เรียกได้ว่าการมาของ MacBook ปี 2015 ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Apple มีส่วนทำให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงของพอร์ตอุปกรณ์ต่อพ่วงที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการติดตั้งพอร์ต USB 3.1 แบบ Type-C มาในตัว และเป็นเพียงพอร์ตเดียวที่มีอยู่บน MacBook ใหม่รุ่นนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความน่าสนใจจากขนาดที่เล็ก แลพเวลาเสียบก็ไม่ต้องกลับด้านไปมา รวมถึงเป็นพอร์ตเดียวที่สามารถทำงานได้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายโอนข้อมูล ใช้สำหรับชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงเป็นช่องสำหรับชาร์จไฟให้กับตัว MacBook เองด้วย โดยในตอนนี้ก็เริ่มมีผู้ผลิตหลายๆ รายส่งโน้ตบุ๊ค เมนบอร์ด รวมไปถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อม USB Type-C แล้วเช่นกัน
ดังนั้นในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง MacBook หรือคอมพิวเตอร์ กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ในปริมาณมากๆ ก็คงต้องอาศัยอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานได้ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊กและสมาร์ทโฟน ซึ่งหมายถึงต้องมีพอร์ตที่สนับสนุนทั้งในแบบ USB Type-A แบบเดิมๆ และ Type-C อยู่ในตัว เพื่อการใช้งานร่วมกันได้ภายในตัวเดียว โดยไม่ต้องไปพักข้อมูลไว้ที่อื่นก่อน โดยในปัจจุบันเริ่มมีอุปกรณ์ในรูปแบบของแฟลชไดร์ฟที่มีพอร์ตทั้ง 2 รูปแบบมาในตัว เพื่อให้รองรับการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB Type-C และ Type-A ได้เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันอย่างอิสระ
โดยในตอนนี้ผมได้แฟลชไดร์ฟ Kingston DataTraveler microDuo 3C รุ่นความจุ 32GB มารีวิว นับได้ว่าเป็นแฟลชไดร์ฟขนาดเล็กอีกรุ่นหนึ่งจากค่าย Kingston ที่ออกแบบใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลได้ทั้งแบบ USB Type-A ปกติที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปและในแบบ Type-C ที่เป็นพอร์ตรุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้ง 2 รูปแบบได้ในตัว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนข้อมูลจากโน้ตบุ๊กไปคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรืออุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตที่รองรับ โดยมาพร้อมความจุ 32GB ซึ่งให้ความเร็วที่ระบุในสเปกมาที่ 100MB/s สำหรับการอ่านข้อมูลและ 15MB/s สำหรับการเขียนข้อมูล มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 16GB ไปจนถึง 64GB บนขนาดที่เล็กประมาณหัวแม่มือเท่านั้นเอง พกพาสะดวกน้ำหนักเบา ความยาวประมาณ 3 เซ็นติเมตรเท่านั้น
ในส่วนของหน้าตาของหีบห่อบรรจุภัณฑ์เป็นแบบพลาสติกแข็งใสตามรูปแบบที่ทาง Kingston นิยมใช้เป็นมาตรฐาน ด้านหน้าได้บ่งบอกถึงข้อมูลอย่าง รุ่น ความจุและรายละเอียดต่างๆ มาครบ พร้อมเผยให้เห็นตัว Kingston DataTraveler microDuo 3C อย่างชัดเจนและมาตรฐานการสนับสนุน ส่วนด้านหลังยังคงเป็นรายละเอียดและรุ่น รวมถึงหมายเลขซีเรียล และคุณสมบัติโดยทั่วไป
สำหรับขนาดของแฟลชไดร์ฟ Kingston DataTraveler microDuo 3C เมื่อเทียบกับฝ่ามือแล้ว ดูมีดีไซน์การออกแบบในขนาดที่เล็กมากๆ เรียกได้ว่าต้องเก็บให้ดีๆ เลย ไม่งั้นถ้าหล่นหายไปคงหาไม่เจอแน่นอน ซึ่งก็ดูเหมาะสมกับการใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีขนาดเล็กลงด้วย เพราะจะได้ไม่เกะกะเวลาใช้งาน ซึ่โดยฝาครอบใสนั้น จะใช้ในการปิดส่วนของ USB Type-C เพียงอย่างเดียว (จะใช้เมื่อไหร่ก็ค่อยเปิด) ส่วนที่เป็น USB Type-A ก็จะไม่มีส่วนของฝาปิดหรืออะไรมาบดบังแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีช่องไว้สำหรับคล้องกับสายหรือพวงกุญแจต่างๆ เพื่อที่จะได้เห็นตัวแฟลชไดร์ฟได้ง่ายขึ้น
เมื่อนำไปเสียบใช้งานแล้วก็ดูค่อนข้างลงตัวกับโน้ตบุ๊กได้ดีทีเดียว เนื่องจากมีขนาดเล็กและสะดวกในการติดตั้ง พร้อมพอร์ตที่เลือกใช้งานได้ทั้ง USB Type-A และ Type-C ซึ่งคาดว่าโน๊ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะลงตลาดในช่วงกลางปีถึงปลายปีนี้ ก็น่าจะมีพอร์ต USB Type-C ออกมาให้ใช้กันเป็นมาตรฐานกันมากขึ้น รวมไปถึงในส่วนของเมนบอร์ดและสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ อีกด้วย จากขนาดพอร์ตที่เล็ก เสียบด้านไหนก็ได้ อีกทั้งทาง Intel ยังผลักดันให้กับบรรดาผู้ผลิตรายต่างๆ อย่างเต็มที่อีกด้วย
นอกจากเรื่องพอร์ตการใช้งาน USB Type-C ที่มีอยู่ในตัว ทำให้เราสามารถใช้งานแฟลชไดร์ฟได้สะดวกแล้ว เรื่องความเร็วหรือประสิทธิภาพก็เป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้ามันช้าก็จะส่งผลให้การถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่จะต้องรอนานมาก อีกทั้งการใช้งานที่ต้องใช้ความเร็วสูงๆ อย่างเช่นการดูไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD ที่เก็บอยู่บนแฟลชไดรฟ์ ก็คงจะเกิดปัญหาแน่ๆ ซึ่งจากการทดลองใช้งานก็ให้ผลที่น่าพอใจ โดยการคัดลอกไฟล์ขนาด 4GB จากเครื่องไปยังแฟลชไดร์ฟอยู่ที่ประมาณ 3 นาที ส่วนถ้าจากแฟลชไดร์ฟไปเครื่องจะไม่ถึงนาที รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรม ก็เห็นว่าความเร็วก็เป็นไปตามสเปกที่แจ้งไว้ อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ถึงขั้นรวดเร็วอะไร แต่ก็ไม่ได้ช้าเวอร์แต่อย่างใด (แต่ถ้าเร็วกว่านี้ก็จะดีไง)
Kingston DataTraveler microDuo 3C เหมาะสำหรับใครที่ต้องการใช้แฟลชไดรฟ์ USB 3.1 อยู่แล้วที่เป็น Type-A นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะใช้ Type-C อาจจะลงทุนล่วงหน้าไปเลยก็น่าสนใจ เพราะมีโอกาสได้ใช้ในไม่ช้านี้ ส่วนใครที่คิดว่าจะอัพเกรดเปลี่ยนแฟลชไดรฟ์ตัวใหม่อยู่แล้ว ก็สามารถเลือกใช้ได้เลย เพราะเป็นสิ่งที่มาแน่นอนในอนาคต เลือกใช้งานได้ทั้ง 2 รูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เลือกใช้พีซี โน้ตบุ๊กหรือสมาร์ทโฟนที่มี USB Type-C นี่ถือว่าเป็นการเลือกใช้งานได้อย่างลงตัวมากที่สุด อีกทั้งราคาและความจุที่ได้ ไม่ได้ต่างไปจากแบบที่เป็นแฟลชไดรฟ์พอร์ตเดียวเท่าใดนัก ด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่มีขนาดเล็ก พกพาง่ายน่าจะทำให้การพกพาทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ต้องระวังเพียงอย่างเดียวคือ การทำหล่นหรือหลุดมือหายไป (ฮา) ยังไงเป็นไปได้ก็ให้ร้อยสายคล้องที่แขวนไว้กับตัวแฟลชไดรฟ์ ก็น่าดีที่สุด
สำหรับ Kingston DataTraveler microDuo 3C มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 16GB, 32GB และ 64GB สำหรับใช้ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ด้วยพอร์ต USB 3.1 ทั้ง Type-C แบบใหม่ และ Type-A แบบมมาตรฐานเดิม ที่ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุดถึง 100MB/s และเขียนข้อมูลได้ที่ 15MB/s พร้อมขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา พกพาสะดวก จึงสามารถนำไปใช้งานในสถานที่ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น จึงถือว่าเป็นแฟลชไดร์ฟอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว (แต่ก็เขียนช้าไปหน่อยนะ)
* แนะนำเลยว่าคนใช้ MacBook ที่มีเพียง USB Type-C อย่างเดียว ควรซื้อเก็บไว้เก็บข้อมูลไปมาระหว่างคอมเครื่องอื่นๆ ด้วยนะครับ ไม่งั้นเอาออกทางไร้สายนั้นยุ่งยากแน่นอน
[SR] [SR] รีวิว Kingston DataTraveler microDuo 3C แฟลชไดร์ฟมาตรฐานใหม่ มาพร้อม USB Type-C
ดังนั้นในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง MacBook หรือคอมพิวเตอร์ กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ในปริมาณมากๆ ก็คงต้องอาศัยอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานได้ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊กและสมาร์ทโฟน ซึ่งหมายถึงต้องมีพอร์ตที่สนับสนุนทั้งในแบบ USB Type-A แบบเดิมๆ และ Type-C อยู่ในตัว เพื่อการใช้งานร่วมกันได้ภายในตัวเดียว โดยไม่ต้องไปพักข้อมูลไว้ที่อื่นก่อน โดยในปัจจุบันเริ่มมีอุปกรณ์ในรูปแบบของแฟลชไดร์ฟที่มีพอร์ตทั้ง 2 รูปแบบมาในตัว เพื่อให้รองรับการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB Type-C และ Type-A ได้เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันอย่างอิสระ
โดยในตอนนี้ผมได้แฟลชไดร์ฟ Kingston DataTraveler microDuo 3C รุ่นความจุ 32GB มารีวิว นับได้ว่าเป็นแฟลชไดร์ฟขนาดเล็กอีกรุ่นหนึ่งจากค่าย Kingston ที่ออกแบบใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลได้ทั้งแบบ USB Type-A ปกติที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปและในแบบ Type-C ที่เป็นพอร์ตรุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้ง 2 รูปแบบได้ในตัว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนข้อมูลจากโน้ตบุ๊กไปคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรืออุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตที่รองรับ โดยมาพร้อมความจุ 32GB ซึ่งให้ความเร็วที่ระบุในสเปกมาที่ 100MB/s สำหรับการอ่านข้อมูลและ 15MB/s สำหรับการเขียนข้อมูล มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 16GB ไปจนถึง 64GB บนขนาดที่เล็กประมาณหัวแม่มือเท่านั้นเอง พกพาสะดวกน้ำหนักเบา ความยาวประมาณ 3 เซ็นติเมตรเท่านั้น
ในส่วนของหน้าตาของหีบห่อบรรจุภัณฑ์เป็นแบบพลาสติกแข็งใสตามรูปแบบที่ทาง Kingston นิยมใช้เป็นมาตรฐาน ด้านหน้าได้บ่งบอกถึงข้อมูลอย่าง รุ่น ความจุและรายละเอียดต่างๆ มาครบ พร้อมเผยให้เห็นตัว Kingston DataTraveler microDuo 3C อย่างชัดเจนและมาตรฐานการสนับสนุน ส่วนด้านหลังยังคงเป็นรายละเอียดและรุ่น รวมถึงหมายเลขซีเรียล และคุณสมบัติโดยทั่วไป
สำหรับขนาดของแฟลชไดร์ฟ Kingston DataTraveler microDuo 3C เมื่อเทียบกับฝ่ามือแล้ว ดูมีดีไซน์การออกแบบในขนาดที่เล็กมากๆ เรียกได้ว่าต้องเก็บให้ดีๆ เลย ไม่งั้นถ้าหล่นหายไปคงหาไม่เจอแน่นอน ซึ่งก็ดูเหมาะสมกับการใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีขนาดเล็กลงด้วย เพราะจะได้ไม่เกะกะเวลาใช้งาน ซึ่โดยฝาครอบใสนั้น จะใช้ในการปิดส่วนของ USB Type-C เพียงอย่างเดียว (จะใช้เมื่อไหร่ก็ค่อยเปิด) ส่วนที่เป็น USB Type-A ก็จะไม่มีส่วนของฝาปิดหรืออะไรมาบดบังแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีช่องไว้สำหรับคล้องกับสายหรือพวงกุญแจต่างๆ เพื่อที่จะได้เห็นตัวแฟลชไดร์ฟได้ง่ายขึ้น
เมื่อนำไปเสียบใช้งานแล้วก็ดูค่อนข้างลงตัวกับโน้ตบุ๊กได้ดีทีเดียว เนื่องจากมีขนาดเล็กและสะดวกในการติดตั้ง พร้อมพอร์ตที่เลือกใช้งานได้ทั้ง USB Type-A และ Type-C ซึ่งคาดว่าโน๊ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะลงตลาดในช่วงกลางปีถึงปลายปีนี้ ก็น่าจะมีพอร์ต USB Type-C ออกมาให้ใช้กันเป็นมาตรฐานกันมากขึ้น รวมไปถึงในส่วนของเมนบอร์ดและสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ อีกด้วย จากขนาดพอร์ตที่เล็ก เสียบด้านไหนก็ได้ อีกทั้งทาง Intel ยังผลักดันให้กับบรรดาผู้ผลิตรายต่างๆ อย่างเต็มที่อีกด้วย
นอกจากเรื่องพอร์ตการใช้งาน USB Type-C ที่มีอยู่ในตัว ทำให้เราสามารถใช้งานแฟลชไดร์ฟได้สะดวกแล้ว เรื่องความเร็วหรือประสิทธิภาพก็เป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้ามันช้าก็จะส่งผลให้การถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่จะต้องรอนานมาก อีกทั้งการใช้งานที่ต้องใช้ความเร็วสูงๆ อย่างเช่นการดูไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD ที่เก็บอยู่บนแฟลชไดรฟ์ ก็คงจะเกิดปัญหาแน่ๆ ซึ่งจากการทดลองใช้งานก็ให้ผลที่น่าพอใจ โดยการคัดลอกไฟล์ขนาด 4GB จากเครื่องไปยังแฟลชไดร์ฟอยู่ที่ประมาณ 3 นาที ส่วนถ้าจากแฟลชไดร์ฟไปเครื่องจะไม่ถึงนาที รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรม ก็เห็นว่าความเร็วก็เป็นไปตามสเปกที่แจ้งไว้ อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ถึงขั้นรวดเร็วอะไร แต่ก็ไม่ได้ช้าเวอร์แต่อย่างใด (แต่ถ้าเร็วกว่านี้ก็จะดีไง)
Kingston DataTraveler microDuo 3C เหมาะสำหรับใครที่ต้องการใช้แฟลชไดรฟ์ USB 3.1 อยู่แล้วที่เป็น Type-A นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะใช้ Type-C อาจจะลงทุนล่วงหน้าไปเลยก็น่าสนใจ เพราะมีโอกาสได้ใช้ในไม่ช้านี้ ส่วนใครที่คิดว่าจะอัพเกรดเปลี่ยนแฟลชไดรฟ์ตัวใหม่อยู่แล้ว ก็สามารถเลือกใช้ได้เลย เพราะเป็นสิ่งที่มาแน่นอนในอนาคต เลือกใช้งานได้ทั้ง 2 รูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เลือกใช้พีซี โน้ตบุ๊กหรือสมาร์ทโฟนที่มี USB Type-C นี่ถือว่าเป็นการเลือกใช้งานได้อย่างลงตัวมากที่สุด อีกทั้งราคาและความจุที่ได้ ไม่ได้ต่างไปจากแบบที่เป็นแฟลชไดรฟ์พอร์ตเดียวเท่าใดนัก ด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่มีขนาดเล็ก พกพาง่ายน่าจะทำให้การพกพาทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ต้องระวังเพียงอย่างเดียวคือ การทำหล่นหรือหลุดมือหายไป (ฮา) ยังไงเป็นไปได้ก็ให้ร้อยสายคล้องที่แขวนไว้กับตัวแฟลชไดรฟ์ ก็น่าดีที่สุด
สำหรับ Kingston DataTraveler microDuo 3C มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 16GB, 32GB และ 64GB สำหรับใช้ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ด้วยพอร์ต USB 3.1 ทั้ง Type-C แบบใหม่ และ Type-A แบบมมาตรฐานเดิม ที่ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุดถึง 100MB/s และเขียนข้อมูลได้ที่ 15MB/s พร้อมขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา พกพาสะดวก จึงสามารถนำไปใช้งานในสถานที่ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น จึงถือว่าเป็นแฟลชไดร์ฟอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว (แต่ก็เขียนช้าไปหน่อยนะ)
* แนะนำเลยว่าคนใช้ MacBook ที่มีเพียง USB Type-C อย่างเดียว ควรซื้อเก็บไว้เก็บข้อมูลไปมาระหว่างคอมเครื่องอื่นๆ ด้วยนะครับ ไม่งั้นเอาออกทางไร้สายนั้นยุ่งยากแน่นอน