" ..
บุญนั้นมีหลายอย่าง คือทำบุญอย่างหนึ่ง ทำทานอย่างหนึ่ง ทำกุศลอย่างหนึ่ง
"ทำทาน" คือ การที่เราให้เรียกว่า ทาน ทานํเทติ คือ วัตถุสิ่งของที่เราให้เรียกว่า
ทาน ไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นสิ่งอะไร มนุษย์สัตว์ให้ไปได้ทั้งนั้น
ข้าวของอะไรก็ให้ได้ เรียกว่า ให้ทาน จะเกิดศรัทธาหรือไม่เกิดศรัทธาก็เอาเถอะ ให้ทั้งนั้น
อย่างคำว่า เรี่ยไรอย่างนี้ไม่คิดถึงบุญถึงกุศล ให้ไปเสียแก้รำคาญ อันนั้นละเรียกว่า ทาน
"ทำบุญ" ทำบุญนั้นเกิดศรัทธาเลื่อมใสตั้งเจตนาว่า ทำบุญแล้วจะได้บุญ ได้อานิสงส์
จะไปเกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้า จะได้ความสุขในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ
การทำบุญนั้นปรารถนาผลตอบแทนเรียกว่า ทำบุญ
"ทำกุศล" คือจิตที่คิดจะทำสิ่งที่ดีที่ชอบ ถ้านึกถึงความดีความชอบต่าง ๆ
เป็นกามาวจรกุศล ถ้าคิดพิจารณากัมมัฏฐาน สังขารร่างกายของเราเรียกว่า รูปาวจรกุศล
จิตที่พิจารณาอยู่ในอรูปณาน ๔ เป็นอรูปาวจรกุศล
"โลกุตรกุศล" หมายถึงการบำเพ็ญกุศลที่ปราศจากความอยากกังวลทั้งหมด
แต่ว่าทำเพื่อประดับใจของตนเท่านั้น ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย คือผู้ที่ถึงมรรคผลนิพพานสูงสุดแล้ว
"ท่านไม่มีบาปมีบุญอะไรหรอก แต่ว่าทำไปเพื่อประดับในเมื่อยังมีชีวิตอยู่"
เหตุนั้นเราทำทานแล้ว ทำบุญแล้ว แล้วทำกุศลอีก
คือนั่งภาวนานี่แหละ เป็นของสูงโดยลำดับ .. "
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ทำทาน ทำบุญ ทำกุศล (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
" .. บุญนั้นมีหลายอย่าง คือทำบุญอย่างหนึ่ง ทำทานอย่างหนึ่ง ทำกุศลอย่างหนึ่ง
"ทำทาน" คือ การที่เราให้เรียกว่า ทาน ทานํเทติ คือ วัตถุสิ่งของที่เราให้เรียกว่า
ทาน ไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นสิ่งอะไร มนุษย์สัตว์ให้ไปได้ทั้งนั้น
ข้าวของอะไรก็ให้ได้ เรียกว่า ให้ทาน จะเกิดศรัทธาหรือไม่เกิดศรัทธาก็เอาเถอะ ให้ทั้งนั้น
อย่างคำว่า เรี่ยไรอย่างนี้ไม่คิดถึงบุญถึงกุศล ให้ไปเสียแก้รำคาญ อันนั้นละเรียกว่า ทาน
"ทำบุญ" ทำบุญนั้นเกิดศรัทธาเลื่อมใสตั้งเจตนาว่า ทำบุญแล้วจะได้บุญ ได้อานิสงส์
จะไปเกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้า จะได้ความสุขในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ
การทำบุญนั้นปรารถนาผลตอบแทนเรียกว่า ทำบุญ
"ทำกุศล" คือจิตที่คิดจะทำสิ่งที่ดีที่ชอบ ถ้านึกถึงความดีความชอบต่าง ๆ
เป็นกามาวจรกุศล ถ้าคิดพิจารณากัมมัฏฐาน สังขารร่างกายของเราเรียกว่า รูปาวจรกุศล
จิตที่พิจารณาอยู่ในอรูปณาน ๔ เป็นอรูปาวจรกุศล
"โลกุตรกุศล" หมายถึงการบำเพ็ญกุศลที่ปราศจากความอยากกังวลทั้งหมด
แต่ว่าทำเพื่อประดับใจของตนเท่านั้น ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย คือผู้ที่ถึงมรรคผลนิพพานสูงสุดแล้ว
"ท่านไม่มีบาปมีบุญอะไรหรอก แต่ว่าทำไปเพื่อประดับในเมื่อยังมีชีวิตอยู่"
เหตุนั้นเราทำทานแล้ว ทำบุญแล้ว แล้วทำกุศลอีก
คือนั่งภาวนานี่แหละ เป็นของสูงโดยลำดับ .. "
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี