ความจริงบางประการจาก The Voice Thailand

จากประสบการณ์การชมและติดตามรายการเดอะวอยส์สามซีซั่นที่ผ่านมา ผมพบความจริงในความเห็นส่วนตัวบางประการว่า

1 รอบบลายด์ออดิชั่นเป็นรอบที่สนุกที่สุด เพราะ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนมาแบบออเทนติก (authentic) คือเป็นอย่างที่ตัวเองเป็น ไม่ว่าจะมาแบบใสๆ ซอฟๆ หรือจะแบบเฮฮาปาร์ตี้ หรือแม้แต่จะร็อคทะลุจอหรือแบบไหนก็ตาม พวกเขามาแบบตรงๆจึงทำให้มันมีเสน่ห์และมีพลัง หรือถืงแม้คนที่ไม่ผ่านเข้ารอบก็ตาม เขาก็จัดในแบบที่เขาเป็น รอบนี้เป็นรอบที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา มันทำให้ผมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมทั้งดีใจและเสียใจไปกับคนที่ผ่านและไม่ผ่านเสมอ

รวมถึงเสน่ห์ของโค้ช(กรรมการ)แต่ละคนในรอบนี้ที่แสดงออกถึงการชื่นชอบส่วนตัวและการตัดสินแบบไทยๆ แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น กรุ้มกริ่ม มุกที่โต้ตอบกันไปมาแบบน่ารักๆทำให้บรรยากาศไม่เครียดเกินไป มันคือเสน่ห์ของรายการนี้ที่รายการอื่นไม่มี

ผมเคยดูรอบคัดเลือกของบางรายการในบ้านเราหรือรอบบลายด์นี้ของบางประเทศแล้วมันโหดร้ายพอๆกับรายการคุณคือจุดอ่อนสมัยก่อนซะอีก มันแทงทะลุถึงหัวใจ มันหักด้ามพร้าคต มันขวานผ่าซาก มันเหมือนระเบิดนิวเคลียลงตรงกลางใจ ทำลายล้างความตั้งใจ ความฝันของผู้เข้าแข่งขันเสียสิ้น(เคยคุยกับคนที่ตกรอบจริงๆ)

2 เมื่อผ่านเข้ารอบแบทเทิ้ล การแข่งขันจะเริ่มเข้าสู่ความเครียดในอีกระดับหนึ่ง เพราะต้องร้องต่อสู้กับผู้เข้าแข่งขันอีกคนหนึ่ง แต่เท่าที่ติดตามดูรอบนี้ที่ผ่านๆมา มีน้อยคู่มากที่จะเข้าสู่การแบทเทิ้ลอย่างจริงจัง ส่วนมากจะเหมือนมาร้องเพลงคู่ซะมากกว่า มันเลยทำให้โค้ชตัดสินใจยาก รอบนี้ดราม่าจะเริ่มมีมากขึ้นเพราะ การประกบคู่ เพลงที่ใช้ คีย์ที่ร้อง มันจะถูกกำหนดให้แมทช์กัน จะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ พอโค้ชเลือกแล้วและไม่ถูกสตีล ก็จะมีกรณีดราม่าว่าถูกบังคับงั้นงี้ เสียเปรียบนั่นนี่ คีย์ผู้ชายให้ผู้หญิงมาแบทเทิ้ลไม่ไหว บลาๆๆๆๆ ชีวิตมันก็จะเครียดมากขึ้น แฟนคลับก็จะมากขึ้น ยิ่งดราม่าคนยิ่งตาม ทีมนั่นนี่ก็จะเกิดมาวิวาทะกันเต็มเมือง

เมื่อการร้องถูกกำหนดให้ร้องอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็เริ่มอินออเทนติก (inauthentic) คือไม่เป็นตัวตนที่แท้จริงแต่ไม่ถึงกับเฟค มันทำให้ความสนุกในการร้องของแต่ละคนหายไปกลายเป็นความเครียด ว่าจะต้องร้องตามที่โค้ชต้องการ แม้ว่าโค้ชจะพยายามให้แต่ละคนร้องในแบบที่เขาเป็น แต่มันก็ยากไม่ใช่น้อย การแบทเทิ้ลของบ้านเราจึงเป็นไปอย่างละมุนละม่อม ถ้อยทีถ้อยอาศัย เกื้อหนุนกันไปจนจบเพลง ถ้าไปดูคลิปแบทเทิ้ลของบางประเทศนะ โคตรมันส์ ใส่กันเกินร้อย ร้องแบบอัดใส่หน้ากันก็มี แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ลดคุณค่าของการร้องเลย ยิ่งทำให้เพลงน่าฟังและมีสีสันอย่างเหลือเชื่อ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

3 คนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงหรือที่เรียกว่าเป็นตัวเต็งในรอบแรกๆจะไม่ได้รางวัลชนะเลิศ แม้ว่าจะร้องดีหรือร้องเก่งแค่ไหน ตราบใดที่ผลการแข่งขันยังยืนอยู่บนผลการโหวตของประชาชนทั่วประเทศ ความจริงอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือคนไทยชอบมวยรองหรือบอลรอง ไม่ชอบเห็นความได้เปรียบที่มากเกินไป ไม่ชอบการนอนมาและชนะใสๆ คนไทยชอบความตื่นเต้นและลุ้นไปกับผลการแข่งขัน ไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ บอลรองหรือมวยรองมักจะชนะใจกองเชียร์เสมอถ้าเชียร์แล้วมันชนะ แล้วความจริงอีกอย่างคือบรรดาแฟนคลับของตัวเต็งก็จะออกมาดราม่าในโลกโซเชียลประมาณว่า "โหย ยิ้มได้ได้ไงวะ บลาๆๆๆๆฯลฯ" สุดท้ายก็ต้องทำใจว่า เสียงโหวตสู้เขาไม่ได้ เข้ากับประโยคที่ว่า "รักแท้แพ้มวยรอง" หรือ "ม้าเต็งแพ้ม้ามืด"

เอาไปแค่นี้ก่อน เดี๋ยวถ้าคิดออก จะค่อยๆเพิ่มเติมไปนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่