่วัน ทุกคนคิดว่าจะแคนเซิล ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรหยุดยั้งเราได้ถ้าเป็นเรื่องเที่ยว ให้หมอเอาเฝือกออก ไปมันทั้งอย่างนั้นละค่ะ (แต่คุ้มค่านะ)

ต่อๆ วันที่ 1 นั่งเครื่องไปรอบ 5:55 ถึง อุดร 7:10 นั่งรถแท็กซี่จากสนามบินไปท่ารถอุดร 200 ค่ะ ตกคนละ 50 บาทเพื่อซื้อตั๋วตรงไปวังเวียง 320 บาท รอบ 8:30 ย้ำ 8:30 มีรอบเดียว ถ้าพลาดก็ต้องนั่งรถไปหนองคายไปต่อรถที่หนองคาย

รถออกจอดให้เราทำเรื่องผ่านด่าน เข้าลาว ลงฝั่งลาวอีกหนึ่งครั้ง จากนั้นหลับสิคราาา รออะไร คิดว่าไม่นาน มีจอดแวะกินข้าวประมาณ 20 นาที ถึงวังเวียง 3 โมงนิดๆ นานไปนะ ลงจากรถด้วยสภาพงงๆ กันเล็กน้อย เลยตัดสินใจซื้อตั๋วไปหลวงพระบางไง้ก่อน คนละ 400 (มารู้ตอนหลังราคานี้แพงคร่าไว้จะบอกว่าทำไม) มีรถมินิบัสไปส่งตามที่พักนะคะ (คือก็ไม่ทุกที่หรรอกอย่างขอฃเราเดินไปเองอีกไกลมากคิดสภาพขาก็เดี้ยงๆ หึหึ) ถีงแล้ววววโว้ยยยย



พักที่โรงแรมนี้ Popular View Guesthouse สองห้องสองคืนตกคนละ 500 ถือว่าถูกค่ะ เพราะห้องก็ใช้ได้ ข้างๆ มีสะดวกซื้อและร้านอาหาร แต่ไม่เห็นวิวแม่น้ำค่ะ ต้องเดินไปนิดนึงอยู่ด้านหลังของโรงแรม



วังเวียงบรรยากาศดีมากกก ขนาดร้อนนะ แต่ชิลมาก ริมแม่น้ำซอง โรงแรมเราไม่ติดแม่น้ำ แต่เดินไปนิดเดียงเอง เดินเล่นกินบรรยากาศริมแม่น้ำ มีภูเขาล้อมรอบ ฟินที่สุดด (ฝรั่งหล่อ อุ๊ยมีเกาหลีด้วย ก็ลันล้ากันตามประสาสาวๆ )







อร่อยดีค่ะราคา อยู่ที่ 40 - 60 บาท ลองซื้อทานดู



เช้าวันที่ 2 ขึ้นรถสองแถวของทัวร์ตอน 9 โมงเช้า มีแต่ต่างชาติเกาหลี สิงค์โปร์ มาเล และก็ฝรั่งยุโรเปี่ยน เอ้ยมีคนไทยแค่เราสี่คน และแล้วสองคนสุดท้ายก็เดินมาถึงรถ อ้าวสองคนนี้คนไทยหรอ หน้ายังกับเกาหลีที่เห็นเมื่อวาน

ที่แรกที่ทัวร์พาไป tubing ค่ะ มันคือการลอยตัวบนห่วงยางบนน้ำและให้กระแสน้ำพาเราไปเรื่อยๆ อันนี้เป็น tubing เข้าถ้ำ แต่กว่าจะถึง หนทางช่างยากลำบากเดินไกลมากๆ คนปกติบ่นแล้ว อิฉันนิ้วโป้งตะรีนหักค่ะ ต้องเดินถอดรองเท้าข้างนึงเลยเพราะเดินช้าด้วยรองเท้า (พื้นร้อนอีกฮือๆ) ตอนเเรกคิดว่าถ้าเปียกจะไม่เล่น แต่ไม่อยากพลาดเลย ลงก็ได้ สนุกมาก รอดมาได้เพราะเพื่อน และไอน้องหน้าเกาหลีสองคนช่วยไว้ ก็เลยเริ่มคุยกัน











หลังจากนั้นก็ไปพายเรือคายัคต่อ จะบอกว่านี่คือที่สุด สามชั่วโมงกลางแดด ตัวดำหน้าดำ บางคนถึงขั้นไหม้ แต่ตอนผ่านภูเขาสวยๆ บรรยากาศดีๆ โกรธไม่ลงเลยจริงๆ คุณจะลืมไปเลยว่า กทม. คืออะไร


ไกด์นำเที่ยวดีมาก จำชื่อร้านไม่ได้แล้วแต่ใกล้ๆ โรงแรมเลย คือถ้าคุณพายเรือคายัคแล้วเรือคว่ำ ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะไม่มีคนช่วย และขึ้นเรือไม่ได้ เพราะประสบมาแล้วค่ะ เรือคว่ำ ตูมมม จมสาม พี่ไกด์พายเรือมาพร้อมเพื่อน บอกจะช่วยเอาเราขึ้นเรือ (คือเราอ้วนค่ะ หนักกว่าลุงไกด์แน่นอนคะ คิดสภาพผู้ชายตัวนิดเดียว จะช่วยเรายังไง) ทันใดนั้นลุงเค้าก็จับเสื้อชูชีพเราอย่างถนัดและยกเราขึ้นมาจากน้ำแบบตัวลอย (คิดภาพตามนะคะ ยกสาวอ้วนลอยเหมือนยกเด็กเล็กค่ะ) ขึ้นมาบนเรือที่นั่งอยู่สามคนโดยที่เรือไม่เอนเลย เป็นหนึ่งเรื่องที่ไม่มีวันลืมค่ะ ประทับใจบวกทึ่งสุดๆ ค่ะ


เสร็จบ่ายโมงกว่ามีจอดพัก ยังๆ ยังไม่จบพายต่ออีกจนสุดที่ตรงโรงแรมที่เราพักและมีรถมารับไปบลูลากูน อยู่ด้วยกันมาครึ่งวัน ไปๆ มาๆ ก็ รวมกรุ๊ปกันจ้า (คือไปหลอกเด็กมาอะฮาๆ) จากสี่สาวก็กลายเป็น สี่สาวกับอีกสองหนุ่มน้อย บลูลากูน เห็นบอกว่าถ้ามาตอนเช้าน้ำจะฟ้าและใสกว่านี้ เพราะพอคนลงไปเล่นกันเยอะๆ น้ำมันเลยขุ่น แต่เอาจริงๆ มันก็ยังฟ้า อยู่เลยนะคะ แต่อย่าคาดหวังเยอะเพราะมันเล็กจิ๊ดเดียวเองค่ะ คำเตือนน้ำเย็นมากกกกก แอบเห็นว่าที่นี่มีซิปไลน์ให้เล่นด้วยค่ะ อยากเล่นแต่เปลี่ยนใจเพราะรู้สึกว่าจะเป็นพัน อ่อ อีกกิจกรรมนึงที่นักท่องเที่ยวชอบทำที่นี่ก็คือขึ้นบอลลูนค่ะ เห็นคนขึ้นกัน อีกเช่นกันไม่ได้ขึ้นค่ะ เพราะเรามาแบบประหยัด แฮ่ๆ






น้องๆ ไม่มีแพลนเราก็เลยชวนไปหลวงพระบางด้วยกัน และน้องๆ ก็ใจง่ายไปด้วย !! เลยบอกให้ลองถามตั๋วรถตรงบริษัททัวร์ที่เรามาทริปวันนี้ ก็ได้ตั๋ว 2 ใบ แต่ได้ในราคา 320 !! คืออะไร ถูกกว่า 80 บาทเห็นๆ (นี่แหละคือเหตุผลที่อย่าซื้อตั๋วก่อนหึหึ) แถมทางทัวร์บอกว่ารถนี้ใช้เส้นทางตัดใหม่ที่เร็วกว่า คือรถทัวร์ปกติจะใช้เวลา 8 – 9 ชั่วโมงจากวังเวียงถึงหลวงพระบางด้วยทางขึ้นเขาและถนนไม่ค่อยดี แต่รถของที่นี่เป็นมินิแวนและวิ่งทางใหม่เร็วกว่าแค่ 4 ชั่วโมง พวกเราสี่คนก็แบบ “อะไรฟ้ะเนี๊ย ได้ถูกกว่าแถมเร็วกว่า

คืนนั้นก็ได้ไปชิลกันต่อและลองแวะไปร้านที่ชื่อว่าซากุระ อ่านเจอในพันทิพเนี่ยละค่ะ ว่า ควรไป ก็สนุกดีแบบบาร์ฝรั่ง มีแต่ต่างชาติเป็นบาร์เทนเดอร์ คนไทยไปกันค่อนข้างเยอะค่ะ แต่ร้านแบบว่าเหมือนจะพังลงมาเลย ห้องน้ำก็น้ำไม่ไหล –“  อยู่กันพอสมควรก็กลับโรงแรมกันเพื่อเตรียมตัวตอนเช้าขึ้นรถไปหลวงพระบางต่อ

**เบียร์ที่นี่ราคาเท่าน้ำดื่มเลย แอลกอฮอล์ราคาถูกมาก แอบสงสัยว่าใช้น้ำอะไรทำ ฮาๆ**

เช้าวันที่ 3 เราก็ชิลที่ร้านอาหาร (จำชื่อไม่ได้ถัดจากโรงแรมไปนิดเดียว) ข้างหลังจะเปิดโล่งมองเห็นวิวแม่น้ำ และภูเขา นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ !! รอรถมารับที่โรงแรม 9:30 แต่รถแอบมารับเร็วกว่าที่นัดสิบนาทีเอ๊ะทำไมเป็นมินิแวนไม่ใช่รถทัวร์แบบที่เค้าบอกหนิ ทุกคนก็งง ก็เลยคิดกันว่าสงสัย จะเป็นรถที่พาเราไปขึ้นรถทัวร์ พอเปิดประตูจะขึ้นรถ อ้าวววว!! เด็กสองคนนี้หนิ -"- และยังมีคนมาเลเชียน 2 คนที่เจอในทริปเมื่อวานอีก คือสรุปไปพร้อมกันหมดจ้าาา โดนหลอกค่ารถ 400 บาทจ้าาาาา T^T เอ๊ะนี่มันเรียกว่าโดนฟันหัวแบะเลยนะเนี้ย ง่าา



ทางตัดใหม่ถนนใหม่เรียบสบายแต่ความคดเคี้ยวก็ไม่ย่อยกว่ากัน แต่วิวสวยมากกก คนขับรถมีจอดให้เราแวะถ่ายรูปด้วยนะ สวยจริงไรจริง


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่