[CR] ประทับใจที่ภูทับเบิก...ปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง ไปชื่นชมพระจันทร์ เช้าอีกวันชื่นชมหมอก

กระทู้นี้คงเป็นกระทู้รีวิวการเดินทางท่องเที่ยวภูทับเบิก และก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยวโดยจักรยาน
ผมเป็นคนนึงที่หลงใหลการท่องเที่ยว การได้เห็นธรรมชาติ ชอบสีเขียวๆ และก็หลงเสน่ห์จักรยาน ฉะนั้นการเดินทางท่องเที่ยวโดยจักรยานจึงเป็นสิ่งที่ผมรัก หลงไหล หลายคนอาจจะชอบท่องเที่ยว พบเจอสิ่งสวยงามที่ปลายทาง แต่ผม ผมให้ความสวยงามไว้ที่ปลายทางแค่ครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งนึงผมจะไปหาเอาระหว่างทาง ผมชอบวิถี ผมชอบเรื่องราว ผมว่าเรื่องราวตรงจุดระหว่างทางก็เป็นสิ่งสวยงาม น่าจดจำไแทบไม่ต่างกับปลายทางเลย เหมือนเช่นทริปนี้ ที่ผมค่อยๆ เก็บเกี่ยว เรื่องราว วิถีความสวยงามที่ระหว่างทาง และไปสุขเต็มอิ่มที่ปลายทาง ทริปนี้ "ผมไปภูทับเบิกครับ"
ผมจองรถทัวร์ทางอินเตอร์เน็ต โดยผมจองทั้งไป-กลับ ของ 999 กทม.หล่มเก่า เพราะดูจากแผนที่ จากตรงนั้นน่าจะเป็นจุดที่ไกล้ ภูทับเบิกที่สุดแล้ว

ระหว่างรอรถอีกนาน หาที่เหมาะๆ เลยหันไปเห็นที่มุม ข้างตู้เอ ที เอ็ม บุพเพสันนิวาส อีกแล้วเจอฝรั่ง เลยนั่งคุยกัน ทั่วๆ ไป เค้าเป็นคนสเปน ชอบจักรยานเหมือนกัน เค้าไปเที่ยวเขมรมา และจะไปเชียงใหม่ แล้วต่อด้วยปาย เค้ามาเมืองไทย ชอบมาก มีความสุขมาก และผมก็บอกเค้าว่ายินดี ที่เค้ารู้สึกอย่างนั้น ...ก่อนจากกัน เค้าขอ FB และ เชิญให้ไปเยี่ยมเค้า ไปเที่ยว Madrid สเปน สงสัย ต้องจัดทริปสเปน สักครั้งในชีวิตแน่เลย
หนุ่มคนนี้ชื่อ ราอูล เป็นคนมาดริด แต่เค้าบอกเค้าไม่ได้ชื่นชอบฟุตบอลนะครับ ^_^

เจอน้องที่มีจุดหมายเดียวกันรอโบกรถขนผักชาวม้งขึ้นภูเหมือนกัน จะมายืนรอรถชาวม้งที่ลงจากภูมาส่งผักและกะจะโบกรถ ติดรถขึ้นไปภูทับเบิก ซึ่งส่วนมากก็จะจอดและรับติดรถไปครับ

ปั่นต่อ ไปสักระยะตอนนั้น ยังใส่ชุดทำงานของเมื่อวานอยู่เลย น้ำท่าก็ยังไม่ได้อาบ สัญชาติญาณ การเอาตัวรอดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เอะ!!! ข้างหน้ามีป้อมตำรวจ ก็เค้าบอกมานิว่า ตำรวจเป็นที่พึ่งประชาชนนิ ก็เลยเดินไปส่อง คุณพี่ตำรวจคงเห็น เราเลยบอกว่าผมจะมาหาที่อาบนำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำข้างหลังป้อมก็ได้ครับ พี่แกก็คงนึกสงสารเพราะข้างหลังมันมืด คุณพี่ตำรวจก็เลยบอกว่าเข้ามาอาบข้างในก็ได้ ก็เลยเข้าไปอาบน้ำ พูดคุยตามประสา ก่อนเสร็จธุระ ไหนๆ ก็ไหนๆ "พี่ครับถุงก๊อบแก๊บใบนี้ผมขอนะครับเอามาใส่ผ้าเปียก" นั่นไง ไปขอเค้าอาบน้ำ แล้วยังจะขอถุงเค้าอีก ก่อนครับ ก็ขอบคุณ และแอบถ่ายรูป คุณตำรวจประจำจุดที่ใจดี ที่เป็นที่พึ่งของประชาชนจริงๆ อิอิ
ตั้งแต่เมื่อวานเลิกงานก็ตั้งหน้าตั้งตาจะไปเที่ยวอย่างเดียว น้ำก็ไม่อาบ เสื่อผ้าก็ไม่ได้เปลี่ยนเจอป้อมตำรวจ พี่ตำรวจใจดีอนุเคราะห์ให้ใช้ห้องน้ำอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าครับ



แวะพักถ่ายรูประหว่างทาง


โค้งนี้สวยดี อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปซะหน่อย


ก็ปั่นต่อไปเรื่อยๆ ผ่านโค้งแล้ว โค้งเล่า เนินแล้วเนินเล่า มันช่าง โหดร้าย และทรมารจริงๆ ขาแข็งหมดแล้ว อยู่บ้านดีๆ ไม่ชอบ แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เรายังมีเพื่อนร่วมทาง เราคนตัวเล็กๆ กับเหล็กดำๆ พร้อมกระเป๋าเหลืองๆ กลับได้รับความสนใจจากคนที่ผ่านๆ ไป ทั้งรถบรรทุก รถเก๋ง รถมอเตอร์ไซด์ จะมีรอยยิ้มมาให้ มีเสียงเปล่งมาจากรถว่าสู้ๆ มียกนิ้วหัวแม่มือ มีแอบถ่ายรูปเรา ก็มีความสุขไปอีกแบบ
ปั่นๆ ไป เหนื่อยท้อ นอน นั่ง พัก บางทีเรายังไม่อยากพัก เจ้า น.ส. สังหยดก็ยกล้อหน้าบ้าง ด้วยความชันมาก ไม่มีแรงส่งไปหน้า แต่ล้อกลับหมุนถอยหลังบ้าง ไปนอนข้างทาง สงสัย จะไม่ไหวจริงๆ 555 ไม่ไหวแล้ว ขอพักสักหน่อย พอจอดรถ เหลียวมองลงไป โอ้ว...ทางคดเคี้ยว สวยจังเลย เราปั่นขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย


ระหว่างทาง มีร้านกาแฟตั้งอยู่ติดทาง สวยดี แถมมีหมอกลงจัดแทบจะไม่เห็นทางเลย เลยแวะซื้อน้ำเพราะว่าน้ำหมดพอดี 2 กระบอกหมดเกลี้ยง เลยนั่งพักซื้อน้ำ 2 ขวด และมอคค่าร้อนๆ เช้าๆ เวลานั้นประมาณ 8 โมง...เจ้าของใจดี น่ารักครับ ^_^


ตรงจุดนี้ มองไปข้างล่าง ถ้าฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะเยอะ จะมีนักท่องเที่ยวมาจับจองพื้นที่กางเตนท์กันเต็มครับ

ช่วงจากตรงนั้นมาพอสมควรจะผมจะปั่นผ่านชุมชนม้ง ที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่มากพอสมควร หน้าตาจะออกเป็นชาวพื้นที่ เหนื่อยมากเหนื่อยจริงๆ เจอร้านค้าก็แวะซื้อสปอนเซอร์

ตรงจุดนี้ผมนั่งพักตรงก้อนหินฝั่งตรงข้าม มองเห็นเด็กผู้ชาย 2 คนเดินตามกันมา คนน้องที่เดินตามหลังพอเห็นผม ก็รีบวิ่งตามพี่ชาย แต่จังหวะนั้นสะดุดล้ม พี่ชายเดินกลับไปประคองน้องแล้วเดินต่อ น่ารักดีผมเลยเดินข้ามถนนไปถ่ายรูปน้องทั้ง 2 พี่ชายเล่นกล้อง ส่วนน้องยังกลัวๆ ก่อนจากผมให้ตังค์ค่านายแบบไป 20 บาท พี่ชายยกมือไหว้ อย่างเคารพและดูน่ารัก และแน่นอนผมบอกพี่ชายเบาๆ ว่าแบ่งให้น้องด้วยนะ

ผ่านโค้งจากตรงนั้นไปไม่ถึง 2 กิโล ระหว่างทางที่ปั่น ก็เห็นเด็กน้อยผู้ชายใส่เสื้อสีแดง ใช้จอบขุดอะไรอยู่สักอย่าง ด้วยความสงสัยผมจึงแวะจอด เอาจักรยานพิง และเดินไปดูน้องใช้จอบเล็กๆ ขุดลงในดิน ขุดเสร็จก็เอานิ้วชี้จิ้ม เจาะรูดิน ข้างๆ ตัวน้องก็มีขวดโค้ก วางอยู่ ผมขออนุญาตน้องหยิบมาดู เลยเข้าใจว่าน้องกำลังขุดจิ้งหรีดอย่างขมักเขม้น ผมก็พยายามจะคุยกับน้อง ถามน้อง แต่น้องไม่คุยด้วย เอาแต่ยิ้ม สำหรับผมแค่รอยยิ้มน้องผมก็มีความสุขแล้ว ก่อนจาก ผมก็ควักตังค์ในกระเป๋าให้น้องไป 20 บาทค่านายแบบ และเดินทางต่อไป หนทางเราที่จริงมันไม่ได้ไกล แต่มันโหดร้าย ยาวนานเสียเหลือเกิน



ปั่นผ่านชุมชนม้งบ้านดอยน้ำเคียงดินมาไม่ไกล เหลือประมาณ 4-5 กิโลเมตรจะมาถึงโค้งถนนหมายเลย 3 โดยนักท่องเที่ยวมักจะถ่ายมาจากศาลา 8 เหลี่ยม ถ้าวันไหนโชคดีหมอกสวยๆ และจัดมุมกล้องดีๆ จุดนี้เป็นจุดที่สวยที่สุดอีกจุดหนึ่ง ตากล้องไม่ควรพลาด


และแล้วเราก็มาถึง หายเหนื่อยเลยทีเดียว แม้นจะยังไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ก็น่าจะผ่านช่วงที่ยากลำบากที่สุดมาแล้ว

บริเวณกางเตนท์ โชคดีที่วันที่ไปเป็นหน้าฝน แต่ความจริงฝนไม่ได้ตก อาการเย็นดีมาก อุณหภูมิ 10 กว่าองศา ถึง 10 ปลายๆ ซึ่งถือว่าอากาศดีทีเดียวน่านอน และอีกอย่างนักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมากกำลังดี ลานกางเตนท์ที่ผมเลือกกางเตนท์(ชื่อบ้านม้ง)เป็นจุดที่เป็นหน้าผาดิน มองออกไปจะไม่มีอะไรมาบังเห็นวิว ภูเขา ข้างล่างหมอกโดยไม่มีอะไรมาบัง


เที่ยวเสร็จแล้วก็ได้เวลากลับ แต่ระหว่างทางลงจำได้ว่ามีร้านกาแฟบรรยากาศดี น่านั่งวิวสวยงาม เลยแวะลิ้มรสกาแฟ บนภูสูง มอคค่าเย็น รสชาดกลมกล่อม นั่งฟินดูหมอก มันช่างมีความสุขเสียจริง

เสร็จภารกิจ กาแฟก็ดื่มแล้วได้เวลาไปต่อ บางช่วงหมอกค่อนข้างจัด และทางลงอาจจะชันจะต้องเปิดไฟท้ายเพื่อเป็นสัญญาณให้คันข้างหลังเพื่อความปลอดภัยและไม่ประมาทอย่างเด็ดขาด


ระหว่างทางกลับ ผมเปลี่ยนเส้นทางจากตั้งใจจะกลับทางหล่มเก่าอย่างตอนขามา แต่ได้คุยกับน้องกลุ่มที่เจอเมื่อวานที่ 7-11 น้องบอกว่ารถที่ท่ารถหล่มสักจะออกถี่กว่ามีตลอดวัน ผมเลยเปลี่ยนใจปั่นไปทางเส้นหล่มสักแทนแม้นว่าจะไกลกว่าก็ตาม แต่มันก็จะทำให้ผมกลับถึงกรุงเทพ เร็วกว่าหลายชั่วโมงเหมือนกัน

ได้เวลาเดินทางกลับแล้วสิ
โชคดีที่ปั่นลงมาจากภูทับเบิกมาทันรถทัวร์เที่ยว 11.50 น. ของบริษัท เพชรประเสริฐทัวร์ เลยได้กลับเร็วกว่าที่คิด
ผมกลัวว่าช่วงมันจะสูง เข้าใต้ท้องรถลำบากเลยถอดเบาะออก

โชคดีที่สัมภาระผู้โดยสารเที่ยวนี้ไม่มาก จักรยานผม(น.ส.สังหยด)

ได้เวลารถออก ช่วงเวลาแห่งความสุขหมดไปอีกครา เดินทางกลับสู่ โหมดมนุษย์เงินเดือนกันต่อไป ^_^
ผมบอกเลยทริปนี้แม้นจะทรมาน กับการปั่นจักรยานเหล็ก ขนสัมภาระเสื้อผ้า ถุงนอน เตนท์ ขึ้นภูเขาที่ความสูงเกือบ 1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล
แต่เมื่อไปถึงผมได้รางวัล เป็นความสุข ความประทับใจ ลืมไม่ลง ใครมีโอกาสมาเถอะครับ ไม่ต้องรอถึงหน้าหนาว ความสวยคงไม่ต่างกัน

ปล. ลืมบอก น.ส.สังหยดนี่คือชื่อจักรยานผมนะครับ ^_^
ชื่อสินค้า:   ภูทับเบิก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่