สวัสดีค่า นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตของ จขกท. นะคะ อาจจะอ่านงงๆบ้าง ก็ต้องขออภัยไว้ก่อนเลยนะคะ^^'
กระทู้นี้จขกท.ขอมาเล่าเรื่องราว"กว่าจะได้จัดฟันพร้อมบอกรายละเอียดค่าใช้จ่าย"ไว้เป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆพี่ๆที่อยากจะไปจัดฟันด้วยนะคะ
เริ่มแรกเลยตัว จขกท. เนี่ยอยากจัดฟันมาตั้งแต่ ป.6 เพราะแฟชั่นและสมัยนิยม บวกกับกระแสจัดฟันแฟชั่นมาแรงมากในตอนนั้น ทำให้เพื่อนๆในชั้นเรียนของ จขกท. จัดฟันแฟชั่นกันเกือบครึ่งห้องแน่ะ ยิ่งเวลาเราไปเดินตลาดนัดที่ไหนๆ เราก็จะเห็นมันวางขายเกลื่อนตลาดไปหมด แบบว่าเดินไปตรงไหนก็มีเหล็กจัดฟันแฟชั่นขายว่างั้น ด้วยความที่ยังเด็กและคิดว่าคนที่จัดฟันนั้นจะน่ารักขึ้น 80เปอร์เซ็น เรื่องความสะอาดจึงถูกมองข้ามไป จขกท. อ้อนวอนให้แม่พาไปจัดฟันแฟชั่นหลายล้านรอบมาก แต่คำตอบเดียวที่ได้คือ ไม่!!! และฟัน จขกท. ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จขกท. เลยไม่เคยพูดเรื่องนี้กับแม่อีกตั้งแต่นั้นมา
แต่ แต่ แต่.. จนสองปีผ่านไป พี่สาวเราแอบไปจัดฟันแฟชั่นที่ตะวันนามา แล้วไอเครื่องมือเน่าๆมันทำให้ฟันพี่สาวเราห่างออกจากกัน และต้นทุนเดิมมันก็เหยินมากอยู่แล้ว แม่จึงพาพี่สาวไปจัดฟันที่คลินิคทันตกรรมแถวบ้าน จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 5ปีแล้ว ทุกวันนี้ฟันพี่สาวเรียงกันสวย โครงหน้ายาวขึ้นนิดหน่อย พี่สาว จขกท. เหลือแค่ใส่รีเทนเนอร์เท่านั้น
ทีนี้มาที่เรื่องจัดฟันของ จขกท. บ้างนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันน้าา
จขกท. นี่เพิ่งได้จัดฟันเมื่อปลายเดินพฤษภาคมที่ผ่านมา จขกท. จัดที่คลินิคในห้างสรรพสินค้ายี่ห้อสีเขียว ย่านนวมินทร์ค่ะ 55555
เริ่มแรกแม่ของ จขกท. ให้ไปเอกซเรย์ช่องปากมาไว้ก่อน เพราะยังไงหมอเค้าก็ต้องให้เราไปเอกซเรย์มาอยู่ดี จขกท. ไปเอกซเรย์ที่ รพ.เอกชนใกล้ห้างสีเขียวนั่นแหละค่ะ พอเข้าไปในตัว รพ. ก็แจ้งว่ามาเอกซเรย์เพื่อไปจัดฟัน รู้สึกว่าจะต้องใช้ฟิล์มใหญ่สองฟิล์มนะคะ พอแจ้งเรียบร้อยแล้วเค้าก็พา จขกท. ขึ้นไปที่ห้องเอกซเรย์ เค้าจะให้เราถอดต่างหู กิ๊ฟติดผม เครื่องประดับ(ถ้ามี) เมื่อเรียบร้อยแล้วเค้าก็จะให้เราไปยืนระหว่างเครื่องเอกซเรย์ค่ะ ต้องยืนตรงๆปากก็คาบแท่งสีขาวๆไว้แล้วหลับตา ซักพักจะมีเสียงติ๊ด ติ๊ด แปปเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ และเค้าจะให้เราไปยืนอีกเครื่องที่ใกล้ๆกัน จขกท. เกลียดเครื่องนี้มากเลย เพราะเค้าจะเอาอะไรไม่รู้มาแหย่ๆหูไว้ และมีมีอะไรไม่รู้เรียกไม่ถูก555 มันจะเหมือนกับลอคหน้าเราให้ตรง พอเสร็จก็ไปรอรับฟิล์มค่ะ ของ จขกท. ต้องเอกซเรย์ถึงสองครั้งเพราะฟิล์มเบลอ เนื่องจาก จขกท. ยืนไม่นิ่งนั่นเอง5555 ค่าเสียหายในครั้งนี้ 1050บาทค่ะ
อีกวันแม่ก็สั่งให้ จขกท. ไปขูดหินปูนกับอุดฟันที่คลีนิคใกล้บ้าน จขกท. ผู้ซึ่งไม่เคยไปหาหมอฟันตั้งแต่เด็กและพฤติกรรมการแปรงฟันที่ไม่สะอาดเอาซะเลย ทำให้มีฟันผุถึง 8ซี่ด้วยกัน วันนั้น จขกท. อุดฟันไปสองซี่ ซี่ละสองด้าน เป็นเงิน 1400บาท และรวมค่าขูดหินปูนอีก700บาท เป็นเงิน 2100บาทค่ะ
อุดฟันนี่ไม่เจ็บอะไรเลยแค่รู้สึกเสียวๆ จนต้องจิกเท้าเลยล่ะค่ะ หลังจากนั้นอาทิตย์นึง จขกท. ก็ถือฟิล์มเอกซเรย์ไปที่คลีนิคที่จะจัดฟัน ซักประวัติทำบัตรคนไข้เสร็จ จขกท. ก็ได้พบหมอจัดฟันเลย หมอบอกฟันบน จขกท. สามารถติดเครื่องมือได้เลย และด้วยโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ แม่เราจึงอนุมัติให้ติดเครื่องมือบนได้เลยค่ะ จขกท. ค่าใช้จ่ายในการติดเครื่องมือของ จขกท. มันอยู่ในโปรโมชั่น ติดเครื่องมือบน-ล่าง จ่าย 1990บาท ต่อไปจ่ายเดือนละ 1500บาท จนกว่าจะครบ 38000บาทค่ะ(ไม่รู้ตอนนี้โปรนี้จะยังมีอยู่ไหม) ได้ติดเครื่องมือบนในวันที่ 7 มิถุนายน ค่ะ
และหลังจากนั้นหมอก็นัดให้เราทยอยมาอุดฟันให้ครบ และส่งฟันถอนกรามน้อยที่หนึ่งด้านบนทั้งซ้ายขวาค่ะ อ้อฟันจขกท. เนี่ย ติดแบรคเก็ตใส่ลวดแล้วนะคะ ส่วนซี่ที่คุณหมอสั่งให้ถอนเนี่ย คุณหมอจะไม่ติดแบรคเก็ตให้ค่ะ หลังจากที่ติดเครื่องมือ จขกท. ก็ทำลิสต์ค่าใช้จ่ายมาดังนี้ค่ะ
ติดเครื่องมือบน 1,990บาท
ถอนฟันกรามน้อยสองซี่ 1,600บาท
อุดฟัน(สีเนื้อฟัน) ซี่ละ 600 บาท กับ 700บาท จขกท. ต้องอุด 6ซี่ เป็นเงิน 4,600บาท
ข้างบนนี้คือค่าใช้จ่ายในเดือนแรกนะคะ
เดือนต่อมา(7 กรกฎาคม) คุณหมอนัดมาใส่เครื่องมือฟันล่าง ปรับเครื่องมือบน พร้อมส่งถอนฟันกรามน้อยสองซี่ล่างเหมือนเดิมค่ะ ค่าใช้จ่ายก็
ค่าปรับเครื่องมือเดือนแรก 1,500บาท
ถอนฟันกรามน้อยสองซี่ 1,600บาท
รูปภาพเปรียบเทียบระหว่างเดือนแรกกับเดือนที่สองค่ะ(ใจไม่ถึงห้ามดูน้า5555)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนเดือนล่าสุดที่ไปมา จขกท. กินอัลมอนด์ แล้วแบรคเกตซี่ในสุดหลุดมาตัวนึงค่ะ คุณหมอก็ติดให้ฟรีค่ะ แต่ฟรีแค่สามครั้งนะคะ ถ้าเกินสามครั้งน่าจะคิด ครั้งละ 300บาท เดือนสิงหาคมนี่ จขกท. เสียแค่ค่าปรับเครื่องมือค่ะ 1,500บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เดี๋ยวต้นเดือนหน้า จขกท. ก็จะต้องไปปรับเหล็กอีกค่ะ นี่ก็เพิ่งกัดลูกอมจนแบรคเก็ตซี่ในสุดข้างขวาหลุดอีกแล้ว คงต้องโดนหมอบ่นแน่ๆ55555
ส่วนเรื่องจัดฟันแล้วเจ็บไหม ทานอะไรไม่ได้จริงหรอ สำหรับคนอื่น จขกท. ไม่ทราบนะคะ แต่ จขกท. นี่ กินจนแม่บ่นเลยค่ะ สองสามวันแรกมันจะจี๊ดๆเวลาฟันกระทบกัน เราก็กินต้มข้าวโอ๊ตเละๆกินทั้งวันอะค่ะ แต่หลังจากนั้นมาไปปรับเครื่องมีกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วนะคะ ทานได้ปกติดีค่ะ ล่าสุดเพิ่งแทะกระดูกหมูไป55555 เรื่องอุดฟัน ถอนฟัน บางคนคงคิดว่ามันจะเจ็บมากๆเลยใช่ไหมคะ แต่ จขกท. ว่าถอนฟันไม่เจ็บนะ จั๊กกะจี๋ตอนที่หมอฉีดยาชาแค่นั้นค่ะ เพราะก่อนจะฉีดหมอจะป้ายยาชารส สตอเบอร์รี่ไว้ก่อนแล้ว ฟัน จขกท. ดึง กึกๆ ก็หลุดแล้วค่ะ ไม่ทันรู้ตัว กว่ายาชาจะหมดฤทธิ์ ก็กลับบ้านนอนแล้ว555555 ส่วนอุดฟันนี่ เป็นไปได้ จขกท. ก็ไม่อยากอุดนะคะ มันไม่เจ็บหรอกค่ะ แต่มันรู้สึกเสียวฟันตอนที่คุณหมอเค้ากรอโดนเส้นประสาทน่ะค่ะ รู้สึกตลกแปลกๆดี อ้อ ฟันเรายังเหลือฟันคุดอีก 4ซี่จะคะ แต่คุณหมอเค้ายังไม่ให้ผ่าเพราะมันยังมีโอกาศขึ้นอยู่ค่ะ เย้!!
เดี๋ยวถ้าหาก จขกท. จัดฟันเสร็จแล้ว หรือมีอะไรเพิ่มเติม จะมาอัปเดตนะค้าา ตอนนี้ขอจบเรื่องราวกว่าจะได้จัดฟัน+ค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นแนวทางให้คนอื่นๆแค่นี้ก่อนนะค้า ก่อนไป จขกท. ขอทิ้งรูปก่อน ติดเครื่องมือ ไว้ให้ ซักนิดนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ ขอบคุณค่าาา
[CR] กว่าจะได้จัดฟัน+ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน
กระทู้นี้จขกท.ขอมาเล่าเรื่องราว"กว่าจะได้จัดฟันพร้อมบอกรายละเอียดค่าใช้จ่าย"ไว้เป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆพี่ๆที่อยากจะไปจัดฟันด้วยนะคะ
เริ่มแรกเลยตัว จขกท. เนี่ยอยากจัดฟันมาตั้งแต่ ป.6 เพราะแฟชั่นและสมัยนิยม บวกกับกระแสจัดฟันแฟชั่นมาแรงมากในตอนนั้น ทำให้เพื่อนๆในชั้นเรียนของ จขกท. จัดฟันแฟชั่นกันเกือบครึ่งห้องแน่ะ ยิ่งเวลาเราไปเดินตลาดนัดที่ไหนๆ เราก็จะเห็นมันวางขายเกลื่อนตลาดไปหมด แบบว่าเดินไปตรงไหนก็มีเหล็กจัดฟันแฟชั่นขายว่างั้น ด้วยความที่ยังเด็กและคิดว่าคนที่จัดฟันนั้นจะน่ารักขึ้น 80เปอร์เซ็น เรื่องความสะอาดจึงถูกมองข้ามไป จขกท. อ้อนวอนให้แม่พาไปจัดฟันแฟชั่นหลายล้านรอบมาก แต่คำตอบเดียวที่ได้คือ ไม่!!! และฟัน จขกท. ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จขกท. เลยไม่เคยพูดเรื่องนี้กับแม่อีกตั้งแต่นั้นมา
แต่ แต่ แต่.. จนสองปีผ่านไป พี่สาวเราแอบไปจัดฟันแฟชั่นที่ตะวันนามา แล้วไอเครื่องมือเน่าๆมันทำให้ฟันพี่สาวเราห่างออกจากกัน และต้นทุนเดิมมันก็เหยินมากอยู่แล้ว แม่จึงพาพี่สาวไปจัดฟันที่คลินิคทันตกรรมแถวบ้าน จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 5ปีแล้ว ทุกวันนี้ฟันพี่สาวเรียงกันสวย โครงหน้ายาวขึ้นนิดหน่อย พี่สาว จขกท. เหลือแค่ใส่รีเทนเนอร์เท่านั้น
ทีนี้มาที่เรื่องจัดฟันของ จขกท. บ้างนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันน้าา
จขกท. นี่เพิ่งได้จัดฟันเมื่อปลายเดินพฤษภาคมที่ผ่านมา จขกท. จัดที่คลินิคในห้างสรรพสินค้ายี่ห้อสีเขียว ย่านนวมินทร์ค่ะ 55555
เริ่มแรกแม่ของ จขกท. ให้ไปเอกซเรย์ช่องปากมาไว้ก่อน เพราะยังไงหมอเค้าก็ต้องให้เราไปเอกซเรย์มาอยู่ดี จขกท. ไปเอกซเรย์ที่ รพ.เอกชนใกล้ห้างสีเขียวนั่นแหละค่ะ พอเข้าไปในตัว รพ. ก็แจ้งว่ามาเอกซเรย์เพื่อไปจัดฟัน รู้สึกว่าจะต้องใช้ฟิล์มใหญ่สองฟิล์มนะคะ พอแจ้งเรียบร้อยแล้วเค้าก็พา จขกท. ขึ้นไปที่ห้องเอกซเรย์ เค้าจะให้เราถอดต่างหู กิ๊ฟติดผม เครื่องประดับ(ถ้ามี) เมื่อเรียบร้อยแล้วเค้าก็จะให้เราไปยืนระหว่างเครื่องเอกซเรย์ค่ะ ต้องยืนตรงๆปากก็คาบแท่งสีขาวๆไว้แล้วหลับตา ซักพักจะมีเสียงติ๊ด ติ๊ด แปปเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ และเค้าจะให้เราไปยืนอีกเครื่องที่ใกล้ๆกัน จขกท. เกลียดเครื่องนี้มากเลย เพราะเค้าจะเอาอะไรไม่รู้มาแหย่ๆหูไว้ และมีมีอะไรไม่รู้เรียกไม่ถูก555 มันจะเหมือนกับลอคหน้าเราให้ตรง พอเสร็จก็ไปรอรับฟิล์มค่ะ ของ จขกท. ต้องเอกซเรย์ถึงสองครั้งเพราะฟิล์มเบลอ เนื่องจาก จขกท. ยืนไม่นิ่งนั่นเอง5555 ค่าเสียหายในครั้งนี้ 1050บาทค่ะ
อีกวันแม่ก็สั่งให้ จขกท. ไปขูดหินปูนกับอุดฟันที่คลีนิคใกล้บ้าน จขกท. ผู้ซึ่งไม่เคยไปหาหมอฟันตั้งแต่เด็กและพฤติกรรมการแปรงฟันที่ไม่สะอาดเอาซะเลย ทำให้มีฟันผุถึง 8ซี่ด้วยกัน วันนั้น จขกท. อุดฟันไปสองซี่ ซี่ละสองด้าน เป็นเงิน 1400บาท และรวมค่าขูดหินปูนอีก700บาท เป็นเงิน 2100บาทค่ะ
อุดฟันนี่ไม่เจ็บอะไรเลยแค่รู้สึกเสียวๆ จนต้องจิกเท้าเลยล่ะค่ะ หลังจากนั้นอาทิตย์นึง จขกท. ก็ถือฟิล์มเอกซเรย์ไปที่คลีนิคที่จะจัดฟัน ซักประวัติทำบัตรคนไข้เสร็จ จขกท. ก็ได้พบหมอจัดฟันเลย หมอบอกฟันบน จขกท. สามารถติดเครื่องมือได้เลย และด้วยโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ แม่เราจึงอนุมัติให้ติดเครื่องมือบนได้เลยค่ะ จขกท. ค่าใช้จ่ายในการติดเครื่องมือของ จขกท. มันอยู่ในโปรโมชั่น ติดเครื่องมือบน-ล่าง จ่าย 1990บาท ต่อไปจ่ายเดือนละ 1500บาท จนกว่าจะครบ 38000บาทค่ะ(ไม่รู้ตอนนี้โปรนี้จะยังมีอยู่ไหม) ได้ติดเครื่องมือบนในวันที่ 7 มิถุนายน ค่ะ
และหลังจากนั้นหมอก็นัดให้เราทยอยมาอุดฟันให้ครบ และส่งฟันถอนกรามน้อยที่หนึ่งด้านบนทั้งซ้ายขวาค่ะ อ้อฟันจขกท. เนี่ย ติดแบรคเก็ตใส่ลวดแล้วนะคะ ส่วนซี่ที่คุณหมอสั่งให้ถอนเนี่ย คุณหมอจะไม่ติดแบรคเก็ตให้ค่ะ หลังจากที่ติดเครื่องมือ จขกท. ก็ทำลิสต์ค่าใช้จ่ายมาดังนี้ค่ะ
ติดเครื่องมือบน 1,990บาท
ถอนฟันกรามน้อยสองซี่ 1,600บาท
อุดฟัน(สีเนื้อฟัน) ซี่ละ 600 บาท กับ 700บาท จขกท. ต้องอุด 6ซี่ เป็นเงิน 4,600บาท
ข้างบนนี้คือค่าใช้จ่ายในเดือนแรกนะคะ
เดือนต่อมา(7 กรกฎาคม) คุณหมอนัดมาใส่เครื่องมือฟันล่าง ปรับเครื่องมือบน พร้อมส่งถอนฟันกรามน้อยสองซี่ล่างเหมือนเดิมค่ะ ค่าใช้จ่ายก็
ค่าปรับเครื่องมือเดือนแรก 1,500บาท
ถอนฟันกรามน้อยสองซี่ 1,600บาท
รูปภาพเปรียบเทียบระหว่างเดือนแรกกับเดือนที่สองค่ะ(ใจไม่ถึงห้ามดูน้า5555)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนเดือนล่าสุดที่ไปมา จขกท. กินอัลมอนด์ แล้วแบรคเกตซี่ในสุดหลุดมาตัวนึงค่ะ คุณหมอก็ติดให้ฟรีค่ะ แต่ฟรีแค่สามครั้งนะคะ ถ้าเกินสามครั้งน่าจะคิด ครั้งละ 300บาท เดือนสิงหาคมนี่ จขกท. เสียแค่ค่าปรับเครื่องมือค่ะ 1,500บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดี๋ยวต้นเดือนหน้า จขกท. ก็จะต้องไปปรับเหล็กอีกค่ะ นี่ก็เพิ่งกัดลูกอมจนแบรคเก็ตซี่ในสุดข้างขวาหลุดอีกแล้ว คงต้องโดนหมอบ่นแน่ๆ55555
ส่วนเรื่องจัดฟันแล้วเจ็บไหม ทานอะไรไม่ได้จริงหรอ สำหรับคนอื่น จขกท. ไม่ทราบนะคะ แต่ จขกท. นี่ กินจนแม่บ่นเลยค่ะ สองสามวันแรกมันจะจี๊ดๆเวลาฟันกระทบกัน เราก็กินต้มข้าวโอ๊ตเละๆกินทั้งวันอะค่ะ แต่หลังจากนั้นมาไปปรับเครื่องมีกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วนะคะ ทานได้ปกติดีค่ะ ล่าสุดเพิ่งแทะกระดูกหมูไป55555 เรื่องอุดฟัน ถอนฟัน บางคนคงคิดว่ามันจะเจ็บมากๆเลยใช่ไหมคะ แต่ จขกท. ว่าถอนฟันไม่เจ็บนะ จั๊กกะจี๋ตอนที่หมอฉีดยาชาแค่นั้นค่ะ เพราะก่อนจะฉีดหมอจะป้ายยาชารส สตอเบอร์รี่ไว้ก่อนแล้ว ฟัน จขกท. ดึง กึกๆ ก็หลุดแล้วค่ะ ไม่ทันรู้ตัว กว่ายาชาจะหมดฤทธิ์ ก็กลับบ้านนอนแล้ว555555 ส่วนอุดฟันนี่ เป็นไปได้ จขกท. ก็ไม่อยากอุดนะคะ มันไม่เจ็บหรอกค่ะ แต่มันรู้สึกเสียวฟันตอนที่คุณหมอเค้ากรอโดนเส้นประสาทน่ะค่ะ รู้สึกตลกแปลกๆดี อ้อ ฟันเรายังเหลือฟันคุดอีก 4ซี่จะคะ แต่คุณหมอเค้ายังไม่ให้ผ่าเพราะมันยังมีโอกาศขึ้นอยู่ค่ะ เย้!!
เดี๋ยวถ้าหาก จขกท. จัดฟันเสร็จแล้ว หรือมีอะไรเพิ่มเติม จะมาอัปเดตนะค้าา ตอนนี้ขอจบเรื่องราวกว่าจะได้จัดฟัน+ค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นแนวทางให้คนอื่นๆแค่นี้ก่อนนะค้า ก่อนไป จขกท. ขอทิ้งรูปก่อน ติดเครื่องมือ ไว้ให้ ซักนิดนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ ขอบคุณค่าาา