[COP ISSUE] “ปกเกล้า อนันต์” จากยามาฮ่า ลีก วัน สู่กำลังสำคัญของทีมชาติไทย ✿

ก่อนอื่น ขอแจ้งเจตนารมณ์ ความตั้งใจยังคงเดิม คือพยายามจะสรรหาเรื่องเล่าและเรื่องราวที่เกี่ยวกับฟุตบอลไทย มาฝากเพื่อนสมาชิกห้องฟุตบอลไทย

สิ่งที่อาจจะแปลกตาไปในกระทู้นี้ คือหัวข้อกระทู้  

เหตุผลที่ใส่ [COP ISSUE] ไว้ ก็เพื่อจัดระเบียบกระทู้ของตนเองและเพื่อเป็นการแจ้งล่วงหน้าว่า กระทู้มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ “สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ”

อย่างไรก็ตาม จะพยายามนำเสนอเนื้อหาที่อยู่ในความสนใจของแฟนฟุตบอลไทยทั่วไป ไม่เน้นเฉพาะทีมหนึ่งทีมใดเท่านั้น


สำหรับกระทู้นี้ ขอนำเสนอเรื่องราวของ “ปกเกล้า อนันต์” ผ่านทางเนื้อหา คลิป และภาพถ่าย

ขอโน้ตเอาไว้ว่า เนื้อหาของกระทู้ประกอบไปด้วยข้อเท็จจริงและความคิดเห็นในมุมมองของเจ้าของกระทู้ปะปนกันไป  หากท่านใดสนใจ เชิญติดตามค่ะ





“สิบตำรวจตรี ปกเกล้า อนันต์”

เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2534  ปัจจุบันเป็นนักเตะในสังกัด “สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ” ผู้เล่นตำแหน่ง “กองกลาง” สวมเสื้อหมายเลข “10”






“ปกเกล้า อนันต์” พรสวรรค์หรือจะสู้พรแสวงและน้ำพักน้ำแรงของคุณพ่อ


เชื่อว่า แฟนบอลหลายท่าน อาจจะเคยได้ติดตามเรื่องราวและเส้นทางในการเข้าสู่ถนนสายลูกหนังของนักเตะ ทั้งไทยและต่างขาติมาบ้าง ไม่มากก็น้อย

ตัวอย่างเช่น “ชนาธิป สรงกระสินธ์” นักเตะมหัศจรรย์ร่างเล็ก ซึ่งในวัยเด็ก ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากคุณพ่อ

ไม่ต่างจาก “ปกเกล้า อนันต์” มิดฟิลด์ทีมชาติไทย ที่มีคุณพ่อผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ คอยปลูกฝังและให้การสนับสนุนในการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มกำลัง

ขอข้ามการบรรยายรายละเอียดในส่วนนี้ โดยจะขอใส่รายละเอียดในรูปแบบของคลิปแทน    อยากให้ดูตั้งแต่ต้น จนจบ





คงพูดได้เต็มปากว่า ที่ “ปกเกล้า อนันต์” ประสบความสำเร็จในการเป็นนักเตะอาชีพอย่างทุกวันนี้ มาจากการทุ่มเททั้ง “แรงกายและแรงใจ” ของคุณพ่อ

กล่าวคือ ปลูกฝังและให้การสนับสนุนในทุกรูปแบบ   ทุ่มเทให้เต็มร้อย ทั้งกำลังกายและกำลังใจ

เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ชาย มักจะมีผู้หญิงเก่งเคียงข้าง  ส่วนเบื้องหลังความสำเร็จของเด็กผู้ชาย ก็มักจะมีคุณพ่อหรือคุณแม่คนเก่ง เคียงข้างเสมอ


ขอข้ามเส้นทางในการเข้าสู่วงการฟุตบอลมาที่ปัจจุบัน ซึ่งมักจะเจอคำถามว่า “ฟอร์มดีแค่ไหน” ทำไมกองกลางจากยามาฮ่า ลีก วัน คนนี้ ถึงติดทีมชาติ

เพื่อไม่เป็นการเข้าข้างอย่างลำเอียง คงต้องตอบคำถามนี้ด้วยสถิติ เพราะสถิติก็เหมือนตารางคะแนน มันไม่เคยโกหกใคร (ใช่สิ ... ก็มันพูดไม่ได้นี่)





สถิติอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายนัก แต่ก็เชื่อว่า ต้องมีหลายท่านที่คิดเห็นตรงกันว่า "ปกเกล้า อนันต์" จัดอยู่ในจำพวก "ตัวทีเด็ด" และ "มีของ"

(ไหนๆก็ยกสถิติมาแล้ว อยากให้ดูในส่วนของ "ธนา ชะนะบุตร" ด้วย  เป็นอีกหนึ่งขุนพลสุภาพบุรุษโล่เงินที่อาจจะได้ลงฟาดแข้งกับอิรัก สถิติสวยใช้ได้)



พูดถึง "ปกเกล้า อนันต์" อาจจะมีหลายคนจำได้ ว่าเคยไปทดสอบฝีเท้าและร่วมฝึกซ้อมกับสโมสรฟุตบอลลีกต่างประเทศมาบ้าง

เป็นประเด็นที่วิจารณ์กันไปต่างๆนานา   บ้างก็ว่ามาตรฐานเกินไทยลีก   บ้างก็ว่าผู้บริหารสโมสรเพื่อนตำรวจขี้โม้   บ้างก็ว่าฝีเท้าไม่ถึง  บ้างก็ว่าเด็กเส้น

คงต้องบอกว่า อย่าด่วนสรุป ของแบบนี้ ดูกันยาวๆ (ขอไม่ขยายความประเด็นนี้ เกรงว่าจะมีดราม่า)

ในส่วนของปกเกล้า ขอสรุปแค่ว่าเป็นนักเตะที่มีดีอยู่พอตัว และโชคดีที่โค้ชซิโก้มองเห็น ไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่อยู่ในรายชื่อที่จะลงทำศึกกับอิรักแน่นอน




หมายเลขเสื้อนั้น สำคัญไฉน ?


แต่ไหนแต่ไรมา แฟนบอลอย่างเราๆ ต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า “หมายเลขเสื้อ” แม้มันจะไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก แต่มันก็มีความหมายและความนัยซ่อนอยู่

ในบางยุค เชื่อกันว่า กองหน้าที่ดีที่สุดของทีม ต้องสวมเสื้อหมายเลข 9  หรือนักเตะคีย์แมนคนสำคัญของทีม มักจะสวมเสื้อหมายเลข 7 เป็นต้น

หมายเลขเสื้อ แม้ไม่มีผลต่อฟอร์มการเล่น แต่ต้องยอมรับว่ามันมีผลต่อจิตใจเหมือนกัน  เราจึงเห็นได้ในระยะหลังว่า นักเตะหลายคน ขอเลือกหมายเลข


“ปกเกล้า อนันต์” ไม่ใช่นักเตะที่ประสบความสำเร็จในทุกรายการ โดยเคยผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย จากการพลาดท่า “ตกรอบแรก” ซีเกมส์ ที่อินโดนีเซีย

เป็นผลให้สภาพจิตใจย่ำแย่ ขาดความมั่นใจ และเล่นฟุตบอลได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก ต้องใช้เวลานานร่วมเดือนกว่าจะสามารถดึงความมั่นใจกลับมาได้

ซีเกมส์ครั้งถัดมา “ปกเกล้า อนันต์” ลงสนามอีกครั้ง ด้วยเสื้อหมายเลข 10   ในครั้งนี้ ปกเกล้าและขุนพลทีมชาติไทยฟอร์มดี คว้าแชมป์ซีเกมส์ได้สำเร็จ

เชื่อว่า เสื้อหมายเลข 10 น่าจะมีความหมายอย่างมีนัยในใจของปกเกล้า


ข้ามมาถึงทีมชาติไทยชุดที่จะลงฟาดแข้งกับอิรักในวันที่ 8 กันยายนที่จะถึงนี้ เรื่องหมายเลขเสื้อ

ดูจากชื่อและหมายเลขแล้ว ลงตัว ... มีหมายเลขปัญหาอยู่ที่เสื้อหมายเลข 9

กับสโมสร ธีรศิลป์ แดงดา สวมเสื้อหมายเลข 10 ส่วนธนา ชะนะบุตร สวมเสื้อหมายเลข 11 เสื้อหมายเลข 9 น่าจะว่าง ไม่ทราบว่าโค้ชจะจัดแบบไหน

แอบคิดเห็นเป็นการส่วนตัวว่า เสื้อหมายเลข 9  เลขสวยๆแบบนี้ น่าจะจัดให้กองหน้าตัวเลือกที่ 1 อย่าง “ธีรศิลป์ แดงดา”

และเสื้อหมายเลข 10 ก็จะมาลงตัวอยู่ที่ ปกเกล้า แทน (ในส่วนนี้ แค่คิดออกมาดังๆ ไม่ใช่การชี้นำหรือกดดันใครทั้งนั้น  ดังนั้น ไม่ต้องดราม่ากันนะคะ)

ขอใส่รายละเอียดเพิ่มเติมอีกหนึ่งคลิป เนื้อหาเกี่ยวกับการสวมเสื้อหมายเลข 10 ของปกเกล้า







"ปกเกล้า อนันต์” ในมุมมองของเจ้าของเจ้าของกระทู้


“สาระดี” ของกระทู้นี้ ทั้งหมดอยู่ในคลิปที่นำมาประกอบ  ส่วนที่เหลือเป็น “สาระแน และสาระเลว” ที่ซ่อนอยู่ในความคิดเห็นที่เวิ่นเว้อในย่อหน้านี้

ด้วยไม่ต้องการที่จะสร้างความรำคาญ ขอซ่อนเนื้อหาในส่วนนี้ไว้  สำหรับท่านที่สนใจ ก็คลิกเข้าไปอ่านได้ ส่วนท่านที่ไม่สนใจ ก็ผ่านตรงนี้ไปได้เลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ในส่วนนี้ ขอนำเสนอ “ปกเกล้า อนันต์” ผ่านมุมมอง และไทม์ไลน์ของเจ้าของกระทู้ ... ขอย้ำว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจจะถูก หรือผิดก็ได้

เริ่มต้นจาก ยอมรับเลยว่า เพียงแค่ได้ยินชื่อก็ทำให้ตกหลุมรักนักเตะคนนี้แล้ว ชื่อ "ไพเราะ" และ “หล่อมาก”

หน้าตาก็น่ารัก ดูเป็นตัวของตัวเองดี บางทีก็หัวโล้น บางทีก็ผมทอง บางทีก็หน้าม้า มีหนวดหรอมแหรม  ทำให้ทั้งรู้สึกขำและเอ็นดูในเวลาเดียวกัน


มองปกเกล้าแค่ในสนาม จะรู้สึกว่า เป็นนักเตะที่ทุ่มเท เอาจริงเอาจังกับเกมมาก หน้าตาเคร่งเครียด จนคิดว่า เป็นเด็กที่ขรึม หยิ่ง และไม่ค่อยจะยิ้ม

แต่เมื่อมองนอกสนาม ปกเกล้ากลับเป็นเด็กที่ดูขี้เล่น ร่าเริง และยิ้มง่าย  แอบคิดไปเองว่า น่าจะเป็นคนที่พูดจาติดตลก พูดไป หัวเราะไป ทำนองนี้

ยิ่งได้เห็นคลิปนี้ ก็ยิ่งมั่นใจว่า สิ่งที่คิดเอาไว้ในใจ ไม่ผิดแน่






แต่เมื่อได้ดูการให้สัมภาษณ์  ก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เพราะปกเกล้าไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

กลับกลายเป็นว่า เป็นคนที่ดูจริงจังกับการตอบทุกคำถาม คิดก่อนพูดเสมอ แม้แต่ในขณะที่กำลังพูดอยู่ ก็ดูเหมือนใช้ความคิดและความระมัดระวัง

รู้สึกแปลกใจและทึ่งพอสมควร ที่เด็กอายุแค่นี้และภาพลักษณ์แบบนี้ ตอบคำถามได้อย่างมีสติ


นอกจากนี้ ยังรู้สึกด้วยว่า เด็กคนนี้ ต้องเป็นคนที่รักและอินกับฟุตบอลมาก  "มาก" จนคนฟังอย่างเรารู้สึกและสัมผัสได้

ดูเป็นคนที่จริงจัง มีวินัยและมีน้ำใจนักกีฬา จนทำให้เชื่อได้ว่า การทำฟาล์ว ใบเหลืองและใบแดงในสนาม มาจากความทุ่มเทล้วนๆ


พยาย๊ามพยายามที่จะมอง "ปกเกล้า อนันต์" ในหลายๆมิติ แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เป็นคนที่มีคาแรคเตอร์ที่กลมดี และมีบุคลิกที่หลากหลาย

สรุปได้ แบบสรุปไม่ได้ แบบนี้ !!!




สาเหตุที่เรียกปกเกล้าว่า “ปกโก๊ะ” เพราะสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง  คาดเดาว่าปกเกล้าน่าจะเป็น "เด็กโก๊ะๆ"

ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือถูกทำให้เชื่อ  เพราะภาพจากสโมสรเพื่อนตำรวจ มักจะมีแอคชั่น “โก๊ะๆ” ของปกเกล้า หลุดออกมาคนเดียวและบ่อยมาก




หรือสองคนนี้ เค้ามีอะไรเข้าใจระหว่างกัน “ยศวรรธน์ มนทา” นี่ก็ชู 3 นิ้วตลอด

เด็กสมัยนี้ เข้าใจยาก (หมายถึงนักเตะ 2 คนนี้)  ส่วนผู้ใหญ่สมัยนี้ ก็เผือกมาก (ส่วนข้อความนี้ หมายถึงตัวเอง  อิป้าอย่างเรา ไปยุ่งอะไรกะเค้าเนี่ย)





ในเกม ทุ่มเท จริงจัง พอดี พอดี     แต่นอกเกมนี่ ถ้าไม่ขาด ก็เกิน   อะไรว๊า ... เอ่อ ออกตัวไว้ก่อนว่า เพราะรักและเอ็นดูหรอก จึงหยอกเล่น











สิ่งที่เจ้าของกระทู้ได้จากการอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวของ “ปกเกล้า อนันต์” คือ คนไทยมีส่วนร่วมในการสนับสนุนฟุตบอลไทยได้หลากหลายรูปแบบ

“คุณพ่อของปกเกล้า” เป็นตัวอย่าง     แม้ว่าท่านจะไม่ได้รับใช้ชาติ ด้วยการเป็นนักเตะทีมชาติไทย โดยตรง

แต่ก็ได้ปลุกปั้น “ปกเกล้า” ลูกชายของท่าน ให้เป็นนักเตะที่มีความสามารถ และรับใช้ทีมชาติด้วยการเป็นนักฟุตบอล  


ขอคั่นด้วยคลิป "หนึ่งประตูจาก ปกเกล้า อนันต์ พาทีมชาติไทยคว้าชัยชนะเหนือเวียดนาม" ในการเตะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เมื่อช่วงกลางปี

แม้เครดิตประตูนี้อย่างเป็นทางการ จะเป็นชื่อ “ปกเกล้า อนันต์” เพียงผู้เดียว แต่เครดิตอย่างไม่เป็นทางการ ต้องมีชื่อ “คุณพ่อของปกเกล้า” รวมอยู่ด้วย





ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า คนไทยมีส่วนร่วมในการสนับสนุนฟุตบอลไทยได้หลากหลายรูปแบบ

สำหรับแฟนบอล นอกจากจะติดตามเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยแล้ว อยากให้ช่วยสนับสนุนฟุตบอลไทย โดยการแบ่งเวลามาติดตามฟุตบอลไทยลีกด้วย

อาจจะรวมไปถึงการพยายามนำเสนอสิ่งที่ดีๆและชักชวนเพื่อนฝูงมาติดตามฟุตบอลไทยด้วย (พูดง่ายๆ สามารถทำอะไรได้ และคิดว่าทำแล้วดี ก็จงทำ)


นอกจากนี้แล้ว ขอความร่วมมือในการตั้ง/ตอบกระทู้อย่างสร้างสรรค์ ติและต่อว่าอย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช้อารมณ์และความผิดหวัง บั่นทอนกำลังใจนักเตะ

สิ่งที่ได้บอกไป เจ้าของกระทู้ก็พยายามทำอยู่ แต่ทำได้ดีหรือไม่ดี อันนี้ไม่แน่ใจ มั่นใจเพียงแค่ว่า ได้ทำ ทำอย่างมีวัตถุประสงค์ชัดเจนและด้วยเจตนาดี

ขอแรงทุกท่าน ร่วมด้วยช่วยกันนะคะ





สุดท้ายสำหรับกระทู้นี้ ฝากไว้ว่า “ถ้ายังไม่ได้ยินเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา อย่าเพิ่งรีบด่าหรือต่อว่าปกเกล้า” ด้วยความปรารถนาดี มิเช่นนั้น ท่านอาจจะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



อิอิ  ล้อเล่นนะ


ที่อยากจะบอกจริงๆ คือถ้าจะวิจารณ์ฟอร์มการเล่น ก็ขอให้ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง ต่อว่าอย่างเป็นเหตุเป็นผล ด้วยความสุภาพ และอย่าทำเพื่อความสะใจ

"ปกเกล้า อนันต์" เป็นนักเตะที่ประเมินฟอร์มการเล่นของตนเองได้ตรงตามความเป็นจริง ไม่ใช่คนหลงตัวเอง

หลายครั้ง ที่ปกเกล้าแสดงความรู้สึกผิดหวังและเสียใจต่อฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐานของตนเอง และไม่เคยมีสักครั้งที่จะบอกตัวเองว่า "ช่างมัน"

มีเพียงแต่การให้เครดิตเพื่อนร่วมทีม  ขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง และคำมั่นสัญญาว่าจะพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดียิ่งขึ้นไป

คำพูดหวานหูของนักเตะสังกัดสุภาพบุรุษโล่เงิน ไม่ได้ออกจากปากเพียงแค่ลอยๆ  คำพูดของลูกผู้ชาย "คำไหน คำนั้น" แน่นอน


และสุดท้าย เมื่อท่านได้ติ ด่า หรือต่อว่าปกเกล้าไปแล้ว อย่าลืมฝากกำลังใจไว้ให้ปกเกล้าด้วยนะคะ





หวังเอาไว้ในใจว่า กระทู้นี้ จะได้ทำให้ทุกท่านได้รู้จัก และรัก "ปกเกล้า อนันต์" มากยิ่งขึ้น

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ