นครนายก. เช้าเย็นกลับแบบมั่วๆ งงๆ

ประเดิมกันด้วยรูปภาพเรียกน้ำย่อยหน่อยนะคะ หัวเราะ


หลายวันมาแล้ว.. เราก็ได้มีโอกาสแอบพ่อแม่ไปเที่ยวนครนายกมาค่ะ
แต่ที่เพิ่งมาลงวันนี้เพราะเราลืมทุกทีเลย 55555555

นี่เป็นการขับรถไปเที่ยวตจว.เองครั้งแรกค่ะ คือไปแค่กับเพื่อนอีกคนเดียว ตกลงกันไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนโน้นว่าไม่อยากไปเที่ยวในเมืองเพราะช่วงนั้นเพิ่งมีข่าวระเบิด ก็เลยไปๆ มาๆ เอาวะ ไปนครนายกกัน!
และก็ไปกันแบบมั่วสุดๆ เลยค่ะ ซึ่งก็เริ่มด้วยการนัดเจอกันที่แฟชั่น เพราะง่ายต่อการขึ้นทางด่วน ละก็ตรงๆๆ ไปเลยค่ะ เราใช้เวลาชั่วโมงครึ่งไปถึงตัวเมืองนครนายก
ตอนแรกที่คุยกันอยากไปกินส้มตำกลางน้ำแบบที่เห็นในเน็ต แต่จำไม่ได้ว่ามันน้ำตกอันไหน ก็มันมีตั้งสามอันเนาะ พอถามพี่เกิ้ล พี่เกิ้ลก็บอกว่าน้ำตกนางรองเรตติ้งสูงสุด เราก็โอเค อันนี้มั้ง ไปกันโลดค่ะ
กว่าจะไปถึงน้ำตกนางรองก็ขับไปอีกเกือบๆ ครึ่งชั่วโมงค่ะ
พอไปถึง อ่าว ไม่เห็นมีส้มตำกลางน้ำเลยยยยย แต่ไม่เป็นไรๆ หิวแล้วกินไรก็ได้ ก็จัดส้มตำ น้ำตก ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ไปปูเสื่อกินกันริมน้ำตก ฟังเสียงนกเสียงน้ำท่ามกลางธรรมชาติ ฟินไปอีกแบบค่ะ

น้ำตกนางรอง ค่าเข้า รถหนึ่งคัน 50บ. คนอีกหัวละ 10บ. ค่ะ





นั่งทานกันไปสักพักก็เริ่มรู้สึกว่าเหมือนมีน้ำหยดๆ นะ มองขึ้นฟ้า อ่าว ฝนตก... ว่าแล้วเลยยย เห็นครึ้มๆ มาตลอดทางละ กะแล้ววันนี้ไม่รอดแน่ แต่ก็ทนนั่งต่อไปสักพักอะค่ะ จนฝนเริ่มเม็ดใหญ่ขึ้นถึงจะยอมลุกกัน แต่เดินกลับไปได้จนเกือบจะถึงถนนเราก็ไปเจอจุดใต้ร่มไม้ที่บังฝนได้ดีเชียวค่ะ เลยตัดสินใจนั่งกินกันต่อให้เสร็จดีกว่า (เปียกไม่ว่า เรื่องกินมาก่อนค่ะ ฮ่าๆๆ)
ก็ได้วิวชิลๆ อีกแบบนึงไปค่ะ



จากนั้นก็นำเสื่อไปคืนร้านอาหาร ฝนหยุดพอดี เรากับเพื่อนก็ตัดสินใจไปเดินเลาะน้ำตกเล่นๆ เพราะงานนี้มาขอแบบแห้งค่ะ ไม่ลงน้ำแน่นอน (แล้วมาน้ำตกทำไมก็ไม่รู้สินะคะ..)
ระหว่างเดินไปเราก็ประสบปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งค่ะ คืออากาศชื้นมากเพราะทั้งฝนทั้งน้ำตก แถมอยู่ในป่าอีกต่างหาก แว่นเรามัวตลอดงานเลยค่ะ แถมเหงื่อออกแล้วมันก็ไหลๆ มาต้องให้ดันขึ้นตลอด รำคาญมาก เลยต้องถอดๆ ใส่ๆ แว่น คือใส่ก็มัวถอดก็มัวอะค่ะ อันนี้ทำเสียอารมณ์ไปเล็กๆ ย้อนกลับไปคิดว่าตอนเช้าน่าจะใส่คอนแท็คไป :/
(แต่ที่เสียอารมณ์กว่าคือ อุตส่าห์เข้าไปลึกเชียวนะคะ ยังจะไปเจอห่อเทสโต้ที่มีคนทิ้งไว้ บวกกับขยะอีกเต็มเลย อยากจะเก็บให้ก็เอื้อมไม่ถึงค่ะ อยู่บนโขดหินไปเชียว ไม่รู้ขึ้นไปกินกันยังไง)







เดินชมไม้กันไปถึงสุดทางก็ย้อนกลับมาออกตรงสะพานอีกอันนึงที่ห่างจากที่จอดรถไปหน่อย แต่เดินไปได้ไม่เท่าไรเม็ดฝนก็เริ่มโปรยอีกแล้วค่ะ ตอนแรกก็ยังเดินเอื่อยๆ ไอ้เราก็ได้แต่เก็บกล้องให้พ้นน้ำ แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ตกหนักอีกแล้ว รออะไรล่ะคะ วิ่งค่ะ!
ขึ้นมาเรากับเพื่อนได้แต่ถอดใจนะคะ คิดว่าวันนี้แกร่วแล้วมั้ง แต่ก็ตลกดีค่ะ เลือกวันมาทั้งทีไม่มีแดดให้เลยอะ ฮือววว
แต่ก็ยังไม่อยากกลับนะ เรื่องอะไรมาตั้งขนาดนี้แล้ว เลยลองนึกย้อนไปว่าขับผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งตอนแรกเราแอบอยากไปดูฟาร์มแกะค่ะ เพราะแกะกับวัวนี่คือสัตว์สองพันธุ์ที่เราแพ้ทางเอามากๆ น่ารักยุกยิกๆ แต่คิดว่าฝนตกคงเปียกตัวฟีบกันหมดแล้ว และเห็นว่าผ่านตลาดโรงเกลือมา มีหลังคา ไปตรงนั้นก็แล้วกัน









เดินไปเดินมาอยู่พักใหญ่ ไม่ได้อะไรเลยค่ะ.. รู้สึกว่าตอนนั้นที่ได้ไปตลาดโรงเกลืออันออริจินัลสนุกกว่าเย้ออออ ของเยอะกว่ามากกก แต่ก็ไม่แน่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะเราไปเดินวันพุธ ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็วันอื่นมันไม่ว่างอ้ะะ ก็ต้องไปวันที่ไม่มีอะไรเปิดกันเนี่ยแหละค่ะ และสิ่งที่เราได้มาก็มีแค่ไข่ทรงเครื่องกับน้ำบ๊วยหนึ่งแก้ว (มีแต่ของกินทั้งงาน) และก็ได้ทราบราคารองเท้าที่ใส่อยู่ว่าไอ้ที่เราไปซื้อมาจากยูเนียนมอลล์นี่มันโคตรแพงเลย!

แถมรูปไข่.. พอดีเห็นแล้วนึกถึงฉากใน Hunter x Hunter ที่ทุกคนต้องลงไปเก็บไข่แมงมุมอะค่ะ แล้วอดถ่ายมาไม่ได้จริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ



เสร็จจากตลาดเราไปไหนกันดีนะ ฝนก็ไม่ตกแล้ว
เอาอีกละ โง่งมอีกละ เห็นเขาว่านครนายกมีวัดน่าเที่ยว แต่เรากับเพื่อนก็ดันเป็นคนไม่ชอบเที่ยววัดอะค่ะ (ไม่ชอบวัดไม่ชอบน้ำ มาทำไมมมม) แล้วก็นึกย้อนไปถึงไอ้ร้านส้มตำกลางน้ำร้านนั้น ลงมือกูเกิ้ลอีกครั้ง ถึงจะอิ่มแล้วแต่ถ้าได้ไปก็กินอีกอะ และก็พบว่ามันอยู่น้ำตกสาริกาค่ะ อ่ะ ไปกัน ย้อนไปย้อนมาอีกกกกก
พอไปถึงก็สี่โมงครึ่งละ น้ำตกปิดห้าโมง อะไรกันนนน รู้งี้มาอันนี้อันแรกก็ดีเห๊อะะ แต่ก็ยอมเข้าค่ะ

น้ำตกสาริกา ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 50บ. เด็ก 20บ. ค่ะ
แต่สงสัยว่าพี่ขายตั๋วจะเห็นว่าเรามาช้ามากกก เดี๋ยวก็จะปิดแล้ว ก็เลยให้เรากับเพื่อนแค่ราคาเด็กค่ะ หุหุ

เดินเข้าไป โง้ยยย แต่มองไกลๆ ก็งามหยดแล้วค่ะะ สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลกจริงๆ



แต่งานนี้เหนื่อยกว่าตอนเช้าหน่อย เพราะต้องเดินขึ้นเขาไปถึงจะไปดูน้ำตกงามๆ นี้ใกล้ๆ ได้ค่ะ และถ้าอยากไปถ่ายรูปหรือเล่นน้ำใกล้ๆ คือต้องเลาะโขดหินไปเอง คือตอนนั้นเรามือไม่ว่างเลย ข้างนึงถือน้ำอีกข้างถือร่ม (เริ่มฉลาดแล้วเอาร่มลงมาด้วย) เลยทำให้เดินลำบากพอตัว แถมยังต้องรีบๆ เดินให้ทันเวลาปิดอีกต่างหาก เลยไม่ได้ขึ้นไปถึงยอดสุดค่ะ







ถ่ายรูปกันไปมา เจอคนกลุ่มหนึ่งเกะกะมากเลยค่ะ ถ่ายกี่รูปก็ติดมา ฮ่าๆๆ แต่ก็ไม่ว่าไรหรอกนะคะ เขาก็เล่นน้ำกันอยู่ จิบเบียร์ไปพลาง วันพุธแท้ๆ ดูชีวิตดี๊ดีอะค่ะ แต่เพลินกันมากไปนิดนึงเขาก็ประกาศปิดแล้ว ดูนาฬิกาก็ใกล้ห้าโมงละ แถมฝนยังครึ้มๆ มาอีกแล้วด้วย เรากับเพื่อนเลยคุยว่ารีบออกดีกว่าค่ะ ก่อนที่ฝนจะตกแล้วจะเดินลงเขากันลำบากไปกว่านี้ แค่นี้ก็ลื่นแล้ว
แต่ไม่ทันไรเลย ฝนก็ตกจริงๆ คราวนี้ไม่ได้ตกรักษามารยาทเหมือนตอนเช้านะคะ เทกระหน่ำค่ะ อย่างกับว่าเก็บกดอะไรกันมาหลายเดือนแล้วต้องมาลงเอาวันนี้ ร่มที่พกมาก็ได้ใช้งานเลย แต่สองคนร่มกันเดียว ไม่รอดอะค่ะ เปียกอยู่ดี กว่าจะถึงรถทั้งผมทั้งเสื้อผ้ากระเป๋าอะไรแฉะหมด แถมมือถือเรายังแอบมีอาการรวนนิดๆ อีกต่างหาก ก็เลยพอค่ะ กลับดีกว่า ครั้งนี้ดูท่าไม่หยุดง่ายๆ ขากลับก็เป็นการขับรถที่ช้าที่สุดในชีวิตเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ เพราะท้างคดเคี้ยวแถมฝนตกมองไม่เห็นข้างหน้าอีกต่างหาก

ก็เท่านี้แหละค่ะ ประสบการณ์ไปเที่ยวแบบไม่มีแบบแผนอะไรเลยของเรากับเพื่อน ฮ่าๆๆ ดูไม่ได้อะไรเลยกับทริปนี้ แถมยังเจอฝนทั้งงานเลย แต่สนุกดีค่ะ ชอบจัง.. แต่ครั้งหน้าไม่เอาละ ขอดูที่เที่ยวมาก่อนแล้วกัน ไปแล้วพลาดไปหมดเลยแบบนี้เสียดายอะ ฮ่าๆๆๆๆ

ป.ล. ลงดึกมากแถมคืนวันอาทิตย์ ไม่รู้มีคนหลงมาอ่านมั้ยนะ..
ป.๒ล. ไม่มั่นใจต้องแท็กห้องอะไรบ้าง แต่แค่นี้ก็น่าจะถูกเนอะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่