สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นคำถามที่ดีมาก เตรียมตัวเดินทางให้สบายใจได้เลยครับ
1. เครื่องบินเวลาบินผ่านเฆฆ หรือพื้นที่อากาศแปรปรวนหรืออื่นๆ มีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้ไหมครับ เพราะอะไร
> เมฆมีหลายแบบหลากชนิดครับ ส่วนมากไม่ได้เป็นสาเหตุของฟ้าผ่า
> เมฆที่มีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้คือเมฆพายุฝน เรียกว่า Cumulonimbus ชื่อเล่น CB ซึ่งมีความสูงและใหญ่มาก
> เห็นได้ชัดเจนจากจอ Weather Radar ทำให้นักบินสามารถบินหลบเมฆอันตรายลักษณะนี้ได้ครับ
> นอกจากฟ้าผ่าแล้ว ข้างในเมฆ CB ยังมีของแถมอีกมากมายเช่น ฝน น้ำแข็ง ลูกเห็บ ประจุจากไฟฟ้าสถิตย์ที่จะรบกวนระบบนำทางของเครื่องบิน
>> https://en.wikipedia.org/wiki/Cumulonimbus_cloud
2. แล้วทำไมเวลาบินผ่านสภาพอากาศแปรปรวน นี่หมายถึงก้อนเมฆที่มีฝนตก ใช่ไหมครับ
> ไม่เสมอไปครับ
> Turbulence = สภาพอากาศแปรปรวน ภาษาชาวบ้าน = ตกหลุมอากาศ ก็มีหลายลักษณะเหมือนกัน
> มวลอากาศที่ปั่นป่วนใน CB ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของ Turbulence ซึ่ง CB นี้สามารถบินหลบได้
> แต่อีกชนิดที่อันตรายพอสมควร คือ Clear-air Turbulence ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า และไม่สามารถ
> จับได้ด้วย Weather Radar เกิดจากกระแสลมหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในบริเวณชั้นบรรยากาศนั้น
> ถ้าบินผ่านก็จะทำให้เครื่องสั่นอย่างแรงได้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าครับ
> Wake Turbulence จากปีกเครื่องบินลำที่บินสวนมาด้านบน ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เครื่องสั่นได้ครับ อ่านรายละเอียดได้จากลิ้งค์ด้านล่าง
>> https://en.wikipedia.org/wiki/Clear-air_turbulence
3. แล้วทำไมเวลาบินผ่านพวกนี้เครื่องบินต้องสั่น หรือตกหลุมอากาศ มันไปกระทบอะไรกับระบบเครื่องยนต์ หรือการบินครับ
> เครื่องบินบินในอากาศ เหมือนรถวิ่งบนถนน
> ถนนเรียบ = อากาศดี ก็วิ่งกันสบายๆ
> ถนนขรุขระ = Turbulence ก็สะเทือนบ้างครับ
> ปีกของเครื่องบินถูกออกแบบมาให้สร้างแรงยก Lift จากมวลอากาศที่ไหลผ่านปีกทั้งด้านบนและด้านล่าง
> เครื่องยนต์ก็เช่นกัน ต้องดูดอากาศเข้าไปอัดผสมกับเชื้อเพลิงเพื่อจุดระเบิดให้ได้แรงขับออกมาด้านหลัง
> ถ้ามี Turbulence ที่ทำให้มวลอากาศไม่สม่ำเสมอมาเจอปีกและเครื่องยนต์ แรงยกของปีทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
> ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ถูกรบกวน เครื่องก็โยกไปโยกมาได้ครับ
4. แล้วถ้าบินเหนือก้อนเมฆไปแล้ว ก็จะไม่ต้องเจอกับสภาพอากาศ แปรปรวน ใช่ไหมครับ
> ตามที่บอกไว้ เมฆมีหลายชนิด ส่วนใหญ่จะอยู่ต่ำกว่าเพดานบิน
> แต่เมฆ CB ตัวปัญหานั้นมีความสูงแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ บางแห่งสูงถึง 50,000 ฟุต
> ซึ่งเพดานบินปกติของเครื่องบินพาณิชย์คือ 30,000 - 40,000 ฟุต
> ถ้าจะบินเหนือ CB ที่อยู่ต่ำกว่า ก็จะต้องมั่นใจว่ามีระยะห่างในแนวตั้ง
> เกินกว่าค่าความปลอดภัยที่กำหนดไว้ตามคู่มือการปฏิบัติงานของแต่ละสายการบิน
> ถึงจะปลอดภัยจาก Turbulence และของแถมต่างที่รอแจกอยู่บริเวณด้านบนของ CB ครับ
5. แล้วถ้าตอนกำลัง Landing แล้วต้องผ่านสภาพอากาศแบบนี้ทำยังไงครับ เค้าจะประเมินยังไงว่าลงได้หรือไม่ได้
> ในการ Landing แล้วมี CB ขวางอยู่ใน Final Approach Path ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งของ CB อยู่ตรงไหน
> ถ้าสามารถหลบได้ก่อนและกลับมาอยู่ในแนวร่อนได้ทัน เหลือเวลาเพียงพอที่จะแต่งตัวจัดท่าทางเพื่อทำการ Landing ได้อย่างปลอดภัย
> นักบินจะเลือกหลบ แต่ถ้าดูตำแหน่งแล้วอยู่ใกล้ทางวิ่งมากไม่สามารถหลบและกลับมาได้ทัน
> ก็จะประเมินความรุนแรงของ Turbulence ที่ขวางอยู่ โดยใช้ประสบการณ์ของนักบิน เช่นสังเกตุจากลำหน้าว่าเขาหลบหรือบินผ่านไปเลย
> ถ้าตัดสินใจบินผ่านพายุก็จะประกาศเตือนลูกเรือและผดส.ก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
> แต่ถ้าประเมินความเสี่ยงแล้วไม่ไหวจริงๆ ก็จะขออนุญาตบินวนรอให้พายุเคลื่อนที่ออกจากบริเวณนั้นหรือ
> ขอให้หอบังคับการบินช่วยนำทางไปลงอีกด้าน(ฝั่งตรงข้าม)ของทางวิ่งแทนครับ
6. ใครมีประสบกาณ์บนเครื่องบินแบบนี้หนักๆ ช่วยเล่าหน่อยครับ มันดูน่ากลัวดีแท้
> ผมเคยโดนฟ้าผ่าครั้งหนึ่งที่ย่างกุ้ง เครื่องขึ้นจากย่างกุ้งมาเวลากลางคืนต้องบินผ่านเมฆ Sqall Line คือ CB ที่เรียงต่อกันเป็นกำแพงยาวไกล
> ไกลชนิดที่ว่าไม่สามารถบินอ้อมได้ ต้องบินฝ่าเข้าไป กัปตันเปิดสัญญาณ Seat Belt Sign เพื่อเตือนลูกเรือและผดส.ให้เตรียมตัวเตรียมใจ
> ไฟในห้องนักบินเปิดสว่างที่สุดเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่างเพื่อป้องกันตาพร่าจากแสงจ้าถ้าเกิดฟ้าแลบฟ้าผ่าขึ้นมา
> ระหว่างที่บินผ่านพายุ อยู่ดีๆก็มีเสียง "โป๊ก" เสียงเดียวกันกับเวลาขับรถแล้วมีใครเอาหินมาปารถนั่นหละครับ
> หน้าจอเครื่องนำทางทุกอย่างดับไปประมาณครึ่งวินาทีแล้วกลับมาติดเหมือนเดิม ตรวจดูการทำงานของเครื่องยนต์แล้วปกติ
> เครื่องบินไต่ความสูงต่อได้อย่างปกติ ระบบ Autopilot ระบบ Flight Control ระบบไฟฟ้า ระบบแอร์ ทุกอย่างทำงานปกติ
> บินฝ่าพายุกันอยู่ประมาณ 20 นาทีก็หลุดออกมาจาก Squall Line ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล เตรียมตัวกับงานของการร่อนลงที่กรุงเทพกันต่อไป
> หลังจากเครื่องลงนักบินก็จะเขียนรายงานเหตุการณ์โดนฟ้าผ่าให้กับฝ่ายช่างได้ตรวจสอบต่อไป
> มารู้ทีหลังว่าไฟในห้องผู้โดยสารก็ดับและติดในเวลาใกล้เคียงกันครับ
ขอบคุณมากครับ
> ยินดีครับ

> แถมรูปสวยๆให้รูปนึง เรียกว่า St.Elmo's Fire เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามมักจะเกิดขึ้นก่อนและหลังบินเข้าพายุ
> เกิดจากประจุไฟฟ้าสถิตจากละอองน้ำรอบๆเครื่องบินวิ่งผ่านกระจกหน้าต่างห้องนักบิน เห็นเป็นเส้นแสงวิ่งเหมือนฟ้าผ่าแนวนอนบ้างตั้งบ้าง
> เป็นความสวยที่มักจะมาพร้อมกับความตื่นเต้นเสมอ ขอบคุณรูปจาก CNN ครับ
>> http://ireport.cnn.com/docs/DOC-786758
> และคลิป St.Elmo's Fire สวยๆจาก PilotsTubeHD ครับ
1. เครื่องบินเวลาบินผ่านเฆฆ หรือพื้นที่อากาศแปรปรวนหรืออื่นๆ มีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้ไหมครับ เพราะอะไร
> เมฆมีหลายแบบหลากชนิดครับ ส่วนมากไม่ได้เป็นสาเหตุของฟ้าผ่า
> เมฆที่มีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้คือเมฆพายุฝน เรียกว่า Cumulonimbus ชื่อเล่น CB ซึ่งมีความสูงและใหญ่มาก
> เห็นได้ชัดเจนจากจอ Weather Radar ทำให้นักบินสามารถบินหลบเมฆอันตรายลักษณะนี้ได้ครับ
> นอกจากฟ้าผ่าแล้ว ข้างในเมฆ CB ยังมีของแถมอีกมากมายเช่น ฝน น้ำแข็ง ลูกเห็บ ประจุจากไฟฟ้าสถิตย์ที่จะรบกวนระบบนำทางของเครื่องบิน
>> https://en.wikipedia.org/wiki/Cumulonimbus_cloud
2. แล้วทำไมเวลาบินผ่านสภาพอากาศแปรปรวน นี่หมายถึงก้อนเมฆที่มีฝนตก ใช่ไหมครับ
> ไม่เสมอไปครับ
> Turbulence = สภาพอากาศแปรปรวน ภาษาชาวบ้าน = ตกหลุมอากาศ ก็มีหลายลักษณะเหมือนกัน
> มวลอากาศที่ปั่นป่วนใน CB ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของ Turbulence ซึ่ง CB นี้สามารถบินหลบได้
> แต่อีกชนิดที่อันตรายพอสมควร คือ Clear-air Turbulence ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า และไม่สามารถ
> จับได้ด้วย Weather Radar เกิดจากกระแสลมหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในบริเวณชั้นบรรยากาศนั้น
> ถ้าบินผ่านก็จะทำให้เครื่องสั่นอย่างแรงได้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าครับ
> Wake Turbulence จากปีกเครื่องบินลำที่บินสวนมาด้านบน ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เครื่องสั่นได้ครับ อ่านรายละเอียดได้จากลิ้งค์ด้านล่าง
>> https://en.wikipedia.org/wiki/Clear-air_turbulence
3. แล้วทำไมเวลาบินผ่านพวกนี้เครื่องบินต้องสั่น หรือตกหลุมอากาศ มันไปกระทบอะไรกับระบบเครื่องยนต์ หรือการบินครับ
> เครื่องบินบินในอากาศ เหมือนรถวิ่งบนถนน
> ถนนเรียบ = อากาศดี ก็วิ่งกันสบายๆ
> ถนนขรุขระ = Turbulence ก็สะเทือนบ้างครับ
> ปีกของเครื่องบินถูกออกแบบมาให้สร้างแรงยก Lift จากมวลอากาศที่ไหลผ่านปีกทั้งด้านบนและด้านล่าง
> เครื่องยนต์ก็เช่นกัน ต้องดูดอากาศเข้าไปอัดผสมกับเชื้อเพลิงเพื่อจุดระเบิดให้ได้แรงขับออกมาด้านหลัง
> ถ้ามี Turbulence ที่ทำให้มวลอากาศไม่สม่ำเสมอมาเจอปีกและเครื่องยนต์ แรงยกของปีทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
> ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ถูกรบกวน เครื่องก็โยกไปโยกมาได้ครับ
4. แล้วถ้าบินเหนือก้อนเมฆไปแล้ว ก็จะไม่ต้องเจอกับสภาพอากาศ แปรปรวน ใช่ไหมครับ
> ตามที่บอกไว้ เมฆมีหลายชนิด ส่วนใหญ่จะอยู่ต่ำกว่าเพดานบิน
> แต่เมฆ CB ตัวปัญหานั้นมีความสูงแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ บางแห่งสูงถึง 50,000 ฟุต
> ซึ่งเพดานบินปกติของเครื่องบินพาณิชย์คือ 30,000 - 40,000 ฟุต
> ถ้าจะบินเหนือ CB ที่อยู่ต่ำกว่า ก็จะต้องมั่นใจว่ามีระยะห่างในแนวตั้ง
> เกินกว่าค่าความปลอดภัยที่กำหนดไว้ตามคู่มือการปฏิบัติงานของแต่ละสายการบิน
> ถึงจะปลอดภัยจาก Turbulence และของแถมต่างที่รอแจกอยู่บริเวณด้านบนของ CB ครับ
5. แล้วถ้าตอนกำลัง Landing แล้วต้องผ่านสภาพอากาศแบบนี้ทำยังไงครับ เค้าจะประเมินยังไงว่าลงได้หรือไม่ได้
> ในการ Landing แล้วมี CB ขวางอยู่ใน Final Approach Path ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งของ CB อยู่ตรงไหน
> ถ้าสามารถหลบได้ก่อนและกลับมาอยู่ในแนวร่อนได้ทัน เหลือเวลาเพียงพอที่จะแต่งตัวจัดท่าทางเพื่อทำการ Landing ได้อย่างปลอดภัย
> นักบินจะเลือกหลบ แต่ถ้าดูตำแหน่งแล้วอยู่ใกล้ทางวิ่งมากไม่สามารถหลบและกลับมาได้ทัน
> ก็จะประเมินความรุนแรงของ Turbulence ที่ขวางอยู่ โดยใช้ประสบการณ์ของนักบิน เช่นสังเกตุจากลำหน้าว่าเขาหลบหรือบินผ่านไปเลย
> ถ้าตัดสินใจบินผ่านพายุก็จะประกาศเตือนลูกเรือและผดส.ก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
> แต่ถ้าประเมินความเสี่ยงแล้วไม่ไหวจริงๆ ก็จะขออนุญาตบินวนรอให้พายุเคลื่อนที่ออกจากบริเวณนั้นหรือ
> ขอให้หอบังคับการบินช่วยนำทางไปลงอีกด้าน(ฝั่งตรงข้าม)ของทางวิ่งแทนครับ
6. ใครมีประสบกาณ์บนเครื่องบินแบบนี้หนักๆ ช่วยเล่าหน่อยครับ มันดูน่ากลัวดีแท้
> ผมเคยโดนฟ้าผ่าครั้งหนึ่งที่ย่างกุ้ง เครื่องขึ้นจากย่างกุ้งมาเวลากลางคืนต้องบินผ่านเมฆ Sqall Line คือ CB ที่เรียงต่อกันเป็นกำแพงยาวไกล
> ไกลชนิดที่ว่าไม่สามารถบินอ้อมได้ ต้องบินฝ่าเข้าไป กัปตันเปิดสัญญาณ Seat Belt Sign เพื่อเตือนลูกเรือและผดส.ให้เตรียมตัวเตรียมใจ
> ไฟในห้องนักบินเปิดสว่างที่สุดเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่างเพื่อป้องกันตาพร่าจากแสงจ้าถ้าเกิดฟ้าแลบฟ้าผ่าขึ้นมา
> ระหว่างที่บินผ่านพายุ อยู่ดีๆก็มีเสียง "โป๊ก" เสียงเดียวกันกับเวลาขับรถแล้วมีใครเอาหินมาปารถนั่นหละครับ
> หน้าจอเครื่องนำทางทุกอย่างดับไปประมาณครึ่งวินาทีแล้วกลับมาติดเหมือนเดิม ตรวจดูการทำงานของเครื่องยนต์แล้วปกติ
> เครื่องบินไต่ความสูงต่อได้อย่างปกติ ระบบ Autopilot ระบบ Flight Control ระบบไฟฟ้า ระบบแอร์ ทุกอย่างทำงานปกติ
> บินฝ่าพายุกันอยู่ประมาณ 20 นาทีก็หลุดออกมาจาก Squall Line ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล เตรียมตัวกับงานของการร่อนลงที่กรุงเทพกันต่อไป
> หลังจากเครื่องลงนักบินก็จะเขียนรายงานเหตุการณ์โดนฟ้าผ่าให้กับฝ่ายช่างได้ตรวจสอบต่อไป
> มารู้ทีหลังว่าไฟในห้องผู้โดยสารก็ดับและติดในเวลาใกล้เคียงกันครับ
ขอบคุณมากครับ
> ยินดีครับ

> แถมรูปสวยๆให้รูปนึง เรียกว่า St.Elmo's Fire เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามมักจะเกิดขึ้นก่อนและหลังบินเข้าพายุ
> เกิดจากประจุไฟฟ้าสถิตจากละอองน้ำรอบๆเครื่องบินวิ่งผ่านกระจกหน้าต่างห้องนักบิน เห็นเป็นเส้นแสงวิ่งเหมือนฟ้าผ่าแนวนอนบ้างตั้งบ้าง
> เป็นความสวยที่มักจะมาพร้อมกับความตื่นเต้นเสมอ ขอบคุณรูปจาก CNN ครับ
>> http://ireport.cnn.com/docs/DOC-786758
> และคลิป St.Elmo's Fire สวยๆจาก PilotsTubeHD ครับ
แสดงความคิดเห็น
เครื่องบินเวลาบินผ่านเฆฆ หรือพื้นที่อากาศแปรปรวนหรืออื่นๆ มีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้ไหมครับ เพราะอะไร
2. แล้วทำไมเวลาบินผ่านสภาพอากาศแปรปรวน นี่หมายถึงก้อนเมฆที่มีฝนตก ใช่ไหมครับ
3. แล้วทำไมเวลาบินผ่านพวกนี้เครื่องบินต้องสั่น หรือตกหลุมอากาศ มันไปกระทบอะไรกับระบบเครื่องยนต์ หรือการบินครับ
4. แล้วถ้าบินเหนือก้อนเมฆไปแล้ว ก็จะไม่ต้องเจอกับสภาพอากาศ แปรปรวน ใช่ไหมครับ
5. แล้วถ้าตอนกำลัง Landing แล้วต้องผ่านสภาพอากาศแบบนี้ทำยังไงครับ เค้าจะประเมินยังไงว่าลงได้หรือไม่ได้
ุ6. ใครมีประสบกาณ์บนเครื่องบินแบบนี้หนักๆ ช่วยเล่าหน่อยครับ มันดูน่ากลัวดีแท้
ขอบคุณมากครับ