คนเข้าคิวรอเข้าชม อาคารแสดงประเทศไทย
อาคารแสดงประเทศไทย และบรรยากาศโดยรอบ
อาคารแสดงของประเทศอื่นๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 1
วัตถุประสงค์หลักของทริปนี้คือไปดูงาน World Expo ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่มีประเทศเข้าร่วมจัดนิทรรศการถึง 150 ประเทศ มีพื้นที่ในการจัดงานกว่า 1 ล้านตารางเมตร แนวคิดของการจัดงานครั้งนี้คือ “Feeding the Planet, Energy for Life” หรือ “อาหารหล่อเลี้ยงโลก พลังงานหล่อเลี้ยงชีวิต” ซึ่งงานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม 2558 เวลาเข้าชมงาน 09.00-21.
เดินทางไปมิลานคืนวันที่ 10 กค. เครื่องออกประมาณเที่ยงคืน ระยะเวลาในการเดินทางไปถึงมิลานคือ 11 ชั่วโมง บินแบบ Non Stop ไปถึงมิลานประมาณ 7 โมงเช้า แต่กว่าจะออกจากสนามบินก็เกือบ 9 โมง ด้วยสัมภาระเยอะมาก
ไปถึงอย่าคิดว่าจะได้พัก ไปถึงงานก็ลุยกันเลย วันแรกเก็บได้ 4 พาวิลเลี่ยน ไม่ไหว ร้อนมากๆ กลับถึงที่พักเกือบเที่ยงคืน
วันที่สองนี่ เป็นม้าตีนต้น เช้าๆยังเดินดูงานได้อยู่ แรงยังไม่ตก แต่พอบ่าย อากาศเริ่มร้อน เริ่มออกอาการหอบ หายใจทางปาก แต่ก็ยังสู้ ต้องเก็บให้เยอะที่สุด
วันที่สาม มีงานต้องทำ จากแพลนเดิมที่จะเริ่ม set up ตั้งแต่บ่าย 3 กลายเป็นว่า เริ่มทำได้หลังสามทุ่ม กว่าจะเสร็จเกือบตีสาม
วันที่สี่ เขามีงาน THAILAND MICE RECEPTION NIGHT
4 วันที่มิลาน ถือว่าเหนื่อยสุด ๆ การเดินดูงาน Expo เก็บได้ประมาณ 20 ประเทศ ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ จริง ๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 2
ขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีมาก ๆ ที่ให้เราเที่ยวต่ออีกสามเมือง เวนิส ฟลอเรนซ์ และโรม โพสต์นี้จะเล่าแค่เวนิส และ ฟลอเรนซ์ นะคะ เพราะโรมนี่ มีเรื่องประทับใจมาก ๆ
แมทนี้เราไม่ใช้ทัวร์ค่ะ เพราะว่าราคาแพงมากๆ 13 คนของทริปนี้ เราขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน และบนดิน และเดินกันเป็นว่าเล่น (เจ็บเท้ามาก ๆ นะคะ รองเท้าที่ใส่ไปเบอร์ 36.5 ก็ยังเอาไม่อยู่ จนต้องขอรองเท้าน้องในทีมที่เบอร์ใหญ่กว่ามาใส่ ชีวิตจึงดีขึ้นมากๆ ค่ะ New Balance นี่ดีจริง ๆ )
หลังจากนั่งรถไฟไปเวนิส เราหาโรงแรมกันไม่เจอค่ะ เปิด Google Map กันแล้วก็ยังหลงทางกันอยู่ สุดท้ายก็แบ่งเป็นสามทีม ทีมแรกไปเดินหาโรงแรมอีกฝั่ง อีกทีมก็ไปอีกฝั่ง และอีกทีมก็เฝ้ากระเป๋าเดินทาง คงไม่ต้องบอกว่าเราอยู่ทีมไหน เฝ้ากระเป๋านี่แหละ (เอาจริง ๆ จากท่าเรือที่พวกเราลงกัน ไม่ห่างจากโรงแรมเท่าไหร่ เดินแป๊บเดียวก็ถึง แต่ลากกระเป๋าเหนื่อยมากๆ)
เวนิสเป็นเมืองของสายน้ำ ทุกเส้นทางงดงามมากๆ และเป็นเมืองแห่งการช้อปปิ้ง ซื้อที่นี่เยอะมาก ไม่ว่าจะของที่คุณพี่ภีมอยากได้ ของฝากน้อง ๆ ที่ออฟฟิศ ส่วนใหญ่ก็ซื้อจากที่นี่
อยู่ที่เวนิสคืนเดียว วันต่อมานั่งรถไฟไปฟลอเรนซ์ เมืองนี้แค่เป็นทางผ่านแวะช้อป พวกเราไปช้อปปิ้งที่ The Mall Outlet ถามว่าได้อะไรมั้ย … ได้ไนกี้ให้คุณน้องลูกชายค่ะ อย่างอื่นซื้อไม่ไหว แพงมาก แต่น้องๆร่วมทริป ได้ป้าดา ได้ป้าหลุยส์ กันมาคนสะสองสามใบ
ปล. คนที่บอกเหนื่อยเดินไม่ไหวแล้ว พอถึงที่นี่ มีแรงกันอีกอ่ะ เชื่อพลังเงินจริง ๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 3
มิลาน เวนิส ฟลอเรนซ์ก็ว่าตื่นตาตื่นใจแล้ว แต่ที่โรมนี่ ขอบอกว่าอลังการมาก หรืออาจเป็นเพราะชอบดูสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ก็ไม่รู้นะ ทุกอย่างที่โรมยิ่งใหญ่สมกับเป็นอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองที่สุด เอาแค่มิวเซี่ยมวาติกันนี่เข้าไปก็เจอทุกสิ่งที่อลังการมากๆ บางห้องที่เป็นภาพ มันเป็นผ้าทอ แล้วไม่ใช่แค่ผืนเล็ก ๆ นะคะ ผืนใหญ่มากเลย … ทอเป็นรูป เป็นเรื่องเล่าในสมัยต่าง ๆ ของโรมัน
หลังจากดูมิวเซี่ยมนี้เสร็จ จะเข้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ แต่คิวยาวมาก เลยกลับมาอีกทีตอนเย็น คิวน้อยลง การไปดูมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สุดยอดที่สุดคือต้องขึ้นไปยังจุดสูงสุดของมหาวิหารซึ่งเค้ามีให้เลือกสองทางคือ เดินขึ้นไป กับขึ้นลิฟท์ไป พวกเราเลือกขึ้นลิฟท์ แต่ขอโทษเถอะ ถึงจะขึ้นลิฟท์ไปแล้ว แต่ก็ยังต้องเดินวนไปตามบันไดแคบ ๆ อีกหลายชั้นเลย เกือบตายอ่ะ เหนื่อยมาก ระหว่างทางที่เดินขึ้นไป เค้ามีปุ่มกด SOS ด้วยนะ ประมาณถ้าจะตายเพราะเดินขึ้นมา กดเลย เดี๋ยวมีคนมาช่วย 55555
เอาจริงก็มีคนไม่ไหวนะ แต่มันพลิกตัวกลับไม่ได้แล้วไง ต้องเดินต่อไป เพราะบันไดนี่ เดินได้ทีละคน มีบางช่วงที่อาจเดินแซงคนที่ไม่ไหวได้ แต่ก็น้อย มีผู้หญิงฝรั่งคนนึง น้ำหนักตัวน่าจะเกินร้อย เธอหยุดพักตรงที่คนอื่นสามารถแซงไปได้ เราได้แต่ให้กำลังใจเธอ ก็ขนาดน้ำหนักแค่นี่ ยังเกือบเอาตัวไม่รอด แล้วเธอคนนั้นจะขนาดไหน
แต่เราก็ไปถึงจุดชมวิวสูงสุดของมหาวิหารนี้จนได้ และเธอคนนั้นก็เช่นกัน อึดมากเลย แอบบอกบอกเธอว่า Nice to meet you again
ข้างบนของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นวิวที่สุดยอดมาก เราแทบจะเห็นโรมทั้งเมือง มันคุ้มกับที่ได้ปีนป่ายขึ้นมาจริง ๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 4
อยู่ที่โรมสองวันสามคืน วันแรกหมดไปกับวาติกัน อีกวันต่อมาเป้าหมายเดียวคือ โคลอสเซียม แต่ที่นี่เราใช้บัตร ROMA PASS ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเลยต้องต่อคิวซื้อตั๋วเข้าชมท่าปกติไป รอนานมั้ย ไม่เลย สบายๆ ถึงจะคนเยอะก็ตาม
เราไปที่นี่กันตอนสี่โมงเย็น เพราะไม่อาจสู้แดดแรงๆได้ ถ้าต้องต่อคิวยาวๆ เพื่อเข้าชม แต่ แต่ ช่วงเช้าของวันที่สองที่อยู่ที่โรม มีน้องผู้ชายหลายคนอยากไปเยี่ยมชมสนามฟุตบอลของโรม่า ก็เอาว่ะ ไม่ได้มีโอกาสบ่อย ๆ เลยตามน้องมันไปด้วย
ที่นี่ สนามนี้เคยเป็นสนามที่จัดโอลิมปิค อย่างที่บอกว่าโรมไม่มีอะไรที่เล็ก ๆ เลย ที่นี่ก็เหมือนกัน เราเดินชมสนามกันแบบแดดเปรี้ยง ๆ ไร้ผู้คน (เป็นช่วงปิดฤดูกาลของบอล) แต่น้อง ๆ ที่อยากมากันก็ฟินกันอ่ะ ส่วนเรา …….. ก็ดีนะ ที่มีโอกาสไปเยี่ยมชม
กลับมาที่โคลอสเซียม อย่างที่บอกว่าโรมไม่มีอะไรที่เล็กเลย ที่นี่ก็อลังการมากเช่นกัน เข้าไปดูด้านใน เวลาเดินดูนี่จินตนาการถึงการต่อสู้ ประลองฝีมือ ตามที่เห็นจากในหนังที่เคยดูมาเลย … และที่นี่ เป็นอีกที่ ที่ประทับใจ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทริปอิตาลี่ เที่ยวงาน WORLD EXPO 2015
อาคารแสดงประเทศไทย และบรรยากาศโดยรอบ
อาคารแสดงของประเทศอื่นๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 1
วัตถุประสงค์หลักของทริปนี้คือไปดูงาน World Expo ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่มีประเทศเข้าร่วมจัดนิทรรศการถึง 150 ประเทศ มีพื้นที่ในการจัดงานกว่า 1 ล้านตารางเมตร แนวคิดของการจัดงานครั้งนี้คือ “Feeding the Planet, Energy for Life” หรือ “อาหารหล่อเลี้ยงโลก พลังงานหล่อเลี้ยงชีวิต” ซึ่งงานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม 2558 เวลาเข้าชมงาน 09.00-21.
เดินทางไปมิลานคืนวันที่ 10 กค. เครื่องออกประมาณเที่ยงคืน ระยะเวลาในการเดินทางไปถึงมิลานคือ 11 ชั่วโมง บินแบบ Non Stop ไปถึงมิลานประมาณ 7 โมงเช้า แต่กว่าจะออกจากสนามบินก็เกือบ 9 โมง ด้วยสัมภาระเยอะมาก
ไปถึงอย่าคิดว่าจะได้พัก ไปถึงงานก็ลุยกันเลย วันแรกเก็บได้ 4 พาวิลเลี่ยน ไม่ไหว ร้อนมากๆ กลับถึงที่พักเกือบเที่ยงคืน
วันที่สองนี่ เป็นม้าตีนต้น เช้าๆยังเดินดูงานได้อยู่ แรงยังไม่ตก แต่พอบ่าย อากาศเริ่มร้อน เริ่มออกอาการหอบ หายใจทางปาก แต่ก็ยังสู้ ต้องเก็บให้เยอะที่สุด
วันที่สาม มีงานต้องทำ จากแพลนเดิมที่จะเริ่ม set up ตั้งแต่บ่าย 3 กลายเป็นว่า เริ่มทำได้หลังสามทุ่ม กว่าจะเสร็จเกือบตีสาม
วันที่สี่ เขามีงาน THAILAND MICE RECEPTION NIGHT
4 วันที่มิลาน ถือว่าเหนื่อยสุด ๆ การเดินดูงาน Expo เก็บได้ประมาณ 20 ประเทศ ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ จริง ๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 2
ขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีมาก ๆ ที่ให้เราเที่ยวต่ออีกสามเมือง เวนิส ฟลอเรนซ์ และโรม โพสต์นี้จะเล่าแค่เวนิส และ ฟลอเรนซ์ นะคะ เพราะโรมนี่ มีเรื่องประทับใจมาก ๆ
แมทนี้เราไม่ใช้ทัวร์ค่ะ เพราะว่าราคาแพงมากๆ 13 คนของทริปนี้ เราขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน และบนดิน และเดินกันเป็นว่าเล่น (เจ็บเท้ามาก ๆ นะคะ รองเท้าที่ใส่ไปเบอร์ 36.5 ก็ยังเอาไม่อยู่ จนต้องขอรองเท้าน้องในทีมที่เบอร์ใหญ่กว่ามาใส่ ชีวิตจึงดีขึ้นมากๆ ค่ะ New Balance นี่ดีจริง ๆ )
หลังจากนั่งรถไฟไปเวนิส เราหาโรงแรมกันไม่เจอค่ะ เปิด Google Map กันแล้วก็ยังหลงทางกันอยู่ สุดท้ายก็แบ่งเป็นสามทีม ทีมแรกไปเดินหาโรงแรมอีกฝั่ง อีกทีมก็ไปอีกฝั่ง และอีกทีมก็เฝ้ากระเป๋าเดินทาง คงไม่ต้องบอกว่าเราอยู่ทีมไหน เฝ้ากระเป๋านี่แหละ (เอาจริง ๆ จากท่าเรือที่พวกเราลงกัน ไม่ห่างจากโรงแรมเท่าไหร่ เดินแป๊บเดียวก็ถึง แต่ลากกระเป๋าเหนื่อยมากๆ)
เวนิสเป็นเมืองของสายน้ำ ทุกเส้นทางงดงามมากๆ และเป็นเมืองแห่งการช้อปปิ้ง ซื้อที่นี่เยอะมาก ไม่ว่าจะของที่คุณพี่ภีมอยากได้ ของฝากน้อง ๆ ที่ออฟฟิศ ส่วนใหญ่ก็ซื้อจากที่นี่
อยู่ที่เวนิสคืนเดียว วันต่อมานั่งรถไฟไปฟลอเรนซ์ เมืองนี้แค่เป็นทางผ่านแวะช้อป พวกเราไปช้อปปิ้งที่ The Mall Outlet ถามว่าได้อะไรมั้ย … ได้ไนกี้ให้คุณน้องลูกชายค่ะ อย่างอื่นซื้อไม่ไหว แพงมาก แต่น้องๆร่วมทริป ได้ป้าดา ได้ป้าหลุยส์ กันมาคนสะสองสามใบ
ปล. คนที่บอกเหนื่อยเดินไม่ไหวแล้ว พอถึงที่นี่ มีแรงกันอีกอ่ะ เชื่อพลังเงินจริง ๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 3
มิลาน เวนิส ฟลอเรนซ์ก็ว่าตื่นตาตื่นใจแล้ว แต่ที่โรมนี่ ขอบอกว่าอลังการมาก หรืออาจเป็นเพราะชอบดูสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ก็ไม่รู้นะ ทุกอย่างที่โรมยิ่งใหญ่สมกับเป็นอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองที่สุด เอาแค่มิวเซี่ยมวาติกันนี่เข้าไปก็เจอทุกสิ่งที่อลังการมากๆ บางห้องที่เป็นภาพ มันเป็นผ้าทอ แล้วไม่ใช่แค่ผืนเล็ก ๆ นะคะ ผืนใหญ่มากเลย … ทอเป็นรูป เป็นเรื่องเล่าในสมัยต่าง ๆ ของโรมัน
หลังจากดูมิวเซี่ยมนี้เสร็จ จะเข้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ แต่คิวยาวมาก เลยกลับมาอีกทีตอนเย็น คิวน้อยลง การไปดูมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สุดยอดที่สุดคือต้องขึ้นไปยังจุดสูงสุดของมหาวิหารซึ่งเค้ามีให้เลือกสองทางคือ เดินขึ้นไป กับขึ้นลิฟท์ไป พวกเราเลือกขึ้นลิฟท์ แต่ขอโทษเถอะ ถึงจะขึ้นลิฟท์ไปแล้ว แต่ก็ยังต้องเดินวนไปตามบันไดแคบ ๆ อีกหลายชั้นเลย เกือบตายอ่ะ เหนื่อยมาก ระหว่างทางที่เดินขึ้นไป เค้ามีปุ่มกด SOS ด้วยนะ ประมาณถ้าจะตายเพราะเดินขึ้นมา กดเลย เดี๋ยวมีคนมาช่วย 55555
เอาจริงก็มีคนไม่ไหวนะ แต่มันพลิกตัวกลับไม่ได้แล้วไง ต้องเดินต่อไป เพราะบันไดนี่ เดินได้ทีละคน มีบางช่วงที่อาจเดินแซงคนที่ไม่ไหวได้ แต่ก็น้อย มีผู้หญิงฝรั่งคนนึง น้ำหนักตัวน่าจะเกินร้อย เธอหยุดพักตรงที่คนอื่นสามารถแซงไปได้ เราได้แต่ให้กำลังใจเธอ ก็ขนาดน้ำหนักแค่นี่ ยังเกือบเอาตัวไม่รอด แล้วเธอคนนั้นจะขนาดไหน
แต่เราก็ไปถึงจุดชมวิวสูงสุดของมหาวิหารนี้จนได้ และเธอคนนั้นก็เช่นกัน อึดมากเลย แอบบอกบอกเธอว่า Nice to meet you again
ข้างบนของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นวิวที่สุดยอดมาก เราแทบจะเห็นโรมทั้งเมือง มันคุ้มกับที่ได้ปีนป่ายขึ้นมาจริง ๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่า … ทริปอิตาลี ตอนที่ 4
อยู่ที่โรมสองวันสามคืน วันแรกหมดไปกับวาติกัน อีกวันต่อมาเป้าหมายเดียวคือ โคลอสเซียม แต่ที่นี่เราใช้บัตร ROMA PASS ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเลยต้องต่อคิวซื้อตั๋วเข้าชมท่าปกติไป รอนานมั้ย ไม่เลย สบายๆ ถึงจะคนเยอะก็ตาม
เราไปที่นี่กันตอนสี่โมงเย็น เพราะไม่อาจสู้แดดแรงๆได้ ถ้าต้องต่อคิวยาวๆ เพื่อเข้าชม แต่ แต่ ช่วงเช้าของวันที่สองที่อยู่ที่โรม มีน้องผู้ชายหลายคนอยากไปเยี่ยมชมสนามฟุตบอลของโรม่า ก็เอาว่ะ ไม่ได้มีโอกาสบ่อย ๆ เลยตามน้องมันไปด้วย
ที่นี่ สนามนี้เคยเป็นสนามที่จัดโอลิมปิค อย่างที่บอกว่าโรมไม่มีอะไรที่เล็ก ๆ เลย ที่นี่ก็เหมือนกัน เราเดินชมสนามกันแบบแดดเปรี้ยง ๆ ไร้ผู้คน (เป็นช่วงปิดฤดูกาลของบอล) แต่น้อง ๆ ที่อยากมากันก็ฟินกันอ่ะ ส่วนเรา …….. ก็ดีนะ ที่มีโอกาสไปเยี่ยมชม
กลับมาที่โคลอสเซียม อย่างที่บอกว่าโรมไม่มีอะไรที่เล็กเลย ที่นี่ก็อลังการมากเช่นกัน เข้าไปดูด้านใน เวลาเดินดูนี่จินตนาการถึงการต่อสู้ ประลองฝีมือ ตามที่เห็นจากในหนังที่เคยดูมาเลย … และที่นี่ เป็นอีกที่ ที่ประทับใจ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------