"ยืมล๊อคอินเพื่อนมาค่ะ"
เรื่องราวมันก็มีอยู่ว่า เราได้เจอกับรุ่นพี่คนนึง เป็นรุ่นพี่สมัยที่เรามหาลัยแต่เป็นรุ่นพี่คนละคณะค่ะ เราเจอกันโดยบังเอิญ เจอกันเพราะการติดต่อประสานงาน เค้าเป็นสถาปนิกของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ ส่วนเราเป็นฝ่ายประสานงานของบริษัทที่จ้างบริษัทพี่เค้ามาตกแต่งภายในให้ค่ะ วันแรกที่เราเจอก็ทักทายกันแบบปกติ ก็ได้แลกเบอร์โทแลกไลน์กัน ส่วนใหญ่เราก็คุยเรื่องงานบ้าง เรื่องส่วนตัวบ้าง เราก็คุยกันในไลน์แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร *ลืมบอกไปค่ะเรามีแฟนแล้ว แต่อยู่คนละที่กับแฟน ทุกเสาร์อาทิตย์ถึงจะเจอกันค่ะ แต่เรากับแฟนก็มีงอลๆกันบ้างเป็นปกติ แต่ก็คบกันดีเรื่อยมา ระหว่างนั้นเราก็คุยกับรุ่นพี่คนนี้บ้าง ไปกินข้าวด้วยกันบ้าง (แต่เราก็รู้นะคะว่าพี่คนนี้เคยชอบเราตั้งแต่สมัยเรียน) แต่เพราะเรามีแฟนแล้วและเราก็ไม่ได้ปิดบังอะไรพี่เค้าว่าเรามีแฟน ก็เลยคิดว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรกับเราแล้วล่ะ เพราะดูแล้วพี่เค้าก็น่าไว้ใจและเราก็รู้จักกันมานาน และเราก็ไม่คิดอะไรกับเค้า เราก็ติดต่อกับรุ่นพี่คนนี้เรื่อยมา จนวันที่ต้องส่งมอบงาน ก็มีกินเลี้ยงกันตอนกลางคืน ที่ร้านอาหาร วันนั้นเราก็ดื่มไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่ถึงกับเมาอะไร เพราะเราเองก็ค่อนข้างสายแข็งในเรื่องการดื่ม เรากินกันไม่ถึงกับดึก เราก็เลยจะกลับแต่วันนั้นเราไม่ได้เอารถมา พี่เค้าเลยอาสาไปส่ง เราก็ดีเหมือนกันกลับคนเดียวอันตราย *แต่เค้าเคยไปส่งเราหลายครั้งแล้วค่ะ เคยไปนั่งกินอะไรที่ห้องเราแล้ว ทุกครั้งไม่เคยมีอะไรไม่เคยพูดจาทะลึ่ง ไม่เคยล่วงเกินเรา* พอไปถึงห้องเรา พี่เค้าก็ขอล้างหน้าแปปนึง เราก็โอเคค่ะไม่คิดกลัวอะไร เราก็เก็บนู่นนั่นนี่ไปเรื่อยๆ แล้วพี่เค้าก็เดินออกมาแล้วบอกว่า เค้ารักเรา รักตั้งแต่ตอนเรียน จนถึงตอนนี้ เราก็แบบอึ้งๆ แล้วตอบแบบหัวเราะไปว่าหนูมีแฟนแล้วนะพี่ พี่ตลกป่ะเนี่ย จากนั้นพี่เค้าก็เข้ามากอดเรา เราก็ขัดขืนและขอร้องพี่เค้าว่าอย่าทำอะไรเราเลย เรามีแฟนแล้วนะและเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเค้า แต่มันไม่เป็นผลค่ะ สุดท้ายเราก็มีอะไรกัน ตอนนั้นเราเสียใจมาก และรู้สึกผิดกับแฟนมากค่ะ แต่พี่เค้าก็บอกเรานะคะ ว่าเค้าอยากคบกับเรา เค้าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ในสิ่งที่เค้าทำ เราโกรธมากเลยไล่พี่เค้าไป เพราะตอนนั้นเราเสียใจมากจนไม่อยากคิดอะไร หลังจากนั้นพี่เค้าก็ตามมาขอโทษ ตามมาง้อเรา ทำดีกับเราทุกอย่าง แต่เราก็ไม่ใจอ่อนที่จะยอมให้อภัยพี่เค้า และหลบหน้าไม่รับโทรสัพ บล๊อคไลน์บล๊อคเฟสทุกอย่าง สุดท้ายพี่เค้ามาดักรอเราที่หอ และบอกเราว่าถ้าเราไม่ยอมคุยดีๆกับเค้า เค้าจะเอาเรื่องทั้งหมดบอกแฟนเรา คือทุกวันนี้เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ เราไม่อยากโกหกแฟนเรา เราไม่อยากทรยศเค้าเพราะเราก็วางแผนที่จะอยากแต่งงานกันช่วยกันสร้างครอบครัว ทุกครั้งที่เราอยู่กับแฟน เรารู้สึกเครียดไปหมด ระแวงไปหมด จนจิตตกไปเลยค่ะ เวลาอยู่กับแฟนเราต้องคอยระแวงโทรศัพท์ หรือปิดเสียงโทรศัพท์ และพี่เค้าโทมาเราก็ต้องรับอย่าขัดใจพี่เค้าเป็นอันขาด เค้าขี้หึงมากค่ะ เรากลัวแฟนเรารู้มาก ทุกวันนี้ ถ้าวันไหนเค้าอยากมีอะไรกับเรา เราก็ต้องยอม เค้าไปไหนก็ต้องให้เราไปด้วย พอวันหยุด เราต้องอยู่กับแฟน เค้าก็จะบังคับให้เราห้ามเราขาดการติดต่อ เรารู้สึกแย่มากค่ะ อยากบอกแฟนเราไปตามตรง ให้มันจบๆไปเหมือนกัน แต่เราก็กลัวว่าเค้าจะมองว่าเราเลว แต่พี่เค้าบอกกับเรานะคะว่าเค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เรารักเค้าให้ได้ แต่เราคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่ได้รักเค้า เรารักแฟนเรา ต่อให้พี่เค้ามีให้เราทุกอย่างมีมากกว่าแฟนเราให้ได้มากกว่าเรา มันก็แทนคนที่เรารักไม่ได้ค่ะ *ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำยังไงคะถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้.
ปล. เรื่องอาจยาวไปหน่อยนะคะ อาจจะงงไปบ้าง ขออภัยด้วยนะคะ
ใครเคยมีความรู้สึกแบบนี้มั้ยคะ โกหกไม่ลง.....จะพูดตรงๆก็ไม่ได้
เรื่องราวมันก็มีอยู่ว่า เราได้เจอกับรุ่นพี่คนนึง เป็นรุ่นพี่สมัยที่เรามหาลัยแต่เป็นรุ่นพี่คนละคณะค่ะ เราเจอกันโดยบังเอิญ เจอกันเพราะการติดต่อประสานงาน เค้าเป็นสถาปนิกของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ ส่วนเราเป็นฝ่ายประสานงานของบริษัทที่จ้างบริษัทพี่เค้ามาตกแต่งภายในให้ค่ะ วันแรกที่เราเจอก็ทักทายกันแบบปกติ ก็ได้แลกเบอร์โทแลกไลน์กัน ส่วนใหญ่เราก็คุยเรื่องงานบ้าง เรื่องส่วนตัวบ้าง เราก็คุยกันในไลน์แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร *ลืมบอกไปค่ะเรามีแฟนแล้ว แต่อยู่คนละที่กับแฟน ทุกเสาร์อาทิตย์ถึงจะเจอกันค่ะ แต่เรากับแฟนก็มีงอลๆกันบ้างเป็นปกติ แต่ก็คบกันดีเรื่อยมา ระหว่างนั้นเราก็คุยกับรุ่นพี่คนนี้บ้าง ไปกินข้าวด้วยกันบ้าง (แต่เราก็รู้นะคะว่าพี่คนนี้เคยชอบเราตั้งแต่สมัยเรียน) แต่เพราะเรามีแฟนแล้วและเราก็ไม่ได้ปิดบังอะไรพี่เค้าว่าเรามีแฟน ก็เลยคิดว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรกับเราแล้วล่ะ เพราะดูแล้วพี่เค้าก็น่าไว้ใจและเราก็รู้จักกันมานาน และเราก็ไม่คิดอะไรกับเค้า เราก็ติดต่อกับรุ่นพี่คนนี้เรื่อยมา จนวันที่ต้องส่งมอบงาน ก็มีกินเลี้ยงกันตอนกลางคืน ที่ร้านอาหาร วันนั้นเราก็ดื่มไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่ถึงกับเมาอะไร เพราะเราเองก็ค่อนข้างสายแข็งในเรื่องการดื่ม เรากินกันไม่ถึงกับดึก เราก็เลยจะกลับแต่วันนั้นเราไม่ได้เอารถมา พี่เค้าเลยอาสาไปส่ง เราก็ดีเหมือนกันกลับคนเดียวอันตราย *แต่เค้าเคยไปส่งเราหลายครั้งแล้วค่ะ เคยไปนั่งกินอะไรที่ห้องเราแล้ว ทุกครั้งไม่เคยมีอะไรไม่เคยพูดจาทะลึ่ง ไม่เคยล่วงเกินเรา* พอไปถึงห้องเรา พี่เค้าก็ขอล้างหน้าแปปนึง เราก็โอเคค่ะไม่คิดกลัวอะไร เราก็เก็บนู่นนั่นนี่ไปเรื่อยๆ แล้วพี่เค้าก็เดินออกมาแล้วบอกว่า เค้ารักเรา รักตั้งแต่ตอนเรียน จนถึงตอนนี้ เราก็แบบอึ้งๆ แล้วตอบแบบหัวเราะไปว่าหนูมีแฟนแล้วนะพี่ พี่ตลกป่ะเนี่ย จากนั้นพี่เค้าก็เข้ามากอดเรา เราก็ขัดขืนและขอร้องพี่เค้าว่าอย่าทำอะไรเราเลย เรามีแฟนแล้วนะและเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเค้า แต่มันไม่เป็นผลค่ะ สุดท้ายเราก็มีอะไรกัน ตอนนั้นเราเสียใจมาก และรู้สึกผิดกับแฟนมากค่ะ แต่พี่เค้าก็บอกเรานะคะ ว่าเค้าอยากคบกับเรา เค้าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ในสิ่งที่เค้าทำ เราโกรธมากเลยไล่พี่เค้าไป เพราะตอนนั้นเราเสียใจมากจนไม่อยากคิดอะไร หลังจากนั้นพี่เค้าก็ตามมาขอโทษ ตามมาง้อเรา ทำดีกับเราทุกอย่าง แต่เราก็ไม่ใจอ่อนที่จะยอมให้อภัยพี่เค้า และหลบหน้าไม่รับโทรสัพ บล๊อคไลน์บล๊อคเฟสทุกอย่าง สุดท้ายพี่เค้ามาดักรอเราที่หอ และบอกเราว่าถ้าเราไม่ยอมคุยดีๆกับเค้า เค้าจะเอาเรื่องทั้งหมดบอกแฟนเรา คือทุกวันนี้เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ เราไม่อยากโกหกแฟนเรา เราไม่อยากทรยศเค้าเพราะเราก็วางแผนที่จะอยากแต่งงานกันช่วยกันสร้างครอบครัว ทุกครั้งที่เราอยู่กับแฟน เรารู้สึกเครียดไปหมด ระแวงไปหมด จนจิตตกไปเลยค่ะ เวลาอยู่กับแฟนเราต้องคอยระแวงโทรศัพท์ หรือปิดเสียงโทรศัพท์ และพี่เค้าโทมาเราก็ต้องรับอย่าขัดใจพี่เค้าเป็นอันขาด เค้าขี้หึงมากค่ะ เรากลัวแฟนเรารู้มาก ทุกวันนี้ ถ้าวันไหนเค้าอยากมีอะไรกับเรา เราก็ต้องยอม เค้าไปไหนก็ต้องให้เราไปด้วย พอวันหยุด เราต้องอยู่กับแฟน เค้าก็จะบังคับให้เราห้ามเราขาดการติดต่อ เรารู้สึกแย่มากค่ะ อยากบอกแฟนเราไปตามตรง ให้มันจบๆไปเหมือนกัน แต่เราก็กลัวว่าเค้าจะมองว่าเราเลว แต่พี่เค้าบอกกับเรานะคะว่าเค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เรารักเค้าให้ได้ แต่เราคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่ได้รักเค้า เรารักแฟนเรา ต่อให้พี่เค้ามีให้เราทุกอย่างมีมากกว่าแฟนเราให้ได้มากกว่าเรา มันก็แทนคนที่เรารักไม่ได้ค่ะ *ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำยังไงคะถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้.
ปล. เรื่องอาจยาวไปหน่อยนะคะ อาจจะงงไปบ้าง ขออภัยด้วยนะคะ