สวัสดีค่ะ เพื่อนพี่น้องชาวพันทิปทุกคน ก็ไม่มีไรมากกกกก แค่อยากบอกว่าเศร้าาาาา


สวัสดีอีกครั้ง เป็นการตั้งกระทู้แรก ผิดพลาดประการใด ขอสุมามา ณ ที่นี่ด้วยนะเจ้าาาา
มีเคยยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขามารักมาสนใจ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวัน ไหมคะ?? เรากำลังเป็นอยู่ค่ะ เราหลงรักผู้ชายคนหนึ่งมา 6 ปี เริ่มแรกมาจาก MSN เราก็จำไม่ได้ว่า ไปมีเมลผู้ชายคนนี้มาได้อย่างไร ตอนนั้นเราอยู่ ม.4 MSN กำลังมาแรง เราก็ติดงอมแงมเป็นว่าเล่น เราได้รู้จัก และได้คุยกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาอายุแก่กว่าเรียนอยู่ วิศวะ มช ปี 2 ตอนนั้นเองทั้งเขาทั้งเราก็คุยๆกัน เรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่ได้ออกทางชู้สาว เป็นพี่เป็นน้อง เราเองไม่ได้คิดอะไรมาก ก็คงเพราะยังเด็ก เขาเองก็คงไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเขาก็ไม่ได้จะมีท่าทีว่าจะจีบเราเลยนิ 5555

จนมากระทั่ง ม.5 เราก็คุยกับเขามาเรื่อยๆ แต่ในตอนนั้นเอง เรารู้สึกได้ถึงใจเราที่กำลังเปลี่ยนไป เอาเราเข้าไปออนเอ็ม เราจะนั่งจ้องเมลของเขา ลุ้นว่าเขาจะทักมาไหม บางวันเราออก
ตึ่งตึ้ง! เขาทักมา เราดีใจมากอ่ะ ใครทักมา หรือคุยไรค้างกับใครไว้ เรารีบทิ้งก่อนเลย รีบกดเข้าไปคุยกับพี่เขาก่อนเลย หรือวันไหนถ้าพี่เขาไม่ทักมา เราจะแอบนอยด์เบาๆ ในใจก็คิด เอ....จะชวนเขาคุยอะไรดีน่ะ หรือเขาจะว่างไหม แต่สุดท้ายก็หน้าด้านทักไป 55555 คือเราคุยกันทุกวันอ่ะ ใจเราก็หวั่นไหวไง ชอบพี่เขาเอามากๆ

จนกระทั่งมาจนถึง ม.6 ช่วงสอบเข้ามหาลัย เราก็หันไปทุ่มให้กับการอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัย จนลืมพี่เขาดิ บวกกับช่วงนั้นเฟสบุ๊คเริ่มฮิตเริ่มเป็นที่สนใจมากกว่า พอเราสอบติดโควต้า เข้า มช ได้ เราก็นึกถึงพี่เขาได้ อยากบอกว่าเราได้เข้าไปเรียนที่เดียวกับเขาแล้วนะ อยากคุยด้วย อยากบอก แต่ตอนนั้น พี่เขา(รวมไปถึงคนอื่นๆ) คงเลิกเล่น เลิกออนเอ็มกันแล้วมั้ง คงไปเล่นเฟสบุ๊คแทน ละยิ่งอย่างเรา โลวเทคแบบสุดติ่ง(ตอนนั้นนะ) ไม่ค่อยสนใจโลกโซเชี่ยวเท่าไหร่ ก็เลยไม่ได้เล่นเฟสบุ๊คด้วย ก็เลยคิดตัดใจไม่ตามหาพี่เขาแล้ว ประกอบกับช่วงนั้นเป็นเฟสชี่ไง มีคนมาจีบไรงุ้นงี้ เห่อ เลยลืมพี่เขาไปเลย แต่พอเข้ามหาลัยไป เห้ย! มีแต่คนเล่นเฟสบุ๊ค! ไม่ได้ๆๆๆ ต้องเล่น ต้องมี จะได้ติดต่อ (อิลลิ๊!) รวมไปถึงแชทกะบ่าวๆในสังกัดได้ 55555 เราก็เลยเอาเมลเก่าเราที่เราเคยใช้ออนเอ็ม มาสมัคร ก็เล่นๆอยู่ เวลาผ่านไป จนเราเรียนอยู่ปี 2 วันดีคืนดี ก็มี ผช คนหนึ่งแอดเฟรนด์มาหา เขาคุยกับเขา (อยากจะบอกนะคะ ว่าตอนนั้นเราเจ้าชู้มากกกกกกก ใครมาคุยกะเรา เราคุยด้วยหมด ใครจะมาจีบเรา เราบอกจีบได้หมด แต่เราจะบอกทุกคนเลยว่า เราไม่ได้คุยกับเขาคนเดียวนะ จีบได้ แต่ไม่ใช่แฟนนะ อยากได้เป็นแฟน ต้องพยายาม 55555 ดูสวยเลือกได้โน๊ะ) มาต่อที่พี่คนนั้นดีกว่า พี่คนนั้นแอดเฟรนด์เรามาใช่ม่ะ เขามาคุยด้วย เราก็คุยด้วย เขาก็ไม่ได้มีท่าทีมาจีบ เราก็คุยด้วยปกติ พี่เขาเรียน วิดวะ ปี 6 ตอนที่เราคุยกับพี่เขา เรารู้สึกว่าคุยถูกคออ่ะ รู้สึกชอบพี่เขาแบบ เหมือนรักแรกพบ เรารู้เลย เรารู้สึกหลงรักเขาหลังจากคุยด้วยเพียงไม่กี่สัปดาห์ เราแอบรักเขาผ่านรูป ผ่านการคุย ไม่เคยเจอตัวจริง เราแอบไปส่องเฟสบุ๊คเขาบ่อยๆ ก็เลยรู้ว่าเขาไปแอบหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง อายุเท่าเรา หน้าตาหน้ารักนะ เรียนอยู่คณะเดียวกับพี่เขา เราก็นอยด์นิดหน่อย อยากให้คนที่พี่เขารักเป็นเรา

งี้ เราก็คุยกับพี่เขามาอีกประมาณครึ่งปี
อยู่มาวันหนึ่ง เราก็คุยกับพี่เขาปกติ แต่อยู่ๆพี่เขาก็มาชวนเราไปนั่งดื่มด้วยกัน เราบอกเง้อ เราดื่มไม่เป็น ไม่ค่อยได้ดื่ม พี่เขาก็บอกไม่เป็นไร แค่ไปเป็นเพื่อนเขาหน่อย วินาทีนั้นบอกเลย เราดีใจมากกว่าห่วงความปลอดภัยของตัวเอง เรารีบตอบตกลง รีบอาบน้ำแต่งตัว รอให้พี่เขามารับ และนั้น! จะเป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน พอพี่เขามาถึง พอเราได้เห็นตัวจริง เราสพดุดตาผู้ชายคนนี้มาก เหมือนเคยเห็นมาก่อน ที่ว่ารูปดูคุ้นๆแล้ว เจอตัวจริงยิ่งคุ้นไปอีก และยิ่งชอบยิ่งหลงรักมากขึ้นไปอีก พอพี่เขาพาไปที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งใกล้ๆมอ เขาก็เอาแก้วเบียร์มาให้ 1 แก้ว บอกเลย ไม่อร่อยสักนิด นั่งตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนถึง ตี1 จำได้ว่าหมดแก้วไป แค่ 2-3 แก้ว พวกเพื่อนๆพี่เขายังแซว โห...สาวมนุษย์คออ่อนจัง แต่พี่เขาก็ป้องเรานะว่า ดีแล้ว ไม่ดื่มเมาจนเพี้ยน ดูแลตัวเองไม่ได้เหมือนใครบางคน (พี่เขาแกล้งแซวพี่ผู้หญิงในกลุ่ม แต่ก็แค่แซวนะ ขำๆกัน) หลังจากนั้นพี่เขาก็พาไปส่งหอ เขาก็บอกเราพรุ่งนี้จะรับไปทานข้าวกลางวันกัน ให้รอ เรียนเสร็จให้โทรหา แล้วเราก็แลกเบอร์โทรกัน เชื่อไหม เราดีใจสุดๆ ยิ้มกว้างฉีกจะรอบหัวเลย ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ วนเวียนอยู่กับพี่เขาอย่างนี้ หลังจากที่เราไม่ค่อยดื่ม เราก็เริ่มดื่มเยอะขึ้น แต่เราก็ไม่เคยเมา เราต้องมีสติให้ดูแลตัวเองให้ได้ แต่ที่เปลี่ยนไป คือใจเรา เรารักพี่เขามาก แม้เราจะรู้จักพี่เขาไม่มาก แต่ก็รักมาก แต่เรื่องที่ว่าคุ้นหน้าคุ้นตาก็ยังคาใจเรามาตลอด
จนมาวันหนึ่ง เราทนความคาใจเรื่องคุ้นหน้าพี่เขาไม่ไหว เราจึงมานั่งตั้งสติ คิดทบทวน เราเคยเจอพี่เขาที่ไหน คิดยังไงก็คิดไม่ออก เราก็เลยเปิดคอมเล่นไปเรื่อย จนไปเปิดเจอประวัติการแชท MSN เราเอ๊ะใจ จึงออนเอ็มเข้าไปดู เราก็นึกถึงพี่ชายที่อยู่วิศวะ ที่เราคุยตอนมอปลายขึ้นมาได้ เราก็เปิดประวัติการสนทนาขึ้นมา สิ่งแรกที่สะดุดตาเราคือ อีเมลของพี่เขา เราเอ๊ะใจยังไงไม่รู้ ก๊อปอีเมลของพี่เขา เข้าไปค้นหาดูในเฟสบุ้ค เชื่อไหมคะ หน้าเฟสใครเด้งขึ้นมา พี่วิศวะ ที่เราคุยอยู่ทุกวันนี้ ที่เรารักเขาคนนี้ พี่วิศวะ ปี6 คนนั้น!! คนที่เราคุยตอนมอปลาย และคนที่เราคุยตอนนี้เป็นคนๆเดียวกัน เราเชื่อว่ามันเป็นพรมลิขิต เราคิดว่าเขาเป็นเนื้อคู่ของเรา (เพ้อไปมาก) เราดีใจมาก ที่เขาเป็นคนๆเดียวกัน เราก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พี่เขาฟัง พี่เขาหัวเราะ แล้วบอกว่า โลกกลมเนาะ ลงสัยเป็นพรมลิขิต กรี๊ดดดดดดดดดดด! เราดีใจมาก และคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่เขาก็คงมีใจให้เราบ้าง ไม่มากก็น้อย ถึงแม้เราจะรู้ว่าพี่เขาแอบชอบใคร แต่เราก็ยังหวัง ที่พี่เขาอยู่กับเราแบบนี้ แสดงว่า สักวันเขาต้องเลือกเรา
อยู่มาวันหนึ่ง เหตุการณ์ก็คล้ายๆกับที่ผ่านมา ไปดื่มนั่นนู้นนี่ จนดึก แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ พี่เขาบอกว่าเขาจะขึ้นห้องไปเอาของก่อนไปส่งเรา เราจะขึ้นไปกับเขาไหม เรารู้ค่ะ รู้อยู่แก่ใจว่าพี่เขาหมายถึงอะไร เราตามเขาขึ้นไป ไม่ได้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่เพราะเรารักเขา สุดท้ายก็จบที่เรามีอะไรกับเขา เพราะเรารักเขาไง เราหวังว่าสักวัน เขาจะหันมาสนใจเราแค่คนเดียว ไม่ต้องไปเพ้อถึงคนอื่นอีก เราก็หวังให้เป็นอย่างนั้นสักวัน....
เวลาผ่านไปอีก 1 ปี เรากับพี่เขาก็ยังอยู่ด้วยกัน แต่มันไม่ใช่ เราไม่ใช่แฟนกัน พี่เขาก็ยังคงไปรักไปชอบผู้หญิงคนที่เขารักไม่เปลี่ยน เราก็เป็น...เป็นที่ระบายความใคร่ของเขาไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนกัน เรายอม ยอมทุกอย่าง เราทำอย่างเพื่อให้เขามีความสุข ทุกอย่างจริงๆนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก็บกวาดห้อง เรื่องการวางตัว เรื่องอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเซ็กซ์ พี่เขาต้องการให้เป็นอย่างไหน เรายอมเขาหมด เรายอมเพราะเรารักพี่เขา แต่ความรักของเรา มันไม่ได้มีค่ากับตัวเขาเลย
พอมาอยู่ปี 4 ต่างคนต่างเริ่มยุ่งวุ่นวาย เพราะใกล้จะจบกันทั้งคู่ เราก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เขาก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เรา แถมช่วงเวลาอย่างนี้ พี่เขาก็เหมือนจะรีบทำคะแนนกับผู้หญิงที่เขาแอบชอบมาหลายปี คงเพราะใกล้จะจบ ต่างคนต้องต่างแยกย้ายกันไป แต่ถาม...เราเรียกร้องอะไรได้ไหม ไม่ได้เลยค่ะ เรไาม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเรียกร้องอะไรจากเขาได้ เราจึงคิดตัดใจ และหันมารัก และให้ค่ากับตัวเองดีกว่า เราตัดสินใจและพยายามเลิกติดต่อเขาจากทีละน้อย จนไม่ติดต่อเลย เวลาผ่านไปครึ่งปี จนเทอมสุดท้ายของการเรียน เราทราบข่าว ว่าผู้หญิงที่พี่เขาแอบชอบตัดสินใจรับรักผู้ชายอีกคนที่ดูมีความรับผิดชอบกว่า ดูดีกว่า สรุปคือพี่เขาก็อกหัก และคืนหนึ่งเรานัดกับน้องเรากินหมูกะทะ อยู่ๆพี่เขาก็โทรมา บอกว่ารถล้ม เราตกใจมาก รีบถามว่าเขาอยู่ไหน ทำแผลอะไรรึยัง เขาก็บอกอยู่ห้อง ยังไม่ได้ทำแผลเลย อยู่คนเดียวด้วย เราเลยบอกว่าเราจะรีบไปหา จะซื้อยาไปทำแผลให้
พอไปถึงห้อง พี่เขาก็เดินกระเผกๆมาเปิดประตู เรามองแผลพี่เขา และลงมือทำความสะอาดและทำแผลให้ทุกอย่าง ซึ่งโดยปกติแล้วเราเป็นคนกลัวเลือด ไม่กล้ามองแผลสดอะไรพวกนี้ แต่นี้เราทำแผลให้พี่เขาได้อย่างไม่รู้สึกกลัวหรือรังเกียจ พอเราทำแผลเสร็จเราก็บอกพี่เขาเสร็จแล้วนะ ถ้าปวดก็กินยาแก้ปวดได้ อยู่ในถุงยาซื้อมาให้หมดแล้ว เราจะกลับแล้ว แต่ขณะที่เรากำลังเก็บกระเป๋าจะกลับ พี่เขาก็มาดึงมือเราไว้ บอกเราว่า อยู่กับพี่เขาก่อน เขาไม่เหลือใครแล้ว อยู่เป็นเพื่อนเขาได้ไหม รู้ไหมคะ เราเจ็บมาก เหมือนที่เราพยายามตัดใจมา...เหมือนมันย้อนกลับไปอยู่ที่ 0 เลย น้ำตาเราไหลคะ แต่เราไม่หันกลับไปมองพี่เขาเลยนะ เรากลัวใจอ่อนไปมากกว่านี้ เราได้แต่บอกพี่เขาว่า
เรา : ไม่ได้แล้ว เรามาไกลเกินกว่าจะกลับไปแล้ว ตอนนั้นตอนที่เราอยู่กับพี่ ทำไมพี่ไม่เคยดึงมือเราไว้อย่างนี้ เรารู้สึกว่าเราไม่มีค่าอะไรกับพี่เลย ตอนนี้พี่ไม่มีใคร แต่พี่เรียกให้เราไปอยู่ด้วย ที่พี่ทำมันโหดร้ายมาก
เขาเงียบไปสักพักแล้วพูดออกมาว่า "ขอโทษ" แต่มือพี่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเรา
เรา : พี่ปล่อยมือน้องเถอะ น้องนัดกับรุ่นน้องไปกินหมูกะทะกัน ไว้พรุ่งนี้น้องจะมาทำแผลให้พี่
พี่เขา : มาจริงๆนะ สัญญากับพี่แล้วนะ
เรา : อื้ม สัญญา
พูดจบ พี่เขาก็ค่อยๆปล่อยมือเรา และเราก็เดินออกไป เดินไปร้องไห้ไป ร้องไห้หนักมาก เดินผ่านคนในหอเขามองกันตรึม แต่วินาทีนั้น ไม่มีคำว่าอายคะ
วันรุ่งขึ้น พี่เขาโทรมา แต่เราพยายามห้ามใจไม่ให้รับสาย สาย บ่าย เย็น ดึก โทรมา แชทมา เราไม่รับ ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เราร้องไห้หนักมาก มีรุ่นน้องกับเพื่อนในกลุ่ม 2-3 คนรู้เรื่องทั้งหมด เขาก็มาอยู่เป็นเพื่อนปลอบเรา คอยเตือนสติเรา เวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ พี่เขากระหน่ำโทรมา เราไม่รับไม่ตอบ เขาก็เลิกติดต่อมา หลังจากนั้น เขาก็ส่งเมลมาฉบับสุดท้ายว่า
ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา
เราปล่อยให้เวลาผ่านไปคะ จิตใจเราเข้มแข็งขึ้น เราเปิดเฟสพี่เขาขึ้นมาดูได้โดยไม่มีรอยน้ำตาแล้ว จนถึงทุกวันนี้ก็ยังแอบเปิดดู ส่องความเป็นไปของเขา ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา จากเด็กน้อยมอปลาย สู่วัยทำงานเป็นผู้ใหญ่ ก็ยังไม่เคยลืมพี่เขาเลย เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่เรารักได้มากขนาดนี้
สุดท้ายนี้ถ้าพี่รู้ตัวว่าพี่เป็นใคร เราอยากบอกว่า
ขอให้พี่ดูแลตัวเองดีๆ อย่าไปทำใครเขาเจ็บช้ำอีกละ และขอให้พี่เจอคนที่ดี คนที่อยู่เคียงข้างพี่ได้ทุกเวลา สุดท้าย หนูรักพี่คะ
ใครเคยยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขามารักมาสนใจ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวัน ไหมคะ??
สวัสดีอีกครั้ง เป็นการตั้งกระทู้แรก ผิดพลาดประการใด ขอสุมามา ณ ที่นี่ด้วยนะเจ้าาาา
มีเคยยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขามารักมาสนใจ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวัน ไหมคะ?? เรากำลังเป็นอยู่ค่ะ เราหลงรักผู้ชายคนหนึ่งมา 6 ปี เริ่มแรกมาจาก MSN เราก็จำไม่ได้ว่า ไปมีเมลผู้ชายคนนี้มาได้อย่างไร ตอนนั้นเราอยู่ ม.4 MSN กำลังมาแรง เราก็ติดงอมแงมเป็นว่าเล่น เราได้รู้จัก และได้คุยกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาอายุแก่กว่าเรียนอยู่ วิศวะ มช ปี 2 ตอนนั้นเองทั้งเขาทั้งเราก็คุยๆกัน เรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่ได้ออกทางชู้สาว เป็นพี่เป็นน้อง เราเองไม่ได้คิดอะไรมาก ก็คงเพราะยังเด็ก เขาเองก็คงไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเขาก็ไม่ได้จะมีท่าทีว่าจะจีบเราเลยนิ 5555
อยู่มาวันหนึ่ง เราก็คุยกับพี่เขาปกติ แต่อยู่ๆพี่เขาก็มาชวนเราไปนั่งดื่มด้วยกัน เราบอกเง้อ เราดื่มไม่เป็น ไม่ค่อยได้ดื่ม พี่เขาก็บอกไม่เป็นไร แค่ไปเป็นเพื่อนเขาหน่อย วินาทีนั้นบอกเลย เราดีใจมากกว่าห่วงความปลอดภัยของตัวเอง เรารีบตอบตกลง รีบอาบน้ำแต่งตัว รอให้พี่เขามารับ และนั้น! จะเป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน พอพี่เขามาถึง พอเราได้เห็นตัวจริง เราสพดุดตาผู้ชายคนนี้มาก เหมือนเคยเห็นมาก่อน ที่ว่ารูปดูคุ้นๆแล้ว เจอตัวจริงยิ่งคุ้นไปอีก และยิ่งชอบยิ่งหลงรักมากขึ้นไปอีก พอพี่เขาพาไปที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งใกล้ๆมอ เขาก็เอาแก้วเบียร์มาให้ 1 แก้ว บอกเลย ไม่อร่อยสักนิด นั่งตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนถึง ตี1 จำได้ว่าหมดแก้วไป แค่ 2-3 แก้ว พวกเพื่อนๆพี่เขายังแซว โห...สาวมนุษย์คออ่อนจัง แต่พี่เขาก็ป้องเรานะว่า ดีแล้ว ไม่ดื่มเมาจนเพี้ยน ดูแลตัวเองไม่ได้เหมือนใครบางคน (พี่เขาแกล้งแซวพี่ผู้หญิงในกลุ่ม แต่ก็แค่แซวนะ ขำๆกัน) หลังจากนั้นพี่เขาก็พาไปส่งหอ เขาก็บอกเราพรุ่งนี้จะรับไปทานข้าวกลางวันกัน ให้รอ เรียนเสร็จให้โทรหา แล้วเราก็แลกเบอร์โทรกัน เชื่อไหม เราดีใจสุดๆ ยิ้มกว้างฉีกจะรอบหัวเลย ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ วนเวียนอยู่กับพี่เขาอย่างนี้ หลังจากที่เราไม่ค่อยดื่ม เราก็เริ่มดื่มเยอะขึ้น แต่เราก็ไม่เคยเมา เราต้องมีสติให้ดูแลตัวเองให้ได้ แต่ที่เปลี่ยนไป คือใจเรา เรารักพี่เขามาก แม้เราจะรู้จักพี่เขาไม่มาก แต่ก็รักมาก แต่เรื่องที่ว่าคุ้นหน้าคุ้นตาก็ยังคาใจเรามาตลอด
จนมาวันหนึ่ง เราทนความคาใจเรื่องคุ้นหน้าพี่เขาไม่ไหว เราจึงมานั่งตั้งสติ คิดทบทวน เราเคยเจอพี่เขาที่ไหน คิดยังไงก็คิดไม่ออก เราก็เลยเปิดคอมเล่นไปเรื่อย จนไปเปิดเจอประวัติการแชท MSN เราเอ๊ะใจ จึงออนเอ็มเข้าไปดู เราก็นึกถึงพี่ชายที่อยู่วิศวะ ที่เราคุยตอนมอปลายขึ้นมาได้ เราก็เปิดประวัติการสนทนาขึ้นมา สิ่งแรกที่สะดุดตาเราคือ อีเมลของพี่เขา เราเอ๊ะใจยังไงไม่รู้ ก๊อปอีเมลของพี่เขา เข้าไปค้นหาดูในเฟสบุ้ค เชื่อไหมคะ หน้าเฟสใครเด้งขึ้นมา พี่วิศวะ ที่เราคุยอยู่ทุกวันนี้ ที่เรารักเขาคนนี้ พี่วิศวะ ปี6 คนนั้น!! คนที่เราคุยตอนมอปลาย และคนที่เราคุยตอนนี้เป็นคนๆเดียวกัน เราเชื่อว่ามันเป็นพรมลิขิต เราคิดว่าเขาเป็นเนื้อคู่ของเรา (เพ้อไปมาก) เราดีใจมาก ที่เขาเป็นคนๆเดียวกัน เราก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พี่เขาฟัง พี่เขาหัวเราะ แล้วบอกว่า โลกกลมเนาะ ลงสัยเป็นพรมลิขิต กรี๊ดดดดดดดดดดด! เราดีใจมาก และคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่เขาก็คงมีใจให้เราบ้าง ไม่มากก็น้อย ถึงแม้เราจะรู้ว่าพี่เขาแอบชอบใคร แต่เราก็ยังหวัง ที่พี่เขาอยู่กับเราแบบนี้ แสดงว่า สักวันเขาต้องเลือกเรา
อยู่มาวันหนึ่ง เหตุการณ์ก็คล้ายๆกับที่ผ่านมา ไปดื่มนั่นนู้นนี่ จนดึก แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ พี่เขาบอกว่าเขาจะขึ้นห้องไปเอาของก่อนไปส่งเรา เราจะขึ้นไปกับเขาไหม เรารู้ค่ะ รู้อยู่แก่ใจว่าพี่เขาหมายถึงอะไร เราตามเขาขึ้นไป ไม่ได้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่เพราะเรารักเขา สุดท้ายก็จบที่เรามีอะไรกับเขา เพราะเรารักเขาไง เราหวังว่าสักวัน เขาจะหันมาสนใจเราแค่คนเดียว ไม่ต้องไปเพ้อถึงคนอื่นอีก เราก็หวังให้เป็นอย่างนั้นสักวัน....
เวลาผ่านไปอีก 1 ปี เรากับพี่เขาก็ยังอยู่ด้วยกัน แต่มันไม่ใช่ เราไม่ใช่แฟนกัน พี่เขาก็ยังคงไปรักไปชอบผู้หญิงคนที่เขารักไม่เปลี่ยน เราก็เป็น...เป็นที่ระบายความใคร่ของเขาไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนกัน เรายอม ยอมทุกอย่าง เราทำอย่างเพื่อให้เขามีความสุข ทุกอย่างจริงๆนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก็บกวาดห้อง เรื่องการวางตัว เรื่องอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเซ็กซ์ พี่เขาต้องการให้เป็นอย่างไหน เรายอมเขาหมด เรายอมเพราะเรารักพี่เขา แต่ความรักของเรา มันไม่ได้มีค่ากับตัวเขาเลย
พอมาอยู่ปี 4 ต่างคนต่างเริ่มยุ่งวุ่นวาย เพราะใกล้จะจบกันทั้งคู่ เราก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เขาก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เรา แถมช่วงเวลาอย่างนี้ พี่เขาก็เหมือนจะรีบทำคะแนนกับผู้หญิงที่เขาแอบชอบมาหลายปี คงเพราะใกล้จะจบ ต่างคนต้องต่างแยกย้ายกันไป แต่ถาม...เราเรียกร้องอะไรได้ไหม ไม่ได้เลยค่ะ เรไาม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเรียกร้องอะไรจากเขาได้ เราจึงคิดตัดใจ และหันมารัก และให้ค่ากับตัวเองดีกว่า เราตัดสินใจและพยายามเลิกติดต่อเขาจากทีละน้อย จนไม่ติดต่อเลย เวลาผ่านไปครึ่งปี จนเทอมสุดท้ายของการเรียน เราทราบข่าว ว่าผู้หญิงที่พี่เขาแอบชอบตัดสินใจรับรักผู้ชายอีกคนที่ดูมีความรับผิดชอบกว่า ดูดีกว่า สรุปคือพี่เขาก็อกหัก และคืนหนึ่งเรานัดกับน้องเรากินหมูกะทะ อยู่ๆพี่เขาก็โทรมา บอกว่ารถล้ม เราตกใจมาก รีบถามว่าเขาอยู่ไหน ทำแผลอะไรรึยัง เขาก็บอกอยู่ห้อง ยังไม่ได้ทำแผลเลย อยู่คนเดียวด้วย เราเลยบอกว่าเราจะรีบไปหา จะซื้อยาไปทำแผลให้
พอไปถึงห้อง พี่เขาก็เดินกระเผกๆมาเปิดประตู เรามองแผลพี่เขา และลงมือทำความสะอาดและทำแผลให้ทุกอย่าง ซึ่งโดยปกติแล้วเราเป็นคนกลัวเลือด ไม่กล้ามองแผลสดอะไรพวกนี้ แต่นี้เราทำแผลให้พี่เขาได้อย่างไม่รู้สึกกลัวหรือรังเกียจ พอเราทำแผลเสร็จเราก็บอกพี่เขาเสร็จแล้วนะ ถ้าปวดก็กินยาแก้ปวดได้ อยู่ในถุงยาซื้อมาให้หมดแล้ว เราจะกลับแล้ว แต่ขณะที่เรากำลังเก็บกระเป๋าจะกลับ พี่เขาก็มาดึงมือเราไว้ บอกเราว่า อยู่กับพี่เขาก่อน เขาไม่เหลือใครแล้ว อยู่เป็นเพื่อนเขาได้ไหม รู้ไหมคะ เราเจ็บมาก เหมือนที่เราพยายามตัดใจมา...เหมือนมันย้อนกลับไปอยู่ที่ 0 เลย น้ำตาเราไหลคะ แต่เราไม่หันกลับไปมองพี่เขาเลยนะ เรากลัวใจอ่อนไปมากกว่านี้ เราได้แต่บอกพี่เขาว่า
เรา : ไม่ได้แล้ว เรามาไกลเกินกว่าจะกลับไปแล้ว ตอนนั้นตอนที่เราอยู่กับพี่ ทำไมพี่ไม่เคยดึงมือเราไว้อย่างนี้ เรารู้สึกว่าเราไม่มีค่าอะไรกับพี่เลย ตอนนี้พี่ไม่มีใคร แต่พี่เรียกให้เราไปอยู่ด้วย ที่พี่ทำมันโหดร้ายมาก
เขาเงียบไปสักพักแล้วพูดออกมาว่า "ขอโทษ" แต่มือพี่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเรา
เรา : พี่ปล่อยมือน้องเถอะ น้องนัดกับรุ่นน้องไปกินหมูกะทะกัน ไว้พรุ่งนี้น้องจะมาทำแผลให้พี่
พี่เขา : มาจริงๆนะ สัญญากับพี่แล้วนะ
เรา : อื้ม สัญญา
พูดจบ พี่เขาก็ค่อยๆปล่อยมือเรา และเราก็เดินออกไป เดินไปร้องไห้ไป ร้องไห้หนักมาก เดินผ่านคนในหอเขามองกันตรึม แต่วินาทีนั้น ไม่มีคำว่าอายคะ
วันรุ่งขึ้น พี่เขาโทรมา แต่เราพยายามห้ามใจไม่ให้รับสาย สาย บ่าย เย็น ดึก โทรมา แชทมา เราไม่รับ ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เราร้องไห้หนักมาก มีรุ่นน้องกับเพื่อนในกลุ่ม 2-3 คนรู้เรื่องทั้งหมด เขาก็มาอยู่เป็นเพื่อนปลอบเรา คอยเตือนสติเรา เวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ พี่เขากระหน่ำโทรมา เราไม่รับไม่ตอบ เขาก็เลิกติดต่อมา หลังจากนั้น เขาก็ส่งเมลมาฉบับสุดท้ายว่า ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา
เราปล่อยให้เวลาผ่านไปคะ จิตใจเราเข้มแข็งขึ้น เราเปิดเฟสพี่เขาขึ้นมาดูได้โดยไม่มีรอยน้ำตาแล้ว จนถึงทุกวันนี้ก็ยังแอบเปิดดู ส่องความเป็นไปของเขา ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา จากเด็กน้อยมอปลาย สู่วัยทำงานเป็นผู้ใหญ่ ก็ยังไม่เคยลืมพี่เขาเลย เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่เรารักได้มากขนาดนี้
สุดท้ายนี้ถ้าพี่รู้ตัวว่าพี่เป็นใคร เราอยากบอกว่า ขอให้พี่ดูแลตัวเองดีๆ อย่าไปทำใครเขาเจ็บช้ำอีกละ และขอให้พี่เจอคนที่ดี คนที่อยู่เคียงข้างพี่ได้ทุกเวลา สุดท้าย หนูรักพี่คะ