ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บังเอิญมีเหตุฉุกเฉินให้กลับบ้านที่เชียงใหม่ยาวประมาณ 3 อาทิตย์ แบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่มีเวลาวางแพลนเที่ยวในเชียงใหม่
หลังจากนั่งเปื่อย นอนเปื่อย อยู่ที่บ้านเกือบ 10 วัน ก็ถึงจุดที่ว่า "กรูต้องออกบ้านแล้ว"
เราเลยเซิชหาข้อมูลสถานที่เที่ยวใกล้บ้าน โดยมีโจทย์ให้กับตัวเองว่า ที่ๆจะไป ต้อง "ถ่ายรูปสวยฉ่ำ บรรยากาศดี มีต้นไม้ แว๊นไปกลับได้ แบบไม่ต้องนอน"
บ้านเราอยู่ทางไปสันกำแพง การหาสถานที่ตามโจทย์ที่ตั้งไว้เลยมีให้เลือกพอสมควร ไหนจะน้ำพุร้อนสันกำแพง ถ้ำเมืองออน จะตัดออกไปเขื่อนแม่กวง เส้นดอยสะเก็ด หรือจะออกไปเส้นแม่ริมก็พอไหว
สก๊อยรุ่นแม่อย่างเราเลยค้นหาข้อมูลเส้นทางจริงจัง
เซิชจากพันทิพไปมาเห็นว่ามีคนพูดถึงบ้านแม่กำปองกันเยอะ เลยลองเข้าไปดูข้อมูล พอเช็คเส้นทางจากแผนที่ก็ดูไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
เลยตะโกนบอกน้องชาย(แซ้บรุ่นใหญ่) ว่า "พรุ่งนี้เราจะไปแม่กำปอง !!! "
16|08|2015
ตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า เตรียมตัวออกจากบ้านไปสัมผัสบรรยากาศเย็นสบายตอนเช้าที่แม่กำปอง
แต่ปรากฏว่า"ฝนตก" เลยต้องนั่งรอไปเรื่อยๆจนฝนหยุด
ประมาณ 9 โมงนิดๆ ฝนเริ่มหยุดแล้ว ได้เวลาสตาร์ทรถเครื่องน้อย ออกเดินทาง
แวะจอดถ่ายรูปเส้นทางที่จะไปซักหน่อย
รูปบนจะเป็นทางไปบ้านแม่กำปอง ส่วนรูปล่างจะเป็นทางเข้าไปในเมืองเชียงใหม่
ตลอดเส้นทางที่ขับมาแทบไม่มีแดดเลย อากาศดีมาก ลมพัดเย็นสบาย สองข้างทาง มีนาข้าวกำลังตั้งต้น หันไปทางไหนก็เขียวขจี มีภูเขาล้อมรอบ เห็นแล้วสบายตา สบายใจ
จากบ้านเรา-ไปแม่กำปอง ไม่ไกลมากนัก แต่ด้วยความที่รถก็เก่า คนก็แก่ เลยค่อยๆขับไป ประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็ถึงแม่กำปอง
ถ่ายรูปกับป้ายหมู่บ้านที่เป็น Landmark หลักของที่นี่ ว่าเราได้มาถึงแล้ว !!!!
หลังจากนั้นเราก็ขับตรงเข้าไปในหมู่บ้านเรื่อยๆ ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว ชันมาก ชันน้อยตามทาง
ที่แรกที่เราแวะจอดคือ..วันคันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง)
วัดนี้มีความสวยงามเป็นพิเศษคือทางวัดได้สร้างอุโบสถกลางน้ำ ซึ่งด้านหน้าจะมีธารน้ำตกไหลผ่าน
หลังจากกราบนมัสการแล้ว เราก็แว๊นต่อไปยัง Landmark ที่สอง ที่ว่ากันว่าถ้าไม่ได้มาที่นี่ ก็เหมือนมาไม่ถึงแม่กำปอง
นั่นก็คือ..ร้านกาแฟชมนก ชมไม้
ร้านนี้คนค่อนข้างเยอะ แต่โชคดีว่า ช่วงเวลาที่เรามาคนไม่ค่อยเยอะมาก เลยได้โต๊ะริมระเบียง
นั่งจิบกาแฟยามเช้า ชมบรรยากาศ หมู่บ้านเล็กๆท่ามกลางหุบเขาของบ้านแม่กำปอง
ลองชิมบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก รสชาติอร่อยใช้ได้
นั่งชิวสักพัก น้องชายบอกว่ามีน้ำตกกับจุดชมวิวด้านบน เลยแว๊นกันต่อ..
จากร้านกาแฟชมนกชมไม่ ขับตามทางไปเรื่อยๆประมาณ 5 นาทีก็จะถึงน้ำตกแม่กำปอง
จากน้ำตกแม่กำปอง แว๊นใจกล้าก็พยามจะขับขึ้นไปจุดชมวิวที่กิ่วฝิ่น ขับไปได้แค่ 15 นาทีรถเครื่องขี้เมี่ยงก็ไปไม่ไหว
ทั้งเดินทั้งเข็นกันสองคนกับน้องชาย แต่เนินตั้งฉากยาวทำให้เราถอดใจสไลด์รถกลับเข้าไปเที่ยวในหมู่บ้านแทน
ทางกลับเข้าหมู่บ้าน มีโฮมสเตย์ตลอดข้างทาง หลากหลายแบบให้เลือกพัก
และยังมีร้านขายของชำ ร้านขายของฝากของที่ระลึก ร้านอาหารริมน้ำ ให้เลือกนั่งชิวได้ตามความชอบ
เราแว๊นเข้ามาจอดใจกลางหมู่บ้าน เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยจนถึง Landmark ที่สาม
ที่ร้านฮิมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง ร้านที่ชาวฮิปสเตอร์ และชาวสโลว์ไลฟ์ มักจะมาถ่ายรูปกับป้ายร้าน และด้านหน้าตึก
สก๊อยมีสไตล์อย่างเรามีหรือจะพลาด รัวชัตเตอร์ทั้งด้านหน้าด้านในเก็บภาพบรรยากาศ
พร้อมสั่งชาอู่หลงร้อนๆมาจิบเบาๆยามบ่าย ก่อนจะตรงไปหาข้าวเที่ยงกัน
เราแวะกินน้ำเงี้ยวที่ร้านแถวนั้น (จำชื่อร้านไม่ได้) ป้าแกใจดีให้ซะเยอะ อิ่มอร่อยไปอีกมื้อ
กินเสร็จก็ได้เวลากลับ..
เราแว๊นไปตามทางน้ำตกจนเจอ ผาน้ำลอด แวะจอดสำรวจเล็กน้อยเป็นที่สุดท้าย ก่อนจะออกจากแม่กำปอง
พักสักครู่..เดี๋ยวมาต่อกับ เส้นทางขากลับที่จะแว๊นไปน้ำพุร้อนสันกำแพง-ถ้ำเมืองออนค่ะ
[CR] สก๊อยมีสไตล์ | แว๊นไปจิบกาแฟ | ที่แม่กำปอง
ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บังเอิญมีเหตุฉุกเฉินให้กลับบ้านที่เชียงใหม่ยาวประมาณ 3 อาทิตย์ แบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่มีเวลาวางแพลนเที่ยวในเชียงใหม่
หลังจากนั่งเปื่อย นอนเปื่อย อยู่ที่บ้านเกือบ 10 วัน ก็ถึงจุดที่ว่า "กรูต้องออกบ้านแล้ว"
เราเลยเซิชหาข้อมูลสถานที่เที่ยวใกล้บ้าน โดยมีโจทย์ให้กับตัวเองว่า ที่ๆจะไป ต้อง "ถ่ายรูปสวยฉ่ำ บรรยากาศดี มีต้นไม้ แว๊นไปกลับได้ แบบไม่ต้องนอน"
บ้านเราอยู่ทางไปสันกำแพง การหาสถานที่ตามโจทย์ที่ตั้งไว้เลยมีให้เลือกพอสมควร ไหนจะน้ำพุร้อนสันกำแพง ถ้ำเมืองออน จะตัดออกไปเขื่อนแม่กวง เส้นดอยสะเก็ด หรือจะออกไปเส้นแม่ริมก็พอไหว
สก๊อยรุ่นแม่อย่างเราเลยค้นหาข้อมูลเส้นทางจริงจัง
เซิชจากพันทิพไปมาเห็นว่ามีคนพูดถึงบ้านแม่กำปองกันเยอะ เลยลองเข้าไปดูข้อมูล พอเช็คเส้นทางจากแผนที่ก็ดูไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
เลยตะโกนบอกน้องชาย(แซ้บรุ่นใหญ่) ว่า "พรุ่งนี้เราจะไปแม่กำปอง !!! "
16|08|2015
ตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า เตรียมตัวออกจากบ้านไปสัมผัสบรรยากาศเย็นสบายตอนเช้าที่แม่กำปอง
แต่ปรากฏว่า"ฝนตก" เลยต้องนั่งรอไปเรื่อยๆจนฝนหยุด
ประมาณ 9 โมงนิดๆ ฝนเริ่มหยุดแล้ว ได้เวลาสตาร์ทรถเครื่องน้อย ออกเดินทาง
แวะจอดถ่ายรูปเส้นทางที่จะไปซักหน่อย
รูปบนจะเป็นทางไปบ้านแม่กำปอง ส่วนรูปล่างจะเป็นทางเข้าไปในเมืองเชียงใหม่
ตลอดเส้นทางที่ขับมาแทบไม่มีแดดเลย อากาศดีมาก ลมพัดเย็นสบาย สองข้างทาง มีนาข้าวกำลังตั้งต้น หันไปทางไหนก็เขียวขจี มีภูเขาล้อมรอบ เห็นแล้วสบายตา สบายใจ
จากบ้านเรา-ไปแม่กำปอง ไม่ไกลมากนัก แต่ด้วยความที่รถก็เก่า คนก็แก่ เลยค่อยๆขับไป ประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็ถึงแม่กำปอง
ถ่ายรูปกับป้ายหมู่บ้านที่เป็น Landmark หลักของที่นี่ ว่าเราได้มาถึงแล้ว !!!!
หลังจากนั้นเราก็ขับตรงเข้าไปในหมู่บ้านเรื่อยๆ ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว ชันมาก ชันน้อยตามทาง
ที่แรกที่เราแวะจอดคือ..วันคันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง)
วัดนี้มีความสวยงามเป็นพิเศษคือทางวัดได้สร้างอุโบสถกลางน้ำ ซึ่งด้านหน้าจะมีธารน้ำตกไหลผ่าน
หลังจากกราบนมัสการแล้ว เราก็แว๊นต่อไปยัง Landmark ที่สอง ที่ว่ากันว่าถ้าไม่ได้มาที่นี่ ก็เหมือนมาไม่ถึงแม่กำปอง
นั่นก็คือ..ร้านกาแฟชมนก ชมไม้
ร้านนี้คนค่อนข้างเยอะ แต่โชคดีว่า ช่วงเวลาที่เรามาคนไม่ค่อยเยอะมาก เลยได้โต๊ะริมระเบียง
นั่งจิบกาแฟยามเช้า ชมบรรยากาศ หมู่บ้านเล็กๆท่ามกลางหุบเขาของบ้านแม่กำปอง
ลองชิมบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก รสชาติอร่อยใช้ได้
นั่งชิวสักพัก น้องชายบอกว่ามีน้ำตกกับจุดชมวิวด้านบน เลยแว๊นกันต่อ..
จากร้านกาแฟชมนกชมไม่ ขับตามทางไปเรื่อยๆประมาณ 5 นาทีก็จะถึงน้ำตกแม่กำปอง
จากน้ำตกแม่กำปอง แว๊นใจกล้าก็พยามจะขับขึ้นไปจุดชมวิวที่กิ่วฝิ่น ขับไปได้แค่ 15 นาทีรถเครื่องขี้เมี่ยงก็ไปไม่ไหว
ทั้งเดินทั้งเข็นกันสองคนกับน้องชาย แต่เนินตั้งฉากยาวทำให้เราถอดใจสไลด์รถกลับเข้าไปเที่ยวในหมู่บ้านแทน
ทางกลับเข้าหมู่บ้าน มีโฮมสเตย์ตลอดข้างทาง หลากหลายแบบให้เลือกพัก
และยังมีร้านขายของชำ ร้านขายของฝากของที่ระลึก ร้านอาหารริมน้ำ ให้เลือกนั่งชิวได้ตามความชอบ
เราแว๊นเข้ามาจอดใจกลางหมู่บ้าน เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยจนถึง Landmark ที่สาม
ที่ร้านฮิมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง ร้านที่ชาวฮิปสเตอร์ และชาวสโลว์ไลฟ์ มักจะมาถ่ายรูปกับป้ายร้าน และด้านหน้าตึก
สก๊อยมีสไตล์อย่างเรามีหรือจะพลาด รัวชัตเตอร์ทั้งด้านหน้าด้านในเก็บภาพบรรยากาศ
พร้อมสั่งชาอู่หลงร้อนๆมาจิบเบาๆยามบ่าย ก่อนจะตรงไปหาข้าวเที่ยงกัน
เราแวะกินน้ำเงี้ยวที่ร้านแถวนั้น (จำชื่อร้านไม่ได้) ป้าแกใจดีให้ซะเยอะ อิ่มอร่อยไปอีกมื้อ
กินเสร็จก็ได้เวลากลับ..
เราแว๊นไปตามทางน้ำตกจนเจอ ผาน้ำลอด แวะจอดสำรวจเล็กน้อยเป็นที่สุดท้าย ก่อนจะออกจากแม่กำปอง
พักสักครู่..เดี๋ยวมาต่อกับ เส้นทางขากลับที่จะแว๊นไปน้ำพุร้อนสันกำแพง-ถ้ำเมืองออนค่ะ