"โปสการ์ด"กับ"ความทรงจำ"และการเดินทาง ใน 3 ปี 12 ประเทศ

-UNITED KINGDOM-
สหราชอาณาจักร หรือ United Kingdom ประกอบไปด้วย 4 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ ตลอดระยะเวลา เกือบ 3 ปีที่ผมได้มาศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรนั้นเดินทางนับครั้งไม่ถ้วนไปในสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลก อันที่จริงแล้วการเดินทางที่สำคัญที่สุด คือ การเดินทางมาเผชิญโชคในครั้งแรกเลยครับ ไปคนเดียว “ไม่มีใครรู้จักทั้งสิ้น” มีเพียงเอกสารยืนยันจากทางมหาวิทยาลัย notebook และ กระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวเท่านั้น การเดินทางสู่โลกใบใหม่ของผมในครั้งนั้นได้นำพาตัวของผมได้ประสบการณ์และประสบคนหลากหลาย และพบกับความเปลี่ยนแปลงหลายครั้งตามฤดูกาลที่ผันแปรไปเรื่อยๆภายใต้บรรยากาศขมุกขมัวของประเทศแห่งนี้ และอีกทั้งมีทั้งความประทับใจที่ไม่เคยลืม จนถึงทุกวันนี้ครับ

Tower bridge และ โลโก้โอลิมปิกเกมส์ 2012 เป็นภาพที่ประทับใจของผมครับ เพราะ ลอนดอนเคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 3 ครั้ง และผมมีโอกาสอยู่ในช่วงเวลาโอลิมปิกเกมส์ ลอนดอน ครั้งล่าสุดซึ่งไม่รู้นานอีกแค่ไหนที่ลอนดอนจะได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้ง

เนื่องจากผมเรียนอยู่แถว Horboune จึงได้มีโอกาสแวะมาเดินเล่นแถว Covent garden บ่อยๆเลยครับ

- งานรับปริญญาเพื่อนๆที่ Durham University ด้านหลังเห็น Durham Carthedral อยู่ไกลๆ

Abbey Road ภาพหน้าปกและชื่ออัลบั้มที่ 11 ของ the Beatles สามแยกนี้ รถมาเร็วๆ ก็ต้องถ่ายกันอยู่หลายเทคเลยทีเดียว

-SCOTLAND-
สก็อตแลนด์ ดินแดนหุบเขาสูงทางภาคเหนือของสหราชอาณาจักร ผมเคยเดินทางไป 2 ครั้ง ครั้งแรกเลยก็ราวๆ December 2012 หนาวยะเยือกเลยที่เดียว เดินทางไป Glencoe - Fort William นั่งรถไฟความเร็วสูงจากลอนดอนไปราวๆ 9 ชม.(เปลี่ยนเป็น Scotrail ที่เมืองกลาสโกวส์) ต้องไปผจญภัยลุยป่าไต่เขา เล่นสกี้ (ปล.ตามเพื่อนไปแต่เขาไม่ได้บอกว่าจะพาไปปีนเขานะครับ ไอ้เราก็นึกว่าจะได้ไปเมืองหลวงสก็อตแลนด์ที่ไหนได้ล่ะครับ) อีกครั้งหนึ่งราวๆ September 2014 ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนเดินทางกลับไทย ไป Glasgow - Edinburgh เพราะมีลูกพี่ลูกน้องเรียนอยู่ที่นั่นครับไปเยี่ยมชม Edinburgh ที่ขึ้นชื่อว่าเมืองสวยระดับท็อปของยุโรป (อันนี้ผมอ่านจาก lonely planet EU edition นะครับว่า 50 เมืองที่ต้องไปในยุโรป ใน UK มีติดอันดับ 4 เมืองครับ ได้แก่ london,bath,edinburgh,belfast ตามลำดับ ส่วนเบอร์ 1 เขาให้ Rome ครับ ปล.ซึ่งผมไม่เคยไป...) แต่ยอมรับว่า สก็อตแลนด์ นั้นเป็นทีที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดจริงๆ มนต์เสน่ห์ของสก็อตเกินกว่าจะบรรยาย "ต้องย้ำนะครับว่าสก็อตแลนด์ไม่ใช่และไม่เหมือนอังกฤษ" ด้วยภูมิประเทศสวยงามที่สลับซับซ้อนไปทั้งภูเขาดูลึกลับและสลับกับธรรมมชาติอากาศอันหนาวเหน็บ ใครอ่านนิยายเรื่อง “แฮรี่ พ็อตเตอร์” ก็ไม่ต้องสงสัยเลยครับทำไม JK Rolling ถึงเลือกที่นั่นเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพ่อมดแม่มดครับ

ด้านหลังน้ำตก steal falls แห่ง Fort william ต้องไปผจญภัยลุยป่าไต่เขากว่าจะขึ้นมาถึงตรงนี้ได้

Glencoe ดินแดนบ้านเกิดสายลับ 007 เจมส์ บอนด์ ปรากฏในภาค 007 Skyfall ครับ

จุดชมวิวนอกเมือง Glencoe ไปไม่ไกลนักครับ (จำไม่ได้เขาเรียกว่าอะไร55+)

วิวจาก Athens of the north แห่งเมือง Edinburgh ที่ขึ้นชื่อว่าเมืองที่สวยระดับท็อปในยุโรป

-NETHERLANDS AND BELGIUM-
ทริปนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มีโอกาสเดินทางไปเหยียบแผ่นดินฝั่งยุโรปครับ ระหว่างปิดภาคเรียนในวันหยุดอีสเตอร์ (ก็ประมาณสงกรานต์ของไทยเนี่ยล่ะจร้า) เหล่านักนักศึกษาส่วนมากก็จะเดินทางออกไปหาประสบการณ์กันในต่างแดนกันหรือบ้างก็ทำงานพิเศษ ผมและเพื่อนก็ตกลงปลงใจจะไปอิตาลี่กันครับ ปรากฏเอาเข้าจริงตกลงกันไม่ได้เพราะระยะเวลาในการทำวีซ่าเรามีน้อย จึงเลือกไปประเทศที่ไม่ค่อยมีคนเลือกไปแทน โปรเจคต์ เนเธอร์แลนด์และ เบลเยี่ยม จึงถือกำเนิดขึ้นในที่สุด (ภายหลังมาทราบว่าวีซ่าอิตาลี่นี่ทำแค่ 3 วันก็ได้แล้วครับ55+) ช่วง March 2013 เราเดินทางด้วยรถไฟ Euro star จาก St.Pancas ไปเบลเยี่ยมใช้เวลาราวๆ 3 ชม.และทริปนี้เองผมก็ได้เริ่มต้นซื้อโปสการ์ดสะสม ซื้อเก็บไม่พอ บางใบที่สวยๆนี่เขียนติดแสตมป์ก่อนจะไปวิ่งหาไปรษณีย์เพื่อส่งกลับไทยมาให้ที่บ้านครับ “ครั้งแรกเลยผมส่งโปสการ์ดที่ไปรษณีย์เมือง Brugge ที่เบลเยี่ยม ไปรษณีย์ก็ตั้งอยู่ตรงจตุรัสนั่นล่ะครับ” จากนั่นต่อมาทุกทริปก็จะวิ่งตามหาไปไปรษณีย์ตลอดเพื่อส่งโปสการ์ดกลับไทยบ้าง ส่งไปอังกฤษให้เพื่อนๆบ้าง แล้วแต่เวลาและโอกาสในการเดินแล้วไปเที่ยวกันทางจะเอื้ออำนวย (เอาเข้าจริงมันไม่ง่ายเลยนะ)

ภาพจากสวนทิวลิป Keukenhof ของเนเธอร์แลนด์

Keukenhof เปิดให้เข้าชมราวๆ มีนาคม-พฤษภาคม ครับ เผอิญพวกเรามาเร็วกันไปนิดตั้งแต่ต้นมีนาคมเลยได้พบแต่ลูกๆทิวลิป... T-T

Grand Palace ณ Brussels ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่ผมได้มาเยือนในยุโรป รูปนี้ผมเป็นคนถ่ายเอง 55+

จตุรัสเมือง Brugge จากภาพจะเห็นไปรษณีย์ก็ตั้งอยู่ตรงซ้ายมือครับ ถือได้ว่าเป็นเมืองเก่าที่น่าประทับใจไม่น้อยเลย

-REPUBLIC OF IRELAND AND NORTHERN IRELAND-
อันที่จริงคนละประเทศนะครับระหว่าง Ireland กับ Northern Ireland (ซึ่งเป็นหนึ่งใน UK) แต่สภาพภูมิประเทศทั้งสองประเทศนี้เขาอยู่ติดกันบนอยู่เกาะเดียวกันด้วยครับ ดังนั้นการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างสองประเทศนี้จะง่ายเสียยิ่งกว่า เดินทางจาก Northern Ireland มาเกาะอังกฤษเสียอีก (ต้องนั่ง”เรือ”หรือ”เครื่องบิน”เท่านั้น) อย่างไรก็ตามแม้จะมีภาษาท้องถิ่นเป็นของตนเองแต่ด้วยที่เกาะนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ UK จึงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมากทั้ง 2 ประเทศเลยครับ สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวเลย ตัวผมเองเดินทางไปท่องเที่ยวประมาณ December 2013 กับน้องชาย (ส่วนเพื่อนคนอื่นๆที่เช่าบ้านด้วยกันก็กลับไทยเป็นส่วนมากเพราะปิดเทอม X'mas ยาวล่ะครับ) ต้องบอกก่อนว่า Republic of Ireland กับ Northern Ireland ถ้าออกนอกเมือง Belfast และ Dublin ไปนี่มองไปทางไหนก็จะมีแต่สีเขียวแบบว่าเขียวจริงๆธรรมชาติสุดๆแถมติดทะเลด้วยครับ แต่สภาพอากาศนี่ไม่รับประกันนะครับเพราะค่อนข้างแปรปรวนมาก และร้านขายของที่ระลึกที่ Belfast และ Dublin เมืองหลวงของ 2 ประเทศมีเยอะมากทุกมุมเมืองเลยที่เดียว ส่วนตัวผมเองนี่ส่งโปสการ์ดที่ไอร์แลนด์เหนือครับ เพราะใช้ Royal mail แบบเดียวกับอังกฤษ international stamp ก็เป็นรูปพระพักต์ Queen พื้นสีแดงนั่นละครับ แต่หากจะส่งภายใน United Kingdom ด้วยกันก็ stamp พื้นสีเหลืองครับ ถ้าจำไม่ผิดส่งโปสการ์ดรูป Giant’s causeway ให้เพื่อนๆ 2 ใบ ใครที่ชอบธรรมชาติสีเขียวขจี หุบเขาและทะเล นี่ไม่ควรพลาดครับ

ถ่ายภาพกับน้องชายครับ ที่ carrick rede rope bridge ช่วงธันวาคมทั้งหนาวและลมแรงมาก

ถาพนี้ผมถ่ายกลางใจเมือง Dublin เมืองหลวงของ Ireland บรรยากาศนั้นคลาสิกมากเลย