สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ลุกนั่ง 300 400 คิดว่าเกินไปค่ะ
เข่าเสื่อมขึ้นมาทำไงคะ บางคนกระดูกไม่ดี ทำไง
ถ้าเทียบกับ ให้ไปล้างห้องน้ำ ถางหญ้า กวาดขยะ หรืออะไรทำนองนั้น
มันก็ยังได้เข้าข่ายจิตอาสานะคะ
อีกอย่างการมา รร.สายก็ต้องถามเหตุผลเด็กด้วยค่ะ
แล้วค่อยตัดสินใจ ชั่งน้ำหนักลงโทษกันอีกที
บางคนมาสายเพราะมันสุดวิสัยจริงๆ เคสที่อาจารย์เราเล่าให้ฟังคือ
เด็กต้องนั่งเรื่อที่ท่าเรือมาเรียนทุกวัน และมาสายทุกวัน
มันไม่สามารถไปกำหนดเวลาออกเรือได้ว่าจะต้องออกเร็วกว่านี้
หรือจะต้องออกให้ทันเข้าเรียน เพราะมันเป็นเวลาของท่าเรือ
ก็เลยต้องดูเป็นเคสไป
พอดีเพิ่งเรียนมาแล้ว อาจารย์เล่าเรื่องนี้ให้ฟังพอดีค่ะ
เข่าเสื่อมขึ้นมาทำไงคะ บางคนกระดูกไม่ดี ทำไง
ถ้าเทียบกับ ให้ไปล้างห้องน้ำ ถางหญ้า กวาดขยะ หรืออะไรทำนองนั้น
มันก็ยังได้เข้าข่ายจิตอาสานะคะ
อีกอย่างการมา รร.สายก็ต้องถามเหตุผลเด็กด้วยค่ะ
แล้วค่อยตัดสินใจ ชั่งน้ำหนักลงโทษกันอีกที
บางคนมาสายเพราะมันสุดวิสัยจริงๆ เคสที่อาจารย์เราเล่าให้ฟังคือ
เด็กต้องนั่งเรื่อที่ท่าเรือมาเรียนทุกวัน และมาสายทุกวัน
มันไม่สามารถไปกำหนดเวลาออกเรือได้ว่าจะต้องออกเร็วกว่านี้
หรือจะต้องออกให้ทันเข้าเรียน เพราะมันเป็นเวลาของท่าเรือ
ก็เลยต้องดูเป็นเคสไป
พอดีเพิ่งเรียนมาแล้ว อาจารย์เล่าเรื่องนี้ให้ฟังพอดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
เบื่อบางความเห็นที่บอกว่า "ผมก็เคยโดน หรือสมัยก่อนหนักกว่านี้" อะไรทำนองนี้ มันเป็นการตอกย้ำประเทศเราไม่มีการพัฒนาทั้งตัวครูเองที่ไม่มีบทลงโทษที่มันโอเคกว่านี้ ตัวนักเรียนที่ยังคงรักษามาตรฐานเดิมๆเอาไว้ และคนที่จบแล้วที่คิดว่าชีวิตที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เหมือนการโดนตียกห้องหรือโดนให้วิ่งจนต้องเข้าห้องพยาบาลแล้วอ้างว่าเด็กจะได้แข็งแรง
300-400การลุกนั่ง เราว่าเกินไป แค่มาสายทำหยั่งกะไปฆ่าคนตาย ในวัยนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เตือนได้ ต่อให้ฮอร์โมนส์พลุ่งพล่านหรือเด็กปลายแถวสุดๆ เราเชื่อว่าบอกเขาดีๆเตือนเขาดีๆเขาก็จำ ฟัง ครูที่เด็กรักและดูเป็นครูยุคใหม่ทำได้นะ ต่อให้เด็กที่หัวรั้นที่สุดมันก็เชื่อฟัง คนที่บอกว่าเด็กยุคนี้แรง ยุคก่อนก็แรงเถอะจ้า ขึ้นชื่อว่าวัยรุ่นถ้าให้มาเรียบร้อยหงิมๆเนี่ยก็ถือว่าใช้ชีวิตไม่คุ้มนะ หรือให้ทำวิธีอื่นที่มันแก้วิธีมาสายเช่น หลังเลิกเรียนให้มาทำงานบำเพ็ญประโยชน์ทดแทน หรือชดเชยเวลาที่มาสาย แต่แน่นอนครูขี้เกียจแน่นอนที่จะมานั่งเช็คอะไรแบบนี้ ปัญหามันเลยไม่จบไม่สิ้นสักที
อีกอย่างมาสายมันต้องมเีเหตุผล อย่างโรงเรียนเรา ถ้าม.6มาสายในเทอม2นี่เขาไม่อะไรเลยเพราะรู้ว่าเด็กมันเตรียมสอบ หรือเด็กบางคนบ้านอยู่ไกลมากแต่พ่อแม่ "บังคับ" ให้มาเรียนไกลๆเพราะโรงเรียนอาจจะดัง
ส่วนตัวนะเราเฉยๆกับการเข้าแถว เพื่อนเราคนนึงแต่งหน้ามาเรียน มาสาย ไม่เคยเคารพธงชาติ แต่นางได้4.00ตลอด จบจุฬาเกียรตินิยม มีเงินเดือนสูงส่ง นางบอกเอาเวลาตอนเช้ามืดไปอ่านหนังสือแล้วนอนในรถให้ใต้ตาเต่งตึงดีกว่า ยุคนี้มีสื่อโซเชี่ยลแล้ว ทำสิ ไม่ต้องมาประกาศปาวๆหน้าเสาธง ส่วนเด็กคุยกันและนั่งลอกการบ้านกันไม่มีใครฟังแบบคอนเซนเทรทหรอก แม้แต่ครูเองก็เถอะ จะโรงเรียนเล็กหรือใหญ่เชื่อว่าเก็บแชร์กันตอนเข้าแถวนี่มีหมดจ้า เด็กร้อยละ90มีสมาร์ทโฟน มีเฟสบุค ใช้ตรงนั้นประกาศข่าวเลย ฝ่ายห้องโสตหรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ทำได้อยู่แล้ว เพราะออนเฟสตลอดเวลากันนี่ หรือวิชาโฮมรูมก็ได้ แทนที่จะให้ครูบ่นเรื่องละครหลังข่าวหรือด่าเด็ก เอาเวลานั้นให้ครูไปบอกข่าวสารของโรงเรียนก็ได้ ส่วนเรื่องเคารพธงชาติ แนะนำให้ใช้มาตรฐาน8โมง เห็นบางโรงเรียน 7โมงเชิญธงกันแล้ว อีกอย่างสงสารคนแถวนั้นที่ต้องรีบๆๆๆๆพอเพลงขึ้นก็ต้องหยุดทั้งๆที่ไม่8โมง เพราะเดี๋ยวจะโดนตราหน้าว่าไม่รักชาติเพราะไม่หยุดเดินขณะเพลงชาติดัง
ปล.คนที่เกเร มาสาย สอบตก เรียนไม่เก่ง ไม่ใช่ที่รักของครู โดนครูด่าขณะวาดรูปตอนเรียน หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องเสียใจไปนะ เรารู้สึกว่าคนพวกนี้โตขึ้นมาถ้าโฟกัสในงานที่ทำ ประคองตัวเองได้ดี ร้อยละ90ที่เราเจอมา ประสบความสำเร็จและสามารถแก้ปัญหาต่างๆบนโลกนี้ได้ดีกว่าเด็กที่ทำถูกระเบียบซะหมด จากเด็กถูกระเบียบคนนึงที่อยากย้อนเวลาไปใช้ชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มกว่านี้
(อ่านแบบน้ำเสียงของ ดร.โบนส์ ในซีรีส์เรื่อง Bones ด้วยนะ)
300-400การลุกนั่ง เราว่าเกินไป แค่มาสายทำหยั่งกะไปฆ่าคนตาย ในวัยนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เตือนได้ ต่อให้ฮอร์โมนส์พลุ่งพล่านหรือเด็กปลายแถวสุดๆ เราเชื่อว่าบอกเขาดีๆเตือนเขาดีๆเขาก็จำ ฟัง ครูที่เด็กรักและดูเป็นครูยุคใหม่ทำได้นะ ต่อให้เด็กที่หัวรั้นที่สุดมันก็เชื่อฟัง คนที่บอกว่าเด็กยุคนี้แรง ยุคก่อนก็แรงเถอะจ้า ขึ้นชื่อว่าวัยรุ่นถ้าให้มาเรียบร้อยหงิมๆเนี่ยก็ถือว่าใช้ชีวิตไม่คุ้มนะ หรือให้ทำวิธีอื่นที่มันแก้วิธีมาสายเช่น หลังเลิกเรียนให้มาทำงานบำเพ็ญประโยชน์ทดแทน หรือชดเชยเวลาที่มาสาย แต่แน่นอนครูขี้เกียจแน่นอนที่จะมานั่งเช็คอะไรแบบนี้ ปัญหามันเลยไม่จบไม่สิ้นสักที
อีกอย่างมาสายมันต้องมเีเหตุผล อย่างโรงเรียนเรา ถ้าม.6มาสายในเทอม2นี่เขาไม่อะไรเลยเพราะรู้ว่าเด็กมันเตรียมสอบ หรือเด็กบางคนบ้านอยู่ไกลมากแต่พ่อแม่ "บังคับ" ให้มาเรียนไกลๆเพราะโรงเรียนอาจจะดัง
ส่วนตัวนะเราเฉยๆกับการเข้าแถว เพื่อนเราคนนึงแต่งหน้ามาเรียน มาสาย ไม่เคยเคารพธงชาติ แต่นางได้4.00ตลอด จบจุฬาเกียรตินิยม มีเงินเดือนสูงส่ง นางบอกเอาเวลาตอนเช้ามืดไปอ่านหนังสือแล้วนอนในรถให้ใต้ตาเต่งตึงดีกว่า ยุคนี้มีสื่อโซเชี่ยลแล้ว ทำสิ ไม่ต้องมาประกาศปาวๆหน้าเสาธง ส่วนเด็กคุยกันและนั่งลอกการบ้านกันไม่มีใครฟังแบบคอนเซนเทรทหรอก แม้แต่ครูเองก็เถอะ จะโรงเรียนเล็กหรือใหญ่เชื่อว่าเก็บแชร์กันตอนเข้าแถวนี่มีหมดจ้า เด็กร้อยละ90มีสมาร์ทโฟน มีเฟสบุค ใช้ตรงนั้นประกาศข่าวเลย ฝ่ายห้องโสตหรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ทำได้อยู่แล้ว เพราะออนเฟสตลอดเวลากันนี่ หรือวิชาโฮมรูมก็ได้ แทนที่จะให้ครูบ่นเรื่องละครหลังข่าวหรือด่าเด็ก เอาเวลานั้นให้ครูไปบอกข่าวสารของโรงเรียนก็ได้ ส่วนเรื่องเคารพธงชาติ แนะนำให้ใช้มาตรฐาน8โมง เห็นบางโรงเรียน 7โมงเชิญธงกันแล้ว อีกอย่างสงสารคนแถวนั้นที่ต้องรีบๆๆๆๆพอเพลงขึ้นก็ต้องหยุดทั้งๆที่ไม่8โมง เพราะเดี๋ยวจะโดนตราหน้าว่าไม่รักชาติเพราะไม่หยุดเดินขณะเพลงชาติดัง
ปล.คนที่เกเร มาสาย สอบตก เรียนไม่เก่ง ไม่ใช่ที่รักของครู โดนครูด่าขณะวาดรูปตอนเรียน หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องเสียใจไปนะ เรารู้สึกว่าคนพวกนี้โตขึ้นมาถ้าโฟกัสในงานที่ทำ ประคองตัวเองได้ดี ร้อยละ90ที่เราเจอมา ประสบความสำเร็จและสามารถแก้ปัญหาต่างๆบนโลกนี้ได้ดีกว่าเด็กที่ทำถูกระเบียบซะหมด จากเด็กถูกระเบียบคนนึงที่อยากย้อนเวลาไปใช้ชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มกว่านี้
(อ่านแบบน้ำเสียงของ ดร.โบนส์ ในซีรีส์เรื่อง Bones ด้วยนะ)
ความคิดเห็นที่ 18
ผมว่าการลงโทษทำได้นะ
แต่ไม่ควรจะทำให้กินเวลาเรียน
และการลงโทษ ต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับร่างกายแบบสะสมและผูกพันถึงสุขภาพโดยรวม
คือต้องลงโทษให้เจ็บ แล้วผ่านไปหายเจ็บ แบบนี้โอเค สมัยก่อน คือตีก้น ตีก้นเจ็บ แต่พอหายก็คือหาย ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรอีก แบบนี้ผมว่ายังโอเคกว่า แต่เดี๋ยวนี้การตีน่าจะตกยุคสมัยไปแล้ว
แต่การลุกนั่ง 300-400 ครั้ง รวมถึงการต้องคุกเข่าเป็นเวลานาน มันสร้างภาระแก่ร่างกายมหาศาลนะครับ เด็กที่ไม่แข็งแรงพอ การลงโทษลักษณะนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อตัวเด็กได้ในเรื่องเข่า อย่าไปคิดว่าเรื่องเล็กๆนะครับ
โทษของการมาสายควรมี แต่ไม่ควรไปทำลายอนาคตใครนะครับ ซึ่งเข่าพังทีนี่ ชีวิตสูญเสียอะไรไปเยอะเลย
ไอ้เรื่องนั่งกลางแดด ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก
ผมคิดว่าควรลงโทษ แต่จะลงโทษอย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย
ในกรณีของ จขกท.ที่ยกมา ผมว่าไม่เหมาะมากๆ ให้ไปกวาดใบไม้ ช่วยงานภารโรง อะไรยังดีกว่า
แต่ไม่ควรจะทำให้กินเวลาเรียน
และการลงโทษ ต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับร่างกายแบบสะสมและผูกพันถึงสุขภาพโดยรวม
คือต้องลงโทษให้เจ็บ แล้วผ่านไปหายเจ็บ แบบนี้โอเค สมัยก่อน คือตีก้น ตีก้นเจ็บ แต่พอหายก็คือหาย ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรอีก แบบนี้ผมว่ายังโอเคกว่า แต่เดี๋ยวนี้การตีน่าจะตกยุคสมัยไปแล้ว
แต่การลุกนั่ง 300-400 ครั้ง รวมถึงการต้องคุกเข่าเป็นเวลานาน มันสร้างภาระแก่ร่างกายมหาศาลนะครับ เด็กที่ไม่แข็งแรงพอ การลงโทษลักษณะนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อตัวเด็กได้ในเรื่องเข่า อย่าไปคิดว่าเรื่องเล็กๆนะครับ
โทษของการมาสายควรมี แต่ไม่ควรไปทำลายอนาคตใครนะครับ ซึ่งเข่าพังทีนี่ ชีวิตสูญเสียอะไรไปเยอะเลย
ไอ้เรื่องนั่งกลางแดด ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก
ผมคิดว่าควรลงโทษ แต่จะลงโทษอย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย
ในกรณีของ จขกท.ที่ยกมา ผมว่าไม่เหมาะมากๆ ให้ไปกวาดใบไม้ ช่วยงานภารโรง อะไรยังดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
การที่นร.โดนทำโทษลุกนั่ง300-400และนั่งตากแดดตอนเช้า1ชั่วโมงมันถูกมั้ย?