เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ศาลจังหวัดตรัง อ่านคำพิพาษาตัดสินคดีนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ตรัง หลายสมัย พรรคประชาธิปัตย์ กับนายธานินทร์ ใจสมุทร อดีต สส.สตูล พรรคประชาธิปัตย์ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง แจ้งความดำเนินคดีกล่าวโทษว่า ทั้ง 2 คน กระทำความผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พศ.2554 ในการขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยเหลือนายกิจ หลีกภัย หัวหน้าทีมกิจปวงชน พรรคประชาธิปัตย์ กับนายสนิท เพทาย ลูกทีม แข่งกับนายธนิต ชูเพ็ง อดีต สจ.อ.หาดสำราญหลายสมัย ในการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เมื่อปี 2551
ทั้งนี้ในการขึ้นเวทีปราศรัยดังกล่าวทั้ง 2 คน กล่าวใส้ร้ายป้ายสีนายธนิตจนต่อมา กกต.ได้ให้ใบเหลืองนายสนิท และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสมชายและนายธานินทร์ ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2554 มาตรา 57 (5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรืองใดอันเกี่ยวกับผู้สมัคร ทั้งนี้ ทั้งสองคนให้การรับสารภาพ ศาลจึงได้ตัดสินจำคุกทั้ง 2 คน เป็นเวลาคนละ 1 ปี ปรับคนละ 1.2 แสนบาท แต่ทั้งสองคนให้การรับสารภาพ จึงพิพากษาลดโทษเหลือ 1 ใน 3 ให้เหลือจำคุกคนละ 8 เดือน และปรับคนละ 8 หมื่นบาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดสิบปี
นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ตรัง พรรคประชิปัตย์ กล่าวว่า ตนพร้อมนายธานินทร์ให้การรับสารภาพ ศาลจึงลงโทษสถานเบา เหลือจำคุก 8 เดือน แต่ให้รออาญาเป็นเวลา 1 ปี ปรับคนละ 8 หมื่นบาท และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี จริงๆแล้วตอนนี้ตนอายุ 58 ปี และตั้งใจจะเกษียณอายุการเป็นนักการเมืองตอนอายุ 60 ปี แต่เมื่อผลการตัดสินออกมาเป็นแบบนี้ ก็ถือว่าตนได้พักเร็วขึ้น จากนี้ไปก็จะพักผ่อน แต่พร้อมจะให้บุตรสาวคือ นางสาวสุนัชชา โล่สถาพรพิพิธ ซึ่งกำลังศึกษาต่ออยู่ที่มหาวิทยาลัยควีนแมรี่ ประเทศอังกฤษ ลงเล่นการเมืองแทนตนเองต่อไป
ส่วนทางด้านนายธานินทร์ ใจสมุทร ก็กล่าวเช่นเดียวกันว่า ตนเองก็วางมือ ส่วนตัวหลังถูกตัดสิทธิก็จะไปทำงานด้านการศาสนาต่อไป
JJNY : จำคุกอดีตส.ส.ปชป. ตัดสิทธิการเมือง 10 ปี เหตุปราศรัยช่วยพี่ชาย‘ชวน หลีกภัย’ แต่ใส่ร้ายคู่แข่ง
ทั้งนี้ในการขึ้นเวทีปราศรัยดังกล่าวทั้ง 2 คน กล่าวใส้ร้ายป้ายสีนายธนิตจนต่อมา กกต.ได้ให้ใบเหลืองนายสนิท และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสมชายและนายธานินทร์ ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2554 มาตรา 57 (5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรืองใดอันเกี่ยวกับผู้สมัคร ทั้งนี้ ทั้งสองคนให้การรับสารภาพ ศาลจึงได้ตัดสินจำคุกทั้ง 2 คน เป็นเวลาคนละ 1 ปี ปรับคนละ 1.2 แสนบาท แต่ทั้งสองคนให้การรับสารภาพ จึงพิพากษาลดโทษเหลือ 1 ใน 3 ให้เหลือจำคุกคนละ 8 เดือน และปรับคนละ 8 หมื่นบาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดสิบปี
นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ตรัง พรรคประชิปัตย์ กล่าวว่า ตนพร้อมนายธานินทร์ให้การรับสารภาพ ศาลจึงลงโทษสถานเบา เหลือจำคุก 8 เดือน แต่ให้รออาญาเป็นเวลา 1 ปี ปรับคนละ 8 หมื่นบาท และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี จริงๆแล้วตอนนี้ตนอายุ 58 ปี และตั้งใจจะเกษียณอายุการเป็นนักการเมืองตอนอายุ 60 ปี แต่เมื่อผลการตัดสินออกมาเป็นแบบนี้ ก็ถือว่าตนได้พักเร็วขึ้น จากนี้ไปก็จะพักผ่อน แต่พร้อมจะให้บุตรสาวคือ นางสาวสุนัชชา โล่สถาพรพิพิธ ซึ่งกำลังศึกษาต่ออยู่ที่มหาวิทยาลัยควีนแมรี่ ประเทศอังกฤษ ลงเล่นการเมืองแทนตนเองต่อไป
ส่วนทางด้านนายธานินทร์ ใจสมุทร ก็กล่าวเช่นเดียวกันว่า ตนเองก็วางมือ ส่วนตัวหลังถูกตัดสิทธิก็จะไปทำงานด้านการศาสนาต่อไป