ว่ากันด้วยเรื่องของงานศพ

กระทู้สนทนา
วันนี้นั่งนึกเรื่องเกี่ยวกับงานรื่นเริง สังสรรค์ การรวมตัวพบะกับเพื่อนเก่า งานต่างๆ ที่มีแต่ความสดใส ถ้าจะให้พูดถึงก็คงจะหนีไม่พ้นงานมิตติ้ง งานวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ งานบวช จนไปถึงงานแต่งงาน แน่นอนงานพวกนี้มักจะชวนเพื่อนๆ ญาติๆ กันมาเต็มไปหมด เพื่อมาร่วมแสดงความยินดี ร่วมสนุกกัน มีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของแขกในงาน

แต่ถ้าพูดถึงเรื่องงานที่จะมีแต่ความทุกข์ ความหดหู่คงหนีไม่พ้นงานศพ ที่มีแต่สีขาวกับสีดำแทบจะทั้งงานยกเว้นแต่หลวงพ่อ หลวงพี่ที่อยู่ในยูนิฟอร์มสีเหลืองสีส้มสะดุดตา

หลายคนคงเคยคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเกิดเราเป็นอะไรไปงานศพของเรา เราก็คงไม่อยากให้คนที่รู้จักต้องมาโศกเศร้าเสียใจ ต้องมานั่งทุกข์ใจจากการจากไปของเรา อยากให้คนที่มาร่วมงานมีแต่รอยยิ้ม ความสนุกและเสียงหัวเราะ เราอยากเห็น อยากรู้สึกถึงภาพเหล่านั้นมากกว่า
ดังนั้น เราก็ควรจะปรับเปลี่ยนอะไรเกี่ยวกับธีมงานให้ดูแล้วรู้สึกรื่นเริงบันเทิงใจจากการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ยกตัวอย่างเช่น

" ชื่องาน "
ชื่องานส่วนใหญ่ก็มักจะมาในคำเดิมๆ ที่ว่า งานศพนายพัฒนา หรืองานฌาปนกิจศพนางสาวอภิสรา เวลาเห็นคำว่า " ศพ " แล้วมันรู้สึกใจไม่ดี เราควรจะเปลี่ยนให้ชื่องานน่าสนใจและดึงดูดให้คนมาเข้าร่วมงานซักหน่อย อย่างเช่น Apisara's Chapanakij PARTY!! ใช้ทำเป็นป้ายไฟตัวใหญ่ๆ ออกแบบด้วยฟร้อนและใช้สีสันที่สะดุดตา เป็นที่น่าสนใจตั้งแต่ทางเข้างาน แทนการเขียนบนกระดานดำหรือกระดานไวท์บอร์ดแทน

" รูปเจ้าของงาน "
ทุกครั้งเราจะเห็นรูปถ่ายหน้าตรงพื้นหลังสีฟ้า หน้านิ่งๆ ไม่ก็สีขาวดำ ยกเว้นในกรณีจากไปอย่างกระทันหหันอาจจะหารูปลักษณะนี้ไม่ได้ก็จะใช้รูปจากโปรไฟล์เฟสบุ๊คที่ดูแล้วรู้ว่าเป็นเจ้าของงานและเป็นรูปเดี่ยว จะดีกว่านี้ไหมถ้าเราใช้เป็น สแตนดี้ ขนาดเท่าตัวจริง วัดส่วนสูงจากหัวจรดปลายเท้า หรือมีตังหน่อยก็ใช้เป็น 3D Printing แล้วจัดทำท่าทางประจำของเจ้าของงาน จากที่แขกจะต้องมานั่งคุกเข่า นั่งพับเพียบให้เมื่อย ก็เปลี่ยนเป็นท่าทางประจำ ถ่ายเซลฟี่คู่กับแบบจำลองเจ้าของงาน ทำให้รู้สึกว่ามีเจ้าของงานอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา ลองนึกภาพพตามในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหาร่างไม่เจอ แล้วงานเป็นงานเรา ถ้าไม่มีเราอยู่ในงานจะรู้สึกน้อยใจบ้างไหม?

" อาหารและเครื่องดื่ม "
เคยประสบปัญหา กินกระเพาะปปลาแล้วเลอะเสื้อผ้าบ้างไหม? แก้ไขปัญหหานี้โดยการเปลี่ยนจากกระเพาะปลาเป็น บุฟเฟ่ต์มินิคอกเทล ที่จิ้มกินกันง่ายๆ ตรงไหนก็ได้ไม่ต้องจมปลักกับโต๊ะกลมๆ รวมไปถึงเครื่องดื่ม Vodka mix กับน้ำมนต์ 9 วัด สีสันสดใส เย็นชื่นใจ กินแล้วตื่นตัว ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของงาน

" ลองเพิ่มมินิคอนเสิร์ต "
บางทีการฟังแต่บทสวดอย่างเดียวอาจจะทำให้คนในงานเบื่อ เบื่อแล้วก็ลุกออกไปสูบบุหรี่บ้าง กดโทรศัพท์บ้าง คุยกับคนที่ไม่อยู่ในงานบ้าง ลองเพิ่มมินิคอนเสิร์ตไว้ที่หลังเมรุดู สิ่งเหล่านี้อาจจะหมดไป อีกฝั่งก็สวด อีกฝั่งก็มินิคคอนเสิร์ต เบื่อสวดไปก็พากันไปดูคอนเสิร์ต เหนื่อยจากโดดจากคอนเสิร์ตก็พากันไปฟังสวด ลดปัญหาการรวมตัวกับเพื่อนๆ แล้วเอาแต่จ้องแต่จอมือถือ ดีไม่ดีอาจจะได้เห็นพระกระโดดกำแพงก็คราวนี้

" รูปแบบการ์ดเชิญ "
จากการ์ดเชิญสีขาวดำ เปิดมาให้ความรู้สึกเดียวกับตอนโดนยื่นซองขาวในที่ทำงาน ก็เปลี่ยนใช้บัตรเชิญที่ไล่หมายเลขสำหรับส่งชิงในงานได้ด้วย โดยอาจจะระบุในบัตรด้วยรายละเอียดต่างๆ เช่น Welcome to Chuchai Chapanakij PARTY!! ธีมงานส้มเหลืองแดงแรงไม่แพ้หลวงพี่ พบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินมากหน้าหลายตา อาทิเช่น Polycat เจ้าของเพลงพบกันใหม่ในคืนแรก Drama Stream เจ้าของเพลงด้วยความคิดถึงในคืนที่สอง และสุดท้ายศิลปินมากความสามารถเจ้าของเพลงถึงเวลา.. Lomosonic นอกจากนี้ยังมีศิลปินอินดี้ทั้งใต้และบนดินที่จะมาสร้างความมันส์และความประทับใจให้กับผู้ที่เข้าร่วมงานแน่นอน!! นอกจากนี้ยังลุ้นรับรางวัล Meet & Greet After Party ร่วมรับประทานส่วนบุญกับเจ้าภาพจำนวน 10 รางวัล เป็นต้น

จริงๆ อาจจะมีอะไรหลากหลายอย่างที่ยังนึกไม่ถึง บางทีอาจจะมีหลายงานที่เคยทำแล้ว แต่ยังไงซะงานศพก็ยังเป็นงานแห่งความสูญเสียอยู่ดี แม้ความตายจะถูกเอามาพูดเล่นบ่อยๆ แต่คงไม่มีใครอยากให้คนที่รักต้องจากไปหรอก ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทนะครับ

ปล.ถ้าใครกลัวแขกมาไม่ถึงงาน อย่าลืมเปลี่ยนจากป้ายบอกทางเล็กๆ เป็นการไปเอาร่างเจ้าภาพมาสแกนและยิงโฮโลแกรมสามมิติล้ำๆ ไปเลย..

(ไม่รู้จะติด Tag อะไรเลย ขอ Tag ชีวิตวันรุ่นไว้ก่อนแล้วกันนะครับ -3-")

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่