สำหรับเรา เราเองเป็นหนึ่งในร้อยคนที่ไม่ค่อยเชื่อในเรื่องแบบนี้ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้โดยความเชื่อส่วนตัวเรานะ...
แต่...ทว่า สิ่งที่เราไม่เคยเชื่อ มันกลับทำให้เรารักผู้ชายคนนี้ได้แบบไม่ต้องลังเลอะไร...
เรารักคนที่เราไม่เคยเจอหน้ามาก่อน แต่เราคุยกันผ่านสื่ออนไลน์ที่มีชื่อว่า Line ทุกวัน ทุกวัน จนถึงทุกวันนี้...
เรารู้จักกันจะถึง ๑ ปีแล้ว ๑๑ เดือนกว่า ๆ น่าจะเดือนที่ ๑๒ เพราะเรารู้จักกันวันนี้ วันที่ ๓ กันยายนของปี ๒๕๕๗ แต่ตอนนี้มันคือ วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๘
เป็นระยะเวลา ๑ ปีที่เรารู้จักกัน ตอนแรกยังไม่ได้รักกันหรอกคะ คุยกันตามประสาเพื่อนในกลุ่มบอล ก็เหมือนสมาชิกทั่วไปที่เขาคุยกัน...
ก็มีเกรียน กวนกันไปมา แบบฉบับเรา ฮา ๆ บ้า ๆ จนเราไปสะกิดติ่งพี่เขาให้ เพราะไปอ่านชื่อพี่เขาผิด
เป็นเหตุให้พี่เขาต้องแอดไลน์เรามา เราก็เกรียนอ่านไม่ตอบ แล้วก็ไม่รับแอดด้วย จนมาวันนึง นึกยังไงไม่รู้กดรับแอด แล้วส่งสติ๊กเกอร์กลับไป ^^

















มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยนะกับแค่โลกออนไลน์ ที่ไม่มีทางจะเป็นจริง
เราคุยกันมาเรื่อย ๆ ทุกวัน ๆ เริ่มมีคำว่าคิดถึงออกมาจากบทสนทนา เราแทนตัวเองว่าไอ เรียกเขาว่าพี่ คุยกันมาทุกวัน ๆ คำว่าคิดถึงเริ่มถี่ขึ้น ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
พี่เค้าจะคอยมาโผล่ในเวลาที่เราไม่สบายใจ
พี่เค้าจะคอยมาให้กำลังใจในเวลาที่อ่อนแอ
พี่เค้าจะคอยมาบอกว่า สู้ ๆ ในเวลาที่เราไม่ไหว
พี่เค้าจะมาทันทุก ๆ เวลาที่เรา ยิ้ม เศร้า เหงา เบื่อ เซ็ง เราจะมีพี่เขาเสมอ
กระทั่งวันนึง เราก็อยากเจอกันประจวบเหมาะที่เราไปสมัครสอบ พี่เขาก็มาหาเราที่สนามสมัครสอบ
เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน ^^
เราพบกันครั้งที่สองคือวันที่เราไปสอบพี่เค้ามาส่งเราที่สถานี เช่นครั้งแรก
ครั้งที่สามที่เราพบกันคือ เราไปสอบที่จังหวัดระนองเรานัดกันไปเที่ยวกาญจนบุรี เป็นเวลา ๒ คืน ๓ วัน
ครั้งที่สี่ที่เราเจอกันคือพี่เค้ามาหาเราที่หอพักที่ทำงานเรา(สระบุรี)
ครั้งที่ห้าเราไปเที่ยวววัดทำบุญด้วยกันที่อยุธยา ^^
ไม่รู้ว่ามันคือความรัหรือเปล่า ตลอดเวลาที่เรารู้จักกันมานี้ เราเคยเกือบจะเลิกกันครั้งนึง แต่ไม่มีเวลาไหนที่เราไม่รักกัน ไม่คิดถึงกัน
ทุกครั้งที่คุยกัน จะต้องมีคำว่าคิดถึงไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง และคำว่า "เรารักเทอมาก ๆ นะ" สุดที่รักของเรา ทุก ๆ ครั้งต้องมีสองประโยคนี้เสมอ
เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องรู้จักกันเลย
ไม่ได้เป็นนเพื่อนของเพื่อน ไม่น่าจะมารู้จักกันเลยด้วยซ้ำ และที่สำคัญไปกว่านั้น ไม่มาเป็นเราทั้งสองคุณไม่มีทางรู้ ว่าเรารักกันมากแค่ไหน
เรารู้สึกได้ เราเลยเชื่อว่า "พรหมลิขิต" มันมีจริง และเกิดขึ้นจริง...
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม ??
แต่...ทว่า สิ่งที่เราไม่เคยเชื่อ มันกลับทำให้เรารักผู้ชายคนนี้ได้แบบไม่ต้องลังเลอะไร...
เรารักคนที่เราไม่เคยเจอหน้ามาก่อน แต่เราคุยกันผ่านสื่ออนไลน์ที่มีชื่อว่า Line ทุกวัน ทุกวัน จนถึงทุกวันนี้...
เรารู้จักกันจะถึง ๑ ปีแล้ว ๑๑ เดือนกว่า ๆ น่าจะเดือนที่ ๑๒ เพราะเรารู้จักกันวันนี้ วันที่ ๓ กันยายนของปี ๒๕๕๗ แต่ตอนนี้มันคือ วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๘
เป็นระยะเวลา ๑ ปีที่เรารู้จักกัน ตอนแรกยังไม่ได้รักกันหรอกคะ คุยกันตามประสาเพื่อนในกลุ่มบอล ก็เหมือนสมาชิกทั่วไปที่เขาคุยกัน...
ก็มีเกรียน กวนกันไปมา แบบฉบับเรา ฮา ๆ บ้า ๆ จนเราไปสะกิดติ่งพี่เขาให้ เพราะไปอ่านชื่อพี่เขาผิด
เป็นเหตุให้พี่เขาต้องแอดไลน์เรามา เราก็เกรียนอ่านไม่ตอบ แล้วก็ไม่รับแอดด้วย จนมาวันนึง นึกยังไงไม่รู้กดรับแอด แล้วส่งสติ๊กเกอร์กลับไป ^^
เราคุยกันมาเรื่อย ๆ ทุกวัน ๆ เริ่มมีคำว่าคิดถึงออกมาจากบทสนทนา เราแทนตัวเองว่าไอ เรียกเขาว่าพี่ คุยกันมาทุกวัน ๆ คำว่าคิดถึงเริ่มถี่ขึ้น ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
พี่เค้าจะคอยมาโผล่ในเวลาที่เราไม่สบายใจ
พี่เค้าจะคอยมาให้กำลังใจในเวลาที่อ่อนแอ
พี่เค้าจะคอยมาบอกว่า สู้ ๆ ในเวลาที่เราไม่ไหว
พี่เค้าจะมาทันทุก ๆ เวลาที่เรา ยิ้ม เศร้า เหงา เบื่อ เซ็ง เราจะมีพี่เขาเสมอ
กระทั่งวันนึง เราก็อยากเจอกันประจวบเหมาะที่เราไปสมัครสอบ พี่เขาก็มาหาเราที่สนามสมัครสอบ
เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน ^^
เราพบกันครั้งที่สองคือวันที่เราไปสอบพี่เค้ามาส่งเราที่สถานี เช่นครั้งแรก
ครั้งที่สามที่เราพบกันคือ เราไปสอบที่จังหวัดระนองเรานัดกันไปเที่ยวกาญจนบุรี เป็นเวลา ๒ คืน ๓ วัน
ครั้งที่สี่ที่เราเจอกันคือพี่เค้ามาหาเราที่หอพักที่ทำงานเรา(สระบุรี)
ครั้งที่ห้าเราไปเที่ยวววัดทำบุญด้วยกันที่อยุธยา ^^
ไม่รู้ว่ามันคือความรัหรือเปล่า ตลอดเวลาที่เรารู้จักกันมานี้ เราเคยเกือบจะเลิกกันครั้งนึง แต่ไม่มีเวลาไหนที่เราไม่รักกัน ไม่คิดถึงกัน
ทุกครั้งที่คุยกัน จะต้องมีคำว่าคิดถึงไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง และคำว่า "เรารักเทอมาก ๆ นะ" สุดที่รักของเรา ทุก ๆ ครั้งต้องมีสองประโยคนี้เสมอ
เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องรู้จักกันเลย
ไม่ได้เป็นนเพื่อนของเพื่อน ไม่น่าจะมารู้จักกันเลยด้วยซ้ำ และที่สำคัญไปกว่านั้น ไม่มาเป็นเราทั้งสองคุณไม่มีทางรู้ ว่าเรารักกันมากแค่ไหน
เรารู้สึกได้ เราเลยเชื่อว่า "พรหมลิขิต" มันมีจริง และเกิดขึ้นจริง...