เมื่อรักเดินมาถึงทางตัน .. มองหาอนาคตไม่เจอหว่ะแก!!!

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะทุกคน .. เราเป็นคนนึงที่อ่าน Pantip บ่อยมาก ไม่ว่าเรื่องอะไร ที่นี่เป็นมากกว่า Google  
ที่ทุกคนแชร์และเล่าประสบการณ์กันอย่างเมามันส์   คนอ่านอย่างเราก็เพลินสิครัช ท่านผู้ชม !!!!
เข้าเรื่องเนอะ เพ้อพอละ ... มีใครเคยรู้สึกว่าคบกับแฟนมานานมาก  แต่ชีวิตยังย่ำอยู่กับที่บ้าง ????
เท่าที่เรอ่านมานะคะ  บางคนบอกคบแฟนมานานมาก 2 ปี 3 ปี สำหรับเรานะช่วงเวลาเท่านี้มันอาจยังทำให้
เราเห็นภาพอะไรไม่ชัดเจนพอ (สำหรับเรานะคะ ย้ำว่า สำหรับเรา !!!)  เราคบแฟนมา 10 ปีละ ชีวิตก็เหมือนเดิม
วนๆ อยู่แบบเดิม กิน เที่ยว ปาร์ตี้ ช็อปปิ้ง ทำงาน เงินหมด นอน  ออกตัวก่อนนะเราอายุ 29  แล้ว ส่วน แฟนอายุ 31
เราทำงานอาชีพที่ค่อนข้างอิสระ แต่มีรายได้ไม่มั่นคง บางเดือนได้น้อย บางเดือนได้เยอะ ขึ้นอยู่กับความขยันและโชคช่วย
ส่วนแฟนก็เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ ชักหน้า ไม่ค่อยถึงหลัง เนื่องจากค่านิยมแบรนเนม ค่อนข้างสูง ทั้งกิน เที่ยว ผสม อยุ่ในนี้

มาถึงตรงนี้  ...  หลายคนเริ่มมองภาพออกว่าสถานการณ์ระหว่างเรากับแฟนเป็นยังไง ???
สำหรับเรานะ พูดได้ไม่เต็มปากนักว่า เราผูกพันกันแฟนนะ เพราะคบกันมานาน 10 ปีอ่ะแกร  ตั้งแต่ไมมีอะไรเลย
นั่งรถเมล์   หอบหิ้วกันไป  จนตอนนี้ชีวิตก็สบายขึ้นบ้าง มีรถใช้ของใครของมัน  ความรู้สึกที่มี มันเป็นความห่วงใย
รู้เช่น เห็นชาติ ทุกอย่างของกันและกันหมดละ    มองหน้ามองตาก็รู้ว่ายิ้มคิด  หรือ  รู้สึกอะไร  
เราหมดโปรโมชั่นมานานมากแล้วแกร ไม่มีของขวัญในทุกเทศกาล ไม่ว่าวันเกิด วาเลนไทล์ ยกเว้นปีใหม่ที่มีจับฉลาก
เราก็พอได้ลุ้นเปิดกล่องของขวัญกะเค้าบ้าง 5555  เห็นขำแบบนี้ตอนพิมพ์ไป ก็รุ้สึกปวดใจแปร๊บๆ ที่ข้างซ้ายเว่ย
เราขอแทนแฟนเราว่า "มัน" และกัน ไม่ได้เกลียดกันนะ แต่ว่าเรียกง่ายดี  


ส่วนตัวนะ มัน เป็นคนติดเพื่อน  เพื่อนว่าไง ก็ว่าตาม เพื่อนชวนไปไหน  ก็ไปไม่ขัด แต่ก็มีบทเกรงใจเราถามเราก่อน   แต่มันก็จะให้
เพื่อนมันเป็นฐานทัพหน้า  ออกโรงชวนเราแทน  เพราะถ้ามันเอ่ยปากเองก็โดนบ่นๆๆๆๆเยอะอ่ะ   มันขี้เกียจฟังมั้ง
ต่อ ๆ ๆ มัน เป็นคนมีสังคม มีเพื่อนเยอะ เพื่อนสมัยพระเจ้าเหา ก็ยังคบ ยังมีติดต่อกันตามประสาของ มัน ซึ่งมันต่างกับเรานะ
เราเป็นคนมีเพื่อนน้อย  เพื่อนสนิทมีไม่กี่คนหรอก  แต่ละคนก็คบกันมาเกิน 10 ปี เราไม่ค่อยเที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่บ้าแบรน
เสื้อผ้าก็ยูเนี่ยนมอลล์  ตลาดนัด  ปกติ ไม่มีเข้าช็อปนั้น ช็อปนี้ แบบมัน บางทีเสื้อยืดลายตลาดๆแบบใส่ก็อบแน่ๆ ตัวนึง 800
กางเกงขาสั้นบ้านๆ 1,200 คือถ้าเราเอาป้ายยี่ห้อออกมาโชว์ให้มันได้ เราทำให้มันและ คนอื่นจะได้รุ้ว่าเสื้อยืดแบรน กางเกงแบรน นะเว่ย
ไม่ใช่ไก่ กา อาราเร่  มัน ทำให้เรารู้สึกว่า มนุษย์เงินเดือน หลัก 1x,xxx มันไม่ต้องอะไรมากขนาดนี้ก็ได้ป่ะวะ  หรือ เราเป็นคนแบบนี้
ที่ไม่ติดแบรน  ขอเน้นแค่ว่าใส่แร้ว ok ใส่ละมั่นใจ ก็พอจบ เราอาจเคยผ่านจุดที่เลวร้ายมาแบบไม่มีเงินติดตัวเลย  ไม่มีเงินพอกินข้าว
หรือเติมน้ำมัน   มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า  ความรู้สึกแบบนี้มันเจ็บปวดหว่ะเนอะ  อยากประหยัดเพราะเวลามันไม่มีชีวิตก็ดับวูบอ่ะ


การอยู่ด้วยกัน  คบกัน มันต้องช่วงส่งและเสริมให้ทุกอย่างมันมั่นคงขึ้น ไม่ใช่หลักลอย ทุกวันนี้ มัน ไม่มีเงินเก็บนะ กิน ใช้
เดือน ชน เดือน บางเดือนก็ขาด ไม่พอใช้ แต่มันมีเครดิต รูด ปรื้ด รูด ปรื้น ซึ่งตรงนี้เราไม่ยุ่งและไม่ก้าวก่ายสิทธิของมัน
เพราะเราถือว่า มัน โตกว่าเรา  อ่าน คิด วิเคราห์ แยกแยะ เอาเอง กูคงไม่ต้องสอนคุณ ทุกเรื่อง ทุกอย่าง มั้ง
เราคิดและหาทางขยับขยาย  เส้นทางหาเงินให้มีรายได้เข้ามามากกว่า 1-2  ทางตลอดเวลานะ  อย่างที่บอกเรากลัวจน เรากลัวไม่มีเงิน
เพราะเงินยิ้มซื้อได้หมดทุกอย่างจิง  ใครว่าไม่จริงโอนมานะคะ  เดี๋ยวนู้จะใช้ให้ดูว่าเงิน  ยิ้มซื้อทุกอย่างได้จริงๆ
เรานั่งมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วเป็นยังไง  ทุกวันนี้มันก็อยู่แบบเดิม ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า  มีแต่ถอยลงคลองไปเรื่อยๆ เพราะ
เมื่อเทียบกับอายุที่ยิ้มแก่ลงๆทุกวัน  ไม่มีอะไรที่ขยับขยาย หรือ เป็นชิ้นเป็นอัน อะไรสักอย่าง ซึ่ง มัน พอใจในชีวิตของมัน
ที่ กิน เที่ยว เมา หลับ ทำงาน นอนตื่นสาย ขี้เกียจ เล่นเกมส์ ซื้อของแบรน ชีวิตมันอยู่แค่นี้จริงๆ


แต่กับเราๆอยากรวย  อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง พยายามหาเงินให้ได้หลักแสน / เดือน ซึ่งมันอาจเป็นความฝันแต่มันคือเป้าหมาย
ที่เราคิดว่าเราสามารถทำได้  ทุกอย่าง  ทุกทาง ที่ได้เงินโดยความสุจริต เราพร้อมจะทำถ้ามันทำให้เราและครอบครัวเราสบาย
เราอยากมีอนคตรวมกันกับ มัน นะ แต่มองมา 10 ปีละ อนาคตรระหว่างเรา กับ มัน อยู่ไหน เรายังไม่รู้เลย
เราไม่โทษ มัน หรอก เพราะมันก็เป็นของมันแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว   เราเองต่างหาก ที่ คิดช้า เพิ่งรู้ว่าชีวิตเราไม่ได้ต้องการ
หรืออยากเป็นแบบนี้ก็เกือบจะ 30 ละ แต่มันคงไม่ช้าและยากไปมั้งสำหรับคนอายุใกล้ 30 ที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่
กูคิดช้าไปมั๊ย กูคิดได้ช้าไปมั้ย (ด่าตัวเองในใจ)  


ใกล้จบละค่ะยาวเนอะ  ... เอาตรงๆนะ เราเบื่อกับชีวิตที่เป็นอยู่แบบนี้  ทุกวันนี้ที่เราเคยได้ยินใครๆพูดว่า รักอย่างเดียวมันไม่พอ
รักอย่างเดียวมันกินไม่ได้  จิงๆนะแกร 10 ปีมาเราดูแลตัวเองและดูแล มัน มาตลอด เราพูดได้เต็มปากว่าที่ผ่านมาเราเป็น ฝ่าย ให้
ทั้งความรัก ความอบอุ่น ความใส่ใจ ให้ มัน ทุกอย่าง จนเราอยากรับรู้ควมรู้สึกบ้างว่า  คนที่ยิ้มเป็นฝ่ายรับ มันรู้สึกเป็นยังไงนะ
คือกูไม่เคยได้รับไง ??  กูก็เลยไม่เคยรู้ว่ายิ้มรู้สึกยังไง  ความเห็นแก่ตัว มัน ก็ชัดขึ้น เรื่องเล็กๆน้อยๆ นิดๆหน่อยๆ แต่เราก็รู้สึกว่า
มันไม่ใช่ละหว่ะ  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยากมีคนอื่นนะ นาทีนี้ ความรัก ไม่สำคัญสำหรับเรามากที่สุดละ  
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี คือ อนาคตเรา ที่ต้องตั้งต้นใหม่   ทำใหม่   ให้มันเป็นรากฐาน   เป็นชิ้นเป็นอัน  สักที
มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวไปมั้ย ???   ถ้าวันนี้เราจะเลือกรักตัวเอง  เลือกตัวเองมากกว่า มัน  เลือกทำในสิ่งที่มันทำให้เรามีความสุข
ในแบบที่เป็นเรา  ทุกวันนี้เรา 2 คนอยู่ด้วยกันนะคะ  แต่ก็ไม่ได้มีความสุขอะไร  ต่างคนก็ต่างอยู่ในโลกโซเชี่ยวของใครของมัน
เลือกจะมีควมสุขในโลกส่วนตัวของตัวเองมากกว่า  เราว่ามันคงถึงเวลาแยกย้ายแล้วหล่ะ  เพราะหลายสิ่ง หลายอย่าง
มันอิ่มตัว  จนอืด   บวม เละเทะไปหมดละ  


ถ้าวันนึง  เราจับมือกัน แล้วไม่รู้ปลอดภัย
ถ้าวันนึง  เรากอดกันแล้วไม่รู้สึกอบอุ่น
ถ้าวันนึง  เรามองตากันแล้วไม่รู้สึกอะไร

แยกย้ายเหอะ ????  เราคิดถูกมั๊ยคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่