ห่างหายจากการมาโพสต์กระทู้ในห้องก้นครัวเสียนาน ด้วยภารกิจส่วนตัวบางประการแต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในนี้ตลอด
เรื่องการทำกับข้าวก็ทำมาตลอดแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วมันก็วนไปเวียนมากับที่เคยเล่าสู่กันฟังนั่นแหละ
เมื่อวานที่บ้านได้ทำข้าวซอยกินกันเป็นข้าวซอยหมูสไตล์เนื้อ งงไหมละครับจะเฉลยให้ว่าได้เอาส่วนที่เป็นขั้วตับ
หมูซึ่งเนื้อเขาจะแน่น เหนียว หลังจากแกงหรือเคี่ยวแล้วมันให้รสสัมผัสคล้าย ๆ กับเรากินเนื้อ ซึ่งจะเหมาะมากกับ
คนที่ไม่กินเนื้อ
ถือว่าเป็นข้าวซอยที่หน้าตาดีและรสชาติอร่อยใช้ได้ดีเลยทีเดียว ดูโฉมยั่วน้ำลายไปก่อน
ขั้วตับหมู ตัวเดียวอันเดียวแถมยังเป็นชิ้นเล็ก ๆ อีกต่างหากต้องสั่งล่วงหน้าถึงจะได้ ทั้งหมดชั่งได้ 1.4 ก.ก.
เหมือนจะไม่พอเลยใช้ซี่โครงอ่อนเสริมไปอีกครึ่งก.ก.
นำขั้วตับไปต้มก่อนให้หดตัวเต็มที่ มันจะสะดวกต่อการกำหนดขนาดของชิ้นตอนหั่นได้อย่างดี
เสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะคือใหญ่กว่าปกติทั่วไปนิดหนึ่ง
นำไปต้มกับน้ำหางกะทิพร้อมซี่โครงด้วยไฟกลาง ตุ๋นไว้รอน้ำพริก
น้ำพริกแกงสล่าปู่ใช้พริกแกงสำเร็จมาปรุงหอมแดงและขิงแก่เพิ่ม ถ้าต้องทำเองสล่าจะใช้แค่หอมแดง
ขิงแก่ พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำ กะปิดนิดหน่อยและจะโขลกจนละเอียดมาก ๆ ไม่ให้มีกาก (ส่วนใหญ่
จะใช้วิธีปั่นมากกว่า) พริกแกงละเอียดมากจะช่วยให้น้ำแกงสีสวย
เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน
เอาน้ำพริกลงผัดที่ไฟอ่อน
ผงข้าวซอย ท้องถิ่นเรียกมะส่าหล่า เป็นเครื่องเทศต้นตำรับมาจากทางพม่า เอาลงผัดด้วย
อย่างใจเย็นจนน้ำพริกหอมได้ที่ น้ำไปเทลงหม้อต้มหมูเพื่อเคี่ยวให้เข้าเนื้อต่อไป
อย่างที่บอกว่าเนื้อตรงส่วนขั้วตับเขาจะแน่นและเหนียว จึงต้องเคี่ยวนานกว่าเนื้อทั่วไป ระหว่างนั้นก็เตรียม
เครื่องเคียงซึ่งจะประกอบด้วย หอมแดง ผักกาดดอง (ก้าน) ต้นหอมผักชี มะนาว (หน้านี้เยอะมากให้กัน
ฟรี ๆ แบบไม่ต้องซื้อมาเป็นเดือนแล้ว)
พริกสำหรับปรุงข้าวซอยเขาจะใช้พริกขี้หนูแห้งคั่วให้หอมแล้วนำไปป่นไม่ต่องละเอียดมากนัก จากนั้นใช้น้ำมันพืช
ใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนเทใส่ลงไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าจะมีน้ำมันเยิ้ม ๆ อยู่
งานนี้เจ้านายรับอาสาทำกรอบข้าวซอยให้ ทางใครก็ทางใครให้สล่าปู่ทำคงไม่เป็นหรอก เห็นเขาใช้แป้งอเนกประสงค์
ไข่ไก่ น้ำมันพืช เกลือป่น น้ำสะอาด มาผสมคลุกนวดให้เข้ากันแล้วรีดเป็นแผ่นบาง ๆ จากน้ันก็ม้วนเป็นแท่งกลมซอย
เป็นเส้นเล็ก ๆ แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนไฟกลางจนเหลืองกรอบ
สล่าปู่หนีไปลวกเส้นข้าวซอย เพราะใกล้เที่ยงแล้ว ลวกเส้นในน้ำเดือดจนนิ่มได้ที่เอาไปผ่านน้ำเย็น เสร็จแล้ว
คลุกด้วยน้ำมันพืชอีกครั้งกันมันติดกันเป็นกระจุก
หมูเปื่อยนุ่มได้ที่กำลังเหมาะปรุงครั้งสุดท้ายให้ออกหวานเค็ม เติมหัวกะทิลงไป มะสะหล่าปรุงกลิ่นเพิ่มอีกนิดหน่อย
แค่นี้ก็หอมข้ามไป 3 บ้าน 8 บ้านละครับ
สีสันไม่ธรรมดาเลย ขั้วตับหมูจะมีทีเด็ดตรงส่วนที่เป็นพังผืดบาง ๆ เคี้ยวแล้วมันกรึบกรับดีนักแล
ประกอบร่าง
กลัวไม่อร่อยแอบเซ็นเซอร์ก่อนใครเพื่อน
มีที่ไหนข้าวซอยที่ไปกินในร้านส่วนใหญ่เขาจะใช้กรอบโรยหน้ามาในชามเท่านั้น นี่เล่นเสริฟเป็นจานเลย 555
ลากันไปที่ภาพนี้ครับ ทำเยอะเกินไปหรือเปล่าไม่รู้ยังเหลือใส่กระป๋องไว้อีก บอกก่อนว่ากินเล่นเคี้ยวเล่นนี่
กรอบ ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ เลยนะครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนถึงบรรทัดนี้ สวัสดีครับ
เชิญชวน"กินข้าวซอยขั้วตับหมู" ด้วยกันครับ
เรื่องการทำกับข้าวก็ทำมาตลอดแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วมันก็วนไปเวียนมากับที่เคยเล่าสู่กันฟังนั่นแหละ
เมื่อวานที่บ้านได้ทำข้าวซอยกินกันเป็นข้าวซอยหมูสไตล์เนื้อ งงไหมละครับจะเฉลยให้ว่าได้เอาส่วนที่เป็นขั้วตับ
หมูซึ่งเนื้อเขาจะแน่น เหนียว หลังจากแกงหรือเคี่ยวแล้วมันให้รสสัมผัสคล้าย ๆ กับเรากินเนื้อ ซึ่งจะเหมาะมากกับ
คนที่ไม่กินเนื้อ
ถือว่าเป็นข้าวซอยที่หน้าตาดีและรสชาติอร่อยใช้ได้ดีเลยทีเดียว ดูโฉมยั่วน้ำลายไปก่อน
ขั้วตับหมู ตัวเดียวอันเดียวแถมยังเป็นชิ้นเล็ก ๆ อีกต่างหากต้องสั่งล่วงหน้าถึงจะได้ ทั้งหมดชั่งได้ 1.4 ก.ก.
เหมือนจะไม่พอเลยใช้ซี่โครงอ่อนเสริมไปอีกครึ่งก.ก.
นำขั้วตับไปต้มก่อนให้หดตัวเต็มที่ มันจะสะดวกต่อการกำหนดขนาดของชิ้นตอนหั่นได้อย่างดี
เสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะคือใหญ่กว่าปกติทั่วไปนิดหนึ่ง
นำไปต้มกับน้ำหางกะทิพร้อมซี่โครงด้วยไฟกลาง ตุ๋นไว้รอน้ำพริก
น้ำพริกแกงสล่าปู่ใช้พริกแกงสำเร็จมาปรุงหอมแดงและขิงแก่เพิ่ม ถ้าต้องทำเองสล่าจะใช้แค่หอมแดง
ขิงแก่ พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำ กะปิดนิดหน่อยและจะโขลกจนละเอียดมาก ๆ ไม่ให้มีกาก (ส่วนใหญ่
จะใช้วิธีปั่นมากกว่า) พริกแกงละเอียดมากจะช่วยให้น้ำแกงสีสวย
เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน
เอาน้ำพริกลงผัดที่ไฟอ่อน
ผงข้าวซอย ท้องถิ่นเรียกมะส่าหล่า เป็นเครื่องเทศต้นตำรับมาจากทางพม่า เอาลงผัดด้วย
อย่างใจเย็นจนน้ำพริกหอมได้ที่ น้ำไปเทลงหม้อต้มหมูเพื่อเคี่ยวให้เข้าเนื้อต่อไป
อย่างที่บอกว่าเนื้อตรงส่วนขั้วตับเขาจะแน่นและเหนียว จึงต้องเคี่ยวนานกว่าเนื้อทั่วไป ระหว่างนั้นก็เตรียม
เครื่องเคียงซึ่งจะประกอบด้วย หอมแดง ผักกาดดอง (ก้าน) ต้นหอมผักชี มะนาว (หน้านี้เยอะมากให้กัน
ฟรี ๆ แบบไม่ต้องซื้อมาเป็นเดือนแล้ว)
พริกสำหรับปรุงข้าวซอยเขาจะใช้พริกขี้หนูแห้งคั่วให้หอมแล้วนำไปป่นไม่ต่องละเอียดมากนัก จากนั้นใช้น้ำมันพืช
ใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนเทใส่ลงไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าจะมีน้ำมันเยิ้ม ๆ อยู่
งานนี้เจ้านายรับอาสาทำกรอบข้าวซอยให้ ทางใครก็ทางใครให้สล่าปู่ทำคงไม่เป็นหรอก เห็นเขาใช้แป้งอเนกประสงค์
ไข่ไก่ น้ำมันพืช เกลือป่น น้ำสะอาด มาผสมคลุกนวดให้เข้ากันแล้วรีดเป็นแผ่นบาง ๆ จากน้ันก็ม้วนเป็นแท่งกลมซอย
เป็นเส้นเล็ก ๆ แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนไฟกลางจนเหลืองกรอบ
สล่าปู่หนีไปลวกเส้นข้าวซอย เพราะใกล้เที่ยงแล้ว ลวกเส้นในน้ำเดือดจนนิ่มได้ที่เอาไปผ่านน้ำเย็น เสร็จแล้ว
คลุกด้วยน้ำมันพืชอีกครั้งกันมันติดกันเป็นกระจุก
หมูเปื่อยนุ่มได้ที่กำลังเหมาะปรุงครั้งสุดท้ายให้ออกหวานเค็ม เติมหัวกะทิลงไป มะสะหล่าปรุงกลิ่นเพิ่มอีกนิดหน่อย
แค่นี้ก็หอมข้ามไป 3 บ้าน 8 บ้านละครับ
สีสันไม่ธรรมดาเลย ขั้วตับหมูจะมีทีเด็ดตรงส่วนที่เป็นพังผืดบาง ๆ เคี้ยวแล้วมันกรึบกรับดีนักแล
ประกอบร่าง
กลัวไม่อร่อยแอบเซ็นเซอร์ก่อนใครเพื่อน
มีที่ไหนข้าวซอยที่ไปกินในร้านส่วนใหญ่เขาจะใช้กรอบโรยหน้ามาในชามเท่านั้น นี่เล่นเสริฟเป็นจานเลย 555
ลากันไปที่ภาพนี้ครับ ทำเยอะเกินไปหรือเปล่าไม่รู้ยังเหลือใส่กระป๋องไว้อีก บอกก่อนว่ากินเล่นเคี้ยวเล่นนี่
กรอบ ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ เลยนะครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนถึงบรรทัดนี้ สวัสดีครับ