***จุดประสงค์ของกระทู้นี้คือการเล่าประวัติของราชาเลือดมังกร Targaryen ผู้ปกครอง Seven Kingdoms ทุกๆสมัย ในมุมมองของผู้เขียน
มิได้มีเจตนาลอก(Plagiarism)เพื่อผลประโยชน์แต่อย่างใด เป็นความชอบส่วนบุคคลโดยเล่าเรื่องผ่านมุมมองของผู้เขียน
หากข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องของอภัย ณ ที่นี้ เนื้อเรื่องยึดตามหนังสือ The World of Ice and Fire และ
Wiki ASOIAF เชิญรับชมได้เลยครับ
Reference and Notes: The World of Ice and Fire by Georger R.R. Martin, Elio M.Garcia Jr. and Linda Antonsson
All photos used in this content are credited underneath each photo
ต่อจาก
http://pantip.com/topic/34060645
หลังโรคระบาด Spring Sickness ได้คร่าชีวิตอดีตราชา Daeron the Good ไป ลูกชายคนรองอย่าง Aerys Targaryen จึงได้รับการสืบทอดบัลลังก์ต่อจากพ่อเป็นราชาองค์ที่ 13 แห่ง Westeros

Aerys I Targaryen cr.
http://awoiaf.westeros.org/index.php/Aerys_I_Targaryen
Aerys ได้ขึ้นเป็นราชาอย่างงงๆ ตัวเองยังไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าจะได้เป็นราชาเพราะเขาได้หมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเพราะมีความคลั่งไคล้ในปริศนาทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก แกยังเชื่อในคำพยากรณ์และขุนไสยของคนโบราณอีกด้วย
ราชาหนอนหนังสือได้แต่งงานกับ
Aelinor Penrose แต่ชีวิตคู่กลับไม่สวยหรูนักเพราะท่านเล่นไม่สนใจภรรยาแม้แต่น้อย ราชาและราชินีไม่สามารถมีทายาทได้เสียทีทำให้ข้าราชบริพานต่างขอร้องให้ราชาหาภรรยาใหม่เถิด จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน.....ราชาก็เฉย ไม่รับฟังแต่อย่างใด
*** ลือกันในวงในว่าราชาองค์นี้ไร้ซึ่งความต้องการทางเพศ หาใช่ความบกพร่องทางร่ายกายที่ทำให้การมีบุตรนั้นเป็นไปได้ยากมาก
ปัญหาใหญ่ที่ราชาต้องเผชิญคือโรคร้ายอย่าง Spring Sickness ที่ยังคงระบาดอยู่ แต่ก็ได้เบาลงตามกาลเวลา รวมถึงทายาทแห่ง Balckfyre และ Bittersteel ที่รอดจากสงครามกำลังวางแผนล้างแค้นอยู่ ณ ดินแดนโพ้นทะเล --- ด้วยเหตุนี้ราชาจึงได้แต่งตั้ง Hand ที่ไม่มีใครจะเหมาะสมไปกว่า Brynden Rivers หรือ
Bloodraven อีกแล้ว

cr.
http://awoiaf.westeros.org/index.php/Brynden_Rivers
Bloodraven ได้แสดงวีรกรรมอันกล้าหาญและฝีมือการยิงธนูอันยอดเยี่ยมในศึก Blackfye Rebellion ครั้งแรก แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ราชาต้องการเขามาก --Bloodraven มิได้เป็นเพียงนักรบ เขายังเป็น
Master of Whisperers (แบบ Varys) คือสามารถสอดรู้เรื่องชาวบ้านไปทั่ว ด้วยความช่วยเหลือจากคนรักอย่าง
Shiera Seastar อีกหนึ่ง Great Bastard ของอดีตราชาอ้วนซึ่งนางมีความสามารถทางเวทย์มนต์และศาสตร์มืดเป็นเลิศ ทั้งคู่จึงร่วมมือกันเป็นหูเป็นตาให้ราชาได้เป็นอย่างดี

Shiera Seastar cr.
http://awoiaf.westeros.org/index.php/Shiera_Seastar
*** การที่ Bloodraven ชื่นชอบศาสตร์มืดและสิ่งลี้ลับนี้เองเป็นอีกปัจจัยที่ราชา Aerys I เลือกเขาเป็น Hand แทนน้องชายอย่าง Maekar ที่คุณสมบัติเพียบพร้อมกว่า เพราะราชาเองก็ชอบเรื่องลี้ลับแบบนี้อยู่แล้วจึงเลือกคนคอเดียวกันดีกว่า --- Maekar โมโหมากจึงย้ายไปอยู่ที่ Summerhall โดยไม่กลับมา King's Landing ในระหว่างการปกครองของพี่ชายอีกเลย
ด้วยความช่วยเหลือจากสปายของ Bloodraven และ Shiera ทำให้การสอดส่องหาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ -- การระบาด Spring Sickness จึงได้หยุดลง แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหลือเกินเมื่อ Summer หรือฤดูร้อนมาถึง อาณาจักรได้เผชิญกับภัยแล้งที่กินเวลาถึง 2 ปี
ประชาชนระดับรากหญ้าและขุนนางระดับกลางๆที่โดนภัยแล้งเล่นงานต่างโทษราชาและ Bloodraven หาว่าโรคระบาดยังมีปัญญารับมือ แต่ทำไมภัยแล้งถึงแก้ไขไม่ได้ แถมปล่อยให้ล่วงเลยถึง 2 ปี โดยไร้การเยียวยาใดๆ เขาเหล่านี้ต่างโกรธแค้น...............แล้วก็เกิดความคิดที่ว่า
"เอามังกรดำกลับมาได้ไหม"
ตัวการใหญ่ในโครงการพามังกรดำกลับบ้านคือ
Lord Gormon Peake หนึ่งในขุนพลของ Daemon Blackfyre ในศึก First Blackfyre Rebellion ที่รอดชีวิตจากสงครามและถูกราชา Daeron the Good ถอดยศและยึดปราสาทของเขาทั้ง 3 หลัง
ตา Gormon Peake ในยุคนั้นถือเป็นอัศวินที่เก่งมากคนหนึ่ง เขาได้สังหารอัศวินของราชา Daeron ถึง 2 คนด้วยตัวคนเดียวในศึกทุ่งหญ้าแดง
หลังสิ้นสุดภัยแล้ง Gormon Peake ก็ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปพบกับ
Daemon the Younger ลูกชายคนโตของ Daemon Blackfyre ผู้ล่วงลับ เพื่อเชิญชวนให้สานฝันสิ่งที่พ่อของเขาได้ทำไว้ให้ลุล่วง

Daemon II Blackfyre cr.
http://awoiaf.westeros.org/index.php/Daemon_II_Blackfyre
Event: the Second Blackfyre Rebellion
และแล้ว Blackfyre Rebellion ครั้งที่สองก็กำลังจะเริ่มขึ้นในพิธีแต่งงานของ
Lord Butterwell แห่ง
Whitewalls เมืองทางใต้ โดย Lord Butterwell แกเป็นคนมั่งคั่งเพราะเคยเป็น Hand ของอดีตราชา Daeron II แต่โดนปลดเนื่องจากไร้ประสิทธิภาพในการรับมือ Blackfyre รุ่นแรก ทำให้แกแค้น Targaryen แล้วผันตัวไปเป็นติ่ง Blackfyre แทน --- แกได้แสร้งจัดงานแต่งของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ เชิญอัศวินและนักรบจากทั่วทุกสารทิศมาประลองกันแบบทัวร์นาเมนต์โดยที่ผู้คนต่างหารู้ไม่ว่านี่คือการรวมพลครั้งใหญ่ของบรรดาติ่ง Blackfyre ภายใต้ผู้นำอย่าง Daemon the Younger และ Lord Gormon Peake ที่จะเปิดศึกโดยการโจมตีเมืองสำคัญๆทางใต้เพื่อยึดดินแดนลุ่มแม่น้ำ Riverlands ของ Tully เป็นที่มั่น
*** ยุคนั้น Whitewalls เป็นหัวใจสำคัญของ Riverlands ยิ่งกว่า Riverrun ของ Tully เสียอีก
แต่แผนนี้กลับต้องดับอนาถ.......ยังไม่ทันเริ่มเลยด้วยซ้ำ
ต้องขอบคุณความสุดยอดของ Hand Bloodraven พรายกระซิบผู้รู้ทุกอย่างในอาณาจักรที่ได้ทราบแผนชั่วของ Daemon II Blackfyre ก่อนแล้ว จึงได้แอบนำกำลังพลมาด้วยตัวเอง ล้อม Whitewalls แล้วเข้าจับกุมหัวโจกอย่างง่ายดาย

cr.
https://www.pinterest.com/pin/535435843172398541/
- Lord Gormon Peake ถูกประหารต่อหน้าประชาชน
- Lord Butterwell แห่ง Whitewalls ถูกถอดยศและความเป็นเจ้าของ Whitewalls
- Daemon II Blackfyre ถูกนำไปขังไว้ ณ Red Keep และด้วยความชาญฉลาดของ Bloodraven เขาไม่สั่งฆ่า Daemon เพราะตราบใดที่ Daemon ยังมีชีวิตอยู่ น้องชาย(Haegon Blackfyre) ก็ไม่อาจสืบทอดบัลลงก์ได้ ถือเป็นการถ่วงเวลา Blackfyre Rebellion ครั้งที่สาม
แม้การก่อกบฎครั้งที่ 2 จะแห้ว แต่หลังจากการจับกุม ณ Whitewalls 8 ปี Blackfyre จอมดื้อรั้นก็กลับมาเยือน Westeros อีกครั้ง
Event: the Third Blackfyre Rebellion
Aegor Rivers หรือที่รู้จักกันในนาม
Bittersteel ผู้ริเริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ Daemon I ได้พา Haegon I Blackfyre น้องชายของ Daemon II Blackfyre กลับมาเยือน Westeros อีกครั้ง

Haegon Blackfyre cr.
https://www.pinterest.com/pin/325948091755732015/
******เหตุการณ์นี้จะอธิบายละเอียดใน the Hedge Knight ซึ่งผมยังอ่านไม่จบ ใครอ่านแล้วมาเสริมได้ครับ *******
ราชา Aerys I แทบจะหายหน้าหายตาไปเลยเพราะแม้จะเป็นราชาแล้วเขาก็ยังคงมุ่นกับการอ่าน ไม่สนใจการปกครองเท่าไหร่ ร้อนถึงน้องชายอย่าง
Maekar Targaryen ที่ต้องออกโรงแทน โดยได้การสนับสนุนจากลูกชายอย่าง
Aerion Brightflame ผู้เก่งกาจและลูกชายคนเล็ก Aegon
*** Aerion Brightflame แม้จะเก่งแต่ก็มีความบ้าอยู่ในตัวคือ คิดว่าตัวเองเป็นมังกร สุดท้ายเลยตายอนาถเพราะแกทะลึ่งดื่ม Wildfire จนโดนเผาตาย คิดว่าตัวเองเป็น Dragon

Maekar Targaryen cr.
http://targaryen.narod.ru/memorial/www.roaringstudios.com/thk/char.htm

Aerion Brightflame

Aerion Brightflame ซด Wildfire cr.
http://awoiaf.westeros.org/index.php/Aerion_Targaryen
Bloodraven ก็ยังคงเป็นพระเอกของงานนี้โดยเขาได้ปะทะกับ Bittersteel พี่น้องต่างมารดาได้ประมือกันอีกครั้ง Bittersteel ได้เป็นฝ่ายแพ้ไปและถูกจับเป็นไปเป็นเชลยศึก
ด้าน Haegon Blackfyre ได้ทิ้งดาบยอมแพ้แล้วด้วยซ้ำแต่รายนี้กลับถูกฟันดับด้วยความที่ตนเป็น Blackfyre ตายในสนามรบ --- สุดท้ายปรากฎว่า Haegon คนนี้เป็นตัวปลอมที่ Bittersteel พามาเป็นตัวหลอกเฉยๆ
Aerion Brightflame และ Bloodraven ต่างขอร้องให้ Aerys I ประหาร Bittersteel ซะจะได้จบๆ แต่ด้วยความเมตตาของราชา Bittersteel ได้ถูกส่งไปยัง Wall เพื่อรับใช้ Night's Watch --- นับเป็นความเมตตาที่โง่เขลาทีเดียวเพราะ Blackfyre ได้แฝงไปทุกหย่อมหญ้า เขาจึงได้รับการช่วยเหลือแล้วเดินทางไปยัง East Watch by the Sea ขึ้นเรือไปยังแดนตะวันออกได้สำเร็จ
Bittersteel ได้ร่วมมือกับ Golden Company และแต่งตั้ง Daemon III Blackfyre ให้เป็นผู้นำกบฎครั้งต่อไปเพื่อชำระแค้นราชาผู้ไว้ชีวิตเขา
แต่โอกาสนั้นกลับมาไม่ถึงเมื่อเพียง 2 ปีหลังการกบฎครั้งที่สาม ราชา Aerys I Targaryen ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคชรา ครองราชย์ทั้งสิ้น 12 ปี
ไร้ทายาท...... พี่น้องก็ต่างก็ล้มหายตายจากไปคงเหลือแต่
Maekar Targaryen เจ้าชายนักรบ ผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป.................
Targaryen Dynasty 13: Aerys I Targaryen ราชาหนอนหนังสือ ผู้คลั่งไคล้ประวัติศาสตร์และสิ่งลี้ลับ
Reference and Notes: The World of Ice and Fire by Georger R.R. Martin, Elio M.Garcia Jr. and Linda Antonsson
All photos used in this content are credited underneath each photo
ต่อจาก http://pantip.com/topic/34060645
หลังโรคระบาด Spring Sickness ได้คร่าชีวิตอดีตราชา Daeron the Good ไป ลูกชายคนรองอย่าง Aerys Targaryen จึงได้รับการสืบทอดบัลลังก์ต่อจากพ่อเป็นราชาองค์ที่ 13 แห่ง Westeros
Aerys ได้ขึ้นเป็นราชาอย่างงงๆ ตัวเองยังไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าจะได้เป็นราชาเพราะเขาได้หมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเพราะมีความคลั่งไคล้ในปริศนาทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก แกยังเชื่อในคำพยากรณ์และขุนไสยของคนโบราณอีกด้วย
ราชาหนอนหนังสือได้แต่งงานกับ Aelinor Penrose แต่ชีวิตคู่กลับไม่สวยหรูนักเพราะท่านเล่นไม่สนใจภรรยาแม้แต่น้อย ราชาและราชินีไม่สามารถมีทายาทได้เสียทีทำให้ข้าราชบริพานต่างขอร้องให้ราชาหาภรรยาใหม่เถิด จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน.....ราชาก็เฉย ไม่รับฟังแต่อย่างใด
*** ลือกันในวงในว่าราชาองค์นี้ไร้ซึ่งความต้องการทางเพศ หาใช่ความบกพร่องทางร่ายกายที่ทำให้การมีบุตรนั้นเป็นไปได้ยากมาก
ปัญหาใหญ่ที่ราชาต้องเผชิญคือโรคร้ายอย่าง Spring Sickness ที่ยังคงระบาดอยู่ แต่ก็ได้เบาลงตามกาลเวลา รวมถึงทายาทแห่ง Balckfyre และ Bittersteel ที่รอดจากสงครามกำลังวางแผนล้างแค้นอยู่ ณ ดินแดนโพ้นทะเล --- ด้วยเหตุนี้ราชาจึงได้แต่งตั้ง Hand ที่ไม่มีใครจะเหมาะสมไปกว่า Brynden Rivers หรือ Bloodraven อีกแล้ว
Bloodraven ได้แสดงวีรกรรมอันกล้าหาญและฝีมือการยิงธนูอันยอดเยี่ยมในศึก Blackfye Rebellion ครั้งแรก แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ราชาต้องการเขามาก --Bloodraven มิได้เป็นเพียงนักรบ เขายังเป็น Master of Whisperers (แบบ Varys) คือสามารถสอดรู้เรื่องชาวบ้านไปทั่ว ด้วยความช่วยเหลือจากคนรักอย่าง Shiera Seastar อีกหนึ่ง Great Bastard ของอดีตราชาอ้วนซึ่งนางมีความสามารถทางเวทย์มนต์และศาสตร์มืดเป็นเลิศ ทั้งคู่จึงร่วมมือกันเป็นหูเป็นตาให้ราชาได้เป็นอย่างดี
*** การที่ Bloodraven ชื่นชอบศาสตร์มืดและสิ่งลี้ลับนี้เองเป็นอีกปัจจัยที่ราชา Aerys I เลือกเขาเป็น Hand แทนน้องชายอย่าง Maekar ที่คุณสมบัติเพียบพร้อมกว่า เพราะราชาเองก็ชอบเรื่องลี้ลับแบบนี้อยู่แล้วจึงเลือกคนคอเดียวกันดีกว่า --- Maekar โมโหมากจึงย้ายไปอยู่ที่ Summerhall โดยไม่กลับมา King's Landing ในระหว่างการปกครองของพี่ชายอีกเลย
ด้วยความช่วยเหลือจากสปายของ Bloodraven และ Shiera ทำให้การสอดส่องหาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ -- การระบาด Spring Sickness จึงได้หยุดลง แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหลือเกินเมื่อ Summer หรือฤดูร้อนมาถึง อาณาจักรได้เผชิญกับภัยแล้งที่กินเวลาถึง 2 ปี
ประชาชนระดับรากหญ้าและขุนนางระดับกลางๆที่โดนภัยแล้งเล่นงานต่างโทษราชาและ Bloodraven หาว่าโรคระบาดยังมีปัญญารับมือ แต่ทำไมภัยแล้งถึงแก้ไขไม่ได้ แถมปล่อยให้ล่วงเลยถึง 2 ปี โดยไร้การเยียวยาใดๆ เขาเหล่านี้ต่างโกรธแค้น...............แล้วก็เกิดความคิดที่ว่า "เอามังกรดำกลับมาได้ไหม"
ตัวการใหญ่ในโครงการพามังกรดำกลับบ้านคือ Lord Gormon Peake หนึ่งในขุนพลของ Daemon Blackfyre ในศึก First Blackfyre Rebellion ที่รอดชีวิตจากสงครามและถูกราชา Daeron the Good ถอดยศและยึดปราสาทของเขาทั้ง 3 หลัง
ตา Gormon Peake ในยุคนั้นถือเป็นอัศวินที่เก่งมากคนหนึ่ง เขาได้สังหารอัศวินของราชา Daeron ถึง 2 คนด้วยตัวคนเดียวในศึกทุ่งหญ้าแดง
หลังสิ้นสุดภัยแล้ง Gormon Peake ก็ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปพบกับ Daemon the Younger ลูกชายคนโตของ Daemon Blackfyre ผู้ล่วงลับ เพื่อเชิญชวนให้สานฝันสิ่งที่พ่อของเขาได้ทำไว้ให้ลุล่วง
Event: the Second Blackfyre Rebellion
และแล้ว Blackfyre Rebellion ครั้งที่สองก็กำลังจะเริ่มขึ้นในพิธีแต่งงานของ Lord Butterwell แห่ง Whitewalls เมืองทางใต้ โดย Lord Butterwell แกเป็นคนมั่งคั่งเพราะเคยเป็น Hand ของอดีตราชา Daeron II แต่โดนปลดเนื่องจากไร้ประสิทธิภาพในการรับมือ Blackfyre รุ่นแรก ทำให้แกแค้น Targaryen แล้วผันตัวไปเป็นติ่ง Blackfyre แทน --- แกได้แสร้งจัดงานแต่งของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ เชิญอัศวินและนักรบจากทั่วทุกสารทิศมาประลองกันแบบทัวร์นาเมนต์โดยที่ผู้คนต่างหารู้ไม่ว่านี่คือการรวมพลครั้งใหญ่ของบรรดาติ่ง Blackfyre ภายใต้ผู้นำอย่าง Daemon the Younger และ Lord Gormon Peake ที่จะเปิดศึกโดยการโจมตีเมืองสำคัญๆทางใต้เพื่อยึดดินแดนลุ่มแม่น้ำ Riverlands ของ Tully เป็นที่มั่น
*** ยุคนั้น Whitewalls เป็นหัวใจสำคัญของ Riverlands ยิ่งกว่า Riverrun ของ Tully เสียอีก
แต่แผนนี้กลับต้องดับอนาถ.......ยังไม่ทันเริ่มเลยด้วยซ้ำ
ต้องขอบคุณความสุดยอดของ Hand Bloodraven พรายกระซิบผู้รู้ทุกอย่างในอาณาจักรที่ได้ทราบแผนชั่วของ Daemon II Blackfyre ก่อนแล้ว จึงได้แอบนำกำลังพลมาด้วยตัวเอง ล้อม Whitewalls แล้วเข้าจับกุมหัวโจกอย่างง่ายดาย
- Lord Gormon Peake ถูกประหารต่อหน้าประชาชน
- Lord Butterwell แห่ง Whitewalls ถูกถอดยศและความเป็นเจ้าของ Whitewalls
- Daemon II Blackfyre ถูกนำไปขังไว้ ณ Red Keep และด้วยความชาญฉลาดของ Bloodraven เขาไม่สั่งฆ่า Daemon เพราะตราบใดที่ Daemon ยังมีชีวิตอยู่ น้องชาย(Haegon Blackfyre) ก็ไม่อาจสืบทอดบัลลงก์ได้ ถือเป็นการถ่วงเวลา Blackfyre Rebellion ครั้งที่สาม
แม้การก่อกบฎครั้งที่ 2 จะแห้ว แต่หลังจากการจับกุม ณ Whitewalls 8 ปี Blackfyre จอมดื้อรั้นก็กลับมาเยือน Westeros อีกครั้ง
Event: the Third Blackfyre Rebellion
Aegor Rivers หรือที่รู้จักกันในนาม Bittersteel ผู้ริเริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ Daemon I ได้พา Haegon I Blackfyre น้องชายของ Daemon II Blackfyre กลับมาเยือน Westeros อีกครั้ง
******เหตุการณ์นี้จะอธิบายละเอียดใน the Hedge Knight ซึ่งผมยังอ่านไม่จบ ใครอ่านแล้วมาเสริมได้ครับ *******
ราชา Aerys I แทบจะหายหน้าหายตาไปเลยเพราะแม้จะเป็นราชาแล้วเขาก็ยังคงมุ่นกับการอ่าน ไม่สนใจการปกครองเท่าไหร่ ร้อนถึงน้องชายอย่าง Maekar Targaryen ที่ต้องออกโรงแทน โดยได้การสนับสนุนจากลูกชายอย่าง Aerion Brightflame ผู้เก่งกาจและลูกชายคนเล็ก Aegon
*** Aerion Brightflame แม้จะเก่งแต่ก็มีความบ้าอยู่ในตัวคือ คิดว่าตัวเองเป็นมังกร สุดท้ายเลยตายอนาถเพราะแกทะลึ่งดื่ม Wildfire จนโดนเผาตาย คิดว่าตัวเองเป็น Dragon
Bloodraven ก็ยังคงเป็นพระเอกของงานนี้โดยเขาได้ปะทะกับ Bittersteel พี่น้องต่างมารดาได้ประมือกันอีกครั้ง Bittersteel ได้เป็นฝ่ายแพ้ไปและถูกจับเป็นไปเป็นเชลยศึก
ด้าน Haegon Blackfyre ได้ทิ้งดาบยอมแพ้แล้วด้วยซ้ำแต่รายนี้กลับถูกฟันดับด้วยความที่ตนเป็น Blackfyre ตายในสนามรบ --- สุดท้ายปรากฎว่า Haegon คนนี้เป็นตัวปลอมที่ Bittersteel พามาเป็นตัวหลอกเฉยๆ
Aerion Brightflame และ Bloodraven ต่างขอร้องให้ Aerys I ประหาร Bittersteel ซะจะได้จบๆ แต่ด้วยความเมตตาของราชา Bittersteel ได้ถูกส่งไปยัง Wall เพื่อรับใช้ Night's Watch --- นับเป็นความเมตตาที่โง่เขลาทีเดียวเพราะ Blackfyre ได้แฝงไปทุกหย่อมหญ้า เขาจึงได้รับการช่วยเหลือแล้วเดินทางไปยัง East Watch by the Sea ขึ้นเรือไปยังแดนตะวันออกได้สำเร็จ
Bittersteel ได้ร่วมมือกับ Golden Company และแต่งตั้ง Daemon III Blackfyre ให้เป็นผู้นำกบฎครั้งต่อไปเพื่อชำระแค้นราชาผู้ไว้ชีวิตเขา
แต่โอกาสนั้นกลับมาไม่ถึงเมื่อเพียง 2 ปีหลังการกบฎครั้งที่สาม ราชา Aerys I Targaryen ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคชรา ครองราชย์ทั้งสิ้น 12 ปี
ไร้ทายาท...... พี่น้องก็ต่างก็ล้มหายตายจากไปคงเหลือแต่ Maekar Targaryen เจ้าชายนักรบ ผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป.................