เมื่อวันที่ 2 ก.ย. แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มอุยกูร์ซึ่งมีแนวคิดรุนแรงและเคลื่อนไหวในประเทศไทย ว่า กลุ่มอุยกูร์เหล่านี้ลักลอบเข้ามาไนประเทศไทยตั้งแต่ปี 2546 โดยเดินทางจากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน เข้าไทยผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ ด่านคลองลึก ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว กลุ่มนี้มีความต้องการพักในไทยเพียงระยะสั้น เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านและเดินทางไปยังประเทศเป้าหมาย คือ ตุรกี ส่วนหนึ่งจะเลือกใช้บริการบริษัททัวร์ ชื่อ "บ." ที่รับจะนำพาชาวอุยกูร์ เดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ จากนั้นจะนำพาไปยังประเทศที่ 3
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ชาวอุยกูร์ส่วนหนึ่งที่เดินทางผ่านประเทศกัมพูชา จะเข้าทาง จ.สระแก้ว และใช้บริการนำพาเข้าเมือง ผ่านขบวนการนำพาชาวอุยกูร์ ที่มีอดีตทหาร ยศ "ร.อ." เป็นหัวหน้า นำไปพักใน กทม. โดยอาศัยมูลนิธิแห่งหนึ่งย่านมีนบุรีคอยช่วยเหลือ นำส่งเครือข่ายนำพา ในอ.สะเดา จ.สงขลา โดยมี โก ท. และ นาย ป.เป็นคนสำคัญในการนำพาชาวอุยกูร์ในพื้นที่ ไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อลอบไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่หากผ่านประเทศลาว หรือพม่า จะอาศัยมูลนิธิทางศาสนาแห่งหนึ่ง ในจ.เชียงราย ช่วยนำพา และนำเข้ากรุงเทพฯพักกับมูลนิธิย่านมีนบุรีโดยกระจายพักตามมัสยิดต่างๆ เช่นมัสยิด ย่านดินแดง เป็นต้น แล้วส่งไปยังกลุ่มของ "โก ท." ที่อ.สะเดา เพื่อข้ามไปประเทศมาเลเซียแล้วเดินทางต่อไปยังประเทศตุรกี โดยในขบวนการนี้มีกระบวนการทำหนังสือเดินทางปลอมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาล จีนและรัฐบาลมาเลเซีย ได้ประสานข้อมูลมายังทางการไทย ให้ตรวจสอบและจับกุมชายชาวอุยกูร์ 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น มีข้อมูลว่าพัวพันกับการก่อการร้าย ก่อเหตุรุนแรงในประเทศจีน ซึ่งพบความเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศไทย โดยทางการไทยมีการสืบหาตัวแต่ยังไม่พบ
ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าชายอุยกูร์ 3 คนนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรง อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับการระเบิดครั้งนี้ด้วย โดยเป็นไปได้ว่าร่วมมือกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวอุยกูร์ที่มีปมเจ็บแค้นในใจ จากกรณีที่ญาติพี่น้องชาวอุยกูร์ถูกทางการไทยจับกุมและดำเนินการผลักดันตามกฎหมาย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441245469
แฉ! อดีตร.อ.เอี่ยวเคลื่อนอุยกูร์ โยงมูลนิธิย่านมีนบุรี-"จีน-มาเลย์"เตือนตั้งแต่ปี53
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ชาวอุยกูร์ส่วนหนึ่งที่เดินทางผ่านประเทศกัมพูชา จะเข้าทาง จ.สระแก้ว และใช้บริการนำพาเข้าเมือง ผ่านขบวนการนำพาชาวอุยกูร์ ที่มีอดีตทหาร ยศ "ร.อ." เป็นหัวหน้า นำไปพักใน กทม. โดยอาศัยมูลนิธิแห่งหนึ่งย่านมีนบุรีคอยช่วยเหลือ นำส่งเครือข่ายนำพา ในอ.สะเดา จ.สงขลา โดยมี โก ท. และ นาย ป.เป็นคนสำคัญในการนำพาชาวอุยกูร์ในพื้นที่ ไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อลอบไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่หากผ่านประเทศลาว หรือพม่า จะอาศัยมูลนิธิทางศาสนาแห่งหนึ่ง ในจ.เชียงราย ช่วยนำพา และนำเข้ากรุงเทพฯพักกับมูลนิธิย่านมีนบุรีโดยกระจายพักตามมัสยิดต่างๆ เช่นมัสยิด ย่านดินแดง เป็นต้น แล้วส่งไปยังกลุ่มของ "โก ท." ที่อ.สะเดา เพื่อข้ามไปประเทศมาเลเซียแล้วเดินทางต่อไปยังประเทศตุรกี โดยในขบวนการนี้มีกระบวนการทำหนังสือเดินทางปลอมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาล จีนและรัฐบาลมาเลเซีย ได้ประสานข้อมูลมายังทางการไทย ให้ตรวจสอบและจับกุมชายชาวอุยกูร์ 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น มีข้อมูลว่าพัวพันกับการก่อการร้าย ก่อเหตุรุนแรงในประเทศจีน ซึ่งพบความเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศไทย โดยทางการไทยมีการสืบหาตัวแต่ยังไม่พบ
ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าชายอุยกูร์ 3 คนนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรง อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับการระเบิดครั้งนี้ด้วย โดยเป็นไปได้ว่าร่วมมือกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวอุยกูร์ที่มีปมเจ็บแค้นในใจ จากกรณีที่ญาติพี่น้องชาวอุยกูร์ถูกทางการไทยจับกุมและดำเนินการผลักดันตามกฎหมาย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441245469