กสท โทรคมนาคม เผยความคืบหน้าการคืนคลื่น 5 MHz ยังอยู่ในกระบวนการสอบถามคนร.ว่าต้องแก้ไขสัญญาสัมปทานกับดีแทคหรือไม่ หลังกระทรวงการคลังติงต้องแก้ หวั่นคืนคลื่นไม่ทันเดทไลน์ 25 ก.ย.นี้ ลั่น 11 ก.ย.ฟ้องกสทช. 6,000 ล้านบาท กรณีคิดค่าเยียวยาคลื่น 1800 MHz โดยไร้ค่าเช่าโครงข่าย พร้อมเข้าพบรมว.ไอซีทีหาความชัดเจนโครงการตามนโยบาย Digital Economy
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามกระบวนการนำคลื่น 1800 MHz จำนวน 5 MHz ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปประมูลรวมกับแผนเดิมที่จะประมูล 2 ใบอนุญาตๆละ 12.5 MHz เป็นใบอนุญาตละ 15 MHz ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ ว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบถามไปยังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ว่าต้องแก้ไขสัญญาสัมปทานที่ทำไว้กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ตามที่กระทรวงการคลังตั้งข้อสังเกตมาหรือไม่
เนื่องจากทางบริษัทยังคงมีความเห็นว่าไม่ต้องแก้ไข เพราะคลื่นความถี่ที่จะมอบให้ กสทช. เป็นคลื่นที่ไม่ได้ใช้งานและเป็นคลื่นของ กสท โทรคมนาคม แต่หากต้องมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานดังกล่าว การคืนคลื่นอาจจะไม่ทันกับการประมูลที่จะเกิดขึ้น เพราะกสทช.กำหนดให้คืนคลื่นภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้
นอกจากนั้นในวันที่ 11 ก.ย.ที่จะถึงนี้ กสท โทรคมนาคม จะฟ้องร้องกสทช. 6,000 ล้านบาท กรณีที่ กสทช.มีการคิดค่าเยียวยาคลื่น 1800 MHz ด้วยการให้เอกชนทั้ง 2 ราย คือ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) นำเงินรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วงมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือบนคลื่นความถี่ 1800 MHz (มาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ) ในช่วงแรกคือ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.56-17 ก.ค.57 ส่งรัฐจำนวน 1,697 ล้านบาท แต่ไม่มีการคิดค่าเช่าโครงข่ายของ กสท โทรคมนาคม
ส่วนในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ตนเองจะเข้าพบ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เพื่อทบทวนโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย Digital Economy ได้แก่ โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ โครงการดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติ เพื่อสร้างความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจต่อไป ส่วนเรื่องการเจรจาข้อพิพาทระหว่างดีแทคก็ยังคงเดินหน้าไปตามแผนเดิมที่วางไว้
พ.อ.สรรพชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ดยังมีมติรับทราบความคืบหน้าในการเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจร่วมกับเทสโก้ โลตัส หลังจากที่บริษัทดังกล่าวถอนตัวไม่ร่วมเป็นผู้ให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์มือถือ (Mobile Virtual Network Operator : MVNO) ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการเจรจาธุรกิจกันมากว่า 2 ปี แต่ล่าสุด เทสโก้ โลตัส ขอเสนอการทำธุรกิจร่วมกันในแบบการเป็นพันธมิตรร่วมทุน (Joint Venture ) ด้วยการถือหุ้นกันบริษัทละ 50% โดย กสท โทรคมนาคมไม่ได้ลงทุนเป็นเงินแต่จะลงทุนแค่การให้แอร์ไทม์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบความร่วมมือที่เหมาะสม กลยุทธ์การกำหนดโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ รายละเอียดด้านผลตอบแทนการเงิน ตลอดจนข้อกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับต่างๆที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาทำธุรกิจร่วมกันได้ประมาณต้นปีหน้า เพื่อให้เทสโก้ โลตัสนำซิมการ์ดไปให้บริการลูกค้าซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณ 2-3 ล้านราย ไปจนถึงปี 68 ซึ่งเชื่อว่าหากได้ทำธุรกิจร่วมกันแล้วน่าจะได้ลูกค้ามากกว่าจำนวนดังกล่าวแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กสท โทรคมนาคม ยังคงเดินหน้าหา MVNO รายอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่สนใจร่วมธุรกิจและอยู่ระหว่างการเจรจาจำนวน 4-5 ราย โดยที่ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด เพิ่งเซ็นสัญญาไปเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการดำเนินคดีกับ บริษัท 168 คอมมูนิเคชั่น จำกัด MVNO ซึ่งค้างการชำระเงินกับ กสท โทรคมนาคม ประมาณ 100 ล้านบาทนั้น ได้ดำเนินการยึดหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี ) กับธนาคารจำนวน 50 ล้านบาท แล้ว หลังจากนี้จะให้เวลา 1 เดือน หากไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการชำระหนี้ กสท โทรคมนาคม จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ที่มา :
http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000099347
กสท จ่อฟ้องกสทช. 6 พันล้านค่าเยียวยา 1800 MHz
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามกระบวนการนำคลื่น 1800 MHz จำนวน 5 MHz ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปประมูลรวมกับแผนเดิมที่จะประมูล 2 ใบอนุญาตๆละ 12.5 MHz เป็นใบอนุญาตละ 15 MHz ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ ว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบถามไปยังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ว่าต้องแก้ไขสัญญาสัมปทานที่ทำไว้กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ตามที่กระทรวงการคลังตั้งข้อสังเกตมาหรือไม่
เนื่องจากทางบริษัทยังคงมีความเห็นว่าไม่ต้องแก้ไข เพราะคลื่นความถี่ที่จะมอบให้ กสทช. เป็นคลื่นที่ไม่ได้ใช้งานและเป็นคลื่นของ กสท โทรคมนาคม แต่หากต้องมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานดังกล่าว การคืนคลื่นอาจจะไม่ทันกับการประมูลที่จะเกิดขึ้น เพราะกสทช.กำหนดให้คืนคลื่นภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้
นอกจากนั้นในวันที่ 11 ก.ย.ที่จะถึงนี้ กสท โทรคมนาคม จะฟ้องร้องกสทช. 6,000 ล้านบาท กรณีที่ กสทช.มีการคิดค่าเยียวยาคลื่น 1800 MHz ด้วยการให้เอกชนทั้ง 2 ราย คือ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) นำเงินรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วงมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือบนคลื่นความถี่ 1800 MHz (มาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ) ในช่วงแรกคือ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.56-17 ก.ค.57 ส่งรัฐจำนวน 1,697 ล้านบาท แต่ไม่มีการคิดค่าเช่าโครงข่ายของ กสท โทรคมนาคม
ส่วนในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ตนเองจะเข้าพบ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เพื่อทบทวนโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย Digital Economy ได้แก่ โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ โครงการดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติ เพื่อสร้างความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจต่อไป ส่วนเรื่องการเจรจาข้อพิพาทระหว่างดีแทคก็ยังคงเดินหน้าไปตามแผนเดิมที่วางไว้
พ.อ.สรรพชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ดยังมีมติรับทราบความคืบหน้าในการเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจร่วมกับเทสโก้ โลตัส หลังจากที่บริษัทดังกล่าวถอนตัวไม่ร่วมเป็นผู้ให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์มือถือ (Mobile Virtual Network Operator : MVNO) ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการเจรจาธุรกิจกันมากว่า 2 ปี แต่ล่าสุด เทสโก้ โลตัส ขอเสนอการทำธุรกิจร่วมกันในแบบการเป็นพันธมิตรร่วมทุน (Joint Venture ) ด้วยการถือหุ้นกันบริษัทละ 50% โดย กสท โทรคมนาคมไม่ได้ลงทุนเป็นเงินแต่จะลงทุนแค่การให้แอร์ไทม์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบความร่วมมือที่เหมาะสม กลยุทธ์การกำหนดโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ รายละเอียดด้านผลตอบแทนการเงิน ตลอดจนข้อกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับต่างๆที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาทำธุรกิจร่วมกันได้ประมาณต้นปีหน้า เพื่อให้เทสโก้ โลตัสนำซิมการ์ดไปให้บริการลูกค้าซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณ 2-3 ล้านราย ไปจนถึงปี 68 ซึ่งเชื่อว่าหากได้ทำธุรกิจร่วมกันแล้วน่าจะได้ลูกค้ามากกว่าจำนวนดังกล่าวแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กสท โทรคมนาคม ยังคงเดินหน้าหา MVNO รายอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่สนใจร่วมธุรกิจและอยู่ระหว่างการเจรจาจำนวน 4-5 ราย โดยที่ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด เพิ่งเซ็นสัญญาไปเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการดำเนินคดีกับ บริษัท 168 คอมมูนิเคชั่น จำกัด MVNO ซึ่งค้างการชำระเงินกับ กสท โทรคมนาคม ประมาณ 100 ล้านบาทนั้น ได้ดำเนินการยึดหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี ) กับธนาคารจำนวน 50 ล้านบาท แล้ว หลังจากนี้จะให้เวลา 1 เดือน หากไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการชำระหนี้ กสท โทรคมนาคม จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000099347